แผนการจัดการเรียนรู้ วชิ าวงจรไฟฟ้ากระแสตรง จดั ทาโดย ครูพเิ ศษสอน วทิ ยาลยั เทคนคิ สว่างแดนดนิ แบบคาขออนุมตั ใิ ช้แผนการจัดการเรียนรู้ มุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพและบรูณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ลงช่ือ..................................................... ความเห็นหวั หนา้ แผนกวิชาไฟฟ้ากาลงั ความเห็นหวั หนา้ งานพฒั นาหลกั สูตรฯ ลงช่ือ............................................... ลงชื่อ............................................... ความเห็นรองผอู้ านวยการฝ่ายวชิ าการ ลงช่ือ……………………………………... อนุมตั ิ ไมอ่ นุมตั ิ ลงช่ือ............................................ ผอู้ านวยการวทิ ยาลยั เทคนิคสวา่ งแดนดิน คานา เอกสารประกอบการสอนวิชา “ วงจรไฟฟ้ากระแสตรง” รหสั วิชา 20104-2002 เรียบเรียง สาหรับเอกสารประกอบการสอนรายวิชาน้ี ผเู้ รียบเรียงไดท้ ุ่มเทกาลงั กาย กาลงั ใจและ ทา้ ยท่ีสุดน้ี ผูเ้ รียบเรียงขอขอบคุณผูท้ ี่สร้างแหล่งความรู้ และผูท้ ี่มีส่วนเกี่ยวขอ้ งต่าง ๆ แผนการสอน/แผนการเรียนรู้รายวชิ า ชื่อรายวิชา วงจรไฟฟ้ากระแสตรง รหสั วิชา 20104-2002 (ท-ป-น) 1-3(3) ระดบั ช้นั ปวช. สาขาวชิ า/กลุ่มวชิ า/แผนกวิชา ไฟฟ้า หน่วยกิต 3 จานวนคาบรวม 72 คาบ ทฤษฏี 1 คาบ/สปั ดาห์ ปฏิบตั ิ 3 คาบ/สปั ดาห์ ภาคเรียนท่ี..........................1................................ปี การศึกษา........................2556............................. จุดประสงค์รายวชิ า คาอธิบายรายวชิ า พลงั งานไฟฟ้า การอา่ นค่าตวั ตา้ นทาน การต่อวงจรตวั ตา้ นทานและเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนุกรม แบบขนาน และ สมรรถนะของรายวิชา 1. คานวณวงจรไฟฟ้า รายการหน่วย ช่ือหน่วย และสมรรถนะประจาหน่วย ช่ือเร่ือง สมรรถนะและจดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (บทท่ี 1) พ้นื ฐานการคานวณวงจรไฟฟ้า สมรรถนะ : จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ด้านทกั ษะ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง ช่ือเร่ือง สมรรถนะและจุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (บทที่ 2) การตอ่ ความตา้
นทานและการต่อ สมรรถนะ: จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม: ด้านทักษะ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปฏิบตั ิงานเสร็จทนั
ตามกาหนดเวลา เกี่ยวกบั เร่ือง การทางบทดลอง ช่ือเร่ือง สมรรถนะและจดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. คานวณคา่ กระแส แรงดนั และกาลงั ฟ้าวงจร จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม: ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี
ง ชื่อเร่ือง สมรรถนะและจดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม: ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปฏิบตั ิงานเสร็จทนั ตามกาหนดเวลา คาปรึกษาเก่ียวกบั เรื่อง การทางบทดลอง ชื่อเรื่อง สมรรถนะและจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. คานวณค่ากระแส แรงดนั และกาลงั ฟ้าของ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ด้านทกั ษะ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง ช่ือเรื่อง สมรรถนะและจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. คานวณค่ากระแสและแรงดนั ของวงจรแบง่ จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ด้านทักษะ ด้านคุณธรรม
จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปฏิบตั ิงานเสร็จทนั ตามกาหนดเวลา คาปรึกษาเกี่ยวกบั เรื่อง การทางบทดลอง ชื่อเร่ือง สมรรถนะและจดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. คานวณค่ากระแสไฟฟ้าโดยใชส้ ูตรสาเร็จ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ด้านทกั ษะ ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง ชื่อเรื่อง สมรรถนะและจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. คานวณค่าความตา้ นทานและแรงดนั ไฟฟ้าของ จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ด้านทักษะ ด้านคุณธรรม
จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง ช่ือเรื่อง สมรรถนะและจุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (บทท่ี 9) การแปลงวงจรความตา้ นทานสตาร์- สมรรถนะ : จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ด้านความรู้ ด้านทักษะ ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ
พอเพยี ง ปฏิบตั ิงานเสร็จทนั ตามกาหนดเวลา คาปรึกษาเก่ียวกบั เรื่อง การทางบทดลอง ชื่อเร่ือง สมรรถนะและจดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. วิเคราะหว์ งจรดว้ ยกฎของเคอร์ชอฟฟ์ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ด้านทักษะ ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง ช่ือเรื่อง สมรรถนะและจดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. วเิ คราะหว์ งจรดว้ ยทฤษฎีเมชเคอร์เรนต์ จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ด้านทักษะ ด้านคุณธรรม
จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปฏิบตั ิงานเสร็จทนั ตามกาหนดเวลา คาปรึกษาเก่ียวกบั เรื่อง การทางบทดลอง ชื่อเร่ือง สมรรถนะและจุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. วิเคราะหว์ งจรดว้ ยทฤษฎีเทวินิน จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ด้านทกั ษะ ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง ชื่อเร่ือง สมรรถนะและจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. วเิ คราะห์วงจรดว้ ยทฤษฎีนอร์ตนั จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ด้านทักษะ ด้านคุณธรรม
จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปฏิบตั ิงานเสร็จทนั ตามกาหนดเวลา คาปรึกษาเกี่ยวกบั เร่ือง การทางบทดลอง ชื่อเร่ือง สมรรถนะและจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. วเิ คราะหว์ งจรดว้ ยทฤษฎีแรงดนั โนด จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ด้านทักษะ ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง ช่ือเรื่อง สมรรถนะและจดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. วิเคราะหว์ งจรดว้ ยทฤษฎีการวางซอ้ น จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ด้านทกั ษะ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปฏิบตั ิงานเสร็จทนั ตามกาหนดเวลา คาปรึกษาเก่ียวกบั เร่ือง การทางบทดลอง ช่ือเร่ือง สมรรถนะและจดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
