บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 3 (Bangkok Boulevard Ramintra 3) ตั้งอยู่ที่ แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร ภายในโครงการประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และอื่นๆ นอกจากนี้ ยังใกล้เคียงกับสถานที่สำคัญ อาทิ แฟชั่นไอส์แลนด์ เดอะ พรอมานาด โรงพยาบาลสินแพทย์ และโรงพยาบาลพญาไทย ฯลฯ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 3 เป็นบ้านที่ถูกพัฒนาโดย
บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 3 บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 3 ที่ รามอินทรา, คันนายาว มีสิ่งอำนวยความสะดวกดังต่อไปนี้: สวนหย่อม, ที่จอดรถ และ
ระบบรักษาความปลอดภัย. คุณสมบัติพิเศษ
โครงการอื่นๆ ใกล้เคียงประเภทห้อง / ราคา8 บ้านสำหรับขายในบางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 3ว่างพร้อมขาย เริ่มต้น ฿10,990,000 ถึง ฿18,500,000 บ้านหรูโครงการใหม่ สไตล์นอร์ดิก เพียง 3 นาที สู่เกษตร-นวมินทร์ ใกล้ทางด่วนฯ และสถานีรถไฟฟ้าสีชมพู บรรยากาศส่วนตัว 31 ครอบครัว
EP.1333 รีวิว บ้านเดี่ยว บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา – เสรีไทย Bangkok Boulevard Ramintra-Serithai  Written by : Nin Yanin Phueksoongnoen สวัสดีค่ะผู้อ่าน Homenayoo ทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการ Bangkok Boulevard รามอินทรา – เสรีไทย จาก SC ASSET อีกหนึ่งแบรนด์ที่ลูกค้าให้ความไว้ใจ และเชื่อถือเป็นอย่างดีในตลาดอสังหาฯ ตัวโครงการตั้งอยู่บน ซอยกายจนาภิเษก 11/5 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม. ใกล้ ถนนรามอินทรา, ถนนเสรีไทย และถนนรามคำแหง เดินทางสะดวกติดทางคู่ขนานวงแหวนฯ โครงการแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันแบบ Luxury Lifestyle ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า, สถานศึกษา และโรงพยาบาล บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา – เสรีไทย เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรูสูง 2 ชั้น มีเนื้อที่โครงการ 10 – 0 – 6.0 ไร่ เพียงจำนวน 31 ยูนิต มีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบบนที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 164 – 353 ตร.ม. ขนาดฟังก์ชั่น 3 – 4 ห้องนอน 3 – 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 – 3 คัน พร้อมห้องแม่บ้านแยกส่วน ออกแบบด้วยแนวคิด Universal Design รองรับผู้อยู่อาศัยทุกรุ่นทุกวัย พื้นห้องนอนชั้นล่างใช้ Absorption Floor ลดแรงกระแทกและรองรับการใช้งานด้วยรถเข็นสำหรับผู้สูงอายุ กับสถาปัตยกรรม Luxury Nordic ท่ามกลางกลิ่นอายบรรยากาศแห่งเมืองหนาวแถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม ปี 2562 สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ มีทั้งคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่, Co – working Space, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนส, สวนสวยส่วนกลางรองรับ 3 Generations พร้อม Kids Zone ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. พร้อมระบบกันขโมยภายในบ้าน และติดกล้อง CCTV โดยรอบโครงการ ราคาเริ่มต้นที่ 8.99 – 18 ล้านบาท เราอย่ารอช้า เชิญเลื่อนลงไปตามอ่านรายละเอียดของโครงการที่ข้างล่างนี้กันเลยดีกว่าค่ะ บ้าน BANGKOK BOULEVARD ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ… BANGKOK BOULEVARD SIGNATURE ลาดพร้าว-เสรีไทย
:::: ที่ตั้งโครงการ :::: ซอยกาญจนาภิเษก 11/5 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม. พิกัด Google Map : 13.799107, 100.683804 แผนที่จากทางโครงการ ทำเลที่ตั้ง ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 11/5 ถนนกาญจนาภิเษก ตรงสำนักงานเขตคันนายาว ในทำเลศักยภาพใกล้ถนนรามอินทรา, ถนนเสรีไทย และถนนรามคำแหง มีจุดเด่นอยู่ที่ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้มสถานีน้อมเกล้า รถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานีนพรัตนธานี ทางด่วนมอเตอร์เวย์ และทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ถือเป็นทำเลที่คมนาคมสะดวก สามารถเชื่อมต่อถนนสายสำคัญได้ง่าย และมีสาธารณูปการครบครัน โดยเฉพาะถนนรามอินทรา, เลียบทางด่วนรามอินทรา และถนนรามคำแหง ที่เป็นถนนใหญ่เส้นหลัก มีความครึกครื้นของแหล่งการค้ากระจายอยู่ตลอดเส้นทาง เป็นที่ตั้งของ อาคารพาณิชย์, อาคารสำนักงาน, สถานที่ราชการ, ธนาคาร, ตลาด, ไลฟ์สไตล์มอลล์, ห้างสรรพสินค้า, สถานศึกษาที่สำคัญ และโรงพยาบาลอีกหลายแห่ง จะเห็นได้ว่ามีผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายย่อยนั้นเล็งเห็นถึงศักยภาพของทำเลในย่านนี้ ได้เข้ามาจับจองเพื่อพัฒนาที่ดินที่มีราคากระโดดสูงขึ้นในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ปัจจัยนอกเหนือจากโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่จะวิ่งจากศูนย์วัฒนธรรมมาถึงมีนบุรีผ่านบนถนนรามคำแหง ก็คือทำเลนี้ยังสามารถรองรับการคมนาคมของรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย – ลำสาลี) และทางด่วนเกษตร – นวมินทร์ – วงแหวนตะวันออกด้วย ซึ่งจะกลายเป็นอีก Strong Point หนึ่งของทำเลนี้เลย (ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างศึกษาโครงการนะคะ) ย่านนี้จึงเป็นทำเลที่เหมาะสำหรับการค้า, การลงทุน และเหมาะกับการอยู่อาศัย (เห็นได้จากโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวและโฮมออฟฟิศที่อยู่ในย่านนี้ก็มีหลากหลายโครงการ) เพราะตัวทำเลสามารถรองรับได้ทุกกิจกรรมของการอยู่อาศัย และการดำเนินธุรกิจส่วนตัวค่ะ การเดินทางด้วยรถยนต์ ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 11/5 ถนนกาญจนาภิเษก (มอเตอร์เวย์) เป็นทำเลที่เดินทางได้สะดวกนะคะเพราะอยู่ติดกับถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ซึ่งสามารถวิ่งลงต่อไปทางบางนาได้สะดวก สามารถเชื่อมสู่ ถนนรามอินทรา, ถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร – นวมินทร์), ถนนเสรีไทย, ถ.รามคำแหง ลงไปถึงบางนาและสุวรรณภูมิได้สะดวก ซึ่งถนนเสรีไทยและถนนรามคำแหงจะเป็นถนนเส้นที่วิ่งขนานกัน จากเส้นรามคำแหงสามารถวิ่งไปทางแยกลำสาลีผ่านบางกะปิ เชื่อมสู่ถนนพระราม 9 และถนนเพชรบุรีตรงเข้าสู่ย่านเอกมัย – ทองหล่อได้สะดวก และถ้าวิ่งจากถนนเสรีไทยผ่านแยกบางกะปิไปก็จะเชื่อมสู่ถนนลาดพร้าวค่ะ หรือจะวิ่งออกไปทางมีนบุรีเข้าถนนสุวินทวงศ์ ก็จะสามารถออกสู่ฉะเชิงเทราได้ ส่วนถนนรามอินทราสามารถใช้วิ่งไปทางแจ้งวัฒนะ ออกไปทางเมืองทองและรังสิตได้สะดวก และถนนประเสริฐมนูกิจจะสามารถวิ่งเชื่อมสู่ถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือเลียบด่วนรามอินทรา สามารถขึ้นทางด่วนได้อีกเช่นกัน นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ใกล้ถนนตัดใหม่ นั่นก็คือถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า เป็นถนนที่ข้ามวงแหวนกาญจนาฯ ไปยัง ถนนกรุงเทพกรีฑา, ข้ามถนนร่มเกล้าไปยังเจ้าคุณทหาร และออกสู่มอเตอร์เวย์ผ่านถนนพัฒนาชนบท 3 และ 4 เป็นทำเลที่มีเส้นทางเชื่อมต่อทั้งขาเข้าและขาออกเลยค่ะ (คาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดใช้งาน 100% ทั้งโครงการ ในเดือนธันวาคม 2562) ทางด่วน ตัวโครงการอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกขาไปทางบางนา – ชลบุรี ซึ่งจะต้องไปกลับรถบนถนนเสรีไทยก่อนแต่ไม่ไกลนะคะ รวมแล้วประมาณ 2 กม.เท่านั้น ส่วนขึ้นไปทางลำลูกกา ให้ขับลอดใต้วงแหวนกาญจนาไปก่อน แล้วเลี้ยวขวาขึ้นทางยกระดับเข้าวงแหวนกาญจนาภิเษกค่ะ ระยะทางและเวลาที่ใช้ก็พอๆ กันเลย ความอุดมสมบูรณ์ ตัวโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ ล้อมรอบด้วยสาธารณูปโภค Luxury Lifestyle มากมาย ที่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุดก็คือเส้นรามอินทรา เพียงแค่ขึ้นวงแหวนมุ่งไปทางรามอินทราก็จะถึงแฟชั่นไอส์แลนด์และเดอะพรอมานาดอยู่ข้างกันๆ เลยค่ะ ตรงนั้นจะใกล้กับภัตตาคารจันทร์เพ็ญและ รพ.