สีที่ใช้ในแผนที่ มีความหมายสื่อถึงอะไรบ้าง ? ก่อนอื่นขอพูดถึง แผนที่ ก่อน แผนที่ คือรูปภาพที่จำลองสถานที่บริเวณใดบริเวณหนึ่งพร้อมระบุความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่างๆ ภายในบริเวณนั้น เช่น วัตถุ หรือบริเวณย่อยๆ แผนที่ส่วนใหญ่จะเป็นรูปสองมิติ
แสดงระยะห่างระหว่างจุดสองจุดภายในบริเวณนั้นได้อย่างถูกต้องตามหลักของเรขาคณิต สามารถระบุคุณสมบัติของบริเวณต่างๆ บนพื้นโลกในแผนที่ได้ เช่น ความหนาแน่นของประชากร หรือความสูงของพื้นที่ โดยในแผนที่จะแสดงข้อมูลทางภูมิศาสตร์ได้อย่างแม่นยำโดยที่เราไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังสถานที่นั้นด้วยตัวเอง ในปัจจุบัน การออกแบบแผนที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
มีการทำแผนที่จากภาพถ่ายทางอากาศรวมไปถึงภาพถ่ายจากดาวเทียมเพื่อการทำแผนที่ที่รวดเร็วและถูกต้อง ทันสมัยกว่าการทำแผนที่ในอดีต และเนื่องจากแผนที่นั้นมีประโยชน์ทั้งในเรื่องของการศึกษาข้อมูลทางภูมิศาสตร์ และสามารถใช้เป็นตัวช่วยในการเดินทางได้ การออกแบบแผนที่ให้สามารถใช้งานได้ง่ายจึงจำเป็นอย่างมาก เราจึงมักจะได้เห็นองค์ประกอบต่างๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในแผนที่ และมีหนึ่งองค์ประกอบที่เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจถึงความหมาย นั่นก็คือ “สี” ที่เราเห็นตามจุดต่างๆ ในแผนที่นั่นเอง เราจึงมาแนะนำให้รู้กันว่า สีที่ใช้ในแผนที่ แต่ละสีมีความหมายสื่อถึงอะไร เพื่อที่ครั้งต่อไปเราจะสามารถดูแผนที่ได้อย่างเข้าใจถูกต้อง ความหมายของ สีที่ใช้ในแผนที่สีต่างๆ ที่เราเห็นในแผนที่นั้นมีไว้เพื่อจำแนกประเภทของลักษณะทางภูมิศาสตร์ต่างๆ เช่น เมือง ถนน ภูเขา ป่า เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจน สำหรับสีที่แสดงในแผนที่จะเป็นสีมาตรฐาน มีทั้งหมด 5 สี คือ
นอกจากจะใช้สีเพื่อจำแนกประเภทของลักษณะทางภูมิศาสตร์ต่างๆ แล้ว ยังมีการใช้ “แถบสี” หรือ Layer Tinting ในการจำแนกความแตกต่างของลักษณะภูมิประเทศทั้งที่เป็นพื้นดินและพื้นน้ำอีกด้วย โดยสีที่นิยมใช้ คือ ลักษณะภูมิประเทศที่เป็นพื้นดิน
ลักษณะภูมิประเทศที่เป็นพื้นน้ำ
นอกจากนี้ยังมีการนำสีมาแบ่งประเภทของเขตที่ดินในแผนที่ผังเมือง ดังนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก cartrack.co.th ภาพประกอบ : pixabay.com |