เพราะเหตุใดบริเวณเกาะและหมู่เกาะของทวีปเอเชียจึงเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุอยู่บ่อยครั้ง

สาเหตุของการเกิดคลื่นสึนามิ

เป็นที่เข้าใจกันดีว่า คลื่นสึนามิมิได้เกิดจากลมพายุเหมือนอย่างคลื่นธรรมดา เพราะเมื่อเกิดคลื่นสึนามิ ท้องฟ้าอาจปลอดโปร่งไม่มีลมพายุเลยก็ได้ นักวิชาการในสมัยก่อนคิดว่า การเกิดคลื่นสึนามิอาจเกี่ยวข้องกับน้ำขึ้นน้ำลง ที่ผิดปกติในท้องทะเล ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของจุดดับบนดวงอาทิตย์ (sun spots) หรือจากการวางตัว ของดาวเคราะห์ต่างๆ ที่สัมพันธ์กับตำแหน่งของโลก ดังนั้นจึงเรียกคลื่นชนิดนี้ว่า คลื่นน้ำขึ้นลง (tidal waves) ปัจจุบันเราทราบแล้วว่า คลื่นสึนามิไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขึ้นลงของน้ำทะเล แต่เกิดจากการไหวสะเทือนของเปลือกโลก อย่างรุนแรงใต้พื้นท้องทะเล และมหาสมุทร ซึ่งปลดปล่อยพลังงานมหาศาลออกมา ทำให้มวลน้ำในมหาสมุทร เกิดการเคลื่อนไหวกลายเป็นคลื่นขนาดใหญ่ แผ่กระจายเป็นวงกว้างออกไปจากบริเวณที่เป็นจุดศูนย์กลาง ของแผ่นดินไหว และเนื่องจากคลื่นชนิดนี้มิได้เกิดจากการขึ้นลงของน้ำทะเล นักวิชาการในปัจจุบันจึงไม่นิยมเรียกว่า tidal waves แต่เปลี่ยนมาเรียกว่า tsunami

ถึงแม้ว่าการเกิดคลื่นสึนามิส่วนใหญ่จะมีสาเหตุมาจากการเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงใต้พื้นท้องมหาสมุทร แต่ถ้ามีสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ในท้องทะเลโดยมิใช่จากการกระทำของลมพายุแล้ว ก็ถือเป็นคลื่นสึนามิได้เช่นกัน นักวิชาการจึงแบ่งสาเหตุของการเกิดคลื่นสึนามิเป็น ๒ ประเภทใหญ่ๆ คือ คลื่นสึนามิจากแผ่นดินไหว (seismic tsunami) และคลื่นสึนามิไร้แผ่นดินไหว (non - seismic tsunami)

๑. คลื่นสึนามิจากแผ่นดินไหว

เป็นผลมาจากการเกิดแผ่นดินไหวในระดับที่รุนแรง คือ ตั้งแต่ ๘.๐ ขึ้นไปตามมาตราริกเตอร์ โดยมีจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ใต้พื้นท้องมหาสมุทร หรือที่บริเวณใกล้ชายฝั่งทะเล ในทางธรณีวิทยาเราทราบแล้วว่า เปลือกโลกประกอบขึ้นด้วยแผ่นเปลือกโลก (tectonic  plates) หลายๆ แผ่นเชื่อมต่อกัน เมื่อใดที่แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่เข้าหากัน หรือแยกออกจากกันจะก่อให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้น โดยความรุนแรงจากการสั่นสะเทือนของเปลือกโลกจะมีมากน้อยแตกต่างกันไปแต่ละคราว บริเวณที่เป็นแนวรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกจึงมักเกิดแผ่นดินไหวขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในบริเวณที่ขอบของแผ่นเปลือกโลกแผ่นหนึ่งเลื่อนตัวมุดลงไปใต้ขอบของแผ่นเปลือกโลกอีกแผ่นหนึ่ง จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรง และหากบริเวณนั้นอยู่ใต้ทะเล ก็จะทำให้เกิดคลื่นสึนามิขึ้นได้

จากการศึกษาเกี่ยวกับการเกิดคลื่นสึนามิที่ผ่านมาในอดีต พบว่าบริเวณที่มักเกิดคลื่นสึนามิบ่อยครั้งมาก คือ ในมหาสมุทรแปซิฟิก ทั้งนี้เนื่องจากมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นพื้นน้ำขนาดใหญ่ ครอบคลุมเนื้อที่ถึงประมาณ ๑ ใน ๓ ของพื้นผิวโลก การเกิดแผ่นดินไหวในบริเวณที่ใดที่หนึ่งของมหาสมุทรนี้ ย่อมจะส่งผลให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ แผ่กระจายออกไปได้กว้างขวางมาก และอาจทำความเสียหายให้แก่ดินแดนต่างๆ ที่ตั้งอยู่ห่างจากบริเวณที่เป็นจุดกำเนิดแผ่นดินไหวหลายพันกิโลเมตรก็ได้ ดังเช่นกรณีการเกิดแผ่นดินไหว ที่ใกล้ชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ และทวีปอเมริกาใต้ แต่คลื่นสึนามิได้เคลื่อนตัวไปถึงหมู่เกาะฮาวาย ซึ่งตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก และยังเลยไปถึงหมู่เกาะญี่ปุ่นทางตะวันออกของทวีปเอเชียด้วย

เพราะเหตุใดบริเวณเกาะและหมู่เกาะของทวีปเอเชียจึงเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุอยู่บ่อยครั้ง

แผนที่โลกแสดงแนวเขตของแผ่นเปลือกโลกต่างๆ ซึ่งที่บริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกเหล่านั้น มักเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุบ่อยๆ
โดยเฉพาะในบริเวณที่เรียกว่า วงแหวนอัคนี ในมหาสมุทรแปซิฟิก


จากการศึกษาทางธรณีวิทยาพบว่า แนวรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกที่มักก่อให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงแห่งหนึ่ง อยู่ในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก เรียกว่า เขตแผ่นดินไหวมหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific seismic belt) เขตนี้เป็นบริเวณเดียวกับแนวภูเขาไฟที่โอบล้อมอยู่ทางด้านตะวันตก และตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก เรียกว่า วงแหวนอัคนี (Ring of Fire) ประกอบด้วย แนวของภูเขาไฟในคาบสมุทรคัมชัตคาของประเทศรัสเซีย หมู่เกาะญี่ปุ่น หมู่เกาะฟิลิปปินส์ และหมู่เกาะของประเทศอินโดนีเซียซึ่งอยู่ทางตะวันตกของมหาสมุทร ส่วนด้านตะวันออก มีแนวของภูเขาไฟบริเวณชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือและทวีปอเมริกาใต้

๒. คลื่นสึนามิไร้แผ่นดินไหว

แบ่งย่อยออกเป็น ๒ ชนิด คือ ชนิดแรกเกิดจากปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ และชนิดที่ ๒ เกิดจากการกระทำของมนุษย์

ก. ชนิดที่เกิดจากปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ

ปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่อาจก่อให้เกิดคลื่นสึนามิได้  มีดังนี้

  • การเกิดแผ่นดินถล่ม (landslides) ขนาดใหญ่ใกล้ชายฝั่งทะเล
  • การปะทุอย่างรุนแรงของภูเขาไฟใต้ทะเลหรือบนเกาะในทะเล
  • การพุ่งชนของอุกกาบาตลงบนพื้นน้ำในมหาสมุทร
ข. ชนิดที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์

ตัวอย่างการเกิดของคลื่นสึนามิที่ถือได้ว่ามีสาเหตุมาจากการกระทำของมนุษย์ คือ ปรากฏการณ์คลื่นขนาดใหญ่ ที่เคลื่อนตัวมาถึงชายฝั่งของประเทศฟิลิปปินส์ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ ทั้งๆ ที่มิได้เกิดแผ่นดินไหวมาก่อน แต่เป็นเพราะมีการทดลองระเบิดปรมาณูของสหรัฐอเมริกาที่เกาะบิกินี ในหมู่เกาะมาร์แชลล์ กลางมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อวันที่ ๑ และวันที่ ๒๙ ของเดือนนั้น ดังนั้นจึงเชื่อว่า ความสั่นสะเทือนของพื้นน้ำ ที่เกิดจากการทดลองระเบิดปรมาณู ก็อาจก่อให้เกิดคลื่นสึนามิขึ้นได้

4.หมู่เกา หมู่เกาะมักมีที่ราบแคบ ๆ ใกล้ชายฝั่งทะเล แต่พื้นที่ภายในมักเป็นที่สูงหรือภูเขาโดยเฉพาะภูเขาในหมู่เกาะของภูมิภาค เป็นเขตหินใหม่ที่หินเปลือกโลกมีอายุไม่เกิน 40 ล้านปี จึงมีการเคลื่อนไหวบ่อยครั้งทำให้มีปรากฏการณ์แผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุอยู่เสมอ

เพราะเหตุใดบริเวณเกาะและหมู่เกาะของทวีปเอเชียจึงเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุอยู่บ่อยครั้ง
                         
เพราะเหตุใดบริเวณเกาะและหมู่เกาะของทวีปเอเชียจึงเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุอยู่บ่อยครั้ง
     

                 ภูเขาไฟปะทุ                                                        แผ่นดินไหว

เพราะเหตุใดบริเวณเกาะและหมู่เกาะของทวีปเอเชียจึงเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุอยู่บ่อยครั้ง
เพราะเหตุใดบริเวณเกาะและหมู่เกาะของทวีปเอเชียจึงเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุอยู่บ่อยครั้ง
เพราะเหตุใดบริเวณเกาะและหมู่เกาะของทวีปเอเชียจึงเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุอยู่บ่อยครั้ง
เพราะเหตุใดบริเวณเกาะและหมู่เกาะของทวีปเอเชียจึงเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุอยู่บ่อยครั้ง
เพราะเหตุใดบริเวณเกาะและหมู่เกาะของทวีปเอเชียจึงเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุอยู่บ่อยครั้ง
เพราะเหตุใดบริเวณเกาะและหมู่เกาะของทวีปเอเชียจึงเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุอยู่บ่อยครั้ง
เพราะเหตุใดบริเวณเกาะและหมู่เกาะของทวีปเอเชียจึงเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุอยู่บ่อยครั้ง
เพราะเหตุใดบริเวณเกาะและหมู่เกาะของทวีปเอเชียจึงเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุอยู่บ่อยครั้ง
เพราะเหตุใดบริเวณเกาะและหมู่เกาะของทวีปเอเชียจึงเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุอยู่บ่อยครั้ง

 หน้าต่อไป>>