สินแพทย์ อีกด้วย และถ้าขับไปที่เส้นเลียบด่วนรามอินทราก็จะมีทั้ง The Crystal, CDC, เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสวิลล์, ร้านอาหารบรรยากาศดี รวมถึงตลาดนัดเลียบด่วนขนาดใหญ่ ซึ่งตอนนี้ได้เปิดพื้นใหม่อีก 10 ไร่ให้ร้านค้ามาลงติดเส้นรามอินทราอีกด้วย ถนนอีกเส้นนึงที่มีความอุดมสมบูรณ์มากๆ ไม่ควรมองข้ามก็คือถนนรามคำแหงเพราะมีทั้ง คอมมูนิตี้มอลล์, ไฮเปอร์มาร์เก็ต และตลาด อยู่หลายแห่ง อย่างบริเวณหน้าหมู่บ้านสัมมากรก็จะมี Pure Place, ตลาดสัมมากร ฝั่งตรงข้ามก็มี Golden Place, Tops Market, The Paseo Town HomePro, Big C จนไปถึงแยกลำสาลี ตรงนั้นจะมี The Mall บางกะปิ เป็นห้างใหญ่, ตลาดบางกะปิ และ Tesco Lotus ถ้าไปทางฝั่งมีนบุรีก็จะมีทั้ง Big C, Home Pro และ Tesco Lotus อยู่ในละแวกเดียวกัน และมีตลาดน้ำขวัญเรียม เป็นตลาดน้ำที่ได้บรรยากาศของวิถีชีวิตของผู้คนริมคลองแสนแสบ ตรงวัดบางเพ็งเหนือและวัดบางเพ็งใต้ค่ะ สถานศึกษาที่สำคัญๆ ก็ตั้งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนไปถึงระดับอุดมศึกษา ทั้งไทยและนานาชาติ อย่าง NIDA, ม.รามคำแหง, ม.เกษมบัณฑิต, รร.เตรียมอุดมฯ น้อมเกล้า, รร.นานาชาติ ASCOT, รร.นานาชาติบรอมส์โกรฟ เป็นต้น โรงพยาบาลดังๆ ก็มีทั้ง รพ.สมิติเวช, รพ.รามคำแหง, รพ.เวชธานร และ รพ.การุญเวช การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ที่ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกจะมีแท็กซี่วิ่งผ่านอยู่เป็นระยะๆ สะดวกที่สุดแนะนำให้เรียก Grab Taxi และ Line Taxi ค่ะ นอกจากนี้ก็จะมีรถสองแถววิ่งผ่าน เป็นรถสองแถวสีเขียวขาว วิ่งจากรถไฟฟ้าหัวหมากถึงมีนบุรี ทำให้สามารถเดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ส่วนรถไฟฟ้าที่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุดก็คือรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี สถานีน้อมเกล้า อยู่ห่างจากตัวโครงการออกไปประมาณ 3.5 กม. เป็นโครงการในอนาคตบนเส้นรามคำแหง ซึ่งตำแหน่งของสถานีจะอยู่ตรงหน้า รร.เตรียมฯ น้อมเกล้า และรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี สถานีนพรัตนธานี อยู่ห่างจากตัวโครงการออกไปประมาณ 3.9 กม. เท่านั้นเองค่ะ เป็นโครงการอนาคตบนเส้นรามอินทรา ซึ่งตำแหน่งของสถานีจะอยู่ตรงแยก รพ.นพรัตน์ พอดีค่ะ :::: การเดินทางสู่โครงการ :::: วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก ถนนรามอินทรา > ถนนรัชดา-รามอินทรา > ทางคู่ขนานวงแหวนกาญจนาภิเษก > ซอยกาญจนาภิเษก 11/5 > Bangkok Boulevard รามอินทรา – เสรีไทย เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากถนนรามอินทราบริเวณหน้าห้างเดอะพรอมานาดและแฟชั่นไอส์แลนด์มุ่งหน้าไปทางมีนบุรีกันค่ะ จากหน้าแฟชั่นไอส์แลนด์ให้เราขับตรงไปเรื่อยๆ สังเกตป้ายนวมินทร์เอาไว้แล้วชิดขวา โดยขึ้นทางยกระดับไปทางนวมินทร์ข้ามถนนรัชดา – รามอินทราไปเข้าทางคู่ขนานวงแหวนกาญจนาฯ มุ่งหน้าไปทางเสรีไทย ชิดขวาแล้วขึ้นสะพานยกระดับไปเลยค่ะ จากสะพานยกระดับจะวนมาลงที่ถนนรัชดา – รามอินทรา ให้เราสังเกตป้ายเสรีไทยเอาไว้ ที่ข้างหน้าของเราจะมีทางแยกให้เราชิดซ้ายเอาไว้นะคะ ตรงทางแยกให้เราชิดซ้ายเข้าทางเลนฝั่งซ้ายมือค่ะ วิ่งตรงไปเรื่อยๆ ข้างหน้าเราจะเห็นเส้นกาญจนาฯ ตัดผ่าน ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าทางคู่ขนานกาญจนาภิเษกไปเลย จากนั้นให้เราวิ่งตรงไปเรื่อยๆ ไปทางถนนเสรีไทย สักพักให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยกาญจนาภิเษก 11/5 ซึ่งภายในซอยนี้จะเป็นที่ตั้งของสำนักงานเขตคันนายาวค่ะ จากนั้นให้เราตรงเข้าไปจนสุดซอยประมาณ 240 เมตร เราก็จะเห็นทางเข้าโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือแล้วค่ะ ภาพ Gate ทางเข้าโครงการพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. แบบชัดๆ สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถาน และอื่นๆ
สถานที่ราชการ และอาคารสำนักงาน
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ :::: ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 11/5 ถนนกาญจนาภิเษก จะเห็นว่าโดยรอบโครงการนั้นเป็นหมู่บ้านพักอาศัยทั้งหมด จะมีพื้นที่บางส่วนที่ยังเป็นที่ดินเปล่า และบางส่วนก็กำลังจะถูกพัฒนาอีกค่ะ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 1 – 2 ชั้น ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 1 – 2 ชั้น ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับ โรงเรียนสอนขับรถและซอยกาญจนาภิเษก 11/5 ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับ ลำคลอง ตอนนี้เรามาอยู่ที่บริเวณหน้าโครงการกันแล้ว มาดูกันว่าบริเวณใกล้เคียงกับตัวโครงการจะมีบรรยากาศเป็นอย่างไรบ้าง เริ่มจากฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการกำลังก่อสร้างอาคารศูนย์บริการสาธารณสุข 70 คันนายาวค่ะ ฝั่งทางขวามือของโครงการจะมีรั้วกั้นเขตที่ดินเอาไว้ ซึ่งข้ามรั้วไปจะเป็นที่ดินว่างเปล่าที่กำลังจะถูกพัฒนา ส่วนฝั่งซ้ายมือของตัวโครงการจะสามารถเดินออกไปยังถนนกาญจนาภิเษกได้ใน 240 เมตร ซึ่งพื้นที่ติดกับหน้าโครงการฝั่งนี้ก็คือ รร.สอนขับรถค่ะ ส่วนฝั่งตรงข้ามกับ รร.สอนขับรถ ก็คือสำนักงานเขตคันนายาวนั่นเอง อยู่ห่างจากตัวโครงการ 110 เมตร :::: ตัวโครงการ :::: บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา – เสรีไทย เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรูสูง 2 ชั้น มีเนื้อที่โครงการ 10 – 0 – 6.0 ไร่ เอกสิทธิ์เพียงจำนวน 31 ยูนิต มีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบบนที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 164 – 353 ตร.ม. ขนาดฟังก์ชั่น 3 – 4 ห้องนอน 3 – 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 – 3 คัน พร้อมห้องแม่บ้านแยกส่วน ออกแบบด้วยแนวคิด Universal Design รองรับผู้อยู่อาศัยทุกรุ่นทุกวัย กับสถาปัตยกรรม Luxury Nordic ท่ามกลางกลิ่นอายบรรยากาศแห่งเมืองหนาวแถบสแกนดิเนเวีย ทางโครงการจะใช้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double Security System ประตูโครงการประกอบด้วย ซุ้มรปภ. พร้อมประตูรั้วอัตโนมัติ, ระบบ Access Control แบบ Easy Pass และกล้อง CCTV ล้อมรั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรพร้อมเหล็กแหลม บ้านทุกหลังจะติดสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic และระบบ Shock Sensor ให้เรียบร้อย เมื่อเข้ามาภายในตัวโครงการแล้ว จะเจอคลับเฮ้าส์และสวนธารณะอยู่ที่ด้านหน้าโครงการเลยค่ะ ประกอบด้วย Co – working Space, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนส, สวนสวยส่วนกลางรองรับ 3 Generations พร้อม Kids Zone ซึ่งปัจจุบันคลับเฮ้าส์ถูกใช้เป็นสำนักงานขายไปในตัวด้วย เนื่องจากโครงการเป็นโครงการขนาดเล็ก ลูกบ้านทุกหลังจึงสามารถเดินไปใช้งานส่วนกลางได้สะดวกและไม่ไกลเลย ความพิเศษของการวางผังโครงการนี้ก็คือ เป็นโครงการขนาดเล็ก มีจำนวนยูนิตน้อย จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูงและไม่แออัด อีกทั้งยังวางหน้าบ้านไปในแกนทิศเหนือ – ใต้ ทำให้ตัวบ้านไม่ร้อน และสามารถรับลมได้ตลอดทั้งปีค่ะ :::: แบบบ้านของโครงการ :::: แบบบ้านของโครงการจะเป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น สไตล์ Luxury Nordic ดีไซน์เรียบง่ายแต่หรูหรา กับฟังก์ชั่นขนาดใหญ่ เน้นความโปร่งโล่ง แต่ยังคงสัดเป็นส่วน รองรับผู้อยู่อาศัยทุกรุ่นทุกวัย ภายในบ้านติดระบบสัญญาณกันขโมยให้ทุกหลัง ทั้ง Magnetic System และ Shock Sensor ส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยัง Security Center และ Smartphone ของเจ้าของบ้านตลอด 24 ชม. ตอนนี้มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบด้วยกันดังนี้ค่ะ
GEYSIR ขนาด 283 ตร.ม.
