ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง

การเรียนการสอน
โดยส่วนใหญ่จะเข้าเรียนร่วมกับหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะยาวตามปรกติ แต่บางสถาบันจะจัดชั้นเรียนสำหรับนักเรียนระยะสั้นโดยเฉพาะ

การเรียนการสอนจะสอนโดยอาจารย์ชาวญี่ปุ่น และใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นสื่อกลางในการสอน และสอนทุกทักษะ ทั้งการฟัง พูด อ่านและเขียน เป็นการเรียนอย่างจริงจัง มีการบ้าน มีการสอบย่อยเมื่อจบบทเรียน มีการเทสต์คันจิทุกวัน

ระดับชั้นเรียน

ระดับชั้นเรียนจะแบ่งเป็นระดับต้น ถึงระดับสูง โดยเมื่อนักเรียนเดินทางถึงญี่ปุ่นแล้วจะมีการทดสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น เพื่อจัดให้เข้าชั้นเรียนที่เหมาะสมกับพื้นฐานความรู้ของนักเรียน โดยโรงเรียนจะพิจารณาจากผลการสอบของนักเรียน ณ เวลานั้น ว่าสามารถทำข้อสอบทักษะต่าง ๆ ได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าบางทักษะยังอ่อน เช่น ทำข้อสอบข้อเขียนได้ แต่ไม่สามารถพูดโต้ตอบในการสอบสนทนา หรือพูดได้แต่ไวยากรณ์ผิด ก็จะต้องเรียนซ้ำในส่วนที่เคยเรียนมาแล้วก็เป็นไปได้

นักเรียนในแต่ละห้องจะประมาณ 15 – 25 คน โดยเพื่อนร่วมห้องจะเป็นนักเรียนต่างชาติจากชาติต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีคนจีน เกาหลี ไต้หวัน เป็นอันดับต้น ๆ

ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง

วันและเวลาเรียน

เวลาเรียนคือ ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ หยุดวันเสาร์ , อาทิตย์และวันหยุดราชการ โดยเรียนครึ่งวัน ประมาณ 4 ชั่วโมง จะเป็นครึ่งเช้าหรือครึ่งบ่ายก็แล้วแต่ระดับชั้นเรียน ส่วนใหญ่ชั้นต้น-ชั้นกลางจะเรียนช่วงบ่าย ชั้นสูงจะเรียนช่วงเช้า ( บางสถาบันจะเรียนประมาณ 5-6 ชั่วโมงต่อวัน )

มีการเช็คชื่อทุกวัน หากมาสายจะถือว่าขาดเรียน ( ในคาบแรก ) ในกรณีที่ไม่สบายหรือเกิดเหตุที่ทำให้ไม่สามารถมาเรียนได้ จะต้องโทรศัพท์แจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ


รายละเอียดของสถาบันที่กำลังเปิดรับสมัครหลักสูตรระยะสั้น 

ที่พัก

สามารถเลือกได้ว่าจะอยู่ที่พักซึ่งทางโรงเรียนจัดหาให้ หรือพักกับครอบครัวชาวญี่ปุ่น ( Homestay )

  • ที่พักของทางโรงเรียน
    โรงเรียนส่วนใหญ่จะจัดหาที่พักไว้ให้สำหรับนักเรียน อาจจะเป็นหอของทางโรงเรียนโดยตรง หรือที่พักเอกชนที่ทำสัญญาไว้ ที่พักจะมีทั้งแบบที่เป็นห้องคู่ ห้องเดี่ยว ห้องสี่คน ฯลฯ ในกรณีที่พักห้องคู่ หรือพักมากกว่า 2 คน ทางโรงเรียนจะจัดหารูมเมทให้เอง รายละเอียดเกี่ยวกับหอพักของโรงเรียนแต่ละแห่งจะต่างกัน กรุณาดูรายละเอียดที่หน้าแนะนำข้อมูลของโรงเรียนแต่ละแห่ง
  • Serviced Apartment
    เป็นอพาร์ทเมนท์ที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน สะดวกสำหรับนักเรียนระยะสั้น เนื่องจากไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า อีกทั้งไม่จำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกัน และไม่จำเป็นต้องทำสัญญาเป็นปี ส่วนใหญ่เป็นห้องเดี่ยว ( กรณีจะพักคู่ นักเรียนต้องหาเพื่อนร่วมห้องเอง ) สะดวกสบาย มีความเป็นส่วนตัวแต่ราคาจะค่อนข้างสูง
  • Shared House 
    เป็นที่พักแบบที่ใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกส่วนกลางร่วมกันกับผู้อื่น  ในส่วนของห้องนอนจะมีทั้งแบบห้องคู่ ห้องเดี่ยว  หรือห้องสำหรับหลายคน   แต่ห้องน้ำ สุขา ครัว  จะใช้ของส่วนกลางร่วมกัน   เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบพบปะพูดคุยกับคนอื่นๆ
  • Homestay
    การพักแบบ Home stay จะทำให้เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นได้อย่างรวดเร็ว เป็นธรรมชาติ เพราะต้องคิด และสื่อสารเป็นภาษาญี่ปุ่นในสถานการณ์จริงตลอดเวลา ทั้งยังสามารถเรียนรู้วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นได้อย่างใกล้ชิดด้วย ที่พักแบบ Home stay จะคิดราคาต่อคืนรวมอาหารมื้อเช้าและมื้อเย็น เมื่อคิดเป็นเงินที่ต้องชำระทั้งเดือนแล้วอาจจะรู้สึกว่าราคาสูง อีกทั้งบ้านส่วนใหญ่จะอยู่นอกเมือง ต้องใช้เวลาในการเดินทางไปเรียนพอสมควร แต่หากคำนึงถึงสิ่งที่ได้รับจากการพักกับครอบครัวชาวญี่ปุ่นจริง ๆ แล้วนั้น คิดว่าคุ้มค่ามากโดยเฉพาะการไปเรียนในระยะเวลาสั้น ๆ

ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง


วีซ่าระยะสั้น

การไปเรียนภาษาระยะสั้นที่ญี่ปุ่น   กรณีที่ไปเกิน 15 วันจะต้องยื่นขอวีซ่าระยะสั้น ( Temporary Visitor ) ซึ่งทางสถานทูตญี่ปุ่นในประเทศไทยจะพิจารณาออกวีซ่าให้ตามระยะเวลาของการไปเรียน  โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน   วีซ่าระยะสั้นจะไม่สามารถทำงานพิเศษ   และไม่สามารถต่ออายุวีซ่าได้  เมื่อครบกำหนดแล้วจะต้องเดินทางกลับประเทศไทย

ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง

การเรียนหลักสูตรระยะสั้น ไม่จำกัดอายุหรือวุฒิการศึกษาของผู้เรียน แต่ควรจะอยู่ในระดับชั้นมัธยมตอนปลายขึ้นไป และควรมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นมาบ้างแล้ว ผู้เรียนจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบ และมีวินัยในตนเอง เนื่องจากการไปเรียนระยะสั้นที่ญี่ปุ่นนั้น จะต้องดูแลตัวเองทั้งในด้านการเรียน การเดินทาง และการใช้ชีวิตประจำวัน หากมีปัญหาสามารถปรึกษากับเจ้าหน้าที่หรืออาจารย์ของโรงเรียนได้ แต่นักเรียนจะต้องเข้าใจด้วยว่าในการทำสิ่งใด ๆ นักเรียนจะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองเป็นหลัก

หากไม่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมาก่อน หรือยังไม่มั่นใจในการไปใช้ชีวิตด้วยตนเอง สามารถไปเรียนระยะสั้นแบบ Study Trip


รายละเอียดของสถาบันที่กำลังเปิดรับสมัครหลักสูตรระยะสั้น 

ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง

Study Trip สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนภาษาญี่ปุ่นระยะสั้น พร้อมกับการท่องเที่ยวไปตามสถานที่ที่มีชื่อเสียง หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มพูนทักษะการใช้ภาษาและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น เหมาะสำหรับนักเรียนที่ไม่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมาก่อน หรือยังไม่สามารถดูแล ใช้ชีวิตในญี่ปุ่นด้วยตัวเองตามลำพังได้ เป็นโปรแกรมที่จะเดินทางไปเป็นกลุ่ม กำหนดวันเวลาเดินทางไป – กลับ และวันเวลาในการทำกิจกรรมหรือสถานที่ท่องเที่ยวไว้แล้ว แต่จะมีเวลาว่างที่เป็นวันอิสระ เพื่อให้ทำกิจกรรมหรือไปเที่ยวในสถานที่ที่ตนเองสนใจได้ตามใจชอบด้วยเช่นกัน

โดยส่วนใหญ่ Study Trip จะจัดในช่วงเวลาต่อไปนี้

เดือนเมษายน ฤดูใบไม้ผลิ
ระยะเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ – 1 เดือน เป็นช่วงที่นักเรียน นักศึกษาไทยปิดภาคเรียน

เดือนกรกฎาคม – สิงหาคม ฤดูร้อน
ระยะเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ – 1 เดือน เป็นช่วงที่นักเรียน นักศึกษาที่เรียนหลักสูตรนานาชาติ หรือนักเรียนชาติอื่นๆ ปิดภาคเรียน ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่มีเด็กนักเรียนจากชาติต่าง ๆ ทั่วโลกมาเรียน Summer ที่ญี่ปุ่นกันมากที่สุด

เดือนตุลาคม ฤดูใบไม้ร่วง
ระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เป็นช่วงที่นักเรียน นักศึกษาไทยปิดกลางภาค

ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณสำหรับการเรียนภาษาญี่ปุ่นระยะสั้น 1 เดือน
โดยทั่วไปแล้ว ค่าเล่าเรียนของแต่ละโรงเรียนไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่ค่าที่พักสำหรับการไปเรียนระยะสั้นจะค่อนข้างสูง ปัจจัยที่ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงหรือต่ำ จะขึ้นอยู่กับเมืองที่ไปอยู่ด้วย เช่น โตเกียวและเมืองใหญ่อื่น ๆ ค่าครองชีพจะสูงกว่าเมืองต่างจังหวัด เนื่องจากค่าที่พักจะสูงกว่ามาก ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับการใช้เงินของแต่ละคน

ตัวอย่างค่าใช้จ่ายต่อเดือนโดยประมาณ ( ต่อหนึ่งคน )

[ws_table id=”20″]

สรุป : โดยทั่วไปแล้ว ค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพสำหรับการเรียนระยะสั้น 1 เดือนจะใช้เงินประมาณ 150,000 – 200,000 เยน หรือประมาณ 6 – 8 หมื่นบาท

  • ประมาณการตัวเลขข้างต้น โดยคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน 100 เยน = 35 บาท
  • วิธีคำนวณเงินเยน ( ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน ณ เวลานั้น ) เช่นสมมติว่า 100 เยน = 35 บาท เอาจำนวนเงินเยนตั้ง คูณด้วย 0.35 เช่น จำนวนเงิน 20,000 เยน X 0.35 = คิดเป็นเงินไทย 7000 บาท
  • ค่าเล่าเรียนและที่พักของแต่ละสถาบันจะแตกต่างกันไป กรุณาดูข้อมูลของแต่ละสถาบันโดยตรง

รายละเอียดของสถาบันที่กำลังเปิดรับสมัครหลักสูตรระยะสั้น 

ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง

ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
ถ้าไม่เคยมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นมาก่อนเลยจะเข้าเรียนได้ไหม
การเรียนการสอนในโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นจะใช้ภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด ในระดับชั้นต้น ๆ อาจารย์จะมีวิธีการสอนที่จะทำให้นักเรียนทุกชาติสามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่นได้ เช่น การใช้ภาษาท่าทาง รูปภาพหรือสื่อการสอนอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้เข้าใจ พร้อมกับได้สำเนียงการออกเสียงที่ถูกต้อง อีกทั้งเพื่อนร่วมชั้นเรียนจะเป็นคนต่างชาติ ซึ่งทุกคนมีเป้าหมายในการมาเรียนเพื่อพัฒนาทักษะภาษาญี่ปุ่น ฉะนั้น จะใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษากลางในการสื่อสารเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเรียนการสอนที่ญี่ปุ่นจะค่อนข้างเร็ว ฉะนั้น ควรจะมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นมาบ้างแล้ว อย่างน้อยที่สุดควรจะอ่านและเขียนตัวอักษรญี่ปุ่นพื้นฐาน คือ Hiragana และ Katakana หรือ Kanji ง่าย ๆ ได้ เพื่อที่จะสามารถตามชั้นเรียนได้ทัน ไม่ต้องไปเสียเวลาจำในขณะที่เรียนที่ญี่ปุ่นอีก

ที่สำคัญคือ ที่ญี่ปุ่นจะใช้แต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น หากไม่มีพื้นฐานมาก่อนเลยนั้น จะใช้ชีวิตอย่างลำบาก เพราะการไปเรียนที่ญี่ปุ่น นักเรียนจะต้องดูแลตัวเองทุกเรื่อง อยากให้นักเรียนลองนึกดูว่า ถ้าจะไปเรียนต่อที่อเมริกา โดยที่ยังไม่รู้จักแม้แต่ตัว ABC หรือไม่รู้แม้แต่จะการนับตัวเลข One , two , three … ไม่สามารถสื่อสารกับใครได้ แล้วจะใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้อย่างไร

ในกรณีที่ไม่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมาก่อนเลย หรือเคยเรียนมาบ้างเล็กน้อย แนะนำให้ไปแบบโปรแกรม Study Trip


ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
การเรียนภาษาญี่ปุ่นระยะสั้น สามารถเรียนได้นานที่สุดเท่าไร

การไปเรียนภาษาระยะสั้นที่ญี่ปุ่นนั้น เป็นการไปเรียนด้วยวีซ่าระยะสั้น ที่เรียกว่า Temporary Visitor ซึ่งระยะเวลาของวีซ่าประเภทนี้ มากที่สุดคือ 90 วัน และไม่สามารถต่ออายุวีซ่าได้ เมื่อเรียนครบตามกำหนดแล้วจะต้องเดินทางกลับประเทศไทย ไม่สามารถต่อวีซ่าได้ ( ยกเว้นผู้ที่ดำเนินการสมัครเรียนแบบระยะสั้นต่อระยะยาว )


ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
ผู้ที่ไปเรียนภาษาญี่ปุ่นระยะสั้นส่วนใหญ่เป็นใคร จำกัดอายุหรือไม่ว่าจะต้องไม่เกินเท่าไร

ผู้ที่ไปเรียนภาษาญี่ปุ่นระยะสั้นส่วนใหญ่ เป็นคนที่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมาบ้างแล้ว และต้องการพัฒนาทักษะภาษาญี่ปุ่นในช่วงเวลาที่ว่าง เช่นนักเรียนมัธยมปลาย นักศึกษาที่ไปเรียนในช่วงปิดเทอม หรือคนทำงานที่ลาไปเพิ่มพูนทักษะความรู้ภาษาญี่ปุ่นให้มากขึ้น การไปเรียนระยะสั้น ไม่ได้จำกัดอายุของผู้เรียน ที่ผ่านมาผู้ที่ไปเรียนอายุ 40 ปีขึ้นไปก็มี ( แต่ทั้งนี้ การพิจารณาวีซ่าขึ้นอยู่กับสถานทูตญี่ปุ่น )


ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
การสมัครเรียนภาษาระยะสั้นที่ญี่ปุ่น จะต้องสมัครเมื่อไหร่ ใช้เอกสารอะไรบ้าง และมีขั้นตอนอย่างไร

โดยทั่วไปแล้ว การสมัครเรียน จะต้องสมัครล่วงหน้าประมาณ 2-3 เดือนก่อนเปิดภาคเรียน แต่สำหรับผู้ที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นมาพอสมควรแล้ว ( มากกว่า 150 ชั่วโมง ) บางสถาบันจะเปิดรับเข้าเรียนได้ตลอดเวลา

เอกสารที่ใช้ในการสมัครและขั้นตอนการสมัคร สามารถดูรายละเอียดได้โดยคลิกที่นี่


ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
การไปเรียนภาษาระยะสั้นที่ญี่ปุ่น ควรมีเงินในบัญชีเท่าไรจึงจะผ่านวีซ่า

การไปเรียนภาษาระยะสั้นที่ญี่ปุ่นนั้น ในกรณีที่ไปเกิน 15 วัน จะต้องขอวีซ่าระยะสั้น ที่เรียกว่า Temporary Visitor ซึ่งเป็นวีซ่าประเภทเดียวกับวีซ่าท่องเที่ยวหรือเยี่ยมญาติ การที่วีซ่าจะผ่านหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทางสถานทูตญี่ปุ่นเท่านั้นค่ะ และไม่มีกำหนดตายตัวด้วยว่า ต้องมีเงินในบัญชีเท่าไร มีคุณสมบัติอย่างไรจึงจะผ่าน เนื่องจากทางสถานทูตจะพิจารณาจากหลักฐานทุกอย่างของผู้ยื่นขอวีซ่า ทั้งหลักฐานการศึกษา หลักฐานการทำงาน หลักฐานของผู้ค้ำประกัน และหลักฐานการเงิน รวมไปถึงเหตุผลในการไปเรียนภาษาญี่ปุ่นระยะสั้น

ถ้าเป็นนักเรียนนักศึกษา จะต้องมีจดหมายรับรองจากสถาบันการศึกษา ณ ปัจจุบันมายื่นประกอบ มีหลักฐานการทำงานและหลักฐานทางการเงินของผู้ปกครอง ซึ่งมีเงินในบัญชีมากพอ

ถ้าเป็นคนทำงาน จะต้องมีหลักฐานการทำงานมาแสดง พร้อมกับระบุวันที่ทางบริษัทฯ อนุญาตให้ลาหยุดไปญี่ปุ่นได้ มีหลักฐานการเงินของตัวเอง หรือของผู้ปกครองที่มากพอ ไม่เคยมีญาติพี่น้องที่ทำผิดกฎหมายญี่ปุ่น หรือหนีวีซ่าญี่ปุ่น เป็นต้น

การขอวีซ่าไปเรียนภาษาระยะสั้นที่ญี่ปุ่นนั้นไม่ได้ยาก แต่ขึ้นอยู่กับว่า มีเหตุผลและมีเงินเพียงพอที่จะไปเรียนที่ญี่ปุ่นได้ และเมื่อเรียนจบตามกำหนดแล้ว จะกลับเมืองไทย ไม่มีญาติพีน้องมีประวัติการหนีวีซ่า และตัวผู้สมัครเองก็ไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะหนีวีซ่า

* กรณีที่เคยมีประวัติการขอวีซ่าญี่ปุ่นไม่ผ่านมาก่อน กรุณาแจ้งให้เจ้าหน้าที่แนะแนวทราบด้วย


ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
การสมัครไปเรียนระยะสั้นที่ญี่ปุ่น ทางโรงเรียนสามารถรับประกันได้หรือไม่ว่าวีซ่าจะผ่านแน่นอน

ทางโรงเรียนไม่รับประกันการผ่านวีซ่าของนักเรียนใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ การพิจารณาวีซ่าขึ้นอยู่กับทางสถานทูตญี่ปุ่นเท่านั้น ( เช่นเดียวกับการไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นกับบริษัททัวร์ ไม่ได้หมายความว่าบริษัทท่องเที่ยวจะรับประกันว่าท่านจะได้รับวีซ่าแน่นอน )


ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
กรณีที่วีซ่าไม่ผ่าน จะได้เงินค่าเล่าเรียนคืนหรือไม่

กรณีที่วีซ่าไม่ผ่าน การคืนเงินของแต่ละโรงเรียนจะแตกต่างกันแล้วแต่นโยบายของแต่ละโรงเรียน แต่โดยทั่วไปแล้ว นักเรียนจะไม่ได้รับเงินคืนเต็มจำนวน และค่าใช้จ่ายในการโอนเงินคืนผู้สมัคร จะหักจากเงินในส่วนของค่าเล่าเรียน


ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
เกี่ยวกับที่พัก : ค่าใช้จ่ายสำหรับที่พักหรือโฮมสเตย์ ถ้าอยู่สองคนราคาจะลดลงหรือไม่

ค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนของค่าเล่าเรียน และค่าหอพัก รวมถึง Homestay จะเป็นราคาสำหรับ ” หนึ่งคน ”
แม้จะเป็นห้องคู่ แต่ราคาที่ระบุไว้คือราคาที่นักเรียนแต่ละคนจะต้องชำระ ไม่ใช่ราคาที่หารสอง


ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
เกี่ยวกับที่พัก : หอพักของโรงเรียนจะพาเพื่อนหรือผู้ปกครองไปนอนด้วยได้หรือไม่

หอพักของโรงเรียน โดยทั่วไปจะไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไปพัก แม้จะเป็นผู้ปกครองของนักเรียนก็ตาม ในกรณีที่ผู้ปกครองจะไปเยี่ยมนักเรียน สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เจเอ็ดดูเคชั่น เพื่อหาโรงแรมที่อยู่ใกล้ ๆ โรงเรียนให้ได้ค่ะ


ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
เกี่ยวกับที่พัก : ในกรณีที่อยากพักห้องคู่ แต่ไปคนเดียวจะพักกับใคร

ในกรณีที่ไปคนเดียวและต้องการพักห้องคู่ ทางโรงเรียนจะจัดหารูมเมทให้ ซึ่งอาจจะเป็นนักเรียนไทยหรือนักเรียนชาติอื่น

ยกเว้นแต่ในกรณีที่ไม่สามารถหารูมเมทให้ได้ นักเรียนจำเป็นที่จะต้องอยู่ห้องพักเดี่ยว
ในกรณีที่ไปสองคนและต้องการพักห้องคู่ร่วมกัน สามารถแจ้งให้เจ้าหน้าที่เจเอ็ดดูเคชั่นทราบ


ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
เกี่ยวกับที่พัก : อยู่หอพัก หรือโฮมสเตย์ สามารถทำอาหารทานเองได้หรือไม่

การทำอาหารที่หอพักนั้น ขึ้นอยู่กับหอพักแต่ละแห่งว่าอนุญาตให้ทำอาหารได้หรือไม่ บางแห่งจะมีครัวส่วนกลางที่สามารถทำอาหารได้ บางแห่งจะมีมุมทำครัวเล็ก ๆ ภายในห้องพัก ฉะนั้นจะต้องดูข้อมูลที่พักของแต่ละแห่ง

ในส่วนของโฮมสเตย์นั้น ทางครอบครัวจะทำอาหารให้นักเรียนทานวันละ 2 มื้ออยู่แล้ว ฉะนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องทำอาหารทานเอง ยกเว้นอาจจะมีกรณีพิเศษ ที่อยากจะทำอาหารไทยให้ครอบครัวทาน ควรแจ้งให้คุณแม่ทราบ เพื่อขออนุญาตทำอาหารที่ครัว ที่บ้านของครอบครัวญี่ปุ่นนั้น ครัวและตู้เย็น เป็นพื้นที่ของคุณแม่ นักเรียนสามารถเสนอตัวช่วยทำอาหารได้ แต่ไม่ควรถือวิสาสะทำเองโดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน


ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
เกี่ยวกับการทำงานพิเศษ : ระหว่างที่เรียนภาษาญี่ปุ่นระยะสั้น สามารถทำงานพิเศษได้หรือไม่

