ข้อใดเป็นการเลิกห้างหุ้นส่วนโดยผลกฎหมาย

               มาตรา ๑๐๖๓  ถ้าเมื่อได้ชำระหนี้ซึ่งค้างชำระแก่บุคคลภายนอกและชดใช้เงินทดรองและค่าใช้จ่ายแล้ว สินทรัพย์ที่ยังอยู่ไม่พอจะคืนแก่ผู้เป็นหุ้นส่วนให้ครบจำนวนที่ลงหุ้นไซร้ ส่วนที่ขาดนี้คือขาดทุน ซึ่งต้องคิดเฉลี่ยช่วยกันขาด

ขั้นตอนการเลิกและการขอจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วน

       กิจการเป็นห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ขนาดเล็ก และไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม อยากทราบว่ากรณีห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนเลิกกิจการ เพื่อความถูกต้องและครบถ้วน ห้างฯ ต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง และยื่นแบบอะไรบ้างครับ 

ขั้นตอนการเลิกและการขอจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วน 

1. การเลิกห้างหุ้นส่วน แบ่งได้เป็น 3 กรณี คือ 

    1.1  เลิกโดยผลของกฎหมาย 

          (1) กรณีกำหนดเหตุเลิกไว้และเมื่อมีเหตุนั้นเกิดขึ้น 

          (2) ตั้งห้างโดยกำหนดระยะเวลาไว้และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลานั้น 

          (3) ตั้งห้างเพื่อทากิจการอย่างหนึ่งอย่างใด และเมื่อทากิจการนั้นเสร็จแล้ว 

          (4) หุ้นส่วนบอกเลิกเมื่อสิ้นรอบปีบัญชี และได้บอกเลิกก่อน 6 เดือน 

          (5) หุ้นส่วนตาย ล้มละลาย หรือตกเป็นผู้ไร้ความสามาร 

          (6) ห้างหุ้นส่วนล้มละลาย 

          (7) เมื่อวัตถุประสงค์ของห้างกลายเป็นผิดกฎหมาย 

          (8) หุ้นส่วนเหลือเพียงคนเดียว 

     1.2 โดยความประสงค์ของผู้เป็นหุ้นส่วน 

          (1) ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนลงมติให้เลิก 

          (2) หุ้นส่วนฝ่าฝืนกฎหมายเรื่องค้าแข่งกับห้าง และหุ้นส่วนอื่นลงมติให้เลิก 

     1.3 เลิกโดยคาสั่งศาล เหตุร้องศาลให้สั่งเลิกมี 3 กรณี คือ 

          (1) หุ้นส่วนจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงฝ่าฝืนข้อสัญญาตั้งห้างที่มีนัยสาคัญ 

          (2) กิจการห้างมีแต่ขาดทุน ไม่มีหวังฟื้นคืน 

          (3) มีเหตุที่เหลือวิสัยที่ห้างจะดำรงอยู่ได้

     เมื่อห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลและห้างหุ้นส่วนจากัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลเลิกกัน ห้างนั้นจะยังคงตั้งอยู่เพื่อการชาระบัญชี การเลิกห้างกรณีอื่นนอกจากล้มละลายต้องมีการแต่งตั้งผู้ชาระบัญชี เพื่อดำเนินการจดทะเบียนเลิกห้างและชาระบัญชีของห้างให้เสร็จสิ้นไป เช่น การรวบรวมทรัพย์สิน ชาระหนี้ ชดใช้เงินทดรองและค่าใช้จ่ายที่หุ้นส่วนผู้จัดการได้ออกไปในการดำเนินกิจการค้าแทนห้าง หากมีทรัพย์สินเหลือให้คืนทุนและเฉลี่ยเป็นกาไรในระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนและจดทะเบียนเสร็จการชาระบัญชี เมื่อได้จดทะเบียนเสร็จการชาระบัญชีแล้ว การฟ้องคดีเรียกหนี้สินที่ห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ชาระบัญชีเป็นหนี้อยู่นั้นจะต้องทาการฟ้องภายใน 2 ปีนับแต่วันเสร็จสิ้นการชาระบัญชี 

