เสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากเส้นใยชนิดใดดูเเลง่ายที่สุด

ผ้าลายตารางหลากสีสันเหมือนกันทั้งหน้าและหลังชนิดนี้มีต้นกำเนิดจากประเทศอินเดีย มีกรรมวิธีในการย้อมสีที่ทำให้ผ้าซีดจาง ดูมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว ผ้าชนิดนี้เป็นผ้าฝ้ายเนื้อบางเบาที่มีคุณสมบัติในการช่วยระบายความร้อนได้ดี สวมใส่สบาย

3. ผ้าลินิน (Linen)

ผ้าลินินเป็นผ้าที่มีรอยยับย่นเป็นธรรมชาติ มีทั้งแบบที่เป็นเนื้อหยาบและเนื้อละเอียด ตัวเนื้อผ้ามีเส้นใยที่เหนียว ดูดความชื้นและระบายความร้อนได้ดีกว่าผ้าฝ้าย จึงเป็นเนื้อผ้าที่เหมาะกับประเทศในเขตร้อนมากที่สุด สวมใส่สบาย ไม่อึดอัด มีความสวยงามเวลาสวมใส่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากเส้นใยชนิดใดดูเเลง่ายที่สุด

4. ผ้าแชมเบรย์ (Chambray)

ผ้าแชมเบรย์เป็นผ้าที่มีที่มาจากประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันผ้าชนิดนี้เป็นเหมือนเดนิมประจำฤดูร้อน เนื้อผ้ามีสีฟ้าอมเทาซึ่งเป็นตัวแทนของ Blue Collar ส่วนใหญ่แล้วเนื้อผ้าชนิดนี้จะนิยมใช้ออกแบบเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยเฉพาะเสื้อเชิ้ตและกางเกงประเภทต่างๆ

เสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากเส้นใยชนิดใดดูเเลง่ายที่สุด

5. ผ้าป็อปปลิน (Poplin)

ผ้าชนิดนี้เป็นผ้าที่เหมาะแก่การออกแบบสำหรับใส่ทำงาน เพราะตัวเนื้อผ้ามีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถคงความเนี้ยบได้มากกว่าเนื้อผ้าชนิดอื่น ทำให้เกิดรอยยับได้ยาก เหมาะกับการใส่ทำงานเพื่อรับมือกับหน้าร้อน เพราะตัวเนื้อผ้ามีคุณสมบัติที่ช่วยในเรื่องของการระบายอากาศได้ดี และยังมีความบางเบา สวมใส่สบาย

ที่ผู้หญิงควรรู้ ประเภทและที่มาของผ้าแต่ละชนิด ซึ่งอาจจะเป็นข้อมูล ในการเลือกซื้อผ้า เพื่อใช้ในการตัดเย็บเสื้อผ้าเอง หรือแม้แต่เป็นข้อมูล ในการเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นสำเร็จรูปได้เช่นกัน ซึ่งผ้าแต่ละผืนนั้น ได้จากการทอ หรือการถัก ด้วยเส้นใยผ้า ซึ่งเส้นใยผ้าได้จากทั้งธรรมชาติ และแบบสังเคราะห์ขึ้นจากกระบวนการทางเคมี เรามาทำความรู้จักกับเส้นใยของผ้าแต่ละประเภทกัน ว่ามีอะไรบ้าง

เส้นใยผ้าจากธรรมชาติ เป็นเส้นใยที่ได้จากพืชและสัตว์

เส้นใยผ้าฝ้าย

เป็นเส้นใยของส่วนที่ห่อหุ้มเมล็ดฝ้าย โดยนำมาปั่นเป็นเส้นด้าย และทอเป็นผ้า อย่างที่เรารู้เรียกกันติดปากว่า ผ้าฝ้ายเส้นใยของฝ้าย มีความเหนียวปานกลาง ดูดซับน้ำและความชื้นได้ดี ระบายความร้อน และทนต่อความร้อนได้ดี ทนต่อการซักรีด ทนต่อกรดและด่าง มีความบางและเบา และราคาถูก จึงเป็นที่นิยมกันอย่างไม่น้อยในปัจจุบัน เพื่อใช้ตัดเย็บเป็นเสื้อผ้า แต่ผ้าที่ได้จากเส้นใยฝ้าย ค่อนข้างยับง่าย และขึ้นราได้ง่าย


