2. �ҡ���º��º˹ѧ�������˹�������䫵� ��ǹ�����˹�һ������úѭ�ͧ˹ѧ��� �����ѡɳ������Ѻ���� Show �. intro.html �. master.html �. index.html �. main.html 3. ���� ����� ����ª��ͧ����觫���Ҿ����Ѻ���䫵� 4. ����ͧ��� ������ Adobe Photoshop ��������. ������§���ͧ���䫵� �. ����觫���Ҿ����Ѻ���䫵� �. ����������������´�ͧ�ٻ�Ҿ����Ѻ���䫵� �. ��á�˹��ͺࢵ�ͧ�ٻ�Ҿ����Ѻ���䫵� 5. ��úѹ�֡��������㴷������ö���ٻ�Ҿ�ҨѴ�ҧ�˹�����ྨ����ͧ������дǡ����Ǵ���Ƿ���ش 6. �ż�Ե����Դ�ҡ��úѹ�֡�ٻ�Ҿ����ա���觫�¤������������ 7. �����§�ӴѺ�Ըա������Ҿ����觫������Ѻ˹�����ྨ 8. �˵�㴨֧����ͧ�ӡ���á���ҧ������Ҿ�����ҡ����觫������Ѻ���䫵� 9. ���� ����� ���˵آͧ����Դ䫵���ӧҹ���١��ͧ 10. ���������� History ��١��ͧ����ش㹡�����ҧ���䫵� ในหลายๆคนคงพอจะทราบกันดีบ้างแล้ว สำหรับ นามสกุลไฟล์ภาพ JPEG PNG เพราะเราต่างเห็นกันผ่านตาอยู่ทุกๆวันไม่ว่าจะทำงานผ่านคอม ทำนำเสนอต่างๆ เพื่อเสนอโปรเจค แต่จริงๆแล้วมันมีมากกว่านั้น ที่นอกเหนือจาก JPEG และ PNG ในปัจจุบัน เรามาทำความรู้จักเพื่อที่เราจะได้นำไปใช้ให้ถูกกับงาน จะได้ไม่ต้องมาบ่นว่าทำไมเปิดไฟล์ไม่ได้กันทีหลัง 1.PNG ( .png ) เหมาะใช้ลงเว็บไซต์ ไฟล์ขนาดเล็กแต่คงคุณภาพของภาพได้ดีสามารถบันทึกภาพแบบไม่มีพื้นหลัง ไว้สำหรับตัดต่อภาพในภายหลังได้ 2.RAW ( .raw ) เป็นไฟล์ที่ไม่ผ่านการตัดต่อย่อขนาดไฟล์ใดๆ รายละเอียดจึงอยู่ครบแต่ขนาดไฟล์จะใหญ่มาก 3.JPEG , JPG ( .jpg ) เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับผู้เริ่มต้น คุณภาพไฟล์จะอยู่ในระดับปานกลางใช้ในสิ่งพิมพ์ระดับทั่วไป 4.BMP ( .bmp ) คุณภาพสู้ JPEG ไม่ได้ แต่สามารถเปิดใช้งานได้ในหลายๆโปรแกรม 5.GIF ( .gif ) มีคุณสมบัติที่เป็นภาพ ที่สามารถเคลื่อนไหวได้ แต่คุณภาพของภาพจะน้อย 6.PICT ( .pic ) เป็นภาพที่ใช้งานได้เฉพาะในโหมด RGB คุณภาพของภาพดีกว่า .png เล็กน้อย 7. TIFF(.tif) เป็นไฟล์ภาพที่ มีรายละเอียดสูงสุดเหมาะกับสื่อสิ่งพิมพ์ มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง 8. AVI (.avi) เป็นไฟล์ภาพยนตร์ ที่ใช้ในโปรแกรม Windows Media Player,Quick Time, ACDsee ในอนาคตอาจมีหลากหลายโปรแกรมยิ่งขึ้น 9. MP4 (.mp4) เป็นไฟล์วิดีโอเช่นกันกับ AVI แต่ขนาดไฟล์จะเล็กกว่า 10. ZIP (.zip) เป็นไฟล์ที่มาจากโปรแกรมบีบอัดข้อมูลไฟล์ต่างๆให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้ง่ายต่อการส่งไฟล์ให้ผู้อื่น ผ่านการอัพโหลดลงในอุปกรณ์ต่างๆ ปัจจุบันนี้คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าการออกแบบเว็บไซต์ให้มีความสวยงาม รูปภาพเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะขาดไปเสียไม่ได้ ให้ลองนึกภาพเว็บไซต์ที่มีแต่ขัอความเพียงอย่างเดียว ความน่าสนใจของตัวเว็บก็จะลดลงอย่างมาก ไม่ว่าจะเว็บไซต์ใดล้วนแต่มีรูปภาพเป็นส่วนประกอบ แม้กระทั่งเว็บอย่าง Wikipedia ที่เป็นเว็บแสดงข้อมูลที่ประกอบด้วยข้อความเป็นส่วนใหญ่ ก็ยังต้องมีรูปภาพเป็นส่วนประกอบของเว็บ อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้รูปภาพก็ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมในการใช้งานในส่วนต่างๆของเว็บด้วย เพราะการเลือกใช้รูปภาพที่มีขนาดที่ใหญ่จนเกินไปก็จะส่งผลให้เว็บไซต์โหลดช้าลง แม้ว่าในปัจจุบันความเร็วของอินเตอร์เน็ตจะพัฒนาไปมากแล้วก็ตาม แต่การนำรูปภาพมาใช้งานบนเว็บไซต์ก็ควรจะคำนึงถึงผู้เข้าชมที่ใช้ความเร็วอินเตอร์เน็ตในทุกระดับความเร็วด้วย ไฟล์รูปภาพนามสกุลต่างๆที่นิยมนำมาใช้บนเว็บไซต์ มีดังต่อไปนี้ 1. ไฟล์รูปภาพ JPEG (.jpg/.jpeg)เป็นไฟล์ภาพที่ใช้กันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1992 เหตุที่ใช้ชื่อว่า JPEG ก็เพราะว่าถูกพัฒนาขึ้นโดย Joint Photographic Experts Group ซึ่ง JPEG ก็คือชื่อย่อของกลุ่มดังกล่าว JPEG เป็นไฟล์ภาพที่มีขนาดเล็กมาก โดยสามารถบีบอัดแบบ Lossy Compression สามารถบีบอัดไฟล์ได้ในอัตรา 1: 10 ด้วยความที่มีขนาดเล็กนี่เองจึงทำให้ได้รับความนิยมสูงมาก ไฟล์ JPEG เป็นภาพแบบ Raster แสดงผลได้ถึง 16 ล้านสี เหมาะกับภาพที่มีจำนวนสีมากๆเช่นภาพถ่าย หรือภาพกราฟิกที่มีความซับซ้อน ทั้งนี้ไฟล์ JPEG ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้กับงานพิมพ์ (CMYK) เพราะเป็นการบีบอัดไฟล์แบบสูญเสียคุณภาพ และคำถามที่น่าจะมีคนสงสัยว่าทำไมไฟล์ JPEG ถึงมีทั้ง .jpeg และ .jpg ตรงนี้เป็นเรื่องของข้อจำกัดของระบบไฟล์แบบ FAT-16 ที่ใช้ในระบบปฏิบัติการ MS-DOS มาจนถึง Windows 3.11 ที่อนุญาตให้ไฟล์มีนามสกุลได้แค่ 3 ตัวอักษรเท่านั้น ซึ่งต่างจากระบบปฏิบัติการที่เป็น UNIX อย่าง Mac หรือ Linux ที่จะไม่มีข้อจำกัดนี้ ทำให้ไฟล์ jpeg ที่ใช้ใน Mac หรือ Linux จะเป็น .jpeg แต่เมื่อนำมาใช้ใน Windows ตั้งแต่ 3.11 ลงไป ก็จะเหลือแค่ .jpg ซึ่งปัจจุบัน Windows ไม่มีข้อจำกัดนี้แล้ว การ Export ไฟล์ประเภทนี้จากโปรแกรมสร้าง, ปรับแต่งภาพเช่น Photoshop ให้ตั้งค่า Quality ที่ 90% จะได้ไฟล์ที่มีขนาดไม่ใหญ๋เกินไปและความคมชัดเพียงพอต่อการใช้งานบนเว็บไซต์ 2. ไฟล์รูปภาพ PNGPNG ย่อมาจากคำว่า Portable Network Graphic เป็นไฟล์ภาพ Raster เหมือน jpg แต่จะเป็นไฟล์ที่มีคุณภาพสูงกว่าและสามารถทำเป็นภาพแบบพื้นหลังโปร่งใสได้ ไฟล์ PNG ใช้วีธีการบีบอัดแบบ Lossless Compression ไม่สูญเสียคุณภาพ ทำให้มีคุณภาพที่สูงกว่า JPEG แต่ก็ต้องแลกมาด้วยขนาดไฟล์ที่ใหญ่ จึงไม่ค่อยนิยมนำไฟล์ PNG มาใช้เป็นภาพถ่าย เนื่องจากไฟล์ PNG รองรับการทำพื้นหลังแบบโปร่งใสนี่เอง จึงนิยมนำไฟล์ PNG ไปใช้เฉพาะภาพที่ต้องการให้มีพื้นหลังโปร่งใส เช่น Logo เป็นต้น 3. ไฟล์รูปภาพ GIFไฟล์ GIF (Graphics Interchange Format) ใช้วีธีการบีบอัดแบบ Lossless Compression แบบเดียวกับ PNG แต่จะต่างกันตรงที่ไฟล์ GIF แสดงผลได้แค่ 256 สี ทำให้ไม่นิยมนำไฟล์ GIF มาใช้เป็นไฟล์ภาพถ่าย ข้อดีของไฟล์ GIF คือรองรับการทำภาพเคลื่อนไหว รวมถึงภาพแบบพื้นหลังโปรงใส จึงมักจะเห็นการนำไฟล์ GIF