แปลนชั้น 1 | 2 THINGVELLIR ขนาด 353 ตร.ม.
แปลนชั้น 1 | 2 :::: บริเวณภายในโครงการ :::: ::: ทางเข้าโครงการ ::: เดี๋ยวเราจะเข้าไปสำรวจภายในโครงการด้วยกันนะคะ เริ่มจากซุ้มทางเข้าโครงการตกแต่งมาในสไตล์ Luxury Nordic เช่นกัน เอกลักษณ์ก็คือทรงหลังคาจั่วแบบไม่มีชายคาตรงป้ายโครงการ ใช้โทนสีขาว – เทาดูดีเรียบเท่ ป้ายโครงการค่ะ การเข้า – ออกโครงการก็จะใช้ระบบ Easy Pass, กล้อง CCTV ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตร และตรวจสอบความปลอดภัยก่อน เครื่องจับสัญญาณบัตร Easy Pass และที่ด้านข้างของซุ้มได้ถูกออกแบบให้เป็นทางเท้าและประตูรั้วเล็กสำหรับคนเดินเข้า – ออก พื้นยกระดับขึ้นมาจากพื้นถนนให้สามารถเดินเข้าโครงการได้อย่างปลอดภัย ภาพมองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการค่ะ ::: บริเวณภายในโครงการ ::: โครงการจะเป็นโครงการขนาดเล็กและเป็นส่วนตัวค่ะ เพราะมีจำนวนบ้านเพียง 31 ยูนิตเท่านั้นจึงได้บรรยากาศที่เป็นส่วนตัวมากๆ เลย ที่หน้าโครงการทางฝั่งซ้ายมือของเราก็คือคลับเฮ้าส์และสวนสาธารณะของตัวโครงการนั่นเอง ในรายละเอียดเจาะลึกจะอยู่ในหัวข้อถัดไปนี้เองนะคะ ภาพมองเข้าไปภายในโครงการ สร้างเสร็จเรียบร้อยสวยงามไปแล้วส่วนนึงค่ะ บรรยากาศดูดีทีเดียว ส่วนภาพรวมทั้งโครงการคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จช่วงเดือน ก.ค. ปี 2562 นี้แล้ว ฝั่งซ้ายมือถัดจากคลับเฮ้าส์และสวนสาธารณะก็คือบ้านตัวอย่าง 2 หลัง นั่นก็คือแบบบ้าน THINGVELLIR ขนาด 353 ตร.ม. และแบบบ้าน GEYSIR ขนาด 283 ตร.ม. ที่เราจะพาท่านผู้อ่านเข้าไปชมกันในวันนี้ ::: คลับเฮ้าส์ ::: คราวนี้เรากลับมาดูรายละเอียดของคลับเฮ้าส์และสวนสาธารณะของโครงการกันต่อค่ะ ซึ่งสไตล์การออกแบบก็เป็นแบบ Luxury Nordic เช่นกัน เอกลักษณ์ก็คือหลังคาทรงจั่วแบบไม่มีชายคาที่ดูเรียบและเท่ ซึ่งพื้นที่คลับเฮ้าส์นั้นก็ได้ถูกออกแบบมาจากแนวคิด Universal Design เช่นกัน โดยบริเวณทางเข้าก็จะมีทางลาดสำหรับรถเข็นด้วย พอเดินขึ้นไปแล้วจะเห็นทางเข้าอาคารอยู่ทางฝั่งซ้ายมือค่ะ เข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่แบบ Double Ceiling Space ดูโอ่โถงหรูหรา ปัจจุบันพื้นที่ส่วนนี้ถูกใช้เป็นสำนักงานขายของโครงการนะคะ พื้นที่นั่งพักผ่อนข้างผนังกระจกสูงเกือบถึงฝ้าเพดาน เรามาดูในส่วนของสระว่ายน้ำกันต่อ สระว่ายน้ำของโครงการมีขนาดใหญ่เป็นสระระบบเกลือ สำหรับผู้หญิงที่รักสุขภาพผมและผิวไม่ต้องกลัวผิวหรือผมเสียเลยค่ะ ภายในสระกรุด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติสีเทาอ่อนดูเรียบหรู ออกแบบให้ส่วนนึงเป็นที่นั่งแช่น้ำพร้อม Jet Pool นวดตัว และมีพื้นที่ส่วนนึงที่เป็นสระในร่มสำหรับนั่งแช่น้ำตอนกลางวันในวันที่อากาศร้อน พร้อมทั้งแยกสระเด็กเอาไว้ให้ภายในตัวด้วยค่ะ ข้างๆ สระจะมีฝักบัวสำหรับชำระล้างร่างกายก่อนลงสระให้ จากสระว่ายน้ำเลี้ยวซ้ายเข้ามาภายในอาคารจะมีโถงทางเดินไปยังบันไดขึ้นชั้น 2 และห้องน้ำค่ะ ห้องน้ำที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้จะแบ่งแยกชาย – หญิง และห้องน้ำสำหรับผู้ที่ใช้รถเข็น ภายในห้องน้ำสำหรับผู้ที่ต้องใช้รถเข็นค่ะ มีอุปกรณ์และราวจับติดตั้งเอาไว้ให้เรียบร้อย เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำหญิงกันบ้าง ฝั่งทางขวาของห้องน้ำคืออ่างล้างมือและกระจกเงาค่ะ ส่วนฝั่งทางซ้ายจะเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำ คราวนี้เราขึ้นบันไดไปที่ชั้น 2 กันต่อ ซึ่งจะเป็นส่วนของ Co – working Space และฟิตเนสค่ะ ภายในฟิตเนสก็จะมีอุปกรณ์การออกกำลังกายให้หลายอย่าง ทั้งจักรยานไฟฟ้า, เครื่องเดินวงรี, ลู่วิ่งไฟฟ้า และชุดเวทเทรนนิ่ง แต่ตอนนี้โซนเวทเทรนนิ่งยังไม่เรียบร้อยดีนะคะ เลยนำภาพเฉพาะส่วนคาร์ดิโอมาฝากกันก่อน ซึ่งส่วนนี้จะวางหันหน้าออกไปทางหน้าต่าง ได้ทั้งวิวสระว่ายน้ำและสวนสาธารณะ ภาพจากฟิตเนสชั้น 2 มองลงไปยังสระว่ายน้ำและสวนสาธารณะค่ะ ภายใน Co – working Space ได้จัดชุดโซฟาและโต๊ะ – เก้าอี้ให้หลายชุด เพื่อให้ลูกบ้านสามารถมานั่งพักผ่อน อ่านหนังสือ หรือเอา Notebook มานั่งทำงานได้ จัดแสงออกโทนส้มให้บรรยากาศที่ดูผ่อนคลาย Space ภายในห้องนี้ก็ไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของ Luxury Nordic นะคะ โดยออกแบบให้มีฝ้าเพดานทรงสูงตามแนวจั่วหลังคา ::: สวนสาธารณะ ::: คราวนี้เรามาดูสวนสาธารณะของโครงการกันต่อค่ะ สวนสาธารณะของโครงการถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของทั้ง 3 เจเนอเรชั่น รุ่นเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ให้สามารถเข้ามาใช้งานในสวนนี้ได้ทั้งหมดค่ะ โดยรอบสวนจะทำพื้นทางเดินเป็นพื้นปูนผิวเรียบให้ผู้ใช้รถเข็นสามารถเข้าถึงได้ ภายในสวนก็จะมีมุมนั่งพักผ่อนโดยไม่ลืมใส่รายละเอียดของ Luxury Nordic ทรงจั่วแบบไม่มีชายคา พื้นที่นั่งเล่นภายในสวน ใช้มานั่งรูปทรงเหมือนหินสไตล์โมเดิร์นดูเก๋ มีมุมม้านั่งพักผ่อนใต้ร่มเงาไม้ และศาลาเล็กๆ ของเหล่าแม่บ้านที่มาดูเด็กๆ เล่นกัน ส่วน Kids Zone ค่ะปูพื้นด้วยแผ่นยางเพื่อกันถลอก มีชุดปราสาทม้าลื่นและชิงช้าให้เด็กๆ ได้เล่นและปีนป่ายกัน ภาพบรรยากาศภายในสวนสาธารณะอีกมุมนึงค่ะ :::: บ้านตัวอย่าง :::: วันนี้ทางทีมงาน Homenayooจะพาท่านผู้อ่านของเราไปชมบ้านตัวอย่าง 2 หลังด้วยกัน ลำดับเป็น แบบบ้าน GEYSIR ขนาด 283 ตร.ม.และตามด้วย แบบบ้าน THINGVELLIR ขนาด 353 ตร.ม. ไปชมกันเลยค่า 😉 ::: แบบบ้าน GEYSIR ขนาด 283 ตร.ม. ::: แปลนชั้น 1 เริ่มจากที่หน้าบ้านมีพื้นที่จอดรถให้ 2 คันค่ะ และมีประตูบานเล็กให้เข้าบ้านจากทางลานจอดรถได้ ทางเข้าหลักจะอยู่ทางเฉลียงหน้าบ้าน ภายในบ้านมีการวางแปลนแบบ Open Plan ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่นต่อเนื่องไปยัง ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนนั่งเล่น 2 ซึ่งห้องโถงใหญ่นี้จะเชื่อมต่อกับ โถงบันได, ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องครัว จากห้องครัวจะเชื่อมกับลานซักล้างและห้องแม่บ้านได้ พื้นที่แต่ละส่วนสามารถวางเฟอร์นิเจอร์พอสำหรับครอบครัวขนาด 5 – 6 คนค่ะ แปลนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดยห้องนอนขนาดกลางและขนาดใหญ่จะวางอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนขนาดเล็กจะอยู่ฝั่งหลังบ้านค่ะ ภายในห้องนอนใหญ่จะสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องจะสามารถวางเตียงขนาดตั้งแต่ 3.5 – 5 ฟุตขึ้นไปได้และวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้อย่างลงตัว