เส้นใยผ้าขนสัตว์
เป็นเส้นใยที่ได้จากขนสัตว์ เส้นใยที่ได้จากขนสัตว์ ถ่ายเทความชื้นได้ดี มีความเหนียวพอสมควร เปียกน้ำแล้วจะหดตัว และความเหนียวก็จะลดลงด้วย ลักษณะเป็นมันเงา ทนต่อความร้อนได้ปานกลาง ทนต่อเชื้อราและแบคทีเรียได้ดี ดูดความร้อน จึงเหมาะกับเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น เป็นผ้าที่ไม่ทนต่อด่างและแสงแดดจัด ซึ่งจะทำให้เส้นใยเปื่อยและขาดง่าย ทำความสะอาดได้ด้วยวิธีซักแห้ง ควรเก็บใส่ถุงพลาสติดเพื่อป้องกันมอด


เส้นใยผ้าไหม

เป็นเส้นใยธรรมชาติ ซึ่งได้มาจากรังไหม ด้วยการนำรังไหมไปต้ม เพื่อสาวไหมออกจากรัง และนำมาปั่นเป็นเส้นด้าย ไว้ใช้ทอผ้าไหม อย่างที่เรารู้จักกันดี ลักษณะของผ้าไหม มีความมันวาวเมื่อสะท้อนแสง แลดูสวยงาม เนื้อผ้าที่ได้จากได้จากการทอไหม จะมีความกระชับแน่น เหนียว และทนทาน ผ้าไหมมีความชื้นอยู่ในตัว จึงทำให้รู้สึกนุ่ม เมื่อสวมใส่ คงรูปได้ดี ไม่ยับง่าย คุณภาพที่ดี ก็มาพร้อมกับราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ยังคงเป็นที่นิยมอยู่ไม่น้อย นำผ้าไหมมาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้ากันในปัจจุบัน


เส้นใยไหม หากได้รับความชื้นหรือความร้อนที่สูงเกิน อาจจะเสื่อมสภาพได้ง่าย จึงจำเป็นต้องระวังความร้อนสูงจากการรีด หรือตากแดดที่มีแสงจัด อีกทั้งยังต้องระวังแมลง อาจกัดกินเส้นไหม เพราะเส้นไหมเป็นเส้นใยโปรตีนของรังตัวหนอนไหม


ทำความสะอาดได้โดยการซักด้วยน้ำสบู่ที่มีฤทธิ์อ่อน ไม่เหมาะกับผงซักฟอก ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดจัด อาจทำให้ผ้าไหม เสื่อมคุณภาพได้


เส้นใยผ้าลินิน

เป็นเส้นใยจากลำต้นของแฟล็กซ์ นำมาปั่นเป็นเส้นด้าย แล้วทอเป็นผ้าลินิน ด้วยคุณสมบัติของเส้นใยธรรมชาติ ที่มีความเหนียว และแข็งแรง ทนแสงและความร้อนได้ดี จึงรีดได้ที่ความร้อนสูง มีความมันวาวคล้ายเส้นใยไหม ดูดซับน้ำได้ดี ข้อเสียคือเนื้อผ้าจากเส้นใยลินิน ค่อนข้างแข็งและยับง่าย

    

เส้นใยสังเคราะห์จากสารเคมี โดยการผ่านกระบวนการทางเคมี

เส้นใยผ้าโพลีเอสเตอร์

เป็นผ้าที่ได้จากเส้นใยสังเคราะห์ที่ยืดและหดกลับได้ดี ด้วยคุณลักษณะพิเศษนี้จึงมักนิยมนำไปทำเป็นชุดว่ายน้ำ ชุดชั้นใน ผ้าพันข้อเท้าและขอบถุงเท้า แต่ถ้าเส้นใยผ้าสแปนเด็กซ์ ได้รับสารฟอกขาวประเภทคลอรีน หรือด่างที่มีความเข้มข้น จะทำให้ความเหนียวและการยืดตัวของผ้าลดลง นอกจากนี้เส้นใยผ้าสแปนเด็กซ์ยังสามารถทนต่อเหงื่อไคล และไขมันได้ดี และยังทนต่อสารเคมีได้ดีอีกด้วย

เมื่อจับเสื้อผ้าแต่ละชุดขึ้นมา เคยสับสนกันบ้างไหมคะว่า นี่คือเนื้อผ้าชนิดไหน ยิ่งเดี๋ยวนี้เสื้อผ้าน่ารัก ๆ ที่เน้นความเป็นธรรมชาติก็กำลังเป็นที่นิยมเอามาก ๆ ถ้าได้รู้จักและแยกเนื้อผ้าจาก เส้นใยธรรมชาติ ออก ก็ยิ่งทำให้เลือกเสื้อผ้าได้ตรงใจมากขึ้นแน่นอนค่ะ

โดยพื้นฐานเนื้อผ้าจาก เส้นใยธรรมชาติ นั้นอาจจะได้มาจากพืชและสัตว์เพียงไม่กี่ชนิด แต่ด้วยลักษณะของพันธุ์และการทอที่ต่างกันออกไป ทำจึงทำให้ได้เนื้อผ้าที่หลากหลาย ซึ่ง เส้นใยธรรมชาติ ประเภทหลัก ๆ ที่นิยมกันจะมีที่มาจากอะไร และหน้าตาตั้งต้นก่อนจะแปรรูปเป็นผืนผ้านั้นเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตาม my home ไปเริ่มต้นทำความรู้จักกันได้เลยค่ะ

 

1.ใยฝ้าย

เสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากเส้นใยชนิดใดดูเเลง่ายที่สุด
https://posciel.to , https://st4.depositphotos.com

          ถ้าใครได้เห็นอาจเป็นต้องร้องอ๋อ เพราะหลาย ๆ คนอาจคุ้นหน้าคุ้นตากับใยฝ้ายสีขาวที่เป็นปุยนุ่ม ๆ กลม ๆ อยู่บนเมล็ดสีน้ำตาลที่แห้งจนแตกออกมาและกลายเป็นปุยฝ้ายอย่างที่เห็น แต่ฝ้ายนั้นก็มีอยู่หลายพันธุ์ บางพันธุ์ก็มีเส้นใยที่ยาว บางพันธุ์ก็มีเส้นใยที่สั้น จึงต้องนำมาปั่นรวมกันให้กลายเป็นด้ายก่อนจะนำไปทอเป็นผ้าสารพัดรูปแบบ ตั้งแต่ผ้าเนื้อบางอย่างผ้าสาลูที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่ม ระบายอากาศและซับน้ำได้ดี จึงเหมาะกับการนำไปใช้เป็นผ้าอ้อมและผ้าสำหรับเช็ดถ้วยชามต่าง ๆ ไปจนถึงผ้าเนื้อหนาอย่างผ้ายีนส์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานก็ใช้การทอจากใยฝ้ายเหมือนกันค่ะ ที่เห็นใช้งานได้เยอะขนาดนี้ก็เพราะผ้าฝ้ายนั้นทั้งทนทาน ดูดซับน้ำได้ดี ย้อมสีติดง่ายแถมยังราคาไม่สูง จึงเป็นเส้นใยที่มีการนำไปใช้งานมากที่สุดนั่นเอง

 

2.ใยลินิน

เสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากเส้นใยชนิดใดดูเเลง่ายที่สุด
https://www.heddels.com , https://cdn.materialdistrict.com

          ใยลินินนั้นจะมีความคล้ายคลึงกับใยฝ้ายเลยค่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่องของความเหนียวทนและการซับน้ำ รวมถึงระบายอากาศนั้นจะทำได้ดีกว่า จึงเหมาะกับการนำไปตัดเป็นเสื้อผ้าสำหรับใส่ช่วงหน้าร้อนที่ต้องการความเย็นสบายเป็นพิเศษ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความยืดหยุ่นที่น้อยลง ทำให้เนื้อผ้าค่อนข้างแข็ง ยับง่าย ไม่ทิ้งตัว และไม่ถูกกับสารฟอกขาวอีกด้วย โดยใยลินินจะได้มาจากส่วนที่เป็นท่ออาหารของลำต้นแฟล็กซ์ สีที่ได้จะออกไปทางแนวเอิร์ธโทนอย่างขาวครีม และเส้นใยลินินนั้นก็สามารถนำไปทอเป็นผ้าได้ทั้งเนื้อละเอียดและเนื้อหยาบเช่นกัน นอกจากเสื้อผ้าแล้วก็ยังนำไปตัดได้ทั้งผ้าปูโต๊ะ ผ้ากันเปื้อนหรือผ้าม่าน เพราะคุณสมบัติเด่นอีกอย่างของใยลินินก็คือความทนทานเวลาโดนแสงแดด รวมทั้งยังต้านเชื้อราและแบคทีเรียได้ดีอีกด้วย

 

3.ใยป่าน,ใยปอ

เสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากเส้นใยชนิดใดดูเเลง่ายที่สุด
https://gettyimages.com , https://hempwear.eu

          เส้นใยป่านส่วนใหญ่จะได้มาจากป่านรามี ส่วนปอนั้นจะมีอยู่ 2 พันธุ์ด้วยกัน นั่นคือปอแก้วและปอกระเจา ขั้นตอนหลัก ๆ จะใช้วิธีเดียวกับการแยกใยลินิน โดยนำลำต้นมาหมักจนเปื่อยจึงค่อยนำไปปอกเปลือกและสางเอาเส้นใยออกมาปั่น ตัวเส้นใยที่ได้ออกมานั้นจะมีสีออกไปทางน้ำตาลซึ่งเข้มกว่าเส้นใยชนิดอื่น จึงต้องนำมาย้อมสีเข้ม ๆ ให้ดูสดใส หรือไม่ก็โชว์สีแบบธรรมชาติไปเลยนั่นเองค่ะ ส่วนคุณสมบัติเด่นของป่านและปอก็คือความทนทานต่อแสงแดด ความร้อน รวมทั้งมอดและแมลงต่าง ๆ จึงไม่แปลกใจเลยที่จะถูกหยิบไปใช้ทำเป็นกระสอบหรือบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ นั่นจึงทำให้บางครั้งก็ถูกเรียกรวม ๆ ว่าผ้ากระสอบ และมีการนำไปผลิตเป็นเครื่องใช้อื่นอีก ๆ เช่นพรมปูพื้น ของแต่งบ้าน กระเป๋าหรือหมวกสานที่สาว ๆ ชอบใช้กันนั่นเองค่ะ

 

4.ใยไผ่

เสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากเส้นใยชนิดใดดูเเลง่ายที่สุด
https://www.amritafasciaportabebe.com , https://shopify.com

ใยไผ่นั้นขึ้นชื่อในเรื่องของเส้นใยที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุด ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นตั้งแต่การต้านแบคทีเรียด้วยสาร Bamboo Kun ที่มีอยู่ในใยไผ่ ซึ่งเป็นตัวช่วยป้องกันการเกิดกลิ่นอับ สามารถระบายและซับเหงื่อได้ดี มีน้ำหนักเบาและให้สัมผัสที่นุ่มสบายเมื่อสวมใส่ จึงนิยมนำไปผลิตเป็นชุดชั้นในและชุดกีฬา แต่สำหรับเครื่องใช้อื่น ๆ อย่างผ้าเช็ดหน้า ผ้าห่ม หรือผ้าขนหนูก็มีการนำใยไผ่ไปใช้เหมือนกันค่ะ ซึ่งขั้นตอนการผลิตใยไผ่มานั้นจะเริ่มจากการอบไอน้ำเพื่อให้ท่อนไผ่อ่อนตัว และค่อยนำไปปั่นจนออกมาเป็นเส้นใยที่ยืดหยุ่น อ่อนนุ่ม มันวาวคล้ายเส้นไหม และนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายเลยค่ะ

 

5.ใยไหม

เสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากเส้นใยชนิดใดดูเเลง่ายที่สุด
https://www.geek.com , https://www.topfabric.co.uk

ถ้าพูดถึงใยไหมต้องยกให้ในเรื่องของความสวยงามเลยค่ะ เพราะเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าผ้าไหมนั้นจะมีความเงาวาวต่างจากเส้นใยชนิดอื่น ๆ เห็นได้จากการนำไปตัดเป็นชุดออกงานรูปแบบต่าง ๆ ที่ต้องการความหรูหราเป็นทางการ และนอกจากจะนุ่มสวยแล้วก็ยังมีจุดเด่นอื่น ๆ อีกนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการดูดซับความชื้นได้ดี นำไปย้อมสีหรือตกแต่งด้วยสารเคมีต่าง ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา แถมเนื้อผ้ายังไม่ขึ้นเป็นขุย แต่ก็ต้องคอยดูแลรักษาและระวังในขั้นตอนการซักทำความสะอาดเป็นพิเศษ ส่วนที่มาของเส้นใยไหมนั้นจะต่างจากเส้นในประเภทอื่น ๆ ตรงที่มาจากสัตว์แทนที่จะมาจากพืช โดยเส้นใยที่ได้จะมาจากรังของหนอนไหมนำไปผ่านกระบวนการต่าง ๆ สุดท้ายจึงได้ออกมาเป็นเส้นใยคุณภาพที่ได้ราคาสูงอย่างที่เห็นกันค่ะ