ปั่นจักรยาน 30 นาที เผาผลาญแคลอรี่

กรมอนามัย ระบุปั่นจักรยานเป็นประจำ วันละ 30 นาที ภายใน 1 เดือนลดน้ำหนักได้ 1 กิโลกรัม พร้อมแนะนักปั่นงาน   “Bike อุ่นไอรัก” เช็ค 5 ส่วนประกอบจักรยาน และสำรวจร่างกายขณะปั่น จิบน้ำทุก 15-30 นาที

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร

พญ. พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การปั่นจักรยานมีประโยชน์ต่อสุขภาพ หากปั่นเป็นประจำอย่างน้อยครั้งละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้หัวใจและปอดแข็งแรง อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น ลดความดันโลหิต และสามารถเผาผลาญไขมันได้ดี ทำให้ปริมาณไขมันใต้ชั้นผิวหนังลดลง ส่งผลให้น้ำหนักตัวลดลง เพิ่มความกระชับ แข็งแรง และความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ลดแรงกระแทกบริเวณหัวเข่า ข้อเท้า ที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้

“ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักการปั่นจักรยานสามารถช่วยเผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดี โดยคำนวณจากผู้ที่น้ำหนักตัวประมาณ 70 กิโลกรัม หากปั่นจักรยานที่ความเร็ว 8 กิโลเมตร ในเวลา 30 นาที จะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 240 กิโลแคลอรี และปฏิบัติเป็นประจำในเวลา 1 เดือน จะสามารถลดน้ำหนักได้ประมาณ 1 กิโลกรัม”

ทั้งนี้ปั่นจักรยานสามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย นอกจากเป็นการออกกำลังกายที่ดีแล้ว ยังเป็นวิธีการแก้ปัญหาจราจรติดขัด ลดมลพิษและลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางในชีวิตประจำวันอีกด้วย

สำหรับนักปั่นที่จะเข้าร่วมงาน “Bike อุ่นไอรัก” ในวันที่ 9 ธันวาคม 2561 ให้เตรียมความพร้อม 2 ส่วน ทั่้งจักรยาน และร่างกายผู้ปั่น ในส่วนจักรยาน แนะนำให้ตรวจเช็ค 5 ส่วนประกอบสำคัญ คือ  ยาง โซ่ เกียร์ เบรค และไฟกระพริบ

อาทิ ลมยาง กดแล้วต้องแข็ง กดไม่ลง ถ้ำกดแล้วลงไปได้เรื่อย ๆ แสดงว่าลมอ่อนเกินไป ทั้งล้อหน้า และล้อหลัง ตรวจเช็คเบรกให้พร้อมใช้ โดยการหมุนล้อแล้วกำเบรคดูว่ามีการทำงานผิดปกติหรือไม่ โซ่ต้องไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป หมุนได้คล่องตัว และเกียร์สามารถปรับให้เข้ากับสภาพถนนได้

ส่วนด้านร่างกาย มีวิธีเตรียมตัวง่ายๆ 7  ข้อ ดังนี้

1. หมั่นฝึกซ้อมปั่นจักรยานเป็นประจำ

2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง

3. ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือของมึนเมา

4. รับประทานอาหารก่อนการปั่นจักรยำนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง

5. ทำอบอุ่นร่างกายก่อนการปั่นจักรยานอย่างน้อย 5 – 10 นาที

6. หากมีโรคประจำตัวควรเตรียมพกยาติดตัวตลอดเวลา

7. เตรียมอุปกรณ์และเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมกับการปั่นจักรยาน

พญ.พรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า สำหรับขณะที่ปั่นจักรยานต้องสำรวจตัวเองเสมอ หากเริ่มรู้สึกร้อน ควรจิบน้ำบ่อยๆ ทุก 15-30 นาที ใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี หรือนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัว จะช่วยระบายความร้อนจากร่างกายได้ดียิ่งขึ้น หากเสียเหงื่อมาก ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีเกลือแร่ เพื่อชดเชยที่สูญเสียไปกับเหงื่อ และควรสวมแว่นกันแดด เพราะจะช่วยลดแสงแดดกระจายเข้าสู่ดวงตา ทำให้รู้สึกสบายตาขึ้น

และระหว่างปั่นหากรู้สึกผิดปกติให้หยุด และพบแพทย์ที่ประจำในงาน อย่าฝืนปั่นจักรยานต่อ รวมทั้งหลังจากการปั่นจักรยาน ควรมีการคลายอุ่นและยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และควรจิบน้ำภายหลังจากการปั่นจักรยานบ่อยๆเพื่อชดเชยเหงื่อที่เสียไป

ปั่นจักรยานลดน้ำหนัก ยังไงให้หุ่นเฟิร์ม

การ ปั่นจักรยานลดน้ำหนัก นั้นโดยปรกติจะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 400-500 kcal ต่อหนึ่งชั่วโมง เทียบเท่าได้กับข้าวมันไก่หนึ่งจานเต็มที่คุณทานเข้าไป

