เรื่องราวของภูมิภาคป่าเขตร้อน มักหนีไม่พ้นเรื่องความเปราะบางของสิ่งแวดล้อม ป่าแอมะซอนเปรียบเสมือนปอดของโลก และทุกๆ ลมหายใจล้วนส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ, ฤดูกาล ตลอดจนวิถีชีวิตของมนุษย์ Show ฉะนั้นแล้วเกิดอะไรขึ้นเมื่อความเจริญเดินทางมาถึงยังแอมะซอน? เมื่อต้นไม้ถูกโค่น ถนนถูกปูและเขื่อนถูกสร้างขึ้น? Aaron Vincent Elkaim ช่างภาพบอกเล่าเรื่องราวของบรรดาชนกลุ่มน้อยที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนานี้ ผ่านภาพถ่ายของเขา ในปี 2014 ตัวเขาเดินทางไปยังรัฐปารา ทางตอนเหนือของบราซิล เพื่อเป็นประจักษ์พยานถึงการสร้างเขื่อน Belo Monte บนแม่น้ำชีงกู ที่ส่งผลกระทบต่อบรรดาชนกลุ่มน้อยราว 25,000 คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ทางรัฐบางบราซิลเองมีแผนสร้างเขื่อนจำนวน 40 เขื่อนในหลายพื้นที่เพื่อพัฒนาและกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ Elkaim มองเห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้คนที่อาศัยอยู่ยังพื้นที่นี้มานานหลายศตวรรษและกำลังปกป้องผืนดินนี้ไว้เพื่อลูกหลานของพวกเขา “เรามีแนวทางในการปฏิบัติที่คืบหน้าหลายอย่าง นอกเหนือจากลดการตัดไม้ทำลายป่า” Elkaim กล่าว “แต่สำหรับผมแล้ว การสร้างเขื่อนไม่ใช่สัญลักษณ์ของการปกป้องอนาคต แต่เป็นการทำลายมากกว่า” นับตั้งแต่เขื่อน Belo Monte ถูกเลื่อนการก่อสร้างในปี 1975 ชนเผ่าแอมะซอนจำนวน 16 เผ่า ลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน โดยอ้างว่าโครงการนี้จะส่งผลให้น้ำเข้าท่วมที่ดินของพวกเขา หลังโครงการผ่านการศึกษาตรวจสอบใหม่อีกครั้ง เขื่อนก็เริ่มดำเนินการก่อสร้างขึ้นในปี 2011 คาดกันว่าเมื่อเขื่อนเปิดใช้งานจริงในปี 2019 จะสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ 11,233 เมกะวัตต์ และเขื่อนแห่งนี้จะกลายเป็นเขื่อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ของโลก พลังงานที่ผลิตได้นั้นมากพอที่จะพัฒนาภูมิภาคนี้ให้ดีขึ้น ก่อนหน้านี้มีการฟ้องร้องและชดเชยให้ชุมชนของบรรดาคนพื้นเมือง ปีที่ผ่านมามีการฟ้องร้องบริษัท Norte Energia และรัฐบาล เป็นเงิน 275,000 ดอลล่าร์สหรัฐ จากมาตรการความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอสำหรับชาวบ้านที่อยู่อาศัยรอบๆ คดีอื่นๆได้นำไปสู่สัมปทานเพิ่มเติม เช่น การให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่เปิดใช้พลังงานน้ำเต็มพิกัด เพื่อที่พื้นที่นั้นๆจะได้ไม่รับผลกระทบจากน้ำท่วมมากนัก ปัจจุบันชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณเขื่อน ต้องมองเห็นพื้นที่ที่เคยแห้งกลับกลายเป็นถูกน้ำท่วมขัง ในระหว่างที่ Elkaim กำลังเดินทางเก็บภาพบริเวณเขื่อน และแม่น้ำ เขาพบกับสมาชิกของชนเผ่า Munduruku ผู้ประท้วงการสร้างเขื่อน เขาเห็นผู้คนมากมายต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของตนเพื่อรับมือกับน้ำท่วม เขามองเห็นชายคนหนึ่งล้างรถยนต์ท่ามกลางน้ำที่ท่วมขัง และเขามองเห็นกลุ่มเด็กชายกำลังปีนป่ายต้นไม้ตายต้นหนึ่งที่ครั้งหนึ่งมันเคยยืนต้นอยู่บนผืนดินที่แห้งสนิท ด้านรัฐบาลเองมีแผนที่จะเดินหน้าการสร้างเขื่อนอื่นๆต่อไป พร้อมข้อเสนอที่มอบให้แก่บรรดาคนพื้นเมือง ที่ดินบางแห่งถูกกำหนดให้มีความสำคัญทางวัฒนธรรม ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาควบคู่ไปกับการสร้างเขื่อน บริษัท Norte Energia ผู้สร้างเขื่อน ลงทุนจ่ายเงินเพื่อย้ายที่อยู่ขอบรรดาชนพื้นเมืองไปยังที่อยู่อาศัยใหม่ ใกล้เมือง