ด้านความรู้ ด้านทกั ษะ ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง รายชื่อหน่วยการสอน/การเรียนรู้ หน่วยที่ ชื่อหน่วย ทฤษฎี จานวนคาบ กรอบมาตรฐานสมรรถนะรายวิชา หน่วยท่ี เข้าใจ ิว ีธในการคานวณวงจรไฟ ้ฟา ้ขัน ้พืนฐาน แปลงวงจรความต้านทานสตา ์ร-เดลต้า 1 พ้นื ฐานการคานวรวงจรไฟฟ้า กรอบมาตรฐานสมรรถนะรายวชิ า หน่วยที่ เข้าใจ ิว ีธในการคานวณวงจรไฟ ้ฟา ้ขัน ้พืนฐาน 10 กฎของเคอร์ชอฟฟ์ แผนการสอน/แผนการเรียนรู้ภาคทฤษฎี หน่วยท่ี 1 ชื่อหน่วย พ้ืนฐานการคานวณวงจรไฟฟ้า ชื่อเร่ือง องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ จานวนคาบ 8 หัวข้อเรื่อง ด้านทกั ษะ ด้านคุณธรรม จริยธรรม สาระสาคญั กาลงั ไฟฟ้า พลงั งานไฟฟ้า รวมถึงแหลง่ กาเนิดไฟฟ้ากระแสตรง เพราะตอ้ งใชใ้ นการทดลองดว้ ย สมรรถนะอาชีพประจาหน่วย คาศัพท์สาคัญ จุดประสงค์การสอน/การเรียนรู้ 1. เพือ่ ใหม้
ีความรู้เกี่ยวกบั พ้ืนฐานการคานวณวงจรไฟฟ้า (ด้านความรู้) ภายในเวลาท่ีกาหนด มีเหตแุ ละผลตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ด้านคุณธรรม จริยธรรม) 1. อธิบายพ้นื ฐานการคานวณวงจรไฟฟ้า ได้ (ด้านความรู้) ตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจดั เตรียมสถานที่ สื่อ วสั ดุ อปุ กรณ์ไวอ้ ยา่ งพร้อมเพรียง เนื้อหาสาระการสอน/การเรียนรู้ • ด้านความรู้(ทฤษฎี) 1. อธิบายพ้นื ฐานการคานวณวงจรไฟฟ้าได้ (จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ 1) เนื่องจากมีหลกั เกณฑต์ ายตวั ไม่ซบั ซอ้ น ดงั น้นั ผูเ้ รียนจะตอ้ งทาความเขา้ ใจส่วนท่ีเป็นทฤษฎีตวั แปรตา่ ง ๆ ท่ี กฎของโอห์ม ประเทศเยอรมนี เสียชีวิตเมื่อวนั ท่ี 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1854 ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนีผลงานของจอร์จ ไซ ในปี ค.ศ. 1822
โจเซฟ ฟอร์เรอร์ (Joseph Fourier) นกั วทิ ยาศาสตร์ชาวฝร่ังเศส ไดเ้ ผยแพร่ผลงานออกมา ในปี ต่อมาโอห์มไดท้ าการทดลองเก่ียวกบั การนาไฟฟ้าต่ออีก และเขาก็พบคุณสมบตั ิเกี่ยวกบั การไหล 1. วสั ดุที่ใชเ้ ป็นตวั นาไฟฟ้าไดด้ ี โดยสามารถคานวณความต่างศกั ยร์ ะหวา่ งจุดท้งั 2 จากสมการดงั ต่อไปน้ี เมื่อ I หมายถึง ปริมาณกระแสไฟฟ้าท่ีไหลในสายไฟตวั นา E หมายถึง แรงดนั ทางไฟฟ้า R หมายถึง ความตา้ นทานของสายไฟตวั นา จากผลงานชิ้นดงั กล่าว แทนท่ีโอหม์ จะไดร้ ับการยกย่องแต่โอหม์ กลบั ไดร้ ับการต่อตา้ นอยา่ งมากจากชาว เยอรมนั เนื่องจากความไม่รู้ และไม่เขา้ ใจนน่ั เอง ทาใหใ้ นระหว่างน้ีโอห์มไดร้ ับความลาบาก แต่ชาวต่างประเทศ กลบั เห็นวา่ ผลงานชิ้นน้ีของโอหม์ เป็นงานที่มีคณุ ประโยชน์มากและในปี ค.ศ. 1841 โอหม์ ไดร้ ับมอบเหรียญคอพ เลย์ (Copley Medal) จากราชสมาคมแห่งกรุงลอนดอน (Royal Society of London) และในปี ต่อมาโอห์มได้รับ เชิญให้ร่วมสมาคมน้ีดว้ ย เม่ือรัฐบาลเยอรมนี เห็นดงั น้นั จึงเริ่มหันมาให้ความสนในผลงานของโอห์ม และในปี ค.ศ. 1849 เม่ือโอห์มเดินทางกลบั จากประเทศองั กฤษ โอห์มไดร้ ับเชิญใหเ้ ป็นศาสตราจารย์ ประจามหาวิทยาลยั มิวนิค (Munich University) ไม่เฉพาะเร่ืองไฟฟ้าเท่าน้นั ท่ีโอห์มทาการคน้ ควา้ โอห์มยงั คน้ ควา้ เก่ียวกบั เรื่องแสง ดว้ ย แต่ไม่เป็ นท่ีสนใจมากเท่ากบั เร่ืองไฟฟ้า โอห์มเสียชีวิตในวนั ท่ี 27 กรกฎาคม ค.ศ.1854 ท่ีมิวนิค ประเทศ เยอรมนี ถึงแมว้ ่าโอห์มจะเสียชีวิตไปแลว้ แต่ช่ือของโอห์มยงั ถูกนามาใชเ้ ป็นหน่วยวดั ความตา้ นทานไฟฟ้า ในปี ค.ศ. 1881 สมาคมไฟฟ้านานาชาติ (International Congress of Electrical Engineers) ไดต้ กลงร่วมกนั ที่กรุงปารีส ว่าควรใชช้ ่ือของโอห์ม เป็นหน่วยวดั ความตา้ นทานไฟฟ้า โดยความตา้ นทาน 1 โอห์ม หมายถึง กระแสไฟฟ้า 1 แอมแปร์ ไหลผา่ นบนตวั นาไฟฟ้าภายใตค้ วามตา่ งศกั ยไ์ ฟฟ้า 1 โวลต์ ด้านทักษะ(ปฏบิ ตั ิ) (จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 1-3) 1. แบบทดสอบหน่วยการเรียนท่ี 1 • ด้านคณุ ธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง (จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรมข้อที่ 4-5) 1. การเตรียมความพร้อมดา้ นการเตรียม วสั ดุ อุปกรณ์นกั ศึกษาจะตอ้ งกระจายงานไดท้ วั่ ถึง
