การกำหนดลักษณะของข้อความ โดยใช้หน้าต่าง Format Cells 1. พิมพ์คำว่า นฤมล ในช่อง A1 2. คลิกขวาที่ช่อง A1 และเลือก format Cells ... 3. จะเกิดเมนูย่อย ซึ่งสามารถเลือกลักษณะต่าง ๆ ใน cell ได้ o Number คือ การกำหนดรูปแบบตัวเลข เช่น จะให้มีทศนิยมกี่ตำแหน่ง o Alignment คือ การสั่งชิดซ้าย ชิดขวา หรือ จัดกึงกลาง cell อักษรแนวตั้ง แนวเอียง o Font คือ การกำหนดลักษณะ และขนาด ตลอดจนสีของตัวอักษร o Border คือ การกำหนดลักษณะเส้นขอบ o Patterns คือ การกำหนดลวดลายพื้นหลัง และสีพื้นหลัง o Protection คือ การกำหนดให้รับหรือไม่สามารถรับข้อมูลได้ และสามารถกำหนดไม่ให้แสดง cell นั้น ๆ ก็ได้ แต่จะมีผลก็ต่อเมื่อมีการกำหนดว่า sheet นั้น ๆ ถูกคุ้มครอง หรือ protect เอาไว้แล้ว (ไปที่ Tools > Protection > Protect Sheet...) การจัดตัวหนังสือเอียง หลายครั้งที่เราต้องการพิมพ์ตัวหนังสือเอียง หรือเรียงตามแนวตั้ง สามารถทำได้จากหน้าต่าง Format Cells ของ Excel ดังนี้ 1. พิมพ์ข้อความที่ต้องการ และคลิกขวาที่ Cell นั้น 2. เลือก Format Cells ... 3. คลิกเลือกแถบ Alignment 4. คลิกเลื่อนทิศทางของเข็ม ตามตำแหน่งการเอียงที่ต้องการ 5. จะได้ตัวหนังสือเอียง ตามต้องการ การการจัดทำตาราง หรือ การรวมเงิน ตามรายการต่าง ๆ มักจะต้องมีการตีเส้น เช่น ตีเส้นตาราง ขีดเส้นใต้จำนวนเงิน ขีดเส้น สองเส้น ใต้จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ Excel ได้อำนวยความสะดวกไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่เรามาเรียนรู้การใช้งาน ก็จะใช้ได้สะดวกรวดเร็วขึ้น 1. คลิกเลือก cell ที่ต้องการตีเส้น (ในกรณีที่ต้องการตีเส้นหลาย cell ให้ลากแถบสว่าง ให้ครอบคลุมทุก cell ที่ต้องการ) 2. Excel มีลักษณะเส้นขอบหลายลักษณะให้เลือก ตามต้องการ การเลือกลักษณะเส้นขอบแบบต่าง ให้ ไปที่ Toolbar คลิกที่สามเหลี่ยมเล็ก ๆ ข้างไอคอน borders 3. จะเกิดเส้นขอบลักษณะต่าง ๆ ให้ 4. อีกวิธีหนึ่ง คือ ไปที่เมนู Format > Format > Cells... 5. คลิกแถบ Border จะมีลักษณะเส้น ให้เลือกเช่นเดียวกัน 6. ถ้าเลือกหลาย Cell จะสามารถกำหนดเส้นภายในระหว่าง cell ได้ด้วย การใส่สีพื้นหลัง ถ้าเราต้องการให้พื้นสีของข้อมูลที่เราต้องการ มีสีพื้น ก็สามารถทำได้โดยง่าย ดังนี้ 1. คลิกเลือกช่องที่ข้อความนั้นอยู่ 2. คลิกที่ เมนู Fortmat > Cells... 3. คลิกเลือกแถบ Patterns และคลิกเลือกสีตามต้องการ 4. จะได้สีพื้นหลังข้อความที่เราต้องการ เส้นตารางถึงแม้ว่าเวลาพิมพ์จะไม่ปรากฎออกมาให้เห็น แต่ถ้าบางครั้งที่จะต้องนำเสนองานด้วยแผ่น Excel ถ้ามีเส้นตารางอยู่ อาจจะดูไม่สวยงาม การลบเส้นตาราง ทำได้ 2 ลักษณะ คือ ลบเฉพาะบาง Cell และ ลบหมดทั้ง Sheet 1. การลบเฉพาะบาง Cell o เลือก Cell ที่ต้องการลบเส้น o คลิกขวาและเลือก Format Cells ... o คลิกแถบ Patterns o คลิกเลือกสีขาว แล้วคลิก OK o เส้นในส่วนที่กำหนดจะหายไป ดังภาพ 2. การลบเส้นทั้ง Sheet o ไปที่เมนู Tools > Options o คลิกเลือกแถบ View o คลิกเครื่องหมาย ถูก หน้า Gridlines ออกไป o เส้นตารางใน Sheet จะมองไม่เห็น การจัดข้อความให้ขึ้นบรรทัดใหม่ใน Cell การพิมพ์ตัวอักษรในช่อง cell บางครั้งยาวมาก ถ้า ช่อง cell ถัดมามีข้อความอยู่ ก็จะทำให้ข้อความใน ข่อง cell แรกถูกตัดหายไป เช่น สมมติว่า นามสกุล ของนายวิทยาถูกตัดออกไป เนื่องจาก ช่อง cell ถัดมา มีข้อมูลอยู่ ถ้าเราต้องการดูข้อมูลทั้งหมดใน cell เราต้องจัดรูปแบบ cell ให้มีการขึ้นบรรทัดใหม่ หรือ Wrap text ซึ่งมีวิธีการดังนี้ 1. หลังจากพิมพ์ข้อความ และกด Enter แล้ว ให้คลิกที่ cell ที่พิมพ์ข้อความอีกครั้งเพื่อเลือก cell นี้ 2. เลือก เมนู Format > Cells 3. จะเกิดเมนู ให้คลิกเลือกแถบ Alignment 4. คลิกเลือก Wrap Text 5. คลิก OK การรวม Cell และการจัดกึ่งกลาง บางครั้ง เราต้องการให้ ข้อความครอบคลุมไปหลายช่อง cell พร้อมทั้งจัดกึ่งกลางให้ด้วย เช่น ต้องการให้ชื่อเรื่อง อยู่กลางหน้ากระดาษพอดี ในลักษณะนี้ เราต้องมีการรวม cell และจัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง ซึ่งมีวิธีการดังต่อไปนี้ 1. ไปที่ ตำแหน่ง B1 หรือตำแหน่งที่ต้องการรวมเซลล์ 2. พิมพ์คำที่เราต้องการ 3. เลือกช่อง cell ตั้งแต่ B1 ถึง D1 4. ที่ Formating Toolbar ให้คลิกรูป ผสานเซลล์ 5. ข้อความจะถูกรวมกัน และจัดกึ่งกลาง การจัดรูปแบบข้อมูลตัวอักษร
เป็นการเลือกแบบอักษร ขนาด สี และลักษณะพิเศษอื่น ๆ มีวิธีการดังนี้ การจัดรูปแบบข้อมูลตัวเลข 1.
เลือกเซลที่ต้องการจะจัดรูปแบบ วิธีใช้วันที่และเวลาวันที่และเวลา เป็นข้อมูลซึ่งใช้กันประจำ แทบหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักวางแผน เจ้าหน้าที่ขาย บริการลูกค้า เจ้าหน้าที่สินเชื่อ เจ้าหน้าที่บัญชี นักการเงิน ผู้บริหารการผลิต และผู้บริหารซึ่งทำงานเกี่ยวข้องกับกำหนดการ ใช้กำหนดเวลา ในการจัดตารางทำงานหลักการใช้วันที่และเวลา
Format ของวันที่และเวลา ใช้เมนูคำสั่ง Format > Cells > Number > Custom > Type แล้วกำหนดรูปแบบที่ต้องการลงไป จะใช้รูปแบบเฉพาะแต่ละส่วน หรือผสมรูปแบบหลายส่วนเข้าด้วยกันก็ได้ เช่น d ได้เลขวันที่ เช่น 9dd ได้เลขวันที่ เช่น 09 ddd ได้ตัวอักษรย่อของวัน เช่น Mon dddd ได้ตัวอักษรเต็มของวัน เช่น Monday m ได้เลขเดือน เช่น 5 mm ได้เลขเดือน เช่น 05 mmm ได้ตัวอักษรย่อของเดือน เช่น Jun mmmm ได้ตัวอักษรเต็มของเดือน เช่น June d/m ได้เลขวันที่/เลขที่เดือน เช่น 9/5 d/m/yyyy ได้เลขวันที่/เลขที่เดือน/ปีค.ศ. เช่น 9/5/2001 mmmm dd ได้ชื่อเดือน เลขวันที่ เช่น May 09 รูปแบบผสมอื่นๆ เช่น dddd d, m/y, mm-dd'yy, yy/mm, d-mm-yyyy ฯลฯ แล้วแต่จะจับแต่ละส่วนมาใช้ร่วมกัน
|