หลายๆคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าตรุษจีนนั้นคล้ายคลึงกับวันปีใหม่ในประเทศทางตะวันตก และร่องรอยของประเพณี และพิธีกรรมความเชื่อต่างๆ ในวันตรุษจีนจะมีการเฉลิมฉลองทั่วโลกโดยเฉพาะชุมชนเชื้อสายจีนขนาดใหญ่ และตรุษจีนถือเป็น วันหยุดที่สำคัญมากช่วงหนึ่งของชาวจีน และยังแผ่อิทธิพลไปถึงการฉลองปีใหม่ของชนชาติที่อยู่รายรอบ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี มองโกเลีย เวียดนาม ทิเบต เนปาล และภูฐาน สำหรับชาวจีนที่อาศัยอยู่ต่างถิ่นกันก็จะมีประเพณีเฉลิมฉลองต่างกันไป ตำนาน วันตรุษจีน ตรุษจีน เป็นวันสำคัญของจีนที่มีมาแต่โบราณที่เรียกว่า "กว้อชุนเจี๋ย" หรือ "กว้อเหนียน" เล่ากันว่าในสมัยโบราณ ในป่าทึบแห่งหนึ่ง มีสัตว์ป่าที่ดุร้ายและน่ากลัวมากตัวหนึ่งเรียกว่า "เหนียน" มันออกอาละวาดกินคนเป็นประจำ พระเจ้าจึงลงโทษมัน อนุญาตให้มันลงมาจากเขาได้เพียงหนึ่งครั้งใน 365 วัน ดังนั้น เมื่อฤดูหนาวใกล้จะผ่านไป ฤดูใบไม้ผลิเวียนมาใกล้ เหนียน ก็จะออกมาทำร้ายผู้คน และเพื่อป้องกันการมาของ
ต้นกำเนิดของวันตรุษจีน ช่วงเริ่มมีประเพณีวันตรุษจีน ในสมัยนั้น เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ผู้คนจะกลับไปอยู่บ้าน ใช้ไม้หรือวัตถุอื่นๆปิดหน้าต่างทางทิศเหนือ จะจุดไฟในบ้านเพื่อให้มีควัน และใช้ควันไล่หนูออกจากบ้านไป เตรียมตัวจะฉลองปีใหม่ ชาวบ้านจะเตรียมเหล้าและเครื่องบูชาเทพเจ้าทั้งหลาย เพื่อขอบคุณเทพเจ้าที่ช่วยคุ้มครองและขอให้คุ้มครองต่อไป แต่สมัยนั้น ประเทศจีนยังไม่ได้รวมเป็นหนึ่ง ยังอยู่ในสภาพหลายก๊กหลายแคว้น ฉะนั้น การฉลองปีใหม่จึงอยู่ในเวลาที่แตกต่างกัน มีจุดเหมือนกันก็คือ ล้วนอยู่ในฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่ต้องทำไร่ไถนา เป็นช่วงพักผ่อน ซึ่งการพักผ่อนนี้ ค่อยๆก่อรูปขึ้นเป็นประเพณีวันตรุษจีน
ตรุษจีนจัดขึ้นเพื่ออะไร
นอกจากนี้ วันตรุษจีน ยังมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันชุงเจ๋" ซึ่งหมายถึงเทศกาลดูใบไม้ผลิ หรือขึ้นปีเพาะปลูกใหม่ เพราะช่วงก่อนตรุษจีนนั้นตรงกับฤดูหนาว ไม่สามารถทำการเกษตรได้ ดังนั้นเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิที่มีอากาศเหมาะสมแก่การเพาะปลูก ชาวจีนจึงสามารถทำนา ทำสวน ได้อีกครั้งหลังจากผ่านพ้นฤดูหนาวมานั่นเองครับ 15 วันแห่งการฉลองตรุษจีน ตามความเชื่อมีอะไรบ้าง วันที่ 1 ของปีใหม่ เป็นการต้อนรับเทวดาแห่งสวรรค์ และโลก หลายคนงดทานเนื้อ เพื่อเป็นการต่ออายุ วันที่ 2 ชาวจีนจะไหว้บรรพชน รวมถึงเทวดาทั้งหลาย และจะดีเป็นพิเศษกับสุนัข วันที่ 3-4 เป็นวันของบุตรเขยที่จะต้องทำความเคารพแก่ พ่อตา แม่ยาย ของตน วันที่ 5 เรียกว่า พูวู ซึ่งวันนี้ทุกคนจะอยู่กับบ้าน เพื่อต้อนรับการมาเยือนของเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย วันที่ 6 ชาวจีนจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง-เพื่อนฝูง พร้อมทั้งไปวัดสวดมนต์ เพื่อความร่ำรวย และความสุข วันที่ 7 ของตุรุษจีนเป็นวันที่ชาวไร่-ชาวนาชาวจีน นำเอาผลผลิตของตนออกมาทำน้ำที่ทำมาจากผักเจ็ดชนิด เพื่อฉลองวันนี้วันที่เจ็ดถือเป็นวันเกิดของมนุษย์ และอาหารในวันนี้จะเป็น หมี่ซั่ว-กินเพื่อชีวิตที่ยาวนาน และปลาดิบ-กินเพื่อความสำเร็จ วันที่ 8 ชาวฟูเจี้ยน จะมีการทานอาหารร่วมกันกับครอบครอบอีกครั้ง และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนทุกคนจะสวดมนต์ของพรจาก เทียนกง เทพแห่งสวรรค์ วันที่ 9 สวดมนต์ไหว้พระ และถวายอาหารแก่ เง็กเซียนฮ่องเต้ วันที่10-12 เป็นวันของเพื่อน และญาติๆ ซึ่งเชื้อเชิญมาทานอาหารเย็น วันที่ 13 ถือเป็นวันที่ควรทานข้าวธรรมดา กับผักดอง ถือเป็นการชำระล้างร่างกาย วันที่ 14 เป็นวันที่เตรียมงานฉลองโคมไฟ วันที่ 15 คืนแห่งการฉลองโคมไฟ วันตรุษจีน ตรุษ จีนในประเทศไทย
