บริการ ติดโพย (PopThai) เป็นบริการเปิดพจนานุกรมอัตโนมัติ โดยผู้ใช้สามารถป้อนข้อความ ทีละประโยค หรือ เป็นหน้าเลยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทีละคำสองคำ ระบบจะทำการแนบความหมายของคำหรือวลีภาษาต่างประเทศ (ปัจจุบันสนับสนุน ภาษาอังกฤษ, ญี่ปุ่นและเยอรมัน) ติดกับเนื้อหานั้นๆ และจะแสดงผลความหมายเมื่อเอาเมาส์ไปวางเหนือคำหนึ่งๆ ช่วยให้สามารถเข้าใจเนื้อหาของเวบภาษาต่างประเทศได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ความหมายของคำจะปรากฏขึ้นมาเมื่อท่านเอาเมาส์ไปวางบนคำหรือวลีที่มีอยู่ในพจนานุกรม โดยไม่จำเป็นต้องกดปุ่มใดๆ ดังตัวอย่างในรูปข้างล่างนี้ คุณสมบัติ / Features
วิธีใช้ท่านสามารถป้อนเนื้อหาหรือ URL ของเว็บไซต์ที่ต้องการให้แนบความหมายนี้ ในช่องใส่ข้อความค้นหาปกติ หลังจากนั้นเลือกบริการที่ต้องการ (เช่น ถ้าป้อนข้อความ ให้เลือก PopThai (text) ถ้าป้อน URL ให้เลือก PopThai (URL)) ถ้าท่านไม่เลือกบริการ ระบบจะเดาบริการที่ท่านต้องการ จากข้อความที่ท่านใส่เข้ามา (ว่าเป็นข้อความหรือเป็น URL) โดยอัตโนมัติ, จากนั้นกด Submit เป็นอันเสร็จ ในกรณีที่ท่านใส่ URL ระบบจะไปทำการดาวน์โหลดเนื้อหาของหน้านั้นๆ มาและแนบความหมาย พร้อมแก้ไขลิงค์ต่างๆ ให้เป็นผ่านบริการ PopThai เ พื่อที่ว่าเมื่อท่านกดที่ลิงค์ใดๆ ต่อไปจากเพจนั้นๆ ก็จะมีการแนบความหมายมาให้ด้วยในทันที เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้ท่านสามารถใช้ PopThai ผ่าน Longdo Toolbar โดยเมื่อท่านเปิดดูเว็บไซต์ใดๆ อยู่ตามปกติ และต้องการใช้บริการ PopThai สำหรับ หน้านั้นๆ สามารถทำได้ทันที โดยคลิกที่ปุ่ม PopThai บน Toolbar รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดอ่านที่ Longdo Toolbar คำเตือน ในกรณีของ URL นี้ ถึงแม้ทางผู้ดูแลระบบลองดูจะได้ทำการทดสอบกับหลายเว็บไซต์ แล้วก็ตาม ยังมีบางเว็บไซต์ที่ข้อมูลเวลาที่ระบบไปโหลดมาจะแตกต่างจากที่ท่านเปิดดูโดยใช้ browser โดยตรง โปรดระวังด้วย และไม่ควรใช้กับหน้าเว็บไซต์ที่ ต้องการความถูกต้องสูง) Noun Clauses ทำหน้าที่เสมือนหนึ่งเป็นคำนามในประโยค ในชีวิตประจำวัน เราอาจได้ยินหรือใช้ noun clauses โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังใช้ noun clauses อยู่เลย เช่น Somsak thinks he had better stop smoking now. ประโยคเต็มและเป็นทางการ คือ Somsak thinks (that) he had better stop smoking. สมศักดิ์คิดว่าเขาควจะหยุดสูบบุหรี่แล้วตอนนี้
I don’t understand Nadej wants to convey. ประโยคเต็มและเป็นทางการ คือ I don’t understand (what) Nadej wants to convey. ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่ณเดชต้องการจะสื่อเลย
การใช้ Noun Clause อย่างถูกต้องถือเป็นเรื่องสำคัญมากโดยเฉพาะในส่วนของ Writing และ Speaking ของการสอบ IELTS เนื่องจาก Criteria หนึ่งของการให้คะแนนใน 2 ทักษะนี้ก็คือ grammatical range and accuracy โดยเฉพาะ Writing หากน้องๆอยากได้ Band Score 6.0 ขึ้นไปจะต้องสามารถใช้รูปแบบของ Complex sentence ได้บ้าง (with some errors) แต่หากต้องการไปถึง Band 7.0 ล่ะก็ ต้องลดข้อผิดพลาดในการใช้จนแทบไม่มีเลยค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหากเราไม่ใช้ Noun Clause ในการสอบ Writing เลย จะทำให้ไม่ได้ Band 7.0 นะคะ เพราะจริงๆแล้ว Complex Sentence มีหลายประเภท ซึ่ง Noun Clause ถือเป็นหนึ่งในนั้นค่ะ ดังนั้น เรามาศึกษาวิธีใช้งานอย่างถูกต้องกันดีกว่าค่ะ
