สำหรับ Xiaomi Redmi Note 10 5G กับ Xiaomi Redmi Note 10 4G ก็ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการกันไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น ก็มีสเปค กับจุดเด่นที่แตกต่างกันบางส่วน รวมถึงราคาวางจำหน่ายด้วยเช่นกัน Show โดยรุ่น Redmi Note 10 5G จะมีสเปคบางจุดที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด เริ่มตั้งแต่หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 X 1080 พิกเซล) จอรีเฟรชเรท 90Hz ความสว่างของจอ 1100 nits หน้าจอได้รับการเจาะรูตรงกึ่งกลางบนของหน้าจอแสดงผลสำหรับวางกล้องหน้า
ใช้ชิปเซ็ต Dimensity 700 ของ MediaTek ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 7 นาโนเมตร ซึ่งให้ความแรงกว่าเดิม 20% และประหยัดไฟฟ้ามากขึ้นถึง 40%, RAM 4GB/8GB, ROM 128GB แบบ UFS 2.2 และกล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว และด้วยสเปกที่แตกต่างกันเช่นนี้เอง ทำให้หลายท่านเกิดคำถามในใจก่อนจะเลือกซื้อว่าทั้ง 2 รุ่นนั้นแตกต่างกันอย่างไร วันนี้ทางทีมงาน StepGeek จะนำสเปกทั้ง 2 รุ่นมาเปรียบเทียบให้รับชมกันครับ
สเปค Redmi Note 10 (4G)
หน้าจอแสดงผลขนาดไม่เท่ากันนะ!สำหรับ Xiaomi Redmi Note 10 5G กับ Xiaomi Redmi Note 10 4G นั้นมีขนาดหน้าจอแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยรุ่น 5G จะเป็นแบบ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว กับความละเอียด FHD+ (2340 X 1080 พิกเซล) อีกทั้งยังมีค่ารีเฟรชเรท 90Hz ความสว่างของจอ 1100 nits ส่วนรุ่น 4G จะเป็นแบบ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 X 1080 พิกเซล) อีกทั้งยังมีค่ารีเฟรชเรท 90Hz ความสว่างของจอ 1100 nits ซึ่งจากสเปคที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่ารุ่น 4G มีขนาดหน้าจอที่เล็กว่าเล็กน้อย แต่คุณสมบัติก็เพียงพอต่อการใช้งานไม่น้อย ฉะนั้นแล้วก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละคนที่จะเลือกแบบไหน ชิปเช็ตคนละตัวนะ!หากเช็กข้อมูลให้ดีๆ จะเห็นได้ว่าสมาร์ตโฟนทั้ง 2 รุ่นนั้นใช้ชิปเซ็ตคนละตัว โดยรุ่น 5G นั้นจะใช้เป็น ชิปเซ็ต Dimensity 700 ซึ่งเป็นชิปรุ่นใหม่ของ MediaTek เน้นตอบโจทย์การใช้งานระดับกลาง และสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 5G ได้ ส่วนทางด้าน Redmi Note 10 4G จะใช้เป็นชิปเซ็ต Snapdragon 678 เป็นชิปเซ็ตระดับกลางเช่นกัน แต่จะใช้เป็นของแบรนด์ Snapdragon แต่ก็จัดอยู่ในระดับกลางเช่นกัน เน้นตอบโจทย์การใช้งานระดับกลาง สามารถเล่นเกมได้ แต่ไม่รองรับ 5G จะใช้ได้เฉพาะอินเทอร์เน็ต 4G เท่านั้น กล้องหลังก็แตกต่างกัน!!มาต่อกันที่เรื่องของกล้องดิจิทัลด้านหลังก็ไม่ความแตกต่างที่ชัดเจนเป็นอย่างมาก เนื่องด้วย Redmi Note 10 5G นั้นมากับกล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79 + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4+ เลนส์ Depth Camera ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ส่วนรุ่น 4G จะมาพร้อมกับกล้องหลังมีทั้งหมด 4 เลนส์ โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX582 รูรับแสง f/1.79 + เลนส์มุมมองกว้าง 8 ล้านพิกเซล 118 องศา + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4+ เลนส์ Depth Camera ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 โดยความแตกต่างก็คือ รุ่น 5G นั้นใช้กล้องจำนวน 3 เลนส์ แต่จะไม่มีเลนส์ Ultra Wide ให้ใช้งาน หากต้องการถ่ายภาพมุมกว้างรุ่นนี้ก็จะเสียเปรียบนั่นเอง ไม่เพียงแค่นั้นกล้องดิจิทัลด้านหลังก็มีความละเอียดน้อยกว่าที่ 8 พิกเซล เพราะรุ่น 4G ใช้เป็นเลนส์ 13 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ต่างกันที่ระบบชาร์จเร็วถึงแม้ว่าสมาร์ตโฟนทั้ง 2 รุ่น มีความจุของแบตเตอรี่ที่เท่ากัน 5000 mAh แต่สมาร์ตโฟนทั้ง 2 รุ่นก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในเรื่องของเทคโนโลยีชาร์จเร็ว โดยรรุ่น 5G จะรองรับชาร์จเร็วที่ 18W ส่วนรุ่น 5G รองรับชาร์จเร็วที่ 33W หสกเป็นการใช้งานจริง รุ่น 4G ที่รองรับชาร์จเร็วแบบ 33W จะต้องชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็มรวดเร็วกว่าอย่างแน่นอน สรุปส่งท้ายจะเห็นได้ว่าสมาร์ตโฟนทั้ง 2 รุ่น แม้จะมีดีไซน์ที่คล้ายกัน แต่สเปกต่างๆ ที่แตกต่างกันบางส่วน ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต, กล้องถ่ายภาพ และขนาดหน้าจอ ไปจนถึงความละเอียดของหน้าจอ และแบตเตอรี่ก็มีระบบชาร์จเร็วที่ไม่เหมือนกัน จึงทำให้ราคาของสมาร์ตโฟนทั้ง 2 รุ่นก็แตกต่างกันไปด้วยเช่นกัน จึงทำให้สมาร์ตโฟนทั้ง 2 มีราคาที่แตกต่างกัน สำหรับรุ่น 5G จะมีราคาเริ่มต้น 6,999 บาท ส่วนรุ่น 4G จะวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 5,199 บาท โดยสามารถสั่งซื้อได้ง่ายๆ ที่ร้านค้าออนไลน์อย่าง Lazada.com ท้ายที่สุดทางทีมงานก็หวังเป็นอย่ายิ่งว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย เพื่อที่จะช่วยประกอบการติดสินใจในการเลือกซื้อของผู้อ่าน สำหรับวันนี้ ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ นำเสนอบทความโดย
: StepGeek |