การดูแลเสื้อผ้าหมายความว่าอย่างไรและมีความสำคัญอย่างไร

เพื่อความสะดวกของท่าน  เราได้เปิดให้บริการถึง 5 สาขา สาขาที่เปิดให้บริการมีดังนี้ ที่ สุขุมวิท 33, ทองหล่อ 10, พหลโยธิน(ซอยอารีย์), สามเสน, ชิดลม และยังเพิ่มความสะดวกสบายโดยมีบริการรับ-ส่งให้ ทางเราใช้เครื่องมือที่ท่านสมัยเราจึงสามารถให้บริการท่านได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 3 วันเท่านั้นนับจากวันที่ท่านมาส่งผ้า หากต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซักแห้ง อ่านต่อได้ที่ http://www.dryclinique.com/บริการของเรา/ซักแห้ง 

ของใช้ชิ้นเล็ก เช่น เนคไท ผ้าพันคอ ถุงเท้า หรือเข็มขัด ให้เก็บไว้ในกล่องหรือตะกร้า ถ้าเป็นกล่องที่แบ่งช่องเล็กๆ เก็บเป็นชิ้นๆ ก็จะหยิบใช้งานง่าย

ช่องเปิดด้านบนสุดของตู้ ให้เก็บของชิ้นใหญ่ ที่หยิบง่าย ไม่ใช้บ่อย เช่น ผ้าปู ปลอกหมอน หมอน หรือกระเป๋า ส่วนล่างสุดเก็บรองเท้าที่ทำความสะอาดดีแล้ว

ตะกร้าในตู้ ให้เก็บชุดชั้นใน หรือเสื้อผ้าใช้แล้วที่รอการซัก

ติดดวงไฟในตู้เพื่อสำรวจหาเสื้อผ้าได้สะดวก กรณีเป็นไฟแบบเปิดปิดพร้อมการเปิดตู้ก็จะช่วย ประหยัดไฟ แต่ต้องมั่นใจว่าปิดหน้าตู้สนิท และไฟดับแล้ว เพราะไฟที่เปิดตลอดเวลาอาจร้อนจนลุกไหม้

พยายามหมั่นสำรวจตู้เสื้อผ้าทุกหกเดือน รื้อสิ่งของที่ไม่ได้ใช้ไปบริจาค และจัดเก็บแต่ละส่วนให้เป็นระเบียบอยู่เสมอ

ปิดตู้ทุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อกันฝุ่นและแสงแดดทำลายผ้า และควรดูดฝุ่นในตู้และบนชั้น เดือนละ 1-2 ครั้ง

ใส่อุปกรณ์ดักจับความชื้นในตู้ และเพิ่มเครื่องหอมเช่น การบูร บุหงารำไป แก้ปัญหากลิ่นอับและเพิ่มความหอมให้เสื้อผ้า
ราวตากผ้า เช็ดถูราวตากผ้าด้วยผ้าชุบน้ำบิดพอหมาด เช็ดก่อนใช้ ถ้าทำราวตากผ้าใหม่เพื่อให้เชือกตากผ้าอ่อนนุ่มไม่แห้ง ให้นำเชือกมาต้มในน้ำเดือด หลาย ๆ นาทีก่อน แล้วจึงใช้น้ำร้อนราดอีกครั้งก่อนจะนำเชือกนั้นไปขึงเป็นราวตากผ้า

ไม้หนีบผ้า ถ้าไม้หนีบผ้าสักหลาดสกปรกให้แช่ในน้ำสบู่อุ่น ๆ ถ้าเป็นไม้หนีบผ้าพลาสติคให้แช่ในน้ำสบู่อ่อน ๆ ผสมน้ำอุ่น วิธีง่าย ๆ ให้นำเอาไม้หนีบผ้าใส่ถุงตาข่ายไนล่อน แล้วแขวนเอาไว้ในน้ำสบู่ เมื่อเอาขึ้นจากน้ำสบู่ ใช้แปรงถูคราบราที่เกาะ ล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งแดดให้แห้ง

หมวก ที่วางหมวกควรเช็ดถูให้สะอาด เมื่อใช้หมวกแล้วควรปัดฝุ่นออกให้หมด วางลงบนที่แขวนหมวก หรือเก็บใส่กล่องให้เรียบร้อย ใช้กระดาษทิชชู่สอดไว้ภายในเพื่อรักษารูปให้คงรูปทรง ควรใส่ยาป้องกันแมลงกินผ้าไว้ในกล่องด้วย

ซักผ้า ผ้าสีและผ้าขาวควรซักแยกออกจากกัน ถ้าเป็นผ้าลินินควรซักในน้ำร้อนซึ่งผสมน้ำยาซักแห้งหรือน้ำยาทำความสะอาด น้ำร้อนจะช่วยทำให้ผ้าสะอาดขึ้น เมื่ออบผ้าให้แห้งแล้วผ้าจะคงรูปทรงยิ่งขึ้น ถ้าไม่แน่ใจว่าสีจะตกหรือไม่ ให้ทดลองซักเศษผ้าหรือมุมผ้าดูประมาณ 2-3 นาที ถ้าน้ำมีสีคือสีผ้าตก ไม่ควรนำผ้ามาอบ ควรใช้วิธีนำผ้าผึ่งตาก ถ้าผ้าตกสี ให้แยกออกมาซักด้วยมือ อย่าใช้เครื่องซักผ้า ใช้สบู่อ่อน ๆ หรือน้ำยาซักผ้าผสมน้ำอุ่นค่อนข้างเย็นแล้วซักออกด้วยน้ำเย็น จากนั้นนำผ้าที่ซักแล้วห่อผ้าขนหนูม้วน เพื่อให้ซับน้ำออกมากที่สุด แล้วจึงเอาผ้าออกจากผ้าขนนหนูตากในที่ร่ม นำมารีดในขณะที่ผ้ายังชื้นอยู่นิด ๆ ใช้เต้ารีดที่ไม่ร้อนจัด

ที่มา http://www.phahomhom.com/?page_id=23

Advertisement

Share this:

  • Twitter
  • Facebook

Like this:

ถูกใจ กำลังโหลด...

