สาระสำคัญ : มัทนะพาธา เป็นวรรณคดีประเภท “บทละครพูด” พระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ที่แสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถทางด้านอักษรศาสตร์ของพระองค์ Show บทละครเรื่องนี้ ได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่า “เป็นยอดของบทละครพูดคำฉันท์”ด้วยการเลือกถ้อยคำที่สื่ออารมณ์ความรู้สึกของตัวละครได้ดีเยี่ยม ตลอดจนมีการวางโครงเรื่องที่ชวนให้ติดตาม ทั้งยังสอดแทรกคติสอนใจเรื่องความรักได้อย่างซาบซึ้งกินใจอีกด้วย ๒. ความเป็นมา ความเป็นมา : มัทนะพาธา แปลว่า “ความเจ็บปวดหรือความเดือดร้อนเพราะความรัก” นางเอกของเรื่องมีนามว่า “มัทนา”ซึ่งมีความหมายว่า “ความลุ่มหลง หรือความรัก”แทนคำว่า “กุพชกะ” ที่แปลว่าดอกกุหลาบ บทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเริ่มพระราชนิพนธ์เมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๔๖๖ ณ พระราชวังพญาไท และเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ ๑๘ ตุลาคม ปีเดียวกัน ( ๑ เดือน ๑๖ วัน ) เมื่อพระราชนิพนธ์เสร็จก็พระราชทานแก่สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจีพระวรชายา แนวคิดของเรื่องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความรัก ความลุ่มหลง ความเจ็บร้าวระทมเพราะความรัก ซึ่งตัวละครทุกตัวจะต้องได้รับรสดังกล่าวนี้ ๓. ประวัติผู้แต่ง ประวัติผู้แต่ง : พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ มีพระนามเดิมว่ามหาวชิราวุธ เป็นโอรสองค์ที่ ๒๙ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๒๓ เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๔๕๓ ขณะมีพระชนมายุ ๓๐ พรรษา สวรรคตเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๔๖๘ ( ครองราชย์ ๑๕ ปี พระชนมายุ ๔๕ พรรษา) วัตถุประสงค์ในการพระราชนิพนธ์ เรื่อง มัทนะพาธา ทรงตั้งพระทัยเพื่อเป็นหนังสืออ่านกวีนิพนธ์ที่สนุกสนานในด้านเนื้อหา และเป็นคติสอนใจให้เห็นถึงอานุภาพของความรัก ผลงานพระราชนิพนธ์ : พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระปรีชาสามารถทางด้านอักษรศาสตร์เป็นเลิศ จึงทรงมีพระราชนิพนธ์ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง กว่า ๒๐๐ เรื่อง เช่น เรื่องศกุนตรา รามเกียรติ์ บทละครเรื่องเวนิสวานิช เป็นต้น ในงานพระราชนิพนธ์ทรงใช้นามปากกาว่า อัศวพาหุ รามจิตติ พันแหลม ศรีอยุธยานายแก้วนายขวัญ พระขรรค์เพชร นายแก้ว ณ อยุธยา น้อยลา ท่านราม ณ กรุงเทพ สำหรับบทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา ได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็นยอดของบทละครพูดคำฉันท์นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจ้าอยู่หัวยังทรงได้รับพระราชสมัญญานามว่า “พระมหาธีรราชเจ้า” ซึ่งมีความหมายว่า “นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่” ๔. ลักษณะคำประพันธ์ ๑. กาพย์ ๓ ชนิด คือ กาพย์ยานี ๑๑ กาพย์ฉบัง ๑๖ และกาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ ๒. ฉันท์ ๒๑ ชนิด เช่น วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ อุปชาติฉันท์ ๑๑ ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ อินทวงศ์ฉันท์ ๑๒ วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ เป็นต้น หมายเหตุ : ตัวเลขที่ตามหลังชื่อฉันท์ หมายถึงจำนวนคำใน ๑ บาท ๕. เรื่องย่อ บทวิเคราะห์ ๑. คุณค่าด้านเนื้อหา ๒. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ๓. การใช้ลีลาจังหวะของคำทำให้เกิดความไพเราะ กวีมีความเชี่ยวชาด้านฉันทลักษณ์อย่างยิ่ง สามารถแต่งบทเจรจาของตัวละครให้เป็นคำฉันท์ได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งการใช้ภาษาก็คมคาย โดยที่บังคับฉันทลักษณ์ ครุ ลหุ ไม่เป็นอุปสรรคเลย เช่น บทเกี้ยวพาราสีต่อไปนี้ แต่งด้วยวสันตดิลกฉันท์ ๑๔ มีการสลับตำแหน่งของคำ ทำให้เกิดความไพเราะได้อย่างยอดเยี่ยม มัทนา : พระรักสมัครณพระหทัย ฤจะทอกจะทิ้งเสีย? สุเทษณ์ : ความรักละเหี่ยอุระระทด เพราะมิอาจจะคลอเคลีย มัทนา : ความรักระทดอุระละเหี่ย ฤจะหายเพราะเคลียคลอ ๔. การใช้คำที่มีเสียงไพเราะ อันเกิดจากการเล่นเสียงสัมผัสคล้องจอง และการหลากคำทำให้เกิดความำพเราะ เช่น ตอนมายาวินร่ายมนตร์ ข้อใดเป็นผลงานผู้แต่งเรื่องมัทนะพาธา“มัทนะพาธา” เป็นพระราชนิพนธ์บทละครพูดคำฉันท์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชนิพนธ์จากจินตนาการของพระองค์เมื่อ พ.ศ. 2466 บทละครพูดคำฉันท์ เรื่องนี้มักรู้จักกันในนาม “ตำนานแห่งดอกกุหลาบ” ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2467 และได้รับการตีพิมพ์อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนได้รับการสร้างสรรค์ในรูปแบบละคร ...
เรื่อง มัทนะพาธา เป็นงานเขียนประเภทใดมัทนะพาธา เป็นบทละครพูดคำฉันท์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่6) โดยทรงมีพระราชกุศลเพื่อสร้าง “ตำนานแห่งดอกกุหลาบ” จึงทรงผูกเรื่อง
ผู้แต่งเรื่องใดเป็นบุคคลเดียวกับผู้แต่งเรื่องมัทนะพาธาผู้แต่งเรื่องใดเป็นบุคคลเดียวกับผู้แต่งเรื่องมัทนะพาธา ? ศกุนตลา
มัทนะพาธา เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรมัทนะพาธา เป็นบทละครพูดคำฉันท์ 5 องก์ โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นทั้งหมดด้วยพระองค์เองโดยไม่ได้อิงเนื้อหามาจากที่อื่น ทรงพระราชนิพนธ์ทั้งเริ่มและจบลงในปี พ.ศ. 2466 เล่าเรื่องว่าด้วยตำนานเกี่ยวกับดอกกุหลาบ และความเจ็บปวดจากความรัก
|