Show
ระบบเผาผลาญ (Metabolism) คือ กระบวนการทางเคมีที่ช่วยทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้ อัตราการเผาผลาญพลังงานนั้นขึ้นอยู่แต่ละบุคคล บางคนระบบเผาผลาญไม่ดี ช้าก็อาจทำให้มีแคลลอรี่หลงเหลืออยู่มาก และก็นำไปเก็บสะสมไว้เป็นไขมันแทน ในทางตรงข้ามกัน คนที่มีระบบเผาผลาญดี เร็วก็จะเผาผลาญแคลลอรี่ได้มากและเหลือสะสมเป็นไขมันได้น้อยกว่า ในบทความนี้จะอธิบายว่าทำไมบางคนถึงมีระบบการเผาผลาญที่เร็ว และเราสามารถเพิ่มอัตราการเผาผลาญในการเผาไหม้แคลลอรี่ได้อย่างไร ระบบเผาผลาญ หรือเมตาบอลิซึมเมตาบอลิซึม หรือระบบการเผาผลาญคือกระบวนการทางเคมีในร่างกายของเรา เมื่อมีระบบเผาผลาญเร็ว ร่างกายก็ต้องการแคลลอรี่มากขึ้นด้วย ระบบเผาผลาญคือเหตุผลว่าทำไมบางคนรับประทานเยอะแต่น้ำหนักไม่เพิ่มขึ้น ในขณะที่บางคนไม่เป็นเช่นนั้น ความเร็วของระบบการเผาผลาญคือที่รู้กันดีว่าอัตราการเผาผลาญพลังงาน เป็นจำนวนแคลลอรี่ที่ถูกเผาผลาญในแต่ละครั้งที่เรียกว่า พลังงานทั้งหมดที่ร่างกายใช้ อัตราการเผาผลาญสามารถแบ่งออกเป็นประเภทดังต่อไปนี้:
ปัจจัยที่มีส่วนช่วยในกระบวนการเมตาบอลิซึมมีปัจจัยมากมายที่ส่งผลต่ออัตราการเผาผลาญได้ เช่น:
โหมดประหยัดพลังงานคืออะไรระบบเผาผลาญสามารถปรับตัวเองได้ อย่างที่รู้กันว่าเป็นการปรับเพื่อรักษาร่างกายหรือที่เรียกว่า “โหมดประหยัดพลังงาน” ซึ่งอาจมีบทบาทที่สำคัญในการเกิดโรคอ้วน โหมดประหยัดพลังงานคือ การตอบสนองของร่างกายกับการรับประทานอาหารให้น้อยกว่าพลังงานที่ใช้ออกไป เมื่อร่างกายได้รับอาหารไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะพยายามชดเชยด้วยการลดอัตราการการเผาผลาญพลังงานในร่างกายและจำนวนการเผาไหม้แคลลอรี่ลง ขอบเขตของอัตราการเผาผลาญที่ลดลงในระหว่างการจำกัดพลังงาน และลดน้ำหนักจะสูงแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เมื่อการเผาผลาญลดลงคือจะเห็นชัดในบางคน โดยเฉพาะคนที่มีภาวะโรคอ้วน ยิ่งลดลงมากขึ้นก็ยิ่งทำให้มันยิ่งยากในการลดน้ำหนักหรืออดอาหาร เมื่อระบบการเผาผลาญพลังงานมากขึ้นจะช่วยลดน้ำหนักได้หรือไม่การลดน้ำหนักไม่ใช่เพียงแค่การรับประทานอาหารที่มีแคลลอรี่น้อยเท่านั้น ประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักอาจรวมไปถึงการเพิ่มอัตราการเผาผลาญด้วย ต่อไปนี้คือ 8 วิธีง่ายๆในการเพิ่มการเผาผลาญ 1. เคลื่อนไหวร่างกายเสมอทุกๆการเคลื่อนไหวต้องใช้แคลลอรี่ ยิ่งมีการเคลื่นไหวมากเท่าไรอัตราการเผาผลาญก็จะเพิ่มมากขึ้น แม้จะเป็นเพียงแค่กิจกรรมพื้นฐานง่ายๆก็ตามเช่น การลุกขึ้นยืนบ่อยๆ การเดินไปรอบๆหรือการทำงานบ้าน วิ่งยาวๆ การเสริมสร้างอัตราการเผาผลาญคือเทคนิคที่เรียกว่า การเผาผลาญโดยไม่ต้องออกกำลังกาย (NEAT) มีหลายวิธีที่จะช่วยสร้างการเผาผลาญโดยไม่ต้องออกกำลังกาย (NEAT) หากคุณใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งอยู่กับที่ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้:
หากคุณทำงานบนโต๊ะ ให้เลือกใช้โต๊ะแบบยืน อาจช่วยเพิ่มการเผาไหม้แคลลอรี่ได้มากขึ้นถึง 16% จากการศึกษาพบว่าคนที่ใช้เวลาช่วงบ่ายด้วยการยืนสามารถช่วยเผาผลาญมากกว่าคนที่นั่งได้มากถึง 174 แคลลอรี่ คนที่ทำกิจกรรมเล็กๆน้อยๆเช่นการพิมพ์อาจเพิ่มอัตราการเผาผลาญได้มากถึง 8% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ทำอะไรเลย ในทางเดียวกัน การไม่อยู่นิ่งสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างเห็นได้ชัดเจน การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอที่มักถูกแนะนำสำหรับทุกนที่ต้องการลดน้ำหนักหรือต้องการมีสุขภาพดีขึ้น แต่การทำกิจกรรมเล็กๆน้อยๆเช่นการเดินไปเดินมา การทำงานบ้าน การไม่อยู่นิ่งนั้นสามารถส่งผลได้พอๆกับการวิ่งระยะยาว 2. การออกกำลังกายแบบหนักหน่วงหนึ่งในการออกกำลังกายที่มีประสิทธิผลอย่างหนึ่งคือการออกกำลังแบบหนัก หรือที่รู้จักกันดีว่า การออกกำลังที่มีความเข้มข้นสูง (HIIT) HIIT คือการออกกำลังกายแบบเร็วและเข้มข้น เช่น การวิ่งเร็วๆหรือการวิดพื้นเร็วๆ เพื่อเป็นการเร่งการเผาผลาญ เมื่อออกกำลังกายเสร็จแล้วร่างกายจะยังคงส่งผล “ให้การเผาผลาญสูงคงอยู่หลังการออกกำลัง” 3. การฝึกกล้ามเนื้อเป็นอีกวิธีหนึ่งในการเร่งอัตราการเผาผลาญก็คือการฝึกกล้ามเนื้อ จำนวนกล้ามเนื้อที่คุณมีมีผลโดยตรงกับอัตราการเผาผลาญของคุณ ไม่เหมือนมวลไขมัน มวลกล้ามเนื้อจะเพิ่มการเผาผลาญแคลลอรี่ในขณะพักผ่อนได้ เมื่อเราอายุมาากขึ้นกล้ามเนื้อของเราก็จะเริ่มหายไป และทำให้อัตราการเผาผลาญลดต่ำลง แต่การออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอสามารถส่งผลให้ดีได้ 4. รับประทานโปรตีนการรับประทานโปรตีนที่เหมาะสมคือสิ่งที่จำเป็นที่เราต้องการเพื่อเสริมสร้าง และรักษามวลกล้ามเนื้อไว้ แต่การรับประทานโปรตีนยังมีผลดีที่สำคัญอื่นๆอีกด้วย อาหารทุกอย่างสามารถช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญได้ชั่วคราว แต่การรับประทานโปรตีนส่งผลที่ดีได้มากกว่าการทานคาร์บหรือไขมัน TEF จะพุ่งสูงในตอนเช้าและในช่วงระหว่างสองสามชั่วโมงแรกหลังตื่นนอน เพราะเหตุผลนี้เอง การเลือกรับประทานอาหารในปริมาณมากในช่วงเช้าของวันจึงส่งผลดีได้มากกว่า 5. อย่าปล่อยให้ตัวเองอดอาหารในขณะที่การรับประทานน้อยคือกุญแจที่สำคัญในการลดน้ำหนัก แต่การกินน้อยเกินไปมักจะส่งผลเสียในระยะยาวได้ นั่นเป็นเพราะการจำกัดพลังงานเป็นสาเหตุทำให้อัตราการเผาผลาญลดลง ผลกระทบนี้มาจากการเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน หรือการปรับตัวของการเผาผลาญ เพื่อไม่ให้ร่างกายอดอาหารและเสียชีวิต 6. การดื่มน้ำการเสริมสร้างอัตราการเผาผลาญชั่วคราวนั้นไม่ใช่เรื่องซับซ้อน เป็นเรื่องง่ายมากเพียงแค่ลุกเดินไปหยิบน้ำเย็นดื่มเท่านั้นเอง หลายการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการดื่มน้ำอาจนำไปสู่การเผาผลาญที่เพิ่มมากขึ้น การดื่มน้ำเย็นส่งผลได้ดีกว่าการดื่มน้ำอุ่น เพราะร่างกายต้องการสร้างความอบอุ่นเพื่อคงอุณหภูมิของร่างกาย คุณสามารถได้ประโยชน์สูงสุดได้ด้วยการดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร เพื่อทำให้รู้สึกอิ่มและลดจำนวนแคลลอรี่ที่จะรับประทานเข้าไปได้ 7. ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนถึงแม้การดื่มน้ำเปล่าจะดีต่อร่างกาย แต่การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน แคลลอรี่ต่ำ เช่น กาแฟหรือชาเขียวก็มีประโยชน์เช่นกัน จากการศึกษาแบบควบคุมแสดงให้เห็นว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสามารถเร่งอัตราการเผาผลาญชั่วคราวได้ 3-11% แต่อย่างไรก็ตามผลที่ได้นี้มีน้อยในคนที่เป็นโรคอ้วน และผู้สูงอายุ 8. นอนหลับให้เพียงพอการนอนไม่พอเพียงไม่ใช่แค่แย่ต่อสุขภาพอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังไปลดอัตราการเผาผลาญ และเพิ่มความเสี่ยงให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นด้วย จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าอัตราการเผาผลาญลดลง 2.6% ในผู้ใหญ่ที่นอนได้เพียง 4 ชั่วโมงต่อคืนในช่วง5วัน การนอนไม่พอเพียงมีส่วนทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนและมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ประเด็นสำคัญถึงแม้อัตราการเผาผลาญพื้นฐานของเราจะอยู่นอกเหนือการควบคุทได้ แต่ก็ยังมีอีกหลายวิธีที่สามารถช่วยเพิ่มจำนวนการเผาไหม้แคลลอรี่ได้ ซึ่งวิธีดังกล่าวในบทความนี้สามารถช่วยเสริมสร้างการเผาผลาญได้ แต่อย่างไรก็ตาม การเผาผลาญไม่ใช่ทุกสิ่งเพื่อการลดน้ำหนัก สิ่งที่จำเป็นจริงๆคือการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และมีความสมดุล นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
อะไรที่ควบคุมการเผาผลาญสารอาหารในร่างกายเลปติน เป็นฮอร์โมนที่สำคัญอย่างยิ่งของคนที่อยากควบคุมน้ำหนัก เพราะเป็นฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมความอยากอาหารและการเผ่าผลาญพลังงาน ร่างกายของเราสร้าง เลปติน ขึ้นได้เอง การดูแลสุขภาพของเราให้แข็งแรงอยู่เสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนเพียงพอ ก็จะช่วยให้ เลปติน ทำหน้าที่ได้อย่างเป็นปกติ
ระบบเผาผลาญดีคืออะไรอะไรคือ "เมตาบอลิซึ่ม"? Metabolism คือระบบการเผาผลาญ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญสำหรับสาวๆ ที่อยากมีรูปร่างดีสมส่วน เพราะระบบการเผาผลาญนี้จะทำหน้าที่เผาผลาญอาหารที่เรารับประทานเข้าไป พร้อมกระจายสารอาหารต่อไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อระบบการเผาผลาญดี ก็จะช่วยให้ร่างกายของเรามีปริมาณไขมันน้อยลง พร้อมกับมีมวลกล้ามเนื้อมากขึ้น
ร่างกายเผาผลาญยังไงกระบวนการเผาผลาญ เป็นปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ที่ต้องใช้วิตามิน เกลือแร่ และสารอาหารจำเป็น การลดหรือควบคุมน้ำหนักอาจทำให้เซลล์ร่างกายเริ่มขาดแคลอรีและสารอาหารจำเป็น เซลล์จะเริ่มปรับตัวหรือเข้าสู่ภาวะจำศีล เพื่อลดการเผาผลาญ เพื่อให้เหลือพลังงานสะสมชดเชยกับที่ร่างกายขาดแคลน และอาจดึงไขมันสะสมเก็บไว้เพื่อเป็นพลังงานสำรองยาม ...
เนื้อเยื่อไขมันสร้างฮอร์โมนตัวใดควบคุมความอ้วยLeptin คือ ฮอร์โมนที่ช่วยในการควบคุมความหิว ผลิตมาจากเซลล์ไขมัน (White adiposyte) และผลิตได้บ้างเล็กน้อยในเซลล์ชนิดอื่น ๆ รวมถึงรกในหญิงตั้งครรภ์ โดยการส่งสัญญาณ ผ่านกระแสเลือกไปยังตัวรับสัญญาณที่สมองส่วน ไฮโพทาลามัส (Hypothalamus) ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมระบบเมแทบอลิซึม (Metabolism) ของร่างกาย เลปตินทำหน้าที่เป็นตัวบอกสมอง ...
|