กระเป๋าแบบไหนสามารถโหลดใต้เครื่องได้

เวลาไปเที่ยว เรามักมีเรื่องที่ต้องเตรียมตัวหลายเรื่อง และเรื่องที่พบคำถามบ่อยที่สุดเรื่องนึง สำหรับการเตรียมตัวท่องเที่ยวคือ กระเป๋าขึ้นเครื่องเป็นแบบไหนดีค่ะ กระเป๋าแบบนี้เอาขึ้นเครื่องได้หรือเปล่า น้ำหนักของกระเป๋าถือขึ้นเครื่องคือเท่าไหร่ และอีกมากมายที่หลายๆ คนมีความสับสน หรือไม่แน่ใจ วันนี้ Vacation On จะมาไขข้อข้อใจให้กับทุกคนค่ะ

กระเป๋าแบบไหนถือขึ้นเครื่องได้บ้าง

ทุกสายการบินจะกำหนดกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่องได้ต้องไม่เกินคนละ 2 ชิ้น คือกระเป๋าสำหรับใส่สัมภาระเดินทาง 1 ใบ กระเป๋าเล็กสำหรับใส่ของที่สำคัญอีก 1 ใบ และมีน้ำหนักกระเป๋ารวมกันไม่เกิน 5 – 10 กิโลกรัม ขึ้นอยู่แต่ละสายการบินและประเภทตั๋วที่เราเลือกบิน ส่วนรูปแบบกระเป๋าในการถือขึ้นเครื่องในปัจจุบันก็มีหลากหลายรูปแบบ ให้เราเลือกได้ตามความต้องการของเราเลยคะ แค่ต้องมีขนาด และน้ำหนักของกระเป๋าตามที่สายการบินกำหนดขึ้นมาเท่านั้น รูปแบบกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่องได้ และพบเห็นได้บ่อยๆ คือ 

กระเป๋าเป้สะพายหลัง

กระเป๋าเป้สะพายหลังก็มีหลายรูปแบบ หลายขนาดให้เราเลือกนะคะ กระเป๋าประเภทนี้เหมาะสำหรับการเที่ยว backpacker ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ต้องกลัวยับ และไม่ต้องกลัวการเสียหาย เพราะกระเป๋าเป้ส่วนใหญ่เป็นผ้าและมีรูปทรงที่ยืดหยุ่นได้ แต่ไม่สามารถปกป้องของที่แตกหักเสียหายได้ง่ายได้

กระเป๋าหิ้ว

กระเป๋าเสื้อแบบหิ้วก็เป็นกระเป๋าที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ เช่นเดียวกับกระเป๋าประเภทอื่น เพียงแต่ในปัจจุบันพบเห็นได้น้อยลง อาจเพราะมีความสะดวกในการใช้งานน้อยกว่า ถ้าใส่ของมากเกินไปก็จะหิ้วลำบาก แต่กระเป๋าหิ้วก็สามารถที่จะใส่ของได้เยอะพอๆ กับกระเป๋าเดินทางแบบลากเลยนะคะ 

กระเป๋าเดินทางแบบล้อลาก

กระเป๋าเดินทางแบบล้อลากเป็นกระเป๋าเดินทางที่พบเห็นได้บ่อยมากๆ ในปุจจุบัน หลายๆคนนิยมใช้กันเพราะมีขนาดให้เลือกหลากหลาย มีด้ามจับและล้อลากที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน และมีความแข็งแรงคงทนมาก สามารถใส่สิ่งของที่มีโอกาสแตกหักเสียหายได้ดี มีช่องแบ่งเป็นสัดส่วน ทำให้กระเป๋าเดินทางแบบล้อลากเป็นกระเป๋าที่หลายๆ คนเลือกใช้ถือขึ้นเครื่อง

ขนาดของกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่องได้

อย่างที่ได้บอกไปในตอนต้นว่า ทุกสายการบินมีกฏให้เราสามารถพกกระเป๋าขึ้นเครื่องได้ไม่เกินคนละ 2 ใบ และมีน้ำหนักรวมกันไม่เกิน 5 – 10 กิโลกรัม ตามแต่ละสายการบินกำหนด แต่นอกเหนือจากการกำหนดจำนวนชิ้น และน้ำหนักแล้ว ขนาดของกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่องก็ถูกกำหนดไว้เช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น สายการบินยอดฮิตของคนไทย อย่างสายการบินแอร์เอเชีย กำหนดขนาดของกระเป๋าสัมภาระที่ถือขึ้นเครื่องไว้ที่ ต้องมีขนาดไม่เกิน 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. เมื่อรวมกับด้ามจับ ล้อ และกระเป๋าด้านข้าง และกระเป๋าเล็กที่ใส่ของจำเป็นขนาดไม่เกิน 40 ซม. X 30 ซม. X 10 ซม. ขึ้นห้องโดยสารได้อีก 1 ใบ โดยกระเป๋าดังกล่าวต้องมีขนาดที่สามารถจัดเก็บไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าได้

กระเป๋าแบบไหนสามารถโหลดใต้เครื่องได้
ขนาดกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง

ขนาดกระเป๋าถือขึ้นเครื่องแต่ละสายการบิน

  • แอร์เอเชีย  56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม.  7 กิโลกรัม
  • ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. 7 กิโลกรัม
  • นกแอร์ 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. 7 กิโลกรัม
  • นกสกู๊ต 54 ซม. x 38 ซม. x 23 ซม. 7 กิโลกรัม (+3 กิโลกรัมในกรณีที่มีโน๊ตบุ๊คติดตัว)
  • สกู๊ต 54 ซม. x 38 ซม. x 23 ซม. 10 กิโลกรัม
  • ไทยไลอ้อนแอร์ 30 ซม. x 40 ซม. x 20 ซม. 7 กิโลกรัม
  • สายการบินไทย 56 ซม. x 45 ซม. x 25 ซม. 7 กิโลกรัม
  • ไทยสไมล์ 36 ซม. x 56 ซม. x 23 ซม. 7 กิโลกรัม
  • บางกอกแอร์เวย์ 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. 5 กิโลกรัม

ห้ามนำอะไรใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง

  • เครื่องดื่มหรือเครื่องสำอางค์: ต้องมีขนาดบรรจุภัณฑ์ไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และต้องมีข้อความระบุปริมาตรชัดเจน สามารถนำไปได้มากกว่า 1 ชิ้น แต่ต้องมีปริมาตรรวมกันสูงสุดไม่เกินคนละ 1,000 มิลลิลิตร
  • ของมีคม: ของที่มีความคมที่สามารถใช้ทำร้ายคนอื่นได้ เช่น ไม้บรรทัดเหล็ก คัตเตอร์ กรรไกรตัดเล็บ เข็มเย็บผ้า มีด มีดพับ มีดพก และของมีคมทุกชนิด
  • แบตเตอร์รี่สำรอง: แบตเตอร์รี่สำรองทุกชนิดที่มีค่าความจุไฟฟ้าไม่เกิน 32,000 mAh (เพิ่มเติม Powerbank ที่สามารถนำขึ้นเครื่องได้)
  • อาวุธปืนและอาวุธทุกชนิด: อาวุธเป็นสิ่งที่ห้ามนำติดตัวขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด นอกจากจะมีใบอนุญาติ และมีการแจ้งตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว
  • วัตถุไวไฟ: วัตถุที่สามารถติดไฟได้ง่าย เช่น น้ำมันไฟแช็ก เชื้อเพลิงแข็ง สีน้ำมัน ไม้ขีดไฟ ฯลฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการระเบิด หรือเกิดเพลิงไหม้บนเครื่องบินขณะเดินทาง
  • อาหารที่มีกลิ่นแรง: อาหารต่างๆที่มีกลิ่นแรง ที่อาจส่งกลิ่นรบกวนผู้โดยสารคนอื่นได้ เช่น อาหารทะเล เนื้อสัตว์สด/แช่แข็ง ทุเรียน ปลาร้า เป็นต้นค่ะ
  • สัตว์มีพิษ สัตว์ดุร้าย: สัตว์มีพิษร้ายแรง หรือสัตว์ดุร้ายไม่สามารถขึ้นเครื่องบินไปกับเราได้ เช่น งู แมงป่อง เป็นต้น
  • สารอันตรายต่างๆ: สารที่มีความอันตรายต่างๆ เช่น สารกำจัดแมลง สารหนู วัตถุออกซิไดซ์ เช่น แอมโมเนียไนเตรท แคลเซียมเปอร์ออกไซด์ วัตถุก๊าซมันตภาพรังสี เช่น ธาตุยูเรเนียม วัตถุกัดกร่อน เช่น แบตเตอรีที่บรรจุสารกัดกร่อน น้ำกรด ปรอท ฯลฯ

เลือกกระเป๋าถือขึ้นเครื่องแบบไหนดี

กระเป๋าแบบไหนสามารถโหลดใต้เครื่องได้

การเลือกกระเป๋าสำหรับใช้ถือขึ้นเครื่อง ก็เป็นเรื่องที่มองข้ามไปไม่ได้เช่นกันนะคะ หลักในการเลือกกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง มีเรื่องที่ต้องคิดถึงหลักๆ 5 เรื่องด้วยกันคือ 

1. เลือกตามรูปแบบการเดินทาง

การเลือกตามรูปแบบการเดินทางคือ การเดินทางของเราในทริปนั้นๆ เรามีรูปแบบการเดินทางแบบไหน เดินทางด้วยอะไรเป็นหลัก เช่น ถ้าทริปนั้นเป็นการเดินทางไปเที่ยวเขา ต้องมีการเดินป่า ปีนเขา กลางเต้นท์ กระเป๋าที่เราควรเลือกก็ควรเป็นกระเป๋าสะพายหลังดีๆ ที่รองรอบสรีระในการแบกน้ำหนัก หรือถ้าเป็นทริปเดินท่องเที่ยวในเมือง มีการเดินทางที่สะดวกสบาย หรือเดินช็อปปิ้งชิวๆ กระเป๋าที่เหมาะก็ควรเป็น กระเป๋าที่มีล้อลากเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินซื้อของ หรือเคลื่อนย้าย

2. เลือกตามวัตถุประสงค์ในการเดินทาง

เลือกตามวัตถุประสงค์ในการเดินทางคือ ถ้าการเดินทางของเราในครั้งนั้นเป็นการเดินทางเพื่อไปทำงาน หรือไปงานที่มีความเป็นทางการอยู่ เสื้อผ้าที่เรานำไปด้วยจงมักเป็นเสื้อผ้าที่มีความยับง่าย หรือเป็นเสื้อผ้าที่ต้องอยู่ทรง เช่น สูท หรือชุดราตรี ดังนั้นกระเป๋าเดินทางที่เราเลือก ก็ควรเป็นกระเป๋าเดินทางที่มีทรง สามารถเรียงเสื้อผ้าขอเราให้ยับน้อยที่สุดได้ เช่นกระเป๋าล้อลากทรงแข็ง เพื่อที่จะถนอมชุด และประหยัดเวลาในการเตรียมชุดเมื่อไปถึงงานที่เราต้องไป ในทางกลับกันถ้าเราเลือกใช้กระเป๋าเป้สะพายใส่เสื้อผ้าเหล่านี้ เมื่อเราไปถึงจุดหมายปลายทาง เสื้อผ้าของเราก็คงยับย่นไม่สวยงาม และยิ่งถ้าไม่เหลือเวลาให้ส่งรีดที่โรงแรมด้วยแล้ว อาจทำให้เราดูไม่ดีในสายตาผู้พบเห็นได้ค่ะ