โดยห้องนอนชั้นบนทุกห้องจะมีห้องน้ำให้ในตัวทั้งหมดค่ะ มาดูบ้านตัวอย่างกันต่อเลยค่ะ หน้าตาบ้านถูกออกแบบมาในสไตล์ Luxury Nordic โดดเด่นด้วยหลังคาทรงจั่วแบบไม่มีชายคา ใช้โทนสีขาว – เทาดูเรียบเท่และหรูหราด้วยวัสดุผิวที่กรุด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติสีเทาเข้ม ในส่วนของโรงจอดรถจะสามารถจอดรถได้ 2 คัน โครงสร้างเป็นเสาเข็ม – คอนกรีตเสริมเหล็ก ตกแต่งพื้นด้วยทรายล้างอย่างสวยงาม ที่ฝ้าเพดานเป็นฝ้าแผ่นเรียบไฟเบอร์ซีเมนต์ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ ที่จอดรถก็จะมีช่องสำหรับเก็บของให้ด้วยค่ะ ใช้ประตูบานเกล็ดแบบเปิดคู่ เหมาะสำหรับเก็บพวกอุปกรณ์ทำสวนหรืออุปกรณ์ล้างรถ และมีมีประตูทางเข้าบ้านรองอีกทางค่ะ เป็นประตูบานไม้ทึบอย่างดีมีช่องลูกฟักกระจก ติดมือจับก้านโยกสแตนเลสของ Hafele ให้ โดยพื้นตรงหน้าประตูจะทำสเต็ปยกระดับขึ้นมาให้และปิดผิวด้วยกระเบื้องแบบผิวด้านกันลื่น จากบริเวณที่จอดรถจะมีทางเดินและชายคาคลุมกันฝนสำหรับเดินเชื่อมไปยังเฉลียงหน้าบ้าน ซึ่งพื้นทางเดินได้ถูกออกแบบเป็นทางลาดให้ผู้ที่ใช้รถเข็นสามารถขึ้นไปได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เราเดินมาที่เฉลียงทางเข้าบ้านกันต่อ ทางเข้าประตูหน้าบ้านจะยกระดับพื้นขึ้นไป 2 สเต็ป ขั้นละประมาณ 5 ซม. ปูพื้นด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติขนาด 60 x 60 ซม.ผิวด้านกันลื่น ทางเข้าบ้านจะถูกเซ็ตเข้าจากผนังเข้าไปเล็กน้อย เพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูไม้สักบานเปิดคู่แบบนี้ มีลูกฟักกระจกอยู่ด้านนึงค่ะ ติดตั้งมือจับบานประตูของ Hafele เหมือนเดิม เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปจะเป็นห้องทานอาหารและส่วนนั่งเล่นอีกจุด ถ้าเดินเข้าไปในโถงทางเดินด้านในฝั่งขวามือก็จะเป็น โถงบันได, ห้องน้ำ,ห้องนอนชั้นล่าง และห้องครัว ภายในบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบเรียบติดวอลเปเปอร์ให้ ส่วนฝ้าเพดานสูงถึง 2.8 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ทั้งหมด จะเห็นว่าพื้นที่ภายในโถงหลักค่อนข้างกว้างขวางและโปร่งโล่งดีทีเดียว เพราะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ล้อมรอบถึง 3 ด้านเลยค่ะ มาดูไอเดียการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านตัวอย่างกันต่อค่ะ ห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างขวางมาก สามารถวางโซฟาเบดพร้อมโต๊ะกาแฟได้อย่างลงตัว และยังสามารถวางอาร์มแชร์เพิ่มได้อีกสักตัวด้วย หน้าต่างโดยรอบห้องจะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนแบบยาวติดพื้นทุกด้านเลยค่ะ ถ้าเปิดม่านออกเชื่อมกับสวนข้างบ้านก็เหมือนเรานั่งอยู่ในสวนแล้ว บริเวณชั้นวางทีวีสามารถทำเป็นชั้นแบบ Built – in เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่เก็บของที่ทำให้บ้านดูเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น ผนังด้านหลังทีวีกรุกระเบื้องลายหินให้ดูเป็นไอเดียในการตกแต่ง ระยะจากโซฟา ไปจนถึงขั้นวางทีวีเหลือถึง 3 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่เหมาะสำหรับการดูทีวีขนาดจอ 70 นิ้วได้เลย เราไปดูในส่วนของห้องทานอาหารและส่วนนั่งเล่นกันต่อ จะเห็นว่าโถงของห้องรับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่มากๆ เลยทีเดียว ด้วยฝ้าที่สูงและพื้นที่ห้องกว้างขวางดูโปร่งโล่ง สามารถวางแพนทรี่แบบ Island ขนาดสำหรับเก้าอี้บาร์ 2 ตัว และวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งได้อย่างสบายๆ บริเวณส่วนนั่งเล่นจะเป็นส่วนที่ติดกับพื้นที่สวนข้างบ้านค่ะ โดยฝั่งนี้จะเป็นผนังกระจกทั้งแผงเพื่อรับแสงและมีประตูบานเลื่อนสำหรับเชื่อมต่อกับพื้นที่สวน ภาพอีกมุมมองนึงภายในห้องรับประทานอาหาร จากโถงห้องรับประทานอาหารจะเชื่อมต่อกับโถงทางเดินไปสู่ โถงบันได, ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำ และห้องครัวค่ะ เราจะเริ่มจากห้องนอนชั้นล่างฝั่งซ้ายมือ, ห้องน้ำฝั่งขวามือ และห้องครัวฝั่งซ้ายมือห้องท้ายสุด เข้าไปดูภายในห้องนอนชั้นล่างกันเลยค่ะ พื้นห้องนอนชั้นล่างเป็นพื้น Absorption Floor ลดแรงกระแทก และรองรับการใช้งานด้วยรถเข็นสำหรับผู้สูงอายุและผู้ใช้รถเข็นโดยเฉพาะ บ้านตัวอย่างตกแต่งห้องนี้มาเป็นห้องนั่งเล่นอ่านหนังสือให้ดูเป็นไอเดียค่ะ ถ้ายังไม่มีผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ก็สามารถใช้ห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงานหรือห้องเลี้ยงเด็กก็ทำได้เหมือนกัน (จริงๆ แล้วผนังจะไม่มีเจาะช่องเป็นวงกลมแบบนี้นะ จะเป็นผนังทึบทั้งหมด) แต่ถ้าจะจัดห้องนี้ให้กลายเป็นห้องนอนก็มีพื้นที่พอสำหรับการวางเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุต พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า สามารถจัดวางได้อย่างลงตัวเหมือนในแปลนบ้านเลย เราเข้าไปดูห้องน้ำกันต่อ ตำแหน่งอยู่ตรงข้ามกับห้องนอนชั้นล่างพอดีค่ะ ประตูใช้เป็นประตูบานทึบและติดมือจับประตูแบบก้านโยกสแตนเลสของ Hafele พื้นห้องน้ำชั้นล่างจะมีความพิเศษตรงที่จะทำพื้นเรียบเสมอกับพื้นโถง ไม่มีการลดระดับลงไปเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของผู้สูงอายุหรือผู้ที่ต้องใช้รถเข็นค่ะ ป้องกันการเดินสะดุดลื่นล้มจากพื้นลดระดับที่มักเกิดขึ้นได้บ่อย โดยจะป้องกันน้ำไหลย้อนออกมาจากห้องน้ำด้วยดีเทลรางน้ำยาวตลอดประตูทางเข้าที่มีช่องทางเข้าใหญ่กว่ามาตรฐาน ภายในห้องน้ำใช้กระเบื้องลายหินธรรมชาติทั้งพื้นและผนังดูสวยงาม ซึ่งกระเบื้องพื้นเลือกใช้ชนิดที่มีผิวด้านและไม่ลื่นแม้จะเปียกก็ตาม ฝ้าเพดานก็ติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้ดูสว่างไม่มีมุมมืดอับ มาดูในส่วนของสุขภัณฑ์กันบ้างค่ะ เริ่มจากอ่างล้างมือเลือกใช้อ่างของ Cotto รุ่นวางบนเคาน์เตอร์พร้อมกับก๊อกน้ำของ Kohler ซึ่งตรงเคาน์เตอร์วางอ่างล้างมือจะไม่มีตู้ใต้เคาน์เตอร์ให้เพื่อรองรับการใช้งานของผู้ที่ต้องใช้รถเข็น ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush ของ Kohler พร้อมติดตั้งฝารองนั่งอัจฉริยะ รีโมตควบคุมฝารองนั่งค่ะ และด้านในสุดเป็นโซนอาบน้ำซึ่งไม่มีการลดระดับพื้นอีกเช่นกันและใช้รางน้ำยาวเพื่อกันน้ำไหลย้อนแทน ที่ผนังติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำสายอ่อนพร้อมราวปรับระดับให้ของ Kohler พร้อมชั้นวางสบู่ Built – in มาให้เรียบร้อย เราเทียบขนาดหัวฝักบัวให้ดูค่ะ มีขนาดใหญ่กำลังดีเลย คราวนี้เราไปดูห้องครัวกันต่อ ประตูทางเข้าใช้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกแบบนี้ค่ะ ตัวรางจะถูกฝังอยู่ข้างบนนะ ติดมือจับบานประตูแบบเซาะร่อง ที่พื้นเรียบไม่มีตัวราง ปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ต่อเนื่องเข้าไป พื้นที่ภายในห้องครัวมีขนาดกำลังดีค่ะ สามารถวางเคาน์เตอร์ครัวได้ทั้ง 2 ฝั่งพอดีกับการวางเตาปรุงอาหาร, อ่างล้างจาน และพื้นที่เตรียมอาหารพอดี พอวางเคาน์เตอร์ทั้ง 2 ฝั่งแล้วก็ยังเหลือพื้นที่กว้าง 1.2 เมตรสำหรับยืนปรุงอาหาร ไอเดียการออกแบบเคาน์เตอร์ครัวที่พอดีกับพื้นที่ห้องค่ะ จะเห็นว่าด้านข้างของเคาน์เตอร์จะเว้นพื้นที่เอาไว้สำหรับวางตู้เย็นด้วย จากห้องครัวจะมีประตูออกหลังบ้านเชื่อมกับลานซักล้างและห้องแม่บ้าน ที่พื้นลานซักล้างจะลดระดับจากพื้นห้องครัวลงไปประมาณ 10 ซม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม.ค่ะ พื้นที่ลานซักล้างมีขนาดใหญ่พอสมควร สามารถวางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าได้สบายๆ เลย ซึ่งส่วนนี้ทางโครงการจะติดดวงโคมฟลูออเรสเซ้นท์มาให้เป็นไฟแสงสว่างค่ะ จากลานซักล้างจะเชื่อมต่อกับห้องแม่บ้านพอดี ภายในห้องนอนแม่บ้านค่ะ มีห้องน้ำแยกให้ในตัวเรียบร้อยแล้ว กลับเข้ามาภายในบ้านเดี๋ยวเราจะเดินขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อเลย ตอนนี้เรามาอยู่ที่บริเวณโถงบันไดกันแล้ว จะเห็นว่าข้างๆ บันไดมีห้องเก็บของให้ด้วย ซึ่งประตูทางเข้าห้องเก็บของนี่จะสูงเท่าบานประตูมาตรฐานเลยนะ เวลาเข้าไปเก็บของก็จะสะดวกกว่าเพราะไม่ต้องมุดเข้าไป ภายในห้องเก็บของค่ะ ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. มีดวงโคมฟลูออเรสเซ้นท์ให้ และเป็นจุดที่ใช้ซ่อนตู้ไฟให้ด้วย สำหรับโครงสร้างบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กแข็งแรง ปิดผิวด้วยไม้สีเข้ม โถงบันไดกว้างประมาณ 1.1 เมตรค่ะ มุมมองขึ้นไปยังบริเวณโถงบันได ราวจับบันไดเป็นระแนงเหล็กทาสีน้ำมัน ส่วนมือจับก็ใช้วัสดุไม้สีเข้ากับพื้นบันได มองย้อนกลับลงไปที่บริเวณชานพักบันได ขั้นบันไดเป็นทรงสี่เหลี่ยมเต็มทุกขั้น เดินได้อย่างปลอดภัย มองย้อนกลับไปที่ส่วนโถงบันไดค่ะ จะเห็นว่าโถงบันไดมีช่องแสงขนาดใหญ่ให้ เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้ และหน้าต่างบาน Fix ที่สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านได้เยอะมาก ขึ้นมาบนชั้นสองแล้วจะเจอกับพื้นที่โถงแบบนี้ ทำหน้าที่เชื่อมกับห้องนอนทั้ง 3 ห้อง บรรยากาศบนชั้นสองในบ้านตัวอย่างก็ยังคงตกแต่งออกมาได้สวยเข้ากับตัวบ้านโดยรวมค่ะ พื้นชั้น 2 ปูด้วยไม้ Engineer Wood ทั้งหมด ผนังติดวอลล์เปเปอร์ ฝ้าก็สูงถึง 2.8 เมตรเท่าชั้นล่างเลย ห้องนอนใหญ่ของบ้านจะอยู่ทางฝั่งซ้ายมือของโถงค่ะ และห้องนอนรองอีก 2 ห้องจะอยู่ทางฝั่งขวามือของโถง นอกจากนี้พื้นที่โถงยังสามารถจัดเป็น Family Area ให้นั่งพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวได้อีก 1 จุด เราจะเข้าไปชมภายในห้องนอนกันต่อเริ่มจากห้องนอนใหญ่ฝั่งซ้ายมือของโถงกันก่อน ภายในห้องนอนใหญ่จะแบ่งออกเป็น 2 โซนคือโซนพักผ่อนและโซน Walk – in Closet เข้าไปดูในส่วนของโซนพักผ่อนกันก่อน ส่วนนี้จะมีฝ้าเพดานที่สูงเป็นพิเศษ สูงถึง 4.6 เมตร ตามแนวลาดของหลังคาเลยค่ะ อีกทั้งยังมีช่องแสงขนาดใหญ่ซึ่งทำให้ห้องนี้ดูโอ่อ่ามากๆ ขนาดความกว้างของห้องสามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้เลย โดยทั้ง 2 ฝั่งก็ยังสามารถวางโต๊ะข้างได้อีกด้วย พื้นที่ปลายเตียงก็ยังเหลือเดินผ่านได้สะดวก สามารถวางชั้นวางของหรือชั้นวางทีวีได้ตามภาพ จากส่วนนี้จะมีประตูบานเลื่อนคู่ที่สามารถเปิดออกสู่ระเบียงได้ พื้นระเบียงจะลดระดับลงจากพื้นห้องนอนเล็กน้อยค่ะ ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิก และใช้ราวกันตกกระจกดูโมเดิร์น ขนาดของระเบียงห้องนอนจะไม่ถึงกับกว้างมาก แต่ก็ยังพอวางเก้าอี้ หรือเดินออกมารับลมยามเช้าได้ ภาพจากระเบียงมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง จากโซนพักผ่อน เราจะเข้าไปดูโซน Walk – in Closet กันต่อค่ะ เราสามารถทำประตูกันพื้นที่ห้องแบบนี้เลยก็ได้ เข้ามาภายในโซน Walk – in Closet เป็นห้องตู้เสื้อผ้าที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว สามารถทำตู้ Built – in พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ได้แบบนี้ ข้างๆ ประตูห้องน้ำก็ยังเป็นพื้นที่ของ Walk – in Closet นะคะ โดยรวมแล้วสามารถแบ่งโซนการใช้งานได้ 2 คนสบายๆ เลย คราวนี้เราเข้ามาดูภายในห้องน้ำกันต่อ ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ก็จะมีความพิเศษกว่าห้องน้ำห้องอื่นๆ ค่ะ ทั้งพื้นและผนังใช้กระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวดูสวยงาม ซึ่งที่พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไปเล็กน้อย ทางฝั่งซ้ายมือของห้องจะวางอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ค่ะ อ่างล้างมือใช้อ่างแบบฝังครึ่งเคาน์เตอร์พร้อมก๊อกน้ำแบบปรับน้ำร้อน – น้ำเย็นได้ของ Kohler โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวพร้อมฝารองนั่งอัจฉริยะและ Accessories ประกอบการใช้งาน ได้อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่จาก Kasch พร้อมชุดฝักบัวและก๊อกน้ำ และได้โซน Shower พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered Glass มือจับบานประตูมีขนาดใหญ่สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ในตัว พื้นที่ภายในจะทำลดระดับลงไปเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อน ที่ผนังติดตั้งชุด Rain Shower และฝักบัวสายอ่อนให้แบบนี้เลยค่ะ เรามาดูห้องนอนรองกันต่อ พื้นที่ภายในห้องนอนรองมีขนาดไม่แพ้ห้องนอนใหญ่เลยนะคะ แม้จะวางเฟอร์นิเจอร์จนครบแล้วก็ยังดูกว้างขวางไม่อึดอัด ทางบ้านตัวอย่างวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูเป็นไอเดียซึ่งจะกำลังพอดีกับพื้นที่ห้องค่ะ ผนังด้านข้างหน้าห้องน้ำสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้แบบนี้ พื้นที่ท้ายห้องก็ยังเหลืออีกเยอะนะคะ สามารถจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง, โต๊ะทำงาน และวางตู้เก็บของเพิ่มได้ ส่วนห้องน้ำภายในห้องนอนรองอาจจะมีสเป็กไม่หรูหราเท่าห้องนอนใหญ่ ตกแต่งออกมาเรียบๆ สไตล์โมเดิร์นด้วยกระเบื้องเซรามิกดูเรียบร้อยดีค่ะ อ่างล้างมือภายในห้องเป็นอ่างพร้อมเคาน์เตอร์สำเร็จรูปแบบนี้ มีพื้นที่สำหรับเก็บของใต้อ่างได้เล็กน้อย โถสุขภัณฑ์ได้แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush พร้อม Accessories ประกอบการใช้งาน พื้นโซน Shower ลดระดับเล็กน้อย ตรงนี้เราสามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำแบบเข้ามุมเพิ่มเติมได้ค่ะ ที่ผนังก็ติดตั้งชุดฝักบัวสายอ่อนพร้อมราวปรับระดับ และเจาะผนังทำชั้นวางสบู่ให้เรียบร้อยแล้ว ตามด้วยห้องนอนเล็กเป็นห้องสุดท้ายค่ะ แม้ว่าจะเป็นห้องนอนเล็กของบ้านแต่ก็มีพื้นที่ขนาดพอเหมาะสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี พื้นที่ของห้องนอนจะกำลังพอดีกับเตียงนอนขนาด 3 ฟุตครึ่ง พื้นที่ส่วนปลายเตียงก็ยังเหลือเยอะพอสมควรสามารถจัดเป็นโต๊ะทำงานและชั้นเก็บของได้สบายๆ แม้จะเป็นห้องนอนขนาดเล็ก แต่ก็ยังมีโซน Walk – in Closet และห้องน้ำในตัวให้อย่างครบถ้วน ตรงนี้เราสามารถทำ Built – in ตู้เก็บเสื้อผ้าและวางโต๊ะเครื่องแป้งได้แบบนี้เลย ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะเหมือนกับห้องนอนรองทุกประการเลยค่ะ แตกต่างกันเพียง Lay Out ของห้องน้ำเท่านั้น ::: แบบบ้าน THINGVELLIR ขนาด 353 ตร.