และตรงตาม 2. ความมีเหตมุ ีผลในการปฏิบตั ิงาน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นกั ศึกษาจะตอ้ งมีการใช้ กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ข้ันตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ข้นั ตอนการเรียนรู้หรือกจิ กรรมของนักเรียน 1. ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน (15 นาที ) 1. ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน (15 นาที ) จดั ใหน้ กั เรียนศึกษาคาศพั ทใ์ นบทเรียน นกั เรียนศึกษาคาศพั ทใ์ นบทเรียน 1. ผูส้ อนจัดเตรียมเอกสาร พร้อมกับแนะนา 1. ผเู้ รียนเตรียมอุปกรณ์และ ฟังครูผสู้ อนแนะนา รายวิชา วิธีการให้คะแนนและวิธีการเรียนเรื่ อง รายวิชา วิธีการให้คะแนนและวิธีการเรี ยนเ ร่ื อง พ้ืนฐานการคานวณวงจรไฟฟ้า พ้นื ฐานการคานวณวงจรไฟฟ้า 2. ผูส้ อนแจ้งจุดประสงค์การเรียนของหน่วย 2. ผูเ้ รียนทาความเขา้ ใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การ เรียนที่ 1 และขอให้ผูเ้ รียนร่วมกันทากิจกรรมการ เรียนของหน่วยเรียนท่ี 1 และการให้ความร่วมมือใน เรียนการสอน การทากิจกรรม 3. ผูส้ อนให้ผูเ้ รียนแสดงความรู้เก่ียวกับ วสั ดุ 3. ผเู้ รียนแสดงความรู้ความรู้เก่ียวกบั พ้นื ฐานการ พ้นื ฐานการคานวณวงจรไฟฟ้า คานวณวงจรไฟฟ้า 2. ข้ันให้ความรู้ (75 นาที) 2. ข้ันให้ความรู้ (75 นาที ) คอมพิวเตอร์ช่วยสอน หน่วยท่ี 1 พ้ืนฐานการ สอน หน่วยที่ 1
พ้ืนฐานการคานวณวงจรไฟฟ้า และ 3. อาจารยผ์ สู้ อนคอยใหค้ าแนะนาแก่ผเู้ รียน กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ข้นั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ข้ันตอนการเรียนรู้หรือกจิ กรรมของนกั เรียน 3. ข้ันประยกุ ต์ใช้ ( 105 นาที ) 3. ข้ันประยุกต์ใช้ ( 105 นาที ) 1. ผูส้ อนให้ผูเ้ รียนทาแบบทดสอบหน่วยการ 1. ผเู้ รียนทาแบบทดสอบหน่วยการเรียนรู้ หน่วย เรียนรู้ หน่วยท่ี 1 หนา้ ที่ 11 เร่ือง พ้ืนฐานการคานวณ ท่ี 1 หนา้ ท่ี 11 เรื่อง พ้นื ฐานการคานวณวงจรไฟฟ้า วงจรไฟฟ้า 2. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนสืบคน้ ขอ้ มูลจากอินเทอร์เน็ต 2. ผเู้ รียนสืบคน้ ขอ้ มูลจากอินเทอร์เนต็ 4. ข้ันสรุปและประเมินผล ( 30 นาที ) 4. ข้ันสรุปและประเมินผล ( 30 นาที ) 1. ผสู้ อนและผเู้ รียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาท่ีไดเ้ รียน 1. ผูส้ อนและผเู้ รียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาที่ไดเ้ รียน ใหม้ ีความเขา้ ใจในทิศทางเดียวกนั เพอ่ื ใหม้ ีความเขา้ ใจในทิศทางเดียวกนั 2. ผู้สอนให้ผู้เรี ยนทาแบบทดสอบหน่วยการ 2. ผเู้ รียนทาแบบทดสอบหน่วยการเรียนรู้ หน่วย เรียนรู้ หน่วยท่ี 1 หนา้ 11 -13 ท่ี 1 หนา้ 11-13 3. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนทาใบงาน หน่วยที่ 1 หนา้ 14 3. ผเู้ รียนทาใบงานเรียนรู้ ท่ี 1 หนา้ 14 - 23 - 23 4. ผู้เรี ยนศึกษาเพ่ิมเติมนอกห้องเรี ยน ด้วย บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่จดั ทาข้ึน (บรรลจุ ุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรมข้อท่ี 1-2) (บรรลจุ ดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อท่ี 1-2) (รวม 480 นาที หรือ 8 คาบเรียน) งานทม่ี อบหมายหรือกจิ กรรมการวดั ผลและประเมนิ ผล ก่อนเรียน 1. จดั เตรียมเอกสาร