     ผู้ชาระบัญชีของห้างหุ้นส่วนได้แก่ หุ้นส่วนผู้จัดการตามที่จดทะเบียนไว้ก่อนเลิก หุ้นส่วนผู้จัดการทุกคนต้องเข้าเป็นผู้ชาระบัญชีโดยผลของกฎหมาย ถ้าผู้ชำระบัญชีมีหลายคน ผู้ชำระบัญชีทุกคนต้องกระทำการร่วมกันเว้นแต่ที่ประชุมใหญ่หรือศาลจะได้กำหนดอำนาจไว้เป็นอย่างอื่นในเวลาตั้งผู้ชำระบัญชี 

2. ยื่นขอจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนต่อนายทะเบียน 

3. ประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่ 1 ครั้ง เป็นอย่างน้อย 

4. ส่งคำบอกกล่าวเป็นจดหมายลงทะเบียนไปรษณีย์ไปยังเจ้าหนี้ (ถ้ามี) ขั้นตอนตาม 2. - 4. ผู้ชำระบัญชีต้องดำเนินการภายใน 14 วัน นับแต่วันที่เลิกห้างหุ้นส่วนการขอจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วน 

ข้อมูลที่ต้องใช้ 

1. วันที่เลิกห้างหุ้นส่วน

2. ชื่อ ที่อยู่ อาชีพ และอายุของผู้ชำระบัญชี

3. อำนาจผู้ชำระบัญชี 

4. ที่ตั้งสานักงานของผู้ชำระบัญชี

เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนเลิก

1. แบบคำขอจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.1) 

2. รายการจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.2) *ผู้ชำระบัญชีต้องลงลายมือชื่อทุกคน* 

3. สำเนาคำสั่งศาลให้เลิกห้างหุ้นส่วน (ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้เลิก) 

4. สำเนาสัญญาของห้างหุ้นส่วนหรือข้อตกลงของผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนที่ตกลงหรือให้ความยินยอมในการตั้งผู้อื่นเป็นผู้ชำระบัญชีหรือตั้งหุ้นส่วนผู้จัดการคนเดียวหรือหุ้นส่วนผู้จัดการบางคนเป็นผู้ชำระบัญชี และกำหนดอำนาจผู้ชำระบัญชี (ใช้เฉพาะกรณีที่ผู้ชำระบัญชีมิใช่หุ้นส่วนผู้จัดการทุกคนตามที่จดทะเบียนไว้ก่อนเลิก) 

5. สำเนาใบมรณบัตร (ใช้เฉพาะกรณีหุ้นส่วนผู้จัดการถึงแก่กรรม) 

6. แผนที่แสดงที่ตั้งสานักงานของผู้ชำระบัญชีและสถานที่สำคัญบริเวณใกล้เคียงโดยสังเขป (ใช้เฉพาะกรณีสานักงานของผู้ชำระบัญชีมิใช่ที่ตั้งสานักงานแห่งใหญ่ตามที่จดทะเบียนไว้ก่อนเลิก) 

7. สำเนาบัตรประจาตัวของผู้ชำระบัญชีที่ลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียน 

8. สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี)  

9. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)

สำเนาเอกสารประกอบคาขอจดทะเบียนทุกฉบับ ต้องให้ผู้ขอจดทะเบียนอย่างน้อยหนึ่งคนรับรองความถูกต้อง ยกเว้นสำเนาบัตรประจาตัวหรือหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อผู้ขอจดทะเบียน ให้ผู้เป็นเจ้าของบัตรหรือผู้ขอจดทะเบียนอย่างน้อยหนึ่งคนเป็นผู้ลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้อง