เมื่อ Noun clause ทำหน้าที่เสมือนเป็นคำนาม ดังนั้น Noun clause จึงสามารถปรากฏอยู่ในตำแหน่งที่คำนามปรากฏได้ทุกตำแหน่ง คือ เป็นประธาน (Subject) และกรรม (object) จะเป็นประธานหรือกรรมอย่างไรนั้น เดี๋ยวเรามาดูกันนะคะ Types of Noun Clauses
1. Subject Noun Clausesโดยปกติแล้ว คำนามหรืออนุประโยคที่ทำหน้าที่เป็นประธานในประโยคมักจะปรากฏอยู่หน้ากริยาหรือหน้าประโยค ตัวอย่างเช่น What causes so many difficulties in the IELTS test is the writing section. จากประโยคข้างต้น What causes so many difficulties in the IELTS test เป็น noun clause อยู่หน้าประโยค ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค
2. Direct Object Noun ClausesI suggest you that you should go to a movie with me tonight. ผมแนะนำว่าคุณควรจะไปดูหนังกับผมคืนนี้ จากประโยคข้างต้น that we should go to a movie tonight อยู่หลังกริยา suggest เป็นกรรมตรง (Direct object) ของ suggest ตามหลังกรรมรอง (Indirect object) ข้อพึงระวัง ในการสอบ IELTS Speaking น้องๆสามารถลดรูปโดยการละ “that” ออกได้ นะคะ I believe students should not have to wear a uniform. แต่สำหรับการสอบเขียนซึ่งควรใช้ภาษาอย่างเป็นทางการนั้น IELTS Examiner แนะนำว่าเราควรใส่ “that” ไว้ในประโยคด้วยค่ะ I believe that students should not have to wear a uniform.
3. Object of the Preposition Noun ClausesYaya is always proud of where she was born. ญาญ่าภูมิใจในบ้านเกิดของตนเองเสมอ จากประโยคข้างต้น where she was born เป็นคำนาม มีตำแหน่งอยู่หลังบุรพบท (Preposition) of ทำหน้าที่เป็นกรรมของ of ค่ะ
4. Subject as Complement Noun ClausesThe stability of life is what James ji wants the most in his life. ความมั่นคงในชีวิตคือสิ่งที่เจมส์ จิต้องการที่สุด จากประโยคข้างต้น what James ji wants the most in his life มีตำแหน่งอยู่หลังกริยาช่วย (V.to be) is ทำหน้าที่เป็นส่วนขยายหรือเป็นส่วนสมบูรณ์ของประธาน the stability of life เพื่อบ่งชี้หรือขยายความ the stability of life Noun clauses เมื่ออยู่ในตำแหน่งของประธานจะเรียกว่า “Subject noun clauses” แต่เมื่ออยู่ในตำแหน่งของกรรม จะเรียกว่า “Object noun clauses” ทั้งนี้เมื่อแบ่งประเภทของ Noun Clause ที่เป็นกรรมจะแบ่งออกมาได้อีกหลายประเภท ลองมาทำความเข้าใจกันดูนะคะ ประเภทของ Object Noun ClausesObject Noun Clauses จะต้องอยู่คู่กับ Main Clause ของประโยคเสมอ โดยประโยคจะเริ่มด้วย Main Clause แล้วตามด้วย Object Noun clause โดยไม่ต้องมีเครื่องหมาย Comma คั่น Object noun clauses มี 3 ประเภท ได้แก่
เราใช้ Noun clauses ที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า that ในกรณีต่อไปนี้
Sompong knows all along that his mum loves him so much. สมปองรู้มาโดยตลอดว่าแม่รักเขามากๆ
I think that it’s red, not green. (ภาษาทางการ) I think it’s red, not green. (ภาษาพูด)
I believe it’s raining. (now) I believe it’ll rain. (very soon) I believe it rained. (a moment ago)
Sarut: Is Sangrawee here today? Patraporn: I think so. (คำพูดเต็มๆก็คือ I think that Sangrawee is here today.) Denlar: Has the rain stopped? Saksit: I don’t believe so. (คำพูดเต็มๆก็คือ I don’t believe that the rain has stopped.) Koob: Are we ready to leave? Tuptim: I’m afraid not. (คำพูดเต็มๆก็คือ I’m afraid that we are not ready to leave.)