ส่ือการเรียนการสอนหน่วยท่ี 1 หน่วยท่ี 1 ขณะเรียน 1. ปฏิบตั ิตามกิจกรรมหน่วยที่ 1 หลงั เรียน 1. ทาแบบประเมินการเรียนรู้ ผลงาน/ชิ้นงาน/ความสาเร็จของผู้เรียน กิจกรรมท่ี 1 เร่ือง พ้ืนฐานการคานวณวงจรไฟฟ้า สมรรถนะท่พี งึ ประสงค์ ผเู้
รียนสร้างความเขา้ ใจเก่ียวกบั พ้ืนฐานการคานวณวงจรไฟฟ้า สมรรถนะการสร้างค่านิยม ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม สมรรถนะการปฏิบตั ิงานอาชีพ 1.คานวณวงจรไฟฟ้า สมรรถนะการขยายผล - ส่ือการเรียนการสอน/การเรียนรู้ ส่ือส่ิงพมิ พ์ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้
ท่ี 1-2) ใหค้ วามรู้ เพื่อใหบ้ รรลจุ ุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ที่ 1-2) สื่อโสตทัศน์ (ถ้ามี) ส่ือของจริง แหล่งการเรียนรู้ ในสถานศึกษา นอกสถานศึกษา การบูรณาการ/ความสัมพนั ธ์กบั วชิ าอื่น 1. บรู ณาการกบั วชิ าชีวิตและวฒั นธรรมไทย ดา้ นการพูด การอ่าน การเขียน และการฝึ กปฏิบตั ิตนทาง 2. บูรณาการกบั วิชาการบริหารการจดั ซ้ือ ดา้ นการซ้ือ การแสวงหาผลิตภณั ฑ์ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ก่อนเรียน ขณะเรียน หลงั เรียน คาถาม 1. นกั ฟิ สิกส์ชาวเยอรมนั ที่คิดคน้ กฎของโอหม์ คือใคร ผลงาน/ชิ้นงาน/ผลสาเร็จของผู้เรียน แบบทดสอบหน่วยการเรียนรู้ หน่วยท่ี 1 เร่ือง พ้นื ฐานการคานวณวงจรไฟฟ้า สมรรถนะทพี่ งึ ประสงค์ ผเู้ รียนสร้างความเขา้ ใจเก่ียวกบั พ้ืนฐานการคานวณวงจรไฟฟ้า รายละเอียดการประเมนิ ผลการเรียนรู้ • จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 1 อธิบายพ้นื ฐานการคานวณวงจรไฟฟ้า ได้ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : อธิบายพ้นื ฐานการคานวณวงจรไฟฟ้า จะได้ 1 คะแนน • จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 2 บอกความสัมพนั ธ์ตามกฎของโอห์ม ได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เคร่ืองมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : บอกความสัมพนั ธต์ ามกฎของโอหม์ จะ ได้ 1 คะแนน • จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 3 การเตรียมความพร้อมดา้ นการเตรียม วสั ดุ อุปกรณ์นกั
ศึกษาจะตอ้ ง อปุ กรณ์ไวอ้ ยา่ งพร้อมเพรียง 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : การเตรียมความพร้อมดา้ นการเตรียม วสั ดุ อุปกรณ์นกั ศึกษาจะตอ้ งกระจายงานไดท้ วั่ ถึง และตรงตาม ความสามารถของสมาชิกทกุ คน มีการจดั เตรียมสถานท่ี ส่ือ วสั ดุ อุปกรณ์ ไวอ้ ยา่ งพร้อมเพรียง จะได้ 4 คะแนน • จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 4
ความมีเหตุมีผลในการปฏิบตั ิงาน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ น่าสนใจนาวสั ดุในทอ้ งถ่ินมาประยกุ ตใ์ ช้ อยา่ งคมุ้ คา่ และประหยดั 1. วธิ ีการประเมิน : ตรวจผลงาน 2. เคร่ืองมือ : แบบประเมินกระบวนการทางานกลมุ่ 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ความมีเหตุมีผลในการปฏิบตั ิงาน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นกั ศึกษาจะตอ้ งมีการใช้ เทคนิคท่ีแปลกใหม่ใชส้ ่ือและเทคโนโลยี ประกอบการนาเสนอที่น่าสนใจนา วสั ดุในทอ้ งถ่ินมาประยกุ ตใ์ ชอ้ ยา่ ง คุม้ คา่ และประหยดั จะได้ 2 คะแนน แบบทดสอบหน่วยการเรียนรู้ หน่วยท่ี 1 หน้าท่ี 11 คาส่ัง ตอนท่ี 1 จงเลือกคาตอบที่ถกู ตอ้ งท่ีสุดเพยี งขอ้ เดียว ก. ข. ค. ง. 2. กระแสไฟฟ้า เขยี นแทนดว้ ยสญั ลกั ษณ์ ตามขอ้ ใด ก. R ข.V ค. I ง.E 3. หน่วยวดั ของกาลงั ไฟฟ้า คือขอ้ ใด ก.