3. เลือกที่ความแข็งแรง คงทน

เลือกที่ความคงทน แข็งแรงของตัวกระเป๋า เป็นเรื่องที่สำคัญมากนะคะ บ่อยครั้งที่เรามักเจอกับปัญหาการชำรุดเสียหายตอนเราเดินทางอยู่ต่างประเทศ เช่น ล้อลากกระเป๋าแตกทำให้กระเป๋าลากไม่ไป หรือมีความฝืดเวลาลาก ทำให้เราเคลื่อนย้ายไม่สะดวก ดังนั้นเวลาที่เราจะเลือกกระเป๋าเดินทาง ขึ้นเครื่องก็ควรคำนึงถึงความคงทน แข็งแรง ของตัวกระเป๋าเป็นหลัก เลือกแบร์นกระเป๋าที่ดี มีศูนย์ดูแลหลังการขาย และมีมาตรฐานในการผลิต

4. เลือกที่ความสวยงาม

ความสวยงามถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่คิดถึง แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามนะคะ ในการเลือกควรเลือกเป็นสีเรียบๆ ที่สามารถใช้ได้บ่อย และไม่ดูเก่าง่ายจนเกินการ สามารถเข้าได้กับการแต่งกายทุกการแต่งกาย เช่น สีพื้นฐานอย่างสีดำ สีน้ำตาล ก็เป็นตัวเลือกที่นิยมตลอดการ

5. เลือกที่ราคา

กระเป๋าเดินทางแต่ละขนาด มีราคาไม่เท่ากัน และแต่ละยี่ห้อก็มีราคาไม่เท่ากัน โดยอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านบนทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมาค่ะ จึงเกิดเป็นราคาของกระเป๋าเดินทาง ในคำแนะนำของขิง จากที่เคยใช้งานกระเป๋าเดินทางมาหลายใบ ใช้มาหลายครั้ง ลากมาหลายกิโลเมตร แนะนำว่าถ้าขนาดกระเป๋า (เฉพาะกระเป๋าเดินทางนะคะ) ประเภทกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง ควรมีราคาประมาณ 2,000 – 6,000 บาท กำลังดีค่ะ เหตุผลเพราะว่า กระเป๋าเดินทางนั้นไม่ใช่กระเป๋าอมตะค่ะ คือมีสิทธิ์จะพังได้ทุกเมื่อถ้าใช้งานหนักๆ เวลาพัง ล้อเสีย บุบ แตก เราจะได้ไม่เสียดายเงินมากเกินไปค่ะ

ถ้ากระเป๋าถือขึ้นเครื่องเกินขนาดที่กำหนดต้องทำยังไง

ถ้ากระเป๋าถือขึ้นเครื่องที่เราเตรียมไป มีขนาดหรือน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินกำหนด เราจะต้องนำกระเป๋าสัมภาระชิ้นนั้น ไปทำการเช็คอินที่เคาเตอร์ เพื่อโหลดกระเป๋าของเราลงใต้ท้องเครื่องบิน และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการโหลดกระเป๋าด้วย เพราะคงไม่มีใครสามารถจะทิ้งของทั้งหมดและบินไปตัวเปล่าได้แน่นอน เพราะฉะนั้นทางที่ดีเราควรเตรียมกระเป๋า ตามที่สายการบินกำหนดเพื่อไม่ต้องเสียเวลา และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนนี้ค่ะ

การเตรียมกระเป๋าถือขึ้นเครื่องให้พร้อม ในเรื่องของรูปแบบ ขนาด และประเภทของกระเป๋าที่เราจะใช้ในการเดินทาง และสิ่งที่เราควรทำคือ การปฏิบัติตามกฎของแต่ละสายการบินให้ถูกต้อง เป็นเรื่องที่เราควรให้ความสำคัญมากๆ นะคะเราจะได้ไม่ต้องมาเสียทั้งเวลา และเงินทองเพิ่มโดยไม่จำเป็น