แบบพิมพ์คำขอจดทะเบียน

สามารถขอและซื้อได้ที่หน่วยงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทุกแห่งหรือ Download ได้จาก www.dbd.go.th 

การลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.1) ให้ลงลายมือชื่อโดยผู้ชำระบัญชีซึ่งได้แก่ หุ้นส่วนผู้จัดการที่ลงลายมือชื่อผูกพันห้างหุ้นส่วนตามที่จดทะเบียนไว้ก่อนเลิก ถ้าผู้ชำระบัญชีมีหลายคน ทุกคนต้องกระทำการร่วมกันเว้นแต่ที่ประชุมใหญ่หรือศาลจะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น การลงลายมือชื่อและการ กรอกข้อมูลในรายการจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.2) ให้ระบุรายละเอียดของผู้ชำระบัญชีทุกคนพร้อมทั้งให้ลงลายมือชื่อ 

อัตราค่าธรรมเนียม 

1. ค่าธรรมเนียมเลิก 400 บาท 

2. หนังสือรับรองฉบับละ 120 บาท 

3. รับรองสำเนาเอกสารคาขอจดทะเบียนหน้าละ 50 บาท

สถานที่จดทะเบียน

1. สำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ยื่นจดทะเบียนได้ที่ ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชั้น 4 ถนนนนทบุรี 1 จังหวัดนนทบุรี หรือสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าทั้ง 6 เขต  

2. สำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่จังหวัดอื่น ยื่นจดทะเบียนได้ที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดที่ห้างหุ้นส่วนมีสานักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่

ข้อใดเป็นการเลิกห้างหุ้นส่วนโดยคำสั่งศาล

3) เลิกโดยคำสั่งศาล เหตุร้องศาลให้สั่งเลิกมี 3 กรณี คือ (1.1) หุ้นส่วนจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงฝ่าฝืนข้อสัญญาตั้งห้างที่มีนัยสำคัญ (1.2) กิจการห้างมีแต่ขาดทุน ไม่มีหวังฟื้นคืน (1.3) มีเหตุที่เหลือวิสัยที่ห้างจะดำรงอยู่ได้

ข้อใดเป็นการเลิกห้างหุ้นส่วนโดยความประสงค์ของผู้เป็นหุ้นส่วน

1.2 โดยความประสงค์ของผู้เป็นหุ้นส่วน (1) ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนลงมติให้เลิก (2) หุ้นส่วนฝ่าฝืนกฎหมายเรื่องค้าแข่งกับห้าง และหุ้นส่วนอื่นลงมติให้เลิก 1.3 เลิกโดยคาสั่งศาล เหตุร้องศาลให้สั่งเลิกมี 3 กรณี คือ

การเลิกห้างหุ้นส่วนกรณีใดต่อไปนี้ถูกต้องที่สุด

มาตรา ๑๐๕๕ ห้างหุ้นส่วนสามัญย่อมเลิกกันด้วยเหตุดังกล่าวต่อไปนี้ (๑) ถ้าในสัญญาทำไว้มีกำหนดกรณีอันใดเป็นเหตุที่จะเลิกกัน เมื่อมีกรณีนั้น (๒) ถ้าสัญญาทำไว้เฉพาะกำหนดกาลใด เมื่อสิ้นกำหนดกาลนั้น (๓) ถ้าสัญญาทำไว้เฉพาะเพื่อทำกิจการอย่างหนึ่งอย่างใดแต่อย่างเดียว เมื่อเสร็จการนั้น

ข้อใดคือแบบรายการจดทะเบียนเลิก

รายการจดทะเบียน (แบบ ลช 2) คำสั่งศาลให้เลิกบริษัท (กรณีศาลสั่งให้เลิก) สำเนารายงานการประชุมผู้ถือหุ้นทั้ง 2 ครั้งซึ่งลงมติให้เลิกบริษัท โดยกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อรับรองความถูกต้อง สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ชำระบัญชีที่ลงชื่อในคำขอจดทะเบียน