โอหม์ ข. แอมแปร์ ค. โวลต์ ง. วตั ต์ 4. หน่วยวดั ของพลงั งานไฟฟ้า คือขอ้ ใด ก.kWh หรือ Unit ข. Watt ค. Var ง. Volt / Ohm 5.หน่วยวดั ของความตา้ นทานคือขอ้ ใด ก.จูล ข. โวลต์ ค.โอหม์ ง. แอมแปร์ จากรูปท่ีกาหนดให้ จงตอบคาถามขอ้ ที่ 6-7 6. ตามกฎของโอหม์ กระแสไฟฟ้าที่ไหลผา่ นวงจร มีค่าเท่าใด ก. 6 A ข. 10 A ค. 0.6 A ง. 1.67 A 7. จากวงจร ถา้ หากเปล่ียนความตา้ นทานใหม้ ีคา่ สูงข้ึนกวา่ เดิม กระแสไฟฟ้าที่ไหลผา่ นในวงจรจะเป้นเช่นใด ก.เพิ่มข้ึน ข. ลดลง ค.คงท่ี ง. เพ่มิ ข้นึ แลว้ ก็ลดลง จากรูปท่ีกาหนดให้ จงตอบคาถามขอ้ ที่ 8- 9 8. จากวงจร แหล่งจ่ายแรงดนั มีคา่ เทา่ ใด ก. 0.1 V ข. 1 V ค. 5 V ง. 500 V 9. จากวงจร ถา้ ลดแรงดนั ของแหล่งจ่ายใหต้ ่าลงกระแสไฟฟ้าจะเปลี่ยนแปลงอยา่ งไร ก.เพ่มิ ข้นึ ข. ลดลง ค.คงท่ี ง. เพ่ิมข้ึนอยา่ งต่อเนื่อง 10. ถา้ หากเปิ ดหลอดไฟฟ้าขนาด 1,000 วตั ต์ เป็นเวลานาน 2 ชว่ั โมง จะสิ้นเปลืองพลงั งานไฟฟ้าเทา่ เ ก. 2 วตั ต์ –ชว่ั โมง ข. 200 วตั ต-์ ชวั่ โมง ค. 200 วตั ต-์ ชว่ั โมง หรือ 0.2 ยนู ิต ง. 2 กิโลวตั ต์ หรือ 2 ยนู ิต แบบประเมินผลการนาเสนอผลงาน รายช่ือสมาชิก 1……………………………………เลขท่ี……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขท่ี……. 4……………………………………เลขท่ี……. ท่ี รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คดิ เหน็ 32 1 1 เน้ือหาสาระครอบคลุมชดั เจน (ความรู้เก่ียวกบั เน้ือหา ความถกู ตอ้ ง ปฏิภาณในการตอบ และการแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ ) 2 รูปแบบการนาเสนอ 3 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 4 บุคลิกลกั ษณะ กิริยา ท่าทางในการพดู น้าเสียง ซ่ึงทาใหผ้ ฟู้ ังมีความ สนใจ รวม ผปู้ ระเมิน………………………………………………… เกณฑ์การให้ คะแนน 3 คะแนน = มีสาระสาคญั ครบถว้ นถกู ตอ้ ง ตรงตามจุดประสงค์ ประกอบการ นาเสนอท่ีน่าสนใจ นาวสั ดุในทอ้ งถ่ินมาประยกุ ตใ์ ชอ้ ยา่ งคมุ้ ค่าและประหยดั ประยกุ ตใ์ ช้ วสั ดุในทอ้ งถ่ิน เฉลยแบบทดสอบหน่วยการเรียนรู้ หน่วยท่ี 1 หน้าที่ 11 คาสั่ง ตอนที่ 1 จงเลือกคาตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุดเพยี งขอ้ เดียว 1. ข แบบประเมินกระบวนการทางานกล่มุ ช่ือกลุ่ม……………………………………………ช้นั ………………………หอ้ ง........................... รายชื่อสมาชิก 2……………………………………เลขที่……. ท่ี รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คดิ เห็น 1 การกาหนดเป้าหมายร่วมกนั 321 รวม ผปู้ ระเมิน………………………………………………… เกณฑ์ การให้ คะแนน 1. การกาหนดเป้าหมายร่วมกนั 2. การมอบหมายหนา้ ที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3. การปฏิบตั ิหนา้ ท่ีที่ไดร้ ับมอบหมาย 4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน บนั ทกึ หลงั การสอน หน่วยท่ี 1 พ้ืนฐานการคานวณวงจรไฟฟ้า ผลการใช้แผนการเรียนรู้ 1. เน้ือหาสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ผลการเรียนของนกั เรียน 1. นกั ศึกษาส่วนใหญ่มีความสนใจใฝ่รู้ เขา้ ใจในบทเรียน อภิปรายตอบคาถามในกล่มุ และร่วมกนั 2. นกั ศึกษากระตือรือร้นและรับผดิ ชอบในการทางานกลุ่มเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จทนั เวลาที่กาหนด ผลการสอนของครู 1. สอนเน้ือหาไดค้ รบตามหลกั สูตร แผนการสอน/แผนการเรียนรู้ภาคทฤษฎี