การไปเรียนภาษาระยะสั้นที่ญี่ปุ่นนั้น จะขอวีซ่าระยะสั้น ที่เรียกว่า Temporary Visitor เป็นวีซ่าประเภทเดียวกับวีซ่าท่องเที่ยวหรือเยี่ยมญาติ ซึ่งไม่สามารถทำงานพิเศษได้ ( การทำงานพิเศษถือว่าผิดกฎหมาย หากถูกจับได้จะถูกส่งกลับประเทศไทย และจะถูกบันทึกในประวัติ ซึ่งอาจจะมีผลให้ไม่สามารถเข้าประเทศญี่ปุ่นได้อีก )


ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
ในกรณีที่เจ็บป่วย หรือต้องไปโรงพยาบาล จะสามารถใช้ประกันสุขภาพของญี่ปุ่นได้หรือไม่

การไปเรียนระยะสั้น จะไม่สามารถทำ ประกันสุขภาพแห่งชาติของญี่ปุ่นได้เหมือนนักเรียนระยะยาว ฉะนั้น ก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น นักเรียนจำเป็นที่จะต้องทำประกันภัยสุขภาพและการเดินทางไปต่างประเทศไว้ โดยนักเรียนจะต้องชำระค่ารักษาพยาบาลไปก่อน และนำใบเสร็จมาเบิกค่ารักษาพยาบาลที่ไทยภายหลัง นักเรียนสามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการทำประกันภัยสุขภาพและการเดินทางได้ที่เจ้าหน้าที่เจเอ็ดดูเคชั่น


ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
เกี่ยวกับการเดินทางไปญี่ปุ่น : จะมีเจ้าหน้าที่เดินทางไปด้วยหรือไม่

ในการไปเรียนหลักสูตรภาษาระยะสั้นนั้น นักเรียนจะต้องเดินทางไปญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ในกรณีที่มีนักเรียนที่สมัครไปเรียนโรงเรียนเดียวกัน เจ้าหน้าที่จะจัดให้เดินทางไปวันเดียวกันตามกำหนดการที่ทางร.ร.แจ้งให้ทราบ ฉะนั้นในการไปเรียนระยะสั้น ควรจะเป็นผู้ที่สามารถดูแลตัวเองได้และสามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ในระดับหนึ่ง


ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
เกี่ยวกับการเดินทางไปญี่ปุ่น : เมื่อไปถึงญี่ปุ่นแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนมารับหรือไม่

การไปรับที่สนามบินที่ญี่ปุ่นนั้น แต่ละโรงเรียนจะมีระเบียบการไปรับที่สนามบินต่างกัน
ในกรณีที่ต้องการให้ไปรับที่สนามบิน จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทั้งในส่วนของค่าบริการรับที่สนามบินและค่าพาหนะเดินทาง
ในกรณีที่ไม่มีการไปรับที่สนามบิน โดยส่วนใหญ่ทางร.ร.จะมีเอกสารอธิบายเส้นทางการเดินทางจากสนามบินเข้ามาในตัวเมือง เพื่อที่จะนัดรับในเมือง


ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
ในระหว่างที่เรียน มีกิจกรรมพิเศษหรือพาไปทัศนศึกษาหรือไม่
การเรียนภาษาระยะสั้น โดยทั่วไปจะเป็นการเรียนร่วมกับนักเรียนหลักสูตรระยะยาวตามปรกติ หลังเลิกเรียน จะเป็นเวลาอิสระของนักเรียน แต่ในกรณีที่โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมหรือไปทัศนศึกษานอกสถานที่ นักเรียนระยะสั้นสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้เช่นเดียวกัน ( กิจกรรมและทัศนศึกษา อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับกิจกรรมนั้น ๆ )

หากต้องการไปเรียนระยะสั้นแบบที่มีพาไปทัศนศึกษานอกสถานที่ด้วย สามารถไปเรียนระยะสั้นแบบ Study Trip


ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
ในการเดินทางจากหอพักหรือจากโรงเรียน ไปสถานที่ต่าง ๆ จะสามารถเช็คข้อมูลได้จากที่ไหน

การเดินทางในญี่ปุ่น สามารถเช็คเส้นทางรถไฟได้อย่างสะดวกสบาย และสามารถเช็คได้ด้วยตัวเอง โดยเช็คผ่านเว็บไซท์ด้านล่างนี้ โดยระบุสถานีรถไฟต้นทาง และสถานีปลายทางที่จะไป ก็จะสามารถทราบเส้นทางสายรถไฟ ระยะเวลาและค่ารถได้ (มีทั้งภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น ) ซึ่งนักเรียนควรฝึกใช้เว็บในการหาเส้นทางไว้ล่วงหน้า เพื่อที่จะสามารถหาข้อมูลด้วยตัวเองได้อย่างสะดวกและง่ายดายในระหว่างอยู่ที่ญี่ปุ่น

https://www.hyperdia.com/en/
https://www.jorudan.co.jp/english/


ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
ไปเรียนแบบระยะสั้น หรือไปแบบ Study Trip แบบไหนดีกว่า คุ้มกว่ากัน?

