รหัสสินค้า : WINDOWS 10 PRO OEM
| ราคา | 2,500.00 บาท |
| จำนวนที่จะซื้อ | |
| ราคารวม | 2,500.00 บาท |
สินค้าไม่เพียงพอ
สินค้าหมด
MICROSOFT Windows 10 Pro OEM แบบสติกเกอร์ เป็น Key แท้ จาก MS และได้รับการดูแลทางเทคนิค Support จากไมโครซอฟ ทั่วโลก สำหรับคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องเท่านั้น ไม่สามารถย้ายเครื่องได้ รับประกัน Activate 100% และ Update ได้ตลอดอายุการใช้งาน
สิทธิ์ที่ได้รับ
- สติ๊กเกอร์ 1 Key จะสามารถใช้งานได้เพียง 1 เครื่องเท่านั้น
- ซื้อพร้อมกับเครื่องใหม่เท่านั้นและจะติดไปกับเครื่องนั้นเท่านั้น โดยที่ไม่สามารถย้ายเครื่องได้ในกรณีที่เครื่องเสีย โดยในกรณีที่เป็นเครื่องที่เป็น Partner กับ Microsoft อย่างถูกต้องจะมีชื่อผู้ผลิตเครื่องระบุในตัว COA ด้วยซึ่งถ้ามีปัญหาใดๆ ก็จะอ้างอิงจาก S/N เครื่องเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นการติดตั้งแบบ OEM ที่ซื้อต่างหากที่ให้กับร้านค้าประกอบเครื่องเองเช่นในห้างไอทีต่างๆ ในไทยนั้นจะผูกติดกับ M/B เป็นหลัก ถ้า M/B ของเครื่องนั้นๆ เสีย OEM License ตัวนั้นก็จะสิ้นสุดสิทธิ์ในการใช้งานไปด้วย
- ได้รับสิทธิในการใช้งานเวอร์ชั่นเก่าได้ (Downgrade Right) แต่ก็ตามที่ระบุไว้นะครับว่าต่ำสุดได้เท่าไหร่
- ไม่สามารถใช้งานข้ามภาษาได้
- อาจจะได้รับ Software Assurance ในกรณีที่กำลังจะมีการออกรุ่นใหม่ออกมาทำให้เราได้รับการอัพเกรดฟรี
สำหรับสเปคเครื่องลงระบบ
- Windows 10 Pro
- สเปคขั้นต่ำ (Minimum Spec Requirements)
- CPU Processor : 1 (GHz) ขึ้นไป
- RAM : 1 (GB) สำหรับ 32-bit หรือ 2GB สำหรับ 64-bit
- Hard disk space : 16GB สำหรับ 32-bit OS และ 20GB สำหรับ 64-bit OS
- Graphics card : รอบรับ DirectX 9 และ 800x600
หาข้อมูลเท่าไหร่ก็หาแบบที่ตอบตรงความต้องการของผมไม่ได้ครับ
บ้างคนก็บอกว่า ลงได้ประมาณ 5 ครั้ง ครั้งแลก Activation Online ได้ ครั้งต่อๆไปต้องโทรไปบอกทาง Microsoft เอา
ซึ่งผมเห็นว่า ถ้าเป็นแบบนี้จริง ตัว FPP ก็ไม่ต่างกับ OEM สิครับ เพราะถ้าจะลงใหม่หรือย้ายเครื่อง(จำไม่ได้) ก็ต้องโทรไปบอกทาง Microsoft ก่อน
ผมเลยอยากรู้ว่า จริงๆแล้วเนีย Windows 10 (FPP) แท้ลงได้กี่ครั้ง(ต่อเครื่อง) และสามารถย้ายเครื่องได้ไหมครับ(ในกรณีเปลี่ยนคอมใหม่)
แม้ปัจจุบันผู้ขาย Computer หลายแบรนด์จะขายเครื่องใหม่ที่พร้อมมี Windows แถมมาให้ แต่ไม่ใช่กับคอมประกอบหรือ Desktop PC ครับ เพราะส่วนใหญ่จะแถมมาให้กับ Notebook หรือ คอมที่ประกอบสำเร็จมาจากโรงงาน
แต่สำหรับ DIY Computer เราต้องซื้อ Windows มาติดตั้งเองครับ (อันนี้นับแบบถูกลิขสิทธิ์นะ) และเมื่อเวลาผ่านไป อุปกรณ์เก่าลง เราก็ต้องซื้อเปลี่ยนใหม่ แต่ก็เสียดาย Windows ตัวเก่า เพราะมันก็แพงไม่ใช่เล่น หารู้ไม่ว่ามันสามารถย้ายเครื่องได้นะ