-วันจ่าย คือวันก่อนวันสิ้นปี เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปซื้ออาหารผลไม้และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆก่อนที่ร้านค้าทั้งหลายจะปิดร้านหยุดพักผ่อนยาว ในตอนค่ำจะมีการจุดธูปอัญเชิญเจ้าที่ (ตี่จู้เอี๊ย) ให้ลงมาจากสวรรค์เพื่อรับการสักการะบูชาของเจ้าบ้าน สำหรับวันจ่ายตรุษจีนปีนี้(พ.ศ.2559)ตรงกับวันเสาร์ ที่ 6 กุมภาพันธ์ ครับ -วันไหว้ หรือวันสิ้นปี ตรงกับ(พ.ศ.2559) คือ วันอาทิตย์ ที่ 7 กุมภาพันธ์ จะมีการไหว้ 3 ครั้ง ได้แก่ *ตอนเช้ามืด จะไหว้ "ไป่เล่าเอี๊ย" เป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ เครื่องไหว้คือ เนื้อสัตว์สามอย่าง (ซาแซ) ได้แก่ หมู เป็ด ไก่ หรือเพิ่มตับ ปลา เป็นเนื้อสัตว์ห้าอย่าง (โหงวแซ) เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง *ตอนสาย จะไหว้ "ไป่แป๋บ้อ" คือการไหว้บรรพบุรุษ พ่อแม่ญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญู ตามคติจีน การไหว้ครั้งนี้จะไหว้ไม่เกินเที่ยง เครื่องไหว้จะประกอบด้วย ซาแซ อาหารคาวหวาน (ส่วนมากจะทำตามที่ผู้ที่ล่วงลับเคยชอบ) รวมทั้งการเผากระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษเพื่ออุทิศแก่ผู้ล่วงลับ หลังจากนั้น ญาติพี่น้องจะมารวมกันรับประทานอาหารที่ได้เซ่นไหว้ไปเป็นสิริมงคล และถือเป็นเวลาที่ครอบครัวหรือวงศ์ตระกูลจะรวมตัวกันได้มากที่สุด จะแลกเปลี่ยนอั่งเปาหลังจากรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว *ตอนบ่าย จะไหว้ "ไป่ฮ่อเฮียตี๋" เป็นการไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เครื่องไหว้จะเป็นพวกขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล กระดาษเงินกระดาษทอง พร้อมทั้งมีการจุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายและเพื่อเป็นสิริมงคล -วันเที่ยว หรือ วันถือ คือวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งตรงกับ(พ.ศ.2559)วันที่ 8 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่หนึ่ง (ชิวอิก) ของเดือนที่หนึ่งของปี วันนี้ชาวจีนจะถือธรรมเนียมโบราณที่ยังปฏิบัติสืบต่อกันมาถึงปัจจุบันคือ "ไป่เจีย" เป็นการไหว้ขอพรและอวยพรจากญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพรัก โดยนำส้มสีทองไปมอบให้ เหตุที่ให้ส้มก็เพราะส้มออกเสียงภาษาจีนแต้จิ๋วว่า "กิก" ซึ่งไปพ้องกับคำว่าความสุขหรือโชคลาภ เพราะฉะนั้นการให้ส้มจึงเหมือนนำความสุขหรือโชคลาภไปให้ จะมอบส้มจำนวน 4 ผล ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าของผู้ชาย เหตุที่เรียกวันนี้ว่าวันถือคือ เป็นวันที่ชาวจีนถือว่าเป็นสิริมงคล งดการทำบาป จะมีคติถือบางอย่าง เช่น ไม่พูดจาไม่ดีต่อกัน ไม่ทวงหนี้กัน ไม่จับไม้กวาด และจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่แล้วออกเยี่ยมอวยพรและพักผ่อนนอกบ้าน เป็นต้น ของไหว้แต่ละอย่างมีความหมายอย่างไร
เสร็จจากผลไม้ ไปกันต่อกันที่ของคาวอย่างเนื้อสัตว์กันต่อเลยดีกว่าครับ เนื้อสัตว์
สิ่งที่ควรและไม่ควรปฏิบัติในวันตรุษจีน
5.ทำพิธีรับ "ไช่ซิงเอี้ย" เป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ส่วนใหญ่จะทำพิธีระหว่างหลังเที่ยงคืนของวันซาจั๊บ
ขอบคุณข้อมูลจาก
|