เรียนแบบระยะสั้น หรือไปแบบ Study Trip แบบไหนดีกว่ากันนั้น ขึ้นอยู่กับตัวผู้เรียนค่ะ

การไปเรียนแบบระยะสั้น เหมาะกับคนที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นแล้ว และมั่นใจว่าจะสามารถสื่อสารและใช้ชีวิตในญี่ปุ่นด้วยตัวเองได้ สามารถไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้ มีความเป็นอิสระกว่า เพราะนอกเหนือจากเวลาเรียนแล้ว คือเวลาว่างที่จะไปทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ การใช้ชีวิตตามลำพังก็ทำให้จำเป็นต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นมากกว่าการไปเป็นกลุ่ม เพราะทุกอย่างที่ญี่ปุ่นจะต้องใช้แต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น แต่จะมีความยุ่งยากกว่าในเรื่องของการที่จะต้องตัดสินใจเลือกที่พัก จองตั๋วเครื่องบิน การหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องเตรียมข้อมูลเองทุกอย่าง ค่าใช้จ่ายจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับการใช้จ่ายของแต่ละคน เป็นต้น

การไป Study Trip จะเหมาะสำหรับทั้งคนที่ไม่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมาก่อนและเคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมาบ้างแล้ว ( แต่ถ้ากรณีความรู้ภาษาญี่ปุ่นระดับ N2 แล้ว แนะนำให้ไปแบบระยะสั้น ) โปรแกรม Study Trip จะสะดวกและไม่รู้สึกโดดเดี่ยว เพราะไปเป็นกลุ่ม มีเจ้าหน้าที่ไปรับ-ส่งที่สนามบินจนถึงที่พัก ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง มีกิจกรรมทางวัฒนธรรมและการไปทัศนศึกษาที่ต่าง ๆ เตรียมไว้พร้อมสรรพ จึงสะดวกและไม่เหนื่อยในการหาข้อมูล แต่ก็มีเวลาว่างบ้าง เพื่อให้มีโอกาสได้ไปเที่ยวในสถานที่ที่สนใจนอกเหนือจากในโปรแกรม ควบคุมค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ได้ เพราะโปรแกรมทัศนศึกษาจะรวมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไว้แล้ว (ยกเว้นบางโปรแกรมที่จะไม่รวมอาหาร )


รายละเอียดของสถาบันที่กำลังเปิดรับสมัครหลักสูตรระยะสั้น 

ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง

ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง

โดยทั่วไป การเปิดรับสมัครจะแบ่งออกเป็น 4 ภาคเรียนคือ

  1. ภาคเรียนฤดูใบไม้ผลิ เดือนเมษายน
  2. ภาคเรียนฤดูร้อน เดือนกรกฎาคม
  3. ภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วง เดือนตุลาคม
  4. ภาคเรียนฤดูหนาว เดือนมกราคม
  • การสมัครเรียน จะต้องสมัครล่วงหน้าประมาณ 2-3 เดือนก่อนเปิดภาคเรียน
  • สำหรับผู้ที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นมาพอสมควรแล้ว ( มากกว่า 150 ชั่วโมง ) บางสถาบันจะเปิดรับเข้าเรียนได้ตลอดเวลา

ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง

คุยกับเจ้าหน้าที่แนะแนวของ jeducation
สามารถพูดคุยทางโทรศัพท์ (สาขาสีลม 02-2677726)
อีเมล Line @jeducation
หรือเข้ามาที่สำนักงานเจเอ็ดดูเคชั่นสาขาสีลมหรืออโศกได้
เพื่อรับข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น
ข้อมูลและเอกสารของสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจ

เลือกสถาบันที่ตรงกับเป้าหมาย
เจ้าหน้าที่แนะแนวของเจเอ็ดดูเคชั่น มีประสบการณ์การศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่นโดยตรง
ให้คำแนะนำจากประสบการณ์จริงด้วยความเป็นกันเอง

ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง

ยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารประกอบการสมัคร / จองหอพักหรือโฮมสเตย์
ยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารประกอบการสมัครได้แก่
– รูปถ่ายขนาด 1.5 นิ้ว 1 ใบ ติดบนใบสมัคร (ยกเว้นโรงเรียนYono Gakuin และ I.C.NAGOYA ใช้รูปสมัครทั้งหมด 5 ใบ)
– สำเนาหนังสือเดินทางหน้าแรก กรณีที่เคยเข้าประเทศญี่ปุ่นแล้ว ให้ถ่ายสำเนาหน้าที่มีวีซ่าหรือตราประทับเข้า – ออกประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด (ถ้ามี)