Altamira อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ที่อยู่อาศัยใหม่ที่จัดหาให้นั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกน้อย และยังขาดความเป็นชุมชน รวมถึงการจ้างงาน ด้าน Elkaim เองกล่าวว่า ปัญหาอาชญากรรม และการติดสุราเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ ในสนามการต่อสู้ระหว่างอดีตและอนาคต วัฒนธรรมและการพัฒนา ทางรัฐบาลเองกล่าวว่าทั้งสองสามารถเติบโตควบคู่ไปด้วยกันได้ Elkaim เดินทางกลับไปยังภูมิภาคดังกล่าวเพื่อเก็บภาพความเสี่ยงของบรรดาชนพื้นเมือง ด้วยความหวังว่าภาพถ่ายชุดนี้จะถ่ายทอดวิถีชีวิตของบรรดาชนเผ่าแอมะซอนให้ผู้ได้เห็นกันมากยิ่งขึ้น “ไอเดียคือการถ่ายทอดตำนานและจินตนาการที่เกิดขึ้นในสถานที่แห่งนั้น” เขากล่าว ที่ซึ่งความหวังของพวกเขาจะถูกสะท้อนผ่านเลนส์กล้องออกมาให้ทุกคนได้เห็น แบบทดสอบความรู้ออนไลน์ โดยครูวัชรา รุ่งสว่าง 1. อารยธรรมโบราณใดที่ถือกำเนิดขึ้นระหว่างแม่น้ำสองสาย 2. อารยธรรมแห่งแรกของโลกถือกำเนิดขึ้นบริเวณลุ่มแม่น้ำใด 3. ชนเผ่าแรกที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในอาณาจักรเมโสโปเตเมีย คือ 4. ชนเผ่าที่รู้ัจักการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ คือ 5. ดินแดนพระัจันทร์เสี้ยว หมายถึงบริเวณที่ตั้งอาณาัจักรใด 6. ซิกรูแลต คือสถาปัตยกรรมด้านศาสนาของชนเผ่าใด 7. อักษรคูนิฟอร์ม หรือ อักษรรูปลิ่ม ปรากฏในสมัยอาณาจักรใด 8. ประมวลกฏหมายที่ยึดหลักตาต่อตาฟันต่อฟัน เกิดในสมัยอารยธรรมใด 9. สวนลอยบาบิโลน สร้างขึ้นสมัยใด 10. การแบ่งเวลา 1 สัปดาห์เท่ากับ 7 วันเกิดในสมัยใด Advertisement Share this:Like this:Like Loading... ชนชาติแรกที่รู้จักใช้เหล็กคือชาติใดมนุษย์รู้จักใช้ประโยชน์จากแร่เหล็กมาตั้งแต่ประมาณ ๔,๐๐๐ ปีก่อนคริสต์ศักราช ชาวอียิปต์โบราณเป็นชนกลุ่มแรก ที่รู้จักใช้แร่เหล็ก โดยการแยกเอาโลหะเหล็กจากลูกอุกกาบาต (meteoric iron) และประมาณ ๑,๒๐๐ ปีก่อนคริสต์ศักราช ได้เริ่มมีการถลุงแร่เหล็ก จนอีกประมาณ ๔๐๐ ปีต่อมา มีการใช้เหล็กมาก และสามารถเรียกได้ว่าเป็นเวลาเริ่มต้นของ ...
ชนชาติใดเป็นชนชาติแรกที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในดินแดนเมโสโปเตเมียคนกลุ่มแรกที่สร้างอารยธรรมเมโสโปเตเมียขึ้นคือชาวซูเมอร์ ผู้คิดประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก อารยธรรมที่ชาวซูเมอร์สร้างขึ้นเป็นพื้นฐานสำคัญของอารยธรรมเมโสโปเตเมีย สถาปัตยกรรม ตัวอักษร ศิลปกรรมอื่น ๆ ตลอดจนทัศนคติต่อชีวิตและเทพเจ้าของชาวซูเมอร์ ได้ดำรงอยู่และมีอิทธิพลอยู่ในลุ่มแม่น้ำทั้งสองตลอดช่วงสมัยโบราณ
ชนชาติใดแบ่งสัปดาห์ออกเป็น7วันหลักฐานการนับว่าสัปดาห์หนึ่งมีเจ็ดวันอย่างต่อเนื่องมานั้นปรากฏในหมู่ชาวยิวระหว่างการคุมขังที่บาบิโลน (Babylonian Captivity) ในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล ทั้งศาสนายูดาย (ตามบรรยายการสรรค์สร้างในโทราห์/ไบเบิล) และบาบิโลนโบราณใช้สัปดาห์เจ็ดวัน วัฒนธรรมอื่นได้รับเอาสัปดาห์เจ็ดวันไปในเวลาแตกต่างกัน ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 1 ...
ชนเผ่าใดในเอเชียไมเนอร์ที่เริ่มรู้จักใช้เหล็ก และรถศึกเทียมม้า๔. ชาวฮิตไทต์ เป็นกลุ่มแรกที่รู้จักใช้เหล็กน ามาท าเป็น อาวุธ และใช้รถเทียมม้าทาศึกสงคราม ๕. คัสไซต์ เป็นกลุ่มชนที่อยู่ในเอเชียไมเนอร์ เข้ามา รุกราน ๖. อัสซีเรีย กองทัพเข้มแข็งมาก ๗. คาลเดียลเป็นชนชาติสุดท้ายที่สร้างสรรค์อารยธรรม เมโสโปเตเมีย ก่อนถูกยึดครองโดยจักรวรรดิเปอร์เซีย
|