ม. ::: แปลนชั้น 1 เริ่มจากที่หน้าบ้านมีพื้นที่จอดรถให้ 3 คันค่ะ และมีประตูบานเล็กให้เข้าบ้านจากทางลานจอดรถได้ ทางเข้าหลักจะอยู่ทางเฉลียงหน้าบ้าน ภายในบ้านมีการวางแปลนแบบ Open Plan ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่นต่อเนื่องไปยัง ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนนั่งเล่น 2 ซึ่งห้องโถงใหญ่นี้จะเชื่อมต่อกับ โถงบันได, ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องครัว จากห้องครัวจะเชื่อมกับลานซักล้างและห้องแม่บ้านได้ พื้นที่แต่ละส่วนสามารถวางเฟอร์นิเจอร์พอสำหรับครอบครัวขนาด 6 – 7 คนค่ะ แปลนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดยห้องนอนขนาดกลางและขนาดใหญ่จะวางอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนขนาดเล็กจะอยู่ฝั่งหลังบ้านค่ะ ภายในห้องนอนใหญ่จะสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องจะสามารถวางเตียงขนาดตั้งแต่ 5 ฟุตขึ้นไปได้และวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้อย่างลงตัว โดยห้องนอนชั้นบนทุกห้องจะมีห้องน้ำให้ในตัวทั้งหมดค่ะ รั้วบ้าน และโรงจอดรถ บ้านมาตรฐาน โชคดีที่แบบบ้านหลังนี้มีบ้านมาตรฐานมาให้เราดูหน้าตาของรั้วบ้านจริงๆ ที่เราจะได้ด้วยค่ะ ประตูรั้วบ้านจะเป็นระแนงเหล็กแบบ 2 ตอน สามารถเลื่อนเปิด หรือจะติดตั้งระบบรีโมทคอนโทรลเปิดอัตโนมัติก็ได้ ที่หน้าบ้านจะมีช่องประตูรั้วเล็กๆ สำหรับคนเดินเข้าได้ด้วยค่ะ ไม่ต้องคอยเลื่อนเปิด – ปิดรั้วใหญ่ให้เสียเวลา ที่รั้วบ้านจะติดเลขที่บ้าน, Mailbox, กริ่งออด, ไฟกิ่ง และช่องเก็บขยะมาให้แบบนี้เลย เลขที่บ้าน, Mailbox, กริ่งออด และไฟกิ่ง ช่องเก็บขยะที่รั้วบ้าน เป็นจุดที่ทำให้ลูกบ้านสะดวกมากขึ้น โดยลูกบ้านจะสามารถทิ้งขยะได้จากภายในตัวบ้านได้เลย ทางส่วนกลางของโครงการจะมาเก็บขยะไปจากช่องด้านหน้ารั้วเอง ในส่วนของโรงจอดรถจะสามารถจอดรถได้ 3 คัน โครงสร้างเป็นเสาเข็ม – คอนกรีตเสริมเหล็ก ตกแต่งพื้นด้วยทรายล้างอย่างสวยงาม ที่ฝ้าเพดานเป็นฝ้าแผ่นเรียบไฟเบอร์ซีเมนต์ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ มีช่องสำหรับเก็บของ และมีมีประตูทางเข้าบ้านรองอีกทางค่ะ จากบริเวณที่จอดรถจะมีทางลาดให้ผู้ที่ใช้รถเข็น พร้อมชายคาคลุมกันฝนสำหรับเดินเชื่อมไปยังเฉลียงหน้าบ้าน แบบบ้านตัวอย่าง เรากลับมาที่บ้านตัวอย่างกันค่ะ มาดูที่เฉลียงทางเข้าบ้านกันต่อ ทางเข้าประตูหน้าบ้านจะยกระดับพื้นขึ้นไป 2 สเต็ป ขั้นละประมาณ 5 ซม. ปูพื้นด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติขนาด 60 x 60 ซม.ผิวด้านกันลื่น ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูไม้สักบานเปิดคู่แบบนี้ มีลูกฟักกระจกอยู่ด้านนึงค่ะ เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปจะเป็นห้องทานอาหารและส่วนนั่งเล่นอีกจุด ถ้าเดินเข้าไปในโถงทางเดินด้านในฝั่งขวามือก็จะเป็น โถงบันได, ห้องน้ำ,ห้องนอนชั้นล่าง และห้องครัว ภายในบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบเรียบติดวอลเปเปอร์ให้ ส่วนฝ้าเพดานสูงถึง 2.8 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ทั้งหมด จะเห็นว่าพื้นที่ภายในโถงหลักค่อนข้างกว้างขวางและโปร่งโล่งดีทีเดียว เพราะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ล้อมรอบถึง 3 ด้านเลยค่ะ มาดูไอเดียการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านตัวอย่างกันต่อ ห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างขวางมาก สามารถวางโซฟาขนาด 4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกาแฟ และอาร์มแชร์อีก 2 ตัว หน้าต่างโดยรอบห้องจะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนแบบยาวติดพื้นทุกด้านเลยค่ะ ถ้าเปิดม่านออกเชื่อมกับสวนข้างบ้านก็เหมือนเรานั่งอยู่ในสวน บริเวณชั้นวางทีวีสามารถทำเป็นชั้นแบบ Built – in เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่เก็บของที่ทำให้บ้านดูเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น ผนังด้านหลังทีวีกรุกระเบื้องลายหินให้ดูเป็นไอเดียในการตกแต่ง ส่วนระยะดูทีวีในห้องนี้ เป็นระยะที่สามารถดูทีวีขนาดจอ 70 นิ้วขึ้นไปได้เลย จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อด้วยห้องรับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นค่ะ จะเห็นว่าโถงของห้องรับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่มากๆ สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 8 – 10 ที่นั่งได้สบายๆ ทั้งยังเหลือพื้นที่สำหรับการทำเป็นบาร์เครื่องดื่มหรือแพนทรี่ได้อีกด้วย ไอเดียการจัดโต๊ะรับประทานอาหารสวยๆ ส่วนนึงจัดเป็นบาร์เครื่องดื่มและตู้เก็บไวน์ได้ บริเวณส่วนนั่งเล่นจะเป็นส่วนที่ติดกับพื้นที่สวนข้างบ้านค่ะ โดยฝั่งนี้จะเป็นผนังกระจกทั้งแผงเพื่อรับแสงและมีประตูบานเลื่อนสำหรับเชื่อมต่อกับพื้นที่สวน ภาพอีกมุมมองนึงภายในห้องรับประทานอาหาร จากโถงห้องรับประทานอาหารจะเชื่อมต่อกับโถงทางเดินไปสู่ โถงบันได, ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำ และห้องครัว เราจะเข้าไปดูภายในห้องนอนชั้นล่างกันเลยค่ะ พื้นห้องนอนชั้นล่างเป็นพื้น Absorption Floor ลดแรงกระแทก และรองรับการใช้งานด้วยรถเข็นสำหรับผู้สูงอายุและผู้ใช้รถเข็นโดยเฉพาะ เทียบกับบ้านหลังที่แล้วห้องนอนชั้นล่างของบ้านนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นมาเกือบเป็น 2 เท่าเลยค่ะ พื้นที่ของห้องสามารถรองรับเตียงนอนขนาด 5 – 6 ฟุตได้เลย และยังเหลือพื้นที่ข้างๆ สามารถวางโต๊ะข้างและเก้าอี้ หรือจะเลือกวางเป็นโซฟาขนาด 