กรณีที่ผู้สมัครอยู่ต่างจังหวัด สามารถขอรับใบสมัครได้ทางอีเมล์ และยื่นส่งเอกสารสมัครเรียนทางไปรษณีย์มาที่สำนักงาน Jeducation ที่กรุงเทพฯ ได้

ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง

ตรวจเช็คเอกสารและส่งไปญี่ปุ่น
เจ้าหน้าที่ตรวจเช็คความถูกต้องของใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัคร
ก่อนที่จะจะดำเนินการจัดส่งเอกสารไปยังสถาบันการศึกษาที่ญี่ปุ่น

*** ผู้สมัครไม่ต้องเสียค่าดำเนินการใด ๆ รวมถึงค่าจัดส่งเอกสารไปญี่ปุ่น

ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง

ชำระค่าเล่าเรียน / ค่าที่พัก
ทางสถาบันจะส่งใบเรียกเก็บเงินค่าเล่าเรียน / ที่พักมาให้ เพื่อให้นักเรียนนำไปใช้ในการโอนเงินระหว่างประเทศ เข้าบัญชีธนาคารของสถาบันที่ญี่ปุ่นโดยตรง

หลังจากนักเรียนโอนเงินแล้ว ให้ส่งหลักฐานการโอนเงินมาให้ที่เจเอ็ดดูเคชั่นทางอีเมล์

หลังจากที่ทางโรงเรียนยืนยันการได้รับเงินแล้ว จะส่งใบตอบรับเข้าเรียนมาให้ เพื่อนำไปใช้ในการขอวีซ่าระยะสั้น ( Temporary Visitor ) 
* ผู้ที่ไปไม่เกิน 15 วันไม่ต้องขอวีซ่า

ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง

ยื่นขอวีซ่า
ยื่นขอวีซ่าระยะสั้นที่ ศูนย์รับยื่นวีซ่าประเทศญี่ปุ่น
โดยเจ้าหน้าที่แนะแนวจะให้คำแนะนำเรื่องการเตรียมเอกสาร และการกรอกแบบฟอร์ม
การยื่นขอวีซ่าโดยปรกติจะใช้เวลา 5 วันทำการ  

ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง
ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง

จองตั๋วเครื่องบิน
ดำเนินการจองตั๋วเครื่องบินตามกำหนดการที่ทางโรงเรียนแจ้ง โดยจะกำหนดให้นักเรียนโรงเรียนเดียวกันเดินทางไปพร้อมกัน และจะเข้าญี่ปุ่นในวันจันทร์ – ศุกร์ เนื่องจากโรงเรียนและหอพักจะไม่เปิดในวันเสาร์ – อาทิตย์และวันหยุดราชการ

ข้อใด เป็นการ ประมวลผลข้อมูล เวลา เข้า เรียน และ เลิก เรียน ประจำ ภาคเรียน ของ โรงเรียน แห่งหนึ่ง

ออกเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น


รายละเอียดของสถาบันที่กำลังเปิดรับสมัครหลักสูตรระยะสั้น 

ข้อใดเป็นการประมวลผลข้อมูล

การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ หมายถึง การนำข้อมูลที่เก็บไว้อย่างมีระบบ มาทำการวิเคราะห์ สรุปด้วยวิธีการต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์กัน มีความหมายและมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่ง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลข้อมูล

การฝากเงินถอนเงินในธนาคารเป็นการประมวลผลแบบใด

2. การประมวลผลแบบทันที เป็นการประมวลผลที่เกิดขึ้นพร้อมกับการรับข้อมูลหรือหลังจากได้รับข้อมูลทันที เช่นการฝากและถอนเงินธนาคาร เมื่อลูกค้าฝากเงิน ข้อมูลนั้นจะถูกประมวลผลทันที ทำให้ยอดฝากใน บัญชีนั้นมี

ข้อใดเป็นการประมวลผลข้อมูล การเบิกเงินจากตู้เอทีเอ็ม

การประมวลผลแบบเชื่อมตรงจึงเป็นการประมวลผลโดยทันทีทันใด เช่น การจองตั๋วเครื่องบินการซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้า การฝากถอนเงิน เอทีเอ็ม การประมวลผลแบบเชื่อมตรงจึงเป็นวิธีที่ใช้กันมากวิธีหนึ่ง

การประมวลผลแบบอินเทอร์แอ็กทีฟ มีอะไรบ้าง

การประมวลผลแบบอินเทอร์แอคทีฟ (Interactive Processing) เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการประมวลผลแบบออนไลน์ (OnLineProcessing) เป็นวิธีการประมวลผลที่รับข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรงทันทีโดยไม่ต้องรอรวมหรือสะสมข้อมูล ข้อมูลแต่ละรายการจะถูกนำไปประมวลผลและได้ผลลัพธ์ทันที โดยจะมีการติดต่อกับหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) โดยตรง เช่น ...