หน่วยท่ี 2 ช่ือหน่วย การตอ่ ความตา้ นทานและการต่อเซลลไ์ ฟฟ้า ช่ือเร่ือง การต่อความตา้ นทานและการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้า จานวนคาบ 8 หวั ข้อเรื่อง ด้านทกั ษะ ด้านคุณธรรม จริยธรรม สาระสาคญั งาน กล่าวคอื มีท้งั การต่อแบบอนุกรม แบบขนาน และแบบผสม ส่วนการตอ่ ไฟฟ้าจะนิยมตอ่ สองแบบคือ ต่อ สมรรถนะอาชีพประจาหน่วย คาศัพท์สาคญั จุดประสงค์การสอน/การเรียนรู้ 4. เพือ่ ใหม้ ีความรู้เก่ียวกบั การต่อความตา้ นทานและการต่อเซลลไ์ ฟฟ้า (ด้านความรู้) ภายในเวลาที่กาหนด มีเหตแุ ละผลตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (ด้านคณุ
ธรรม จริยธรรม) 5. อธิบายากรต่อความตา้ นทานและการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้า ได้ (ด้านความรู้) ทักษะ) ตามความสามารถของสมาชิกทกุ คน มีการจดั เตรียมสถานท่ี สื่อ วสั ดุ
อุปกรณ์ไวอ้ ยา่ งพร้อมเพรียง เนื้อหาสาระการสอน/การเรียนรู้ • ด้านความรู้(ทฤษฎี) 3. อธิบายากรตอ่ ความตา้ นทานและการต่อเซลลไ์ ฟฟ้า ได(้ จุดประสงคเ์
ชิงพฤติกรรมขอ้ 1) หากมีค่าความตา้ นทานมากก็จะตา้ นทานการไหลของกระแสไฟฟ้าไดด้ ี ทาใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลไดย้ าก สาหรับ การต่อความต้านทานมี 3 แบบ คือ
การต่อความตา้ นทานแบบอนุกรม การต่อความตา้ นทานแบบขนาน การต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนุกรม เรียกการต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบ “ซีรี่ส์” (Series ) คือการนาเอา ผลการตอ่ เซลลแ์ บบอนุกรม จะทาใหแ้ รงดนั ไฟฟ้ารวมเพิม่ ข้นึ แต่กระแสไฟฟ้าจะไม่เพ่มิ กระแสรวม a .รูปการต่อเซลลไ์ ฟฟ้า b.สัญลกั ษณ์ การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบขนาน ( Parallel cell ) แลว้ นาเอาข้วั ของเซลลท์ ี่ต่อขนานไปใชง้ าน การต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบขนาน ( Parallel cell ) เซลลไ์ ฟฟ้าแต่ละ การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบผสม และความตา้ นทานภายในเซลลเ์ ทา่ กนั ทุกตวั การต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบผสมจะมีการต่ออยู่ 2 วิธี คือ แบบอนุกรม- ( a )การตอ่ เซลลแ์ บบอนุกรม ( b ) การต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบผสม ด้านทักษะ(ปฏบิ ตั ิ) (จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 1-3) 3. แบบทดสอบหน่วยการเรียนท่ี 2 • ด้านคณุ ธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง (จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรมข้อที่ 4-5) 2. การเตรียมความพร้อมดา้ นการเตรียม วสั ดุ อุปกรณ์นกั ศึกษาจะตอ้ งกระจายงานไดท้ ว่ั ถึง และตรงตาม 3. ความมีเหตุมีผลในการปฏิบตั ิงาน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง นกั ศึกษาจะตอ้ งมีการใช้ กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ข้นั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ข้ันตอนการเรียนรู้หรือกจิ กรรมของนกั เรียน 1. ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน (15 นาที ) 1. ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน (15 นาที ) จดั ใหน้ กั เรียนศึกษาคาศพั ทใ์ นบทเรียน นกั เรียนศึกษาคาศพั ทใ์ นบทเรียน 4. ผูส้ อนจัดเตรียมเอกสาร พร้อมกับแนะนา 4. ผเู้ รียนเตรียมอุปกรณ์และ ฟังครูผสู้ อนแนะนา รายวิชา วิธีการใหค้ ะแนนและวิธีการเรียนเรื่อง การ รายวชิ า วธิ ีการใหค้ ะแนนและวธิ ีการเรียนเร่ือง การต่อ ต่อความตา้ นทานและการต่อเซลลไ์ ฟฟ้า ความตา้ นทานและการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้า 5. ผูส้ อนแจ้งจุดประสงค์การเรียนของหน่วย 5. ผูเ้ รียนทาความเขา้ ใจเก่ียวกับจุดประสงค์การ เรียนที่ 2 และขอให้ผูเ้ รียนร่วมกันทากิจกรรมการ เรียนของหน่วยเรียนที่ 2 และการให้ความร่วมมือใน เรียนการสอน การทากิจกรรม 6. ผสู้ อนให้ผเู้ รียนแสดงความรู้เก่ียวกบั การต่อ 6. ผูเ้ รียนแสดงความรู้ความรู้เก่ียวกับ การต่อ ความตา้ นทานและการต่อเซลลไ์ ฟฟ้า ความตา้ นทานและการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้า 2. ข้นั ให้ความรู้ (75 นาที) 2. ข้นั ให้ความรู้ (75 นาที ) คอมพิวเตอร์ช่วยสอน หน่วยท่ี 2 การต่อความ สอน หน่วยท่ี 2 การต่อความต้านทานและการต่อ 5. ผูส้ อนและผูเ้ รียนร่วมกันอธิบายเกี่ยวกับ 2.ผูส้
อนและผูเ้ รียนร่วมกันอธิบายเก่ียวกบั การต่อ 6. อาจารยผ์ สู้ อนคอยใหค้ าแนะนาแก่ผเู้ รียน 3.อาจารยผ์ สู้ อนคอยใหค้ าแนะนาแก่ผเู้ รียน กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ข้ันตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ข้นั ตอนการเรียนรู้หรือกจิ กรรมของนกั เรียน 3. ข้นั ประยกุ ต์ใช้ ( 105 นาที ) 3. ข้นั ประยกุ ต์ใช้ ( 105 นาที ) 3. ผูส้ อนให้ผูเ้ รียนทาแบบทดสอบหน่วยการ 3. ผเู้ รียนทาแบบทดสอบหน่วยการเรียนรู้ หน่วย เรียนรู้ หน่วยที่ 2 หน้าที่ 40 เร่ือง การต่อความ ที่ 2 หนา้ ที่ 40 เรื่อง การต่อความตา้ นทานและการต่อ ตา้ นทานและการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้า เซลลไ์ ฟฟ้า 4. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนสืบคน้ ขอ้ มลู จากอินเทอร์เน็ต 4. ผเู้ รียนสืบคน้ ขอ้ มลู จากอินเทอร์เนต็ 4. ข้นั สรุปและประเมินผล ( 30 นาที ) 4. ข้ันสรุปและประเมินผล ( 30 นาที ) 4. ผสู้ อนและผเู้ รียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาท่ีไดเ้ รียน 5. ผูส้ อนและผเู้ รียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาท่ีไดเ้ รียน ใหม้ ีความเขา้ ใจในทิศทางเดียวกนั เพือ่ ใหม้ ีความเขา้ ใจในทิศทางเดียวกนั 5. ผู้สอนให้ผู้เรี ยนทาแบบทดสอบหน่วยการ 6. ผเู้ รียนทาแบบทดสอบหน่วยการเรียนรู้ หน่วย เรียนรู้ หน่วยท่ี 2 หนา้ 40-44 ท่ี 2 หนา้ 40-44 6. ผู้สอนให้ผูเ้ รียนทาใบงาน หน่วยที่ 2 หน้า 7. ผเู้ รียนทาใบงานเรียนรู้ ท่ี 2 หนา้ 45-53 45-53 8. ผู้เรี ยนศึกษาเพ่ิมเติมนอกห้องเรี ยน ด้วย บทเรียนคอมพวิ เตอร์ช่วยสอนท่ีจดั ทาข้นึ (บรรลจุ ุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-2) (บรรลจุ ดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรมข้อท่ี 1-2) (รวม 480 นาที หรือ 8 คาบเรียน) งานท่มี อบหมายหรือกจิ กรรมการวดั ผลและประเมนิ ผล ก่อนเรียน 1. จดั เตรียมเอกสาร ส่ือการเรียนการสอนหน่วยท่ี 2 หน่วยท่ี 2 ขณะเรียน 4. ปฏิบตั ิตามกิจกรรมหน่วยที่ 2 หลงั เรียน 3. ทาแบบประเมินการเรียนรู้ ผลงาน/ชิ้นงาน/ความสาเร็จของผู้เรียน กิจกรรมที่ 2 เรื่อง การต่อความตา้ นทานและการต่อเซลลไ์ ฟฟ้า สมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค์ ผเู้ รียนสร้างความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การตอ่ ความตา้ นทานและการต่อเซลลไ์ ฟฟ้า |