มาใช้ในแบบภาพเคลื่อนไหวมากที่สุด 4. ไฟล์รูปภาพ SVGSVG ย่อมาจากคำว่า Scalable Vector Graphics เป็นไฟล์ภาพแบบ Vector รองรับภาพแบบพื้นหลังโปร่งใส และสามารถย่อ ขยาย ได้โดยไม่เสียคุณภาพ จึงเหมาะสำหรับนำมาใช้ในงาน Logo, Icon เป็นต้น ปัจจุบันไฟล์ SVG ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากขนาดไฟล์ที่เล็กและเส้นต่างๆที่ทำให้เกิดภาพนั้นเกิดจากภาษา XML ทำให้ตกแต่งสไตล์ด้วย CSS ได้ 5. ไฟล์รูปภาพ WebPWebP เป็นมาตรฐานไฟล์ภาพใหม่จาก Google เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งในระยะหลังเริ่มมีการใช้กันบ้างแล้วโดยเฉพาะในต่างประเทศ WebP มีขนาดไฟล์ที่เล็กกว่า JPEG ประมาณ 25-34% จากการบีบอัดไฟล์ที่มากกว่าแต่สูญเสียคุณภาพไปน้อยมาก แถมมีข้อดีกว่า JPEG คือรองรับภาพแบบพื้นหลังโปร่งใส และยังรองรับการทำภาพแบบเคลื่อนไหวอีกด้วยเรียกได้ว่ารวมข้อดีของทั้ง JPEG PNG GIF ไว้ในตัวเดียวกัน ไฟล์ Raster และ Vector ต่างกันอย่างไรไฟล์แบบ Raster | หรือที่นิยมเรียกกันว่า Bitmap เกิดจากการเรียงตัวของจุดสีในลักษณะช่องสีเหลี่ยมเล็กๆ ที่เรียกว่า Pixel อัดกันแน่นจนกลายเป็นภาพ ไฟล์แบบนี้เหมาะกับภาพที่มีความซับซ้อนของสีมากๆ เช่นภาพถ่าย ข้อเสียของไฟล์แบบ Raster คือเมื่อมีการขยายภาพจะทำให้สูญเสียคุณภาพของรูปภาพไป ไฟล์รูปแบบ Vector | เป็นการสร้างภาพโดยใช้เส้นหรือวัตถุรูปทรงเลขาคณิต มาคำนวณพิกัด X, Y เมื่อมีการย่อ ขยาย ภาพ จะมีการคำนวณพิกัด X, Y ใหม่ ทำให้ไม่สูญเสียคุณภาพ อย่างไรก็ดี ไฟล์รูปภาพแบบนี้ไม่เหมาะกับการนำไปใช้กับภาพที่มีความซับซ้อนของสีมากๆอย่างภาพถ่าย ก่อนจะจบบทความการเลือกใช้รูปภาพให้เหมาะกับเว็บไซต์ก็อยากจะขอแนะนำโปรแกรมแต่งรูปภาพ ฟรี และดีมากๆPhotoScape โฟโต้สเคป เป็นโปรแกรมแต่งรูปภาพจากประเทศเกาหลีใต้ พัฒนาโดย MOOII Tech คอนเซ็ปของโปรแกรมคือต้องใช้งานได้ง่ายและสนุก ตัวโปรแกรมมีฟีเจอร์ต่างๆสำหรับแต่งรูปภาพในระดับเบื้องต้นค่อนข้างครบครัน เช่น ไฟล์ภาพชนิดใดที่นิยมใช้ในการทำเว็บมากที่สุด3. PNG. เป็นรูปแบบไฟล์ที่นิยมใช้งานบนเว็บไซต์มากที่สุด ไม่เหมาะกับงานพิมพ์ เพราะไฟล์ PNG ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานแทนไฟล์ GIF.
ข้อใดเป็นชนิดของไฟล์รูปภาพที่เหมาะสำหรับนำลงเว็บไซต์1.PNG ( .png ) เหมาะใช้ลงเว็บไซต์ ไฟล์ขนาดเล็กแต่คงคุณภาพของภาพได้ดีสามารถบันทึกภาพแบบไม่มีพื้นหลัง ไว้สำหรับตัดต่อภาพในภายหลังได้
ภาพที่นำมาใช้ในเว็บเพจมีกี่ประเภท อะไรบ้างการนาภาพกราฟิกมาใช้ในเว็บเพจนิยมใช้ภาพ 3 ฟอร์แมต (นามสกุล) คือ .gif , . jpg และ . png ซึ่งมีรายละเอียดของภาพแต่ละชนิด ดังนี้
ไฟล์ภาพชนิดใดที่เหมาะกับงานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไฟล์กราฟิกที่สนับสนุนระบบอินเทอร์เน็ต ปัจจุบันมี 3 ไฟล์หลัก คือ 1. ไฟล์สกุล GIF ( Graphics Interlace File) 2. ไฟล์สกุล JPG ( Joint Photographer's Experts Group) 3. ไฟล์สกุล PNG ( Portable Network Graphics)
|