การใช้ Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย Wh-Words (ได้แก่คำว่า what where when why how) มีหลักเกณฑ์ดังนี้
เช่น I know why she comes home very late. (ไม่ใช่ why does she come home very late) I don’t know when she will arrive. (ไม่ใช่ when will she arrive)
เช่น Could you tell me where the elevators are? (Main clause เป็นคำถาม) I’m wondering where the elevators are. (Main clause เป็นบอกเล่า)
เช่น I don’t know how much it costs. I would like to know when our next meeting will be. I’m not sure which house is his.
เช่น Could you tell me who are injured in the accident? Can you tell me what time the show starts?
การใช้ Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย if หรือ whether มีหลักเกณฑ์ดังนี้
เช่น Direct Question: Did they pass the exam? Indirect Question: I don’t know if they passed the exam. (ข้อความที่ขีดเส้นใต้คือ noun clause ที่ขึ้นต้นด้วย if นั่นเอง)
เช่น Sir, I would like to know whether you prefer coffee or tea. Tell me if you want to go with us or not.
เช่น I can’t remember if I had already paid him. I wonder whether he will arrive in time.
เช่น Do you know if the principal is in his office. Can you tell me whether the tickets include drinks?
การละ that ในประโยค Noun Clause กรณีที่ noun clause เป็น object We believe (that) he told the truth. กรณีที่ noun clause เป็น subject complement The reason is (that) he speaks English fluently. ตามหลังคำคุณศัพท์ I am sure (that) he can get a good job. ข้อยกเว้น: แต่ก็มีบางกรณีที่เราไม่สามารถละ That ได้นะคะ อาทิ เช่น เมื่อ that-clause ขึ้นต้นประโยค That coffee grows in Brazil is true. That she had decided to be engaged frightened me very much. เมื่อ that-clause เป็นคำซ้อนนามที่อยู่ข้างหน้ามัน (Appositive) The news that he was murderer is not true. His belief that the earth moves round the sun is correct. เมื่อ that-clause อยู่หลัง It is (หรือ It was) It is true that earth moves round the sun. It is impossible that he has done this by himself. เป็นอย่างไรบ้างคะ เชื่อว่าตอนนี้หลายคนหายสงสัยในเรื่องของ Noun Clause กันแล้วนะคะ OXBRIDGE INSTITUTE
Line Tags: IELTS, Speaking, WRITING, การใช้ Noun Clauses สถาบัน OXBRIDGE (ชื่อเดิม IELTS INSTITUTE) ก่อตั้งในปี 2008 โดยคณาจารย์ที่จบเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง และสอนในคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ผู้มีใจรักในการสอนภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ คณาจารย์ส่วนใหญ่ที่จบการศึกษาระดับปริญญาโท-เอกจากสหราชอาณาจักรด้วยนี้ มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสถาบันภาษาที่นอกจากจะสอนเพื่อการเตรียมสอบ IELTS โดยเฉพาะแล้ว ยังเล็งเห็นความสำคัญที่จะพัฒนาพื้นฐานภาษาอังกฤษของผู้เรียนให้สามารถนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นอีกด้วย |