แต่การจะย้ายเครื่อง ต้องเข้าใจก่อนนะว่าไม่ใช่ว่าทุก License จะย้ายได้ ใครอ่านบทความนี้แล้วย้ายไม่ได้ เดี๊ยวจะมาโวยวายอีก
ทำความเข้าใจ Windows License สักหนึ่งพารากราฟละกันนะ
Windows License แบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ๆ ที่ย้ายเครื่องไม่ได้ (OEM) ซึ่งส่วนใหญ่จะติดมากับคอมที่ซื้อ หรือบางร้านก็จะมีขายเฉพาะ License ที่เป็นแบบ OEM เช่นกัน กับ Windows อีกแบบคือ FPP คือ Windows ที่ย้ายเครื่องได้ ซึ่งจะมีบอกชัดเจนครับว่าเป็น FPP
ทีนี้ หากใครไม่รู้ว่าหรือจำไม่ได้ว่าเครื่องตัวเองเป็น OEM หรือ FPP วิธีเช็คง่าย ๆ คือ
ไปที่ปุ่ม Start พิมพ์คำว่า CMD แล้วกด Enter มันจะเปิดหน้าคำสั่งของ Command Prompt ขึ้นมา ให้เราใส่คำสั่งไปว่า Slmgr –dli มันจะขึ้นโชว์ว่าเครื่องเราเป็น Windows แบบไหนตามภาพด้านล่างครับ
หากในวงสีแดงมีคำว่า RETAIL Channel นั่นแสดงว่า สามารถทำการย้ายเครื่องได้ครับ
พอรู้แล้วว่าย้ายได้หรือไม่ ทีนี้มาถึงขั้นตอนการย้ายจ่ะ โดยขั้นต้น ต้องถอน License ก่อน
- ไปที่ปุ่ม Start พิมพ์คำว่า CMD
- กดคลิกขวา เลือก Run as administrator เพื่อเข้าหน้าคำสั่ง Command prompt
- พิมพ์คำสั่งว่า slmgr /upk แล้วกด Enter เพื่อลบ License ออกจากเครื่องเก่า
- จากนั้น Windows จะขึ้นแจ้งเตือนว่า “Uninstalled product key successfully” แปลว่าถอนสำเร็จ แต่หากไม่ขึ้น ให้ทำคำสั่งเดิมลงไปจนกว่าจะขึ้นครับ
- จากนั้น เราต้องลบ License จากไฟล์ Registry ในเครื่องด้วย โดยใช้ Command prompt หน้าเดิม แล้วพิมพ์คำสั่งว่า slmgr /cpky แล้วกด Enter
- Windows จะขึ้นแจ้งว่า Product key from registry cleared successfully เป็นอันสำเร็จครับ
ทีนี้ เมื่อเราถอนออกทั้งหมด มาถึงขั้นตอนการใส่ License ครับ
- ไปที่ปุ่ม Start พิมพ์คำว่า CMD
- กดคลิกขวา เลือก Run as administrator เพื่อเข้าหน้าคำสั่ง Command prompt
- จากนั้นให้คำสั่ง slmgr /ipk xxxxx-xxxxx-xxxxx-xxxxx-xxxxx << ต่อด้วยหมายเลข License ได้เลย
- เมื่อสำเร็จ จะขึ้นแจ้งเตือนว่า Installed
production key xxxxx-xxxxx-xxxxx-xxxxx-xxxxx successfully
ซึ่งก็คือเรียบร้อยแล้วนั่นเอง
เมื่อใส่ License ไปแล้ว มาดูกันว่า License ที่ติดตั้งไปสำเร็จไหม (เป็นการเช็คอีกขั้นหนึ่งนะ)
- ไปที่ปุ่ม Start พิมพ์คำว่า CMD
- กดคลิกขวา เลือก Run as administrator เพื่อเข้าหน้าคำสั่ง Command prompt
- พิมพ์คำว่า slmgr /dlv แล้วกด Enter
- จากนั้น Windows จะขึ้นแจ้งเตือนและให้เราสังเกตตรงคำว่า License status ซึ่งมันควรจะเป็นคำว่า Licensed ครับ