การปั่นจักรยานเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่จะได้ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านเพื่อได้รับอากาศที่สดชื่น แถมยังได้ท่องเที่ยวชมทัศนียภาพรอบข้างไปพร้อมกัน และยังถือว่าเป็นการเผาผลาญพลังงานและลดไขมันที่ดีทางนึง นอกจากนี้ จักรยานถือว่าเป็นพาหนะที่เหมาะในยุคนี้ เพราะมีคุณสมบัติ 3 ส. คือ สะดวก สิ้นเปลืองน้อย และ สุขภาพดี ทำให้เราผ่อนคลายและยังช่วยให้ระบบหายใจแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนเพื่อนำไปสร้างเม็ดเลือดขาวใน กระแสเลือดได้ดีขึ้น และการปั่นจักรยานนอกจากจะเป็นวิธีการลดน้ำหนักได้แล้วยังส่งผลให้เราอารมณ์ดีจากการเพิ่มของระดับฮอร์โมนแอนเดอร์ฟินอีกด้วย

การปั่นจักรยานลดน้ำหนักเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยอย่างมากต่อการไหลเวียนของเลือด ซึ่งนั่นก็เท่ากับช่วยให้หัวใจและปอดของเราแข็งแรงไปด้วย ที่สำคัญคือตะกรันไขมันที่จับอยู่ตามเส้นเลือดของเราก็พลอยจะถูกกำจัดออกไป จึงสามารถป้องกันภาวะเส้นเลือดตีบตันได้อีกทางหนึ่งนอกจากนี้ยังสามารถช่วยพัฒนาระบบการทำงานต่างๆของร่างกาย

ปั่นจักรยานลดน้ำหนัก

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจว่า น้ำหนักเรา = FAT MASS (ไขมัน) + Lean Body Mass (กล้ามเนื้อ) ดังนั้นถ้าน้ำหนักที่เราลดไปทุกๆกิโล ก็ต้องเกิดจากไม่กล้ามเนื้อหายไปก็เป็นไขมัน ดังนั้นบางคนที่น้ำหนักลงช้าหรือไม่ลงก็อย่าเพิ่งท้อ แต่ให้สังเกตดูความเปลี่ยนแปลงของร่างกายแทน ว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นหรือไม่ อย่าไปสนใจแต่ตัวเลขบนตราชั่งเพียงอย่างเดียวเพราะสิ่งแรกที่คนอื่นมองเห็นเราคือรูปร่างไม่ใช่ที่น้ำหนัก

   อัตราการเต้นของหัวใจมีผลต่อการปั่นจักรยานลดน้ำหนัก ยังไง?

ถ้าต้องการลดน้ำหนัก เราต้องออกกำลังกายเป็นประจำควบคู่กับการกินอาหารที่มีประโยชน์ อัตราการเต้นของหัวใจมีผลต่อการเผาผลาญไขมันได้ โดยถ้าเราต้องการลดน้ำหนัก เราต้องตั้งเป้าให้หัวใจทำงานประมาณ 50-80 เปอร์เซ็น ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด สาเหตุที่เราต้องมีอัตราการเต้นของหัวใจเป้าหมาย ก็เพราะว่า ถ้าเกินกว่านี้นอกจากจะลดน้ำหนักแล้วอาจลดมวลกล้ามเนื้อด้วย สูตรคำนวณอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดโดยการเอาอายุของเราลบออกจาก 220 เช่น ถ้าเราอายุ 30 อัตราการเต้นของหัวใจ คือ 220-30 = 190 ดังนั้นช่วง 60-90% จะเท่ากับ 114-171

การ ปั่นจักรยานลดน้ำหนัก วันละหนึ่งชั่วโมงที่ความเร็วช้าๆ ช่วยเบิร์นแคลอรีได้ราวๆ 400-500 แคลอรีเลยทีเดียว เทียบได้กับข้าวมันไก่หนึ่งจานเต็ม เมื่อเทียบกับการเดิน (เผา 150-250 แคลอรีต่อชั่วโมง) และการวิ่งเบาๆ (350-450 แคลอรีต่อชั่วโมง)

ลองสมมุติเล่นๆว่าถ้าในหนึ่งสัปดาห์คุณ ปั่นจักรยานลดน้ำหนัก ทุกวันวันละหนึ่งชั่วโมงหมายความว่าคุณเผาผลาญไปแล้วร่วม 4,000 แคลอรี ยังไงก็น้ำหนักลดแน่นอนแต่จะลดมากน้อยขนาดไหนก็ขึ้นอยู่อยู่กับปริมาณการทานเข้าไปด้วยนะคะ ถ้าไม่ทานเกินที่ใช้ไป

Credit: lovefitt.com

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก