การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA มีหน้าที่จำหน่ายพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ ส่วนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA
จะจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ยกเว้นพื้นที่ 3 จังหวัดที่ MEA ดูแลอยู่ ซึ่งทั้ง 2 จะทำหน้าที่เหมือนกันคือ การจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้คนไทยทุกคนมีไฟฟ้าใช้ มั่นคง และปลอดภัยในทุก ๆ บ้าน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ EGAT เป็นผู้จัดหาแหล่งพลังงานไฟฟ้า มีทั้งผลิตเอง และรับซื้อจากโรงไฟฟ้าเอกชนและประเทศเพื่อนบ้าน โดยทำการส่งไปให้แก่ MEA PEA และผู้ใช้บริการรายอื่น ๆ เพื่อนำพลังงานไฟฟ้าเหล่านั้นส่งต่อให้ผู้ให้บริการในพื้นที่ต่อไป . แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าหน่วยงานใด เราก็พร้อมส่งต่อพลังงานไฟฟ้า และสิ่งดี ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทุกคนตลอด 24 ชม.เลยครับ #พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร Energy for city life, Energize smart living https://www.facebook.com/497340003626475/posts/3406859116007868/ วันนี้ (5 เมษายน 2564) นายจุมภฎ หิมะเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA กล่าวว่า MEA ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เป็นผู้นำการขับเคลื่อนการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย มุ่งมั่นขับเคลื่อน วิสัยทัศน์พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร พร้อมส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าและพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม MEA มีความห่วงใยผู้ใช้ไฟฟ้าที่จะขอติดตั้ง EV Charger กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าสำหรับ EV
มาตรฐานการติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าสำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้า มาตรฐานการติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าสำหรับสถานีชาร์จเรือไฟฟ้า ข้อกำหนดการเชื่อมต่อและติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับผู้ประกอบการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับ EV และมาตรฐานการติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าภายในบ้านที่อยู่อาศัย ทั้งแบบเต้ารับสำหรับสายชาร์จแบบพกพา และเครื่องชาร์จแบบติดผนัง เพื่อความปลอดภัยจะต้องผ่านการตรวจสอบโดยช่างผู้ชำนาญโดยเฉพาะ การขอเพิ่มขนาดมิเตอร์ไฟฟ้า การติดตั้งสายเมนวงจร ต้องติดตั้งอุปรณ์ควบคุมไฟฟ้า อุปกรณ์ป้องกันกระแสเกินไฟฟ้า
และหลักดินวงชาร์จ EV รวมถึงการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟแบบติดผนัง (Wall Mounted Charger) และเต้ารับสำหรับสายชาร์จแบบพกพา (EV Socket-Outlet) ระบบวงจรไฟฟ้าต้องออกแบบเพื่อรองรับกับเครื่องชาร์จไฟยานยนต์ไฟฟ้าตามมาตรฐานและความปลอดภัย ปัจจุบัน MEA ดำเนินการวิจัยและพัฒนาใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าภายในองค์กรอย่างจริงจัง ในโครงการ MEA EV Car Sharing จำนวน 47 คัน และกำลังพัฒนาทดสอบการวิ่งรถบัสโดยสารไฟฟ้า E-bus ของ MEA รวมทั้งมีแผนในการนำรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (e- Motorbike) และ รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า (E-Tuk Tuk)
เพื่อใช้ในกิจการสนองตอบนโยบายขับเคลื่อนการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า ลดการสร้างมลภาวะอันเป็นสาเหตุสำคัญของฝุ่น PM2.5 นอกจากนี้ MEA พัฒนานวัตกรรมต่อยอดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 14 แห่ง ประกอบด้วย ที่ทำการไฟฟ้านครหลวงเขตต่าง ๆ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และที่บริเวณ 7-Eleven ทั้ง 2 สาขา ครอบคลุมทั้งพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ พร้อมรองรับการใช้งานสถานีชาร์จได้ทั่วประเทศ ผ่าน MEA EV Application เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น ดาวน์โหลดใช้งานฟรี คลิก
https://onelink.to/meaev ทั้งนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถศึกษามาตรฐานความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าสำหรับ EV ได้ที่ https://www.mea.or.th/profile/3361/3440 และขอใช้บริการออกแบบและติดตั้งเครื่องชาร์จไฟยานยนต์ไฟฟ้าภายในที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยของ MEA ได้ที่ ฝ่ายธุรกิจบริการและคุณภาพไฟฟ้า โทร. 0 2476 5666-7 ระหว่างเวลา 07.30-15.30 น. ในวันเวลาทำการ หรือ MEA Call
Center 1130 รวมถึงแจ้งผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line : MEA Connect, Twitter: @mea_news, และศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง #พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร Energy for city life, Energize smart living เผยแพร่เมื่อ: 12/11/2564...., เรื่อง มาตรฐานทางไฟฟ้าและมาตรฐานระบบไฟฟ้า ในการดูแลและด้านความปลอดภัยของระบบต่างๆที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย จะต้องรู้ในข้อกำหนดของกฎหมายต่างๆและต้องนำมาอย่างปฏิบัติอย่างเคร่งครัดครบถ้วน โดยในข้อกฎหมายยังมีการกำหนดอ้างอิงกับมาตรฐานต่างๆทางไฟฟ้า ซึ่งใช้สำหรับ การจัดซื้อจัดจ้าง ออกแบบ ตรวจสอบ ทดสอบ ซ่อมและบำรุงรักษา ระบบและบริภัณฑ์ไฟฟ้าในสถานประกอบกิจการ สำหรับมาตรฐานต่างๆที่ได้เรียบเรียงไว้ จะสามารถนำมาใช้ในการทำงาน เป็นข้อกำหนดขั้นต่ำที่เป็นข้อกำหนดบังคับใช้และแนวทางในการนำมาใช้โดยสามารถปรับปรุงพัฒนาให้ไม่ด้อยกว่าที่กำหนด สำหรับมาตรฐานต่างๆได้เรียบเรียงเพื่อได้ศึกษาได้ดังนี้ มาตรฐานเกี่ยวกันงานไฟฟ้า แบ่งตามประเภทแต่ละอุปกรณ์ และมาตรฐานการออกแบบ ติดตั้งระบบและอุปกรณ์ ได้ดังนี้ 2) มาตรฐานการออกแบบและติดตั้งระบบและอุปกรณ์ หมายมาตรฐานสำหรับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
สำหรับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง มีการกำหนดเครื่องหมายมาตรฐานตามข้อกำหนดของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ไว้ดังนี้ มาตรฐานสายไฟฟ้า การปรับปรุงมาตรฐานของสายไฟฟ้า เป็นมาตรฐาน มอก. 11-2553 ได้อ้างอิงตามมาตรฐาน IEC 60227 แต่ก็ยังคงสายตามมาตรฐานเดิมอยู่บ้างเนื่องจากยังเป็นที่นิยมใช้งานอยู่ ซึ่งสรุปสาระสำคัญ ได้ดังต่อไปนี้ มาตรฐานสายไฟฟ้าใหม่ มอก. 11-2553 มีอะไรเปลี่ยนแปลงจาก มอก. 11-2531 บ้าง การกำหนด รหัสชนิด ขนาด และแรงดันของสาย มอก. 11-2553 หมายเลขแรกเป็น 0
หมายถึง สายไฟฟ้าไม่มีเปลือก สำหรับงานติดตั้งยึดกับที่ แบ่งย่อย คือ หมายเลขแรกเป็น 1 หมายถึง สายไฟฟ้า มีเปลือกสำหรับงานติดตั้งยึดกับที่ มี 1 ชนิด คือ หมายเลขแรกเป็น 4 หมายถึง สายไฟฟ้า อ่อนไม่มีเปลือกสำหรับงานเบา 2 ชนิดคือ
หมายเลขแรกเป็น 5 หมายถึง สายไฟฟ้าอ่อนมีเปลือกสำหรับการใช้งานปกติ 4 ชนิดคือ สายไฟฟ้าที่ไม่ได้อยู่ในมาจรฐาน IEC 60227 ที่มีใน มาตรฐาน มอก. 11-2553 ทั้งนี้สายไฟฟ้าขนาดที่หายไป ได้มีการเพิ่มข้อกำหนดภายหลังโดย ได้กำหนดไว้ใน มอก. 11-2559 ดังนี้
มาตรฐานการต่อลงดิน การต่อลงดิน มาตรฐานสำหรับประเทศไทย ใช้ตามมาตรฐาน IEC 60364-3 โดยใช้การต่อลงดินของระบบไฟฟ้า โดยใช้แบบ TN-C-S การต่อลงดินแบบ TN-C-S เป็นระบบที่ผสมระหว่าง TN-C และ TN-S เข้าด้วยกัน คือ ระหว่างหม้อแปลงถึงตู้ประธานหลัก สายนิวทรอล และสายดิน จะใช้สายตัวนำเส้นเดียวร่วมกัน ตั้งแต่ตู้ประธานหลัก สายนิวทรอล และสายดิน จะแยกตัวนำกันตลอดทั้งระบบ แต่จะมีการต่อถึงกันที่ บัสบาร์ นิวทรอล (N) และ กราวด์ (G) ที่ตู้ประธานของระบบ (MDB) มาตรฐานทางไฟฟ้าต่างๆที่นำมาใช้มักจะมีการปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัยอยู่เสมอ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย จะต้องมีการติดตามหรือหาข้อมูลอยู่เสมอ โดยอาจขอสนับสนุนข้อมูลต่างๆจากวิศวกรหรือช่างเทคนิคในสถานประกอบกิจการ “สถานประกอบกิจการปลอดภัย ใส่ใจมาตรฐาน สินค้าทนทาน และบริการสากล” ข้อมูลอ้างอิง (Reference source)
สามารถติดตาม OHSWA Meet the Professional: Safety Engineer for Jor Por Series เรื่อง “พื้นฐานความปลอดภัยด้านไฟฟ้าที่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยต้องรู้” ในเรื่องต่อไป |