2 ที่นั่งวางชิดริมผนังเลยก็ยังไหว ส่วนพื้นที่ปลายเตียงยังสามารถจัดเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่, โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เก็บของได้อีกนะ ซึ่งก็จะยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดินสามารถเดินผ่านได้สะดวกค่ะ จากนั้นเรามาดูห้องน้ำชั้นล่างและห้องครัวกันต่อ พื้นห้องน้ำชั้นล่างจะมีความพิเศษตรงที่จะทำพื้นเรียบเสมอกับพื้นโถง ไม่มีการลดระดับลงไปเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของผู้สูงอายุหรือผู้ที่ต้องใช้รถเข็น ป้องกันการเดินสะดุดลื่นล้มจากพื้นลดระดับที่มักเกิดขึ้นได้บ่อย โดยจะป้องกันน้ำไหลย้อนออกมาจากห้องน้ำด้วยดีเทลรางน้ำยาวตลอดประตูทางเข้าที่มีช่องทางเข้าใหญ่กว่ามาตรฐานเหมือนบ้านหลังที่แล้ว ภายในห้องน้ำใช้กระเบื้องลายหินธรรมชาติทั้งพื้นและผนังดูสวยงาม ซึ่งกระเบื้องพื้นเลือกใช้ชนิดที่มีผิวด้านและไม่ลื่นแม้จะเปียกก็ตาม ฝ้าเพดานก็ติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้ดูสว่างไม่มีมุมมืดอับ ส่วนวัสดุและสุขภัณฑ์ก็ยังคงใช้รุ่นเดิมทุกประการค่ะ คราวนี้เราไปดูห้องครัวกันต่อ ขนาดจะใหญ่ขึ้นมาจากบ้านหลังที่แล้วอยู่พอสมควร ภายในสามารถวางเคาน์เตอร์ครัวได้ทั้ง 2 ฝั่ง และเว้นพื้นที่เอาไว้สำหรับตู้เย็นขนาด 2 ประตู พอวางเคาน์เตอร์ครัวทั้ง 2 ฝั่งแล้วก็จะเห็นว่ายังเหลือพื้นที่สำหรับการยืนปรุงอาหารอีกเยอะค่ะ จากห้องครัวจะมีประตูออกหลังบ้านเชื่อมกับลานซักล้างและห้องแม่บ้าน ที่พื้นลานซักล้างจะลดระดับจากพื้นห้องครัวลงไปประมาณ 10 ซม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิก พื้นที่ลานซักล้างมีขนาดใหญ่พอสมควร สามารถวางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าได้สบายๆ จากลานซักล้างจะเชื่อมต่อกับห้องแม่บ้านพอดี ซึ่งภายในห้องแม่บ้านก็จะมีห้องน้ำแยกให้ในตัวเรียบร้อยแล้ว กลับเข้ามาภายในบ้านเดี๋ยวเราจะเดินขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อเลย (ข้างๆ บันไดก็มีห้องเก็บของให้เหมือนเดิม) สำหรับโครงสร้างบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กแข็งแรง ปิดผิวด้วยไม้สีเข้ม โถงบันไดกว้างประมาณ 1.1 เมตรค่ะ มุมมองขึ้นไปยังบริเวณโถงบันได ราวจับบันไดเป็นระแนงเหล็กทาสีน้ำมัน ส่วนมือจับก็ใช้วัสดุไม้สีเข้ากับพื้นบันได มองย้อนกลับลงไปที่บริเวณชานพักบันได ขั้นบันไดเป็นทรงสี่เหลี่ยมเต็มทุกขั้น เดินได้อย่างปลอดภัย มองย้อนกลับไปที่ส่วนโถงบันไดค่ะ จะเห็นว่าโถงบันไดมีช่องแสงขนาดใหญ่ให้ เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้ และหน้าต่างบาน Fix ที่สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านได้เยอะมาก ขึ้นมาบนชั้นสองแล้วจะเจอกับพื้นที่โถงแบบนี้ ทำหน้าที่เชื่อมกับห้องนอนทั้ง 3 ห้อง บรรยากาศบนชั้นสองในบ้านตัวอย่างก็ยังคงตกแต่งออกมาได้สวยเข้ากับตัวบ้านโดยรวมค่ะ พื้นชั้น 2 ปูด้วยพื้นไม้สักทั้งหมด ผนังติดวอลล์เปเปอร์ ฝ้าก็สูงถึง 2.8 เมตรเท่าชั้นล่างเลย นอกจากนี้พื้นที่โถงยังสามารถจัดเป็น Family Area ให้นั่งพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวได้อีก 1 จุด เราจะเข้าไปชมภายในห้องนอนกันต่อเริ่มจากห้องนอนใหญ่ฝั่งซ้ายมือของโถงกันก่อน ภายในห้องนอนใหญ่จะแบ่งออกเป็น 2 โซนคือโซนพักผ่อนและโซน Walk – in Closet เข้าไปดูในส่วนของโซนพักผ่อนกันก่อน ส่วนนี้จะมีฝ้าเพดานที่สูงเป็นพิเศษ สูงถึง 4.6 เมตร ตามแนวลาดของหลังคาเลยค่ะ อีกทั้งยังมีช่องแสงขนาดใหญ่ซึ่งทำให้ห้องนี้ดูโอ่อ่ามากๆ ทางบ้านตัวอย่างวางเตียงขนาด 6 ฟุตมาให้ดูพื้นที่การใช้สอยค่ะ แต่ขนาดความกว้างของห้องสามารถวางเตียงนอนแบบ Over size ขนาด 7 ฟุตได้เลยนะ โดยทั้ง 2 ฝั่งก็ยังสามารถวางโต๊ะข้างได้อีกด้วย และสามารถวางอาร์มแชร์ได้อย่างสบายๆ พื้นที่ปลายเตียงก็ยังเหลือพื้นที่อีกเยอะ สามารถทำชั้นเก็บของ Built – in ได้อย่างลงตัว จากส่วนนี้จะมีประตูบานเลื่อนคู่ที่สามารถเปิดออกสู่ระเบียงได้ พื้นระเบียงจะลดระดับลงจากพื้นห้องนอนเล็กน้อยค่ะ ปูพื้นด้วยกระเบื้องผิวด้านกันลื่น และใช้ราวกันตกกระจกดูโมเดิร์น ขนาดของระเบียงห้องนอนค่อนข้างกว้างขวางทีเดียวนะ สามารถวางชุดโต๊ะน้ำชาหรือวาง Day Bed ได้เลย ภาพจากระเบียงมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง จากโซนพักผ่อน เราจะเข้าไปดูโซน Walk – in Closet กันต่อค่ะ เราสามารถทำประตูกันพื้นที่ห้องแบบนี้เลยก็ได้ เข้ามาภายในโซน Walk – in Closet เป็นห้องตู้เสื้อผ้าที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว ซึ่งขนาดพื้นที่ของ Walk – in Closet ห้องนอนใหญ่ของบ้านนี้ มีขนาดเป็น 2 เท่าของหลังที่แล้วเลยนะคะ จึงสามารถแบ่งโซนการใช้งานได้ 2 คนสบายๆ ไม่ต้องตีกัน คราวนี้เราเข้ามาดูภายในห้องน้ำกันต่อ ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ก็จะมีความพิเศษกว่าห้องน้ำห้องอื่นๆ ค่ะ ทั้งพื้นและผนังใช้กระเบื้องลายหินธรรมชาติสีเทาดูสวยงาม ส่วนสุขภัณฑ์ก็จะใช้เหมือนเดิมทุกประการค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างมือแบบฝังครึ่งเคาน์เตอร์ โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวพร้อมฝารองนั่งอัจฉริยะ อ่างอาบน้ำ และโซน Shower พร้อมชุด Rain Shower คราวนี้เราไปดูห้องนอนอีก 2 ห้องกันต่อ เริ่มจากห้องนอนรองฝั่งขวา ตามด้วยห้องนอนเล็กฝั่งซ้ายปิดท้ายเหมือนเดิมค่ะ พื้นที่ภายในห้องนอนรองมีขนาดไม่แพ้ห้องนอนใหญ่เลยนะคะ แม้จะวางเฟอร์นิเจอร์จนครบแล้วก็ยังดูกว้างขวางไม่อึดอัด ทางบ้านตัวอย่างวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูเป็นไอเดียซึ่งจริงๆ แล้วสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เลยนะ พื้นที่ปลายเตียงกั้นส่วนเป็นชั้นวางของและกระจกใส เป็นไอเดียการแบ่งพื้นที่ห้องที่ดีเลย ผนังด้านข้างห้องยังสามารถวางโต๊ะทำงานและตู้เก็บของขนาดใหญ่ได้ และพื้นที่ท้ายห้องก็สามารถจัดให้เป็นโซนแต่งตัวเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวค่ะ เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อเลย ส่วนห้องน้ำภายในห้องนอนรองอาจจะมีสเป็กไม่หรูหราเท่าห้องนอนใหญ่ ตกแต่งออกมาเรียบๆ สไตล์โมเดิร์น ใช้วัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนเดิมเลยค่ะ แต่จะติดโถสุขภัณฑ์และฝักบัวอาบน้ำเอาไว้อีกฝั่งนึงของผนัง ตามด้วยห้องนอนเล็กเป็นห้องสุดท้ายค่ะ แม้ว่าจะเป็นห้องนอนเล็กของบ้านแต่ก็มีพื้นที่ขนาดพอเหมาะสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี พื้นที่ของห้องนอนจะกำลังพอดีกับเตียงนอนขนาด 5 ฟุตค่ะ แต่ถ้าใครอยากจะวางเตียงขนาด 6 ฟุตก็มีที่พอนะ แต่ต้องเอาโต๊ะข้างออกไปก่อน พื้นที่ข้างห้องก็ยังสามารถวางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ได้ ส่วนพื้นที่ปลายเตียงก็ยังเหลือวางชั้นวางทีวีได้อีกตัวพอดี แม้จะเป็นห้องนอนขนาดเล็ก แต่ก็ยังมีโซน Walk – in Closet และห้องน้ำในตัวให้อย่างครบถ้วนนะ ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะเหมือนกับห้องนอนรองทุกประการเลยค่ะ แตกต่างกันเพียง Lay Out ของห้องน้ำเท่านั้น นอกจากนี้สวิตช์และปลั๊กไฟของบ้านทั้งหมดจะใช้ของ Siemens และภายในบ้านจะติดสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic & Shock Sensor พร้อม Control Panel แผงควบคุมแสดงจุดผิดปกติภายในบ้านทุกหลังให้ด้วยค่ะ :::: ราคา (กัมภาพันธ์ 2562) :::: แบบบ้าน BRUARFOSS ขนาด 236 ตร.ม. ฟังก์ชั่นขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ
แบบบ้าน THINGVELLIR ขนาด 353 ตร.ม. ฟังก์ชั่นขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม :::: สรุป :::: ทำเลที่ตั้งโครงการ ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 11/5 ถนนกาญจนาภิเษก ตรงสำนักงานเขตคันนายาว ในทำเลศักยภาพใกล้ถนนรามอินทรา, ถนนเสรีไทย และถนนรามคำแหง มีจุดเด่นอยู่ที่ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้มสถานีน้อมเกล้า รถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานีนพรัตนธานี ทางด่วนมอเตอร์เวย์ และทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ถือเป็นทำเลที่คมนาคมสะดวก สามารถเชื่อมต่อถนนสายสำคัญได้ง่าย และมีสาธารณูปการครบครัน โดยเฉพาะถนนรามอินทรา, เลียบทางด่วนรามอินทรา และถนนรามคำแหง ที่เป็นถนนใหญ่เส้นหลัก มีความครึกครื้นของแหล่งการค้ากระจายอยู่ตลอดเส้นทาง เป็นที่ตั้งของ อาคารพาณิชย์, อาคารสำนักงาน, สถานที่ราชการ, ธนาคาร, ตลาด, ไลฟ์สไตล์มอลล์, ห้างสรรพสินค้า, สถานศึกษาที่สำคัญ และโรงพยาบาลอีกหลายแห่ง การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เป็นทำเลที่เดินทางได้สะดวกนะคะเพราะอยู่ติดกับถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ซึ่งสามารถวิ่งลงต่อไปทางบางนาได้สะดวก สามารถเชื่อมสู่ ถนนรามอินทรา, ถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร – นวมินทร์), ถนนเสรีไทย, ถ.รามคำแหง ลงไปถึงบางนาและสุวรรณภูมิได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะวิ่งเข้าหรือออกเมืองก็ทำได้ง่าย เพราะจุดที่ตัวโครงการตั้งอยู่สามารถขึ้นวงแหวนได้ง่ายและอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ และทางด่วนมอเตอร์เวย์ค่ะ การเดินทางโดยรถสาธารณะ ไม่มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการจึงต้องอาศัยเรียกแท็กซี่ ประกอบกับการใช้ Application ทั้ง Grab Taxi และ Line Taxi ก็จะช่วยให้สะดวกมากยิ่งขึ้น ส่วนรถไฟฟ้าที่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุดก็คือรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี สถานีน้อมเกล้า อยู่ห่างจากตัวโครงการออกไป 3.5 กม. เป็นโครงการในอนาคตบนเส้นรามคำแหง ซึ่งตำแหน่งของสถานีจะอยู่ตรงหน้า รร.เตรียมฯ น้อมเกล้า และรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี สถานีนพรัตนธานี อยู่ห่างจากตัวโครงการออกไปประมาณ 3.9 กม. เป็นโครงการอนาคตบนเส้นรามอินทรา ซึ่งตำแหน่งของสถานีจะอยู่ตรงแยก รพ.นพรัตน์ พอดีค่ะ การออกแบบโครงการ และวัสดุ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรูสูง 2 ชั้น มีเนื้อที่โครงการ 10 – 0 – 6.0 ไร่ เอกสิทธิ์เพียงจำนวน 31 ยูนิต มีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบบนที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 164 – 353 ตร.ม. ขนาดฟังก์ชั่น 3 – 4 ห้องนอน 3 – 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 – 3 คัน พร้อมห้องแม่บ้านแยกส่วน กับสถาปัตยกรรม Luxury Nordic ท่ามกลางกลิ่นอายบรรยากาศแห่งเมืองหนาวแถบสแกนดิเนเวีย วัสดุของบ้านรวมถึงสุขภัณฑ์ที่ได้มาก็เหมาะสมกับราคา มีความสวยงาม, ดูหรูหรา และคุณภาพดี ได้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double Security พร้อมหน้าจอแสดงผลติดตั้งไว้ให้บริเวณโถงบันได โดยบ้านในโครงการก่ออิฐมวลเบา, พื้นบ้านใช้กระเบื้องแกรนิตโต้, กระเบื้องเซรามิค, พื้นไม้ Engineer Wood, พื้นไม้สัก (เฉพาะแบบบ้านหลังใหญ่) ได้ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง และได้โถสุขภัณฑ์แบบ Washlet ที่ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องนอนใหญ่ โดยตัวบ้านนั้นถูกออกแบบมาภายใต้แนวคิด Universal Design รองรับผู้อยู่อาศัยทุกรุ่นทุกวัย มีทางลาดหน้าบ้านสำหรับรถเข็นขึ้นเฉลียงทางเข้าบ้าน พื้นห้องนอนชั้นล่างใช้ Absorption Floor ลดแรงกระแทกและรองรับการใช้งานด้วยรถเข็นสำหรับผู้สูงอายุ และห้องน้ำชั้นล่างพื้นระดับเดียวกันทั้งหมด เหมาะสมมากๆ สำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงวัย สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ทางโครงการเองก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างครบครันทั้ง คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, Co – working Space และสวนสวยส่วนกลางรองรับ 3 Generations พร้อม Kids Zone โดยเน้นการออกแบบตาม Universal Design คนทุกเพศทุกวัยสามารถใช้งานได้ โดยบรรยากาศถือว่าทำออกมาได้สวยงามดี ขนาดส่วนกลางของโครงการเมื่อเทียบกับปริมาณยูนิตแล้วถือว่าดีเลยนะ ไม่แออัดอย่างแน่นอน ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็ถือว่าสมบูรณ์ดีค่ะ มีตลอด 24 ชม. เป็นระบบ Double Security System ผ่าน Gate โดยใช้ระบบ Access Control แบบ Easy Pass ในการเข้า – ออกตัวโครงการ และติดตั้งสัญญาณกันขโมยให้ภายในบ้านอีกชั้น คือ ระบบ Magnetic และ Shock Sensor ซึ่งจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยัง Security Center และ Smart Phone ของเจ้าของบ้านตลอด 24 ชม. อีกทั้งยังล้อมรั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรพร้อมเหล็กแหลม ติดตั้ง CCTV ทุกซอย และทุกจุดสำคัญทั่วโครงการ ถือว่าดีมากค่ะ :::: คะแนน ::::
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :::: CALL CENTER : 1749 WEBSITE : https://www.scasset.com/ หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ |
บางกอกบูเลอวาร์ด รามอินทรา
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
ลิขสิทธิ์ © 2024 berikutyang Inc.