74 Responses

  1. arreelak, on พฤษภาคม 29, 2013 at 1:24 pm said:

    ให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นหลังจากที่ได้เรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง การดูแลเสื้อผ้า นักเรียนได้รับความรู้อะไรบ้าง และจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันให้เกิดประโยชน์อย่างไร พร้อมแจ้งชื่อ นามสกุล ชั้นเรียน ให้ครูทราบด้วยค่ะ

    ตอบกลับ

    • ด.ญ.เสาวลักษณ์ พงษ์วิเศษ, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:42 pm said:

      การดุแลเสื้อผ้าไม่ให้มันเก่าและหลุดลุ้ยและการดุแลเสื้อผ้าที่เลอะด้วยสิ่งต่างๆ
      การดูแลเสื้อผ้าไม่ให้เก่าและหลุดลุ้ย เช่น ผ้าแพร่หรือผ้าไหม และผ้าลินิน ผ้าแพร่หรือผ้าไหม ซักแล้วไม่ควรบิด แต่ใช้มือบีบหรือใช้วิธีห่อด้วยผ้าขนหนู ช่วยซับน้ำ ไม่ควรใช้เตารีดไอน้ำ ให้ใช้ ผ้าแห้งสะอาดคลุมผ้าเวลารีด แต่ต้องพรมน้ำให้ชื้นทั่วทั้งผืนก่อนรีด
      ผ้าลินิน ควรรีดด้านใน เพื่อไม่ให้ผ้าเป็นมัน
      ละลายผง ซักฟอกในน้ำอุ่น จะละลายได้เร็วกว่า และสิ้นเปลืองน้อยกว่าละลายในน้ำเย็น ผ้าขาว ที่ออกเหลืองเพราะใช้มานาน เช่น ถุงเท้า ให้ใช้เปลือกไข่ป่นละเอียดใส่ลง ไปในอ่างแช่ผ้าหรือแช่น้ำส้มสายชูทิ้งไว้สักครู่ จะทำให้ผ้าขาวขึ้น
      วิธีขจัดรอยเปื้อน จากคราบเหงือมี 3 วิธี
      1.ขจัดได้โดยซักด้วยน้ำที่ผสมน้ำส้ม สายชูเล็กน้อย หรือน้ำมะนาว
      2.แช่ผ้าไว้ในน้ำยาซักผ้าที่ทำให้เจือจางใน น้ำจากนั้นซักได้ตามปกติ
      3.ละลายแอสไพริน 2 เม็ดลงในน้ำ แล้วแช่ผ้าไว้สักครู่ จึงซักตามปกติ
      วิธีขจัดรอยเปื้อนจากคราบเลือด ขจัดคราบโดยนำนมข้นทาทันที ทิ้งไว้สักครู่แล้วนำไปขยี้น้ำออก
      วิธีขจัดรอยเปื้อนจากหมากฝรั่ง อย่างที่รู้กันว่าเสื้อผ้าติดหมากฝรั่งนั้นซักยาก เคล็ดลับแสนง่าย คือ การใช้ผ้าห่อน้ำแข็งมาประคบบริเวณรอยคราบ 5 นาที หมากฝรั่งจะเริ่มจับตัวเป็นก้อนแข็งจึงค่อย ๆ แกะออก หมากฝรั่งจะหลุดล่อนออกมาอย่างง่ายดายโดยไม่ทิ้งใยเหนียว ๆ ไว้เลย
      วิธีการทำความสะอาดไม้หนีบผ้า ถ้าไม้หนีบผ้าสักหลาดสกปรกให้แช่ในน้ำสบู่อุ่น ๆ ถ้าเป็นไม้หนีบผ้าพลาสติคให้แช่ในน้ำสบู่อ่อน ๆ ผสมน้ำอุ่น วิธีง่าย ๆ ให้นำเอาไม้หนีบผ้าใส่ถุงตาข่ายไนล่อน แล้วแขวนเอาไว้ในน้ำสบู่ เมื่อเอาขึ้นจากน้ำสบู่ ใช้แปรงถูคราบราที่เกาะ ล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งแดดให้แห้ง
      เด็กหญิงเสาวลักษณ์ พงษ์วิเศษ ชั้น ม.3

      ตอบกลับ

  2. ด.ญ.สมิตา ครุธเดช, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:21 pm said:

    สวัสดีค้ะ หนูชื่อเด็กหญิงสมิตา ครุธเดช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
    หนูได้รับความรู้เรื่อง การดุแลเสื้อผ้าไม่ให้มันเก่าและหลุดลุ้ยและการดุแลเสื้อผ้าที่เลอะด้วยสิ่งต่างๆ
    การดูแลเสื้อผ้าไม่ให้เก่าและหลุดลุ้ย เช่น ผ้าแพร่หรือผ้าไหม และผ้าลินิน ผ้าแพร่หรือผ้าไหม ซักแล้วไม่ควรบิด แต่ใช้มือบีบหรือใช้วิธีห่อด้วยผ้าขนหนู ช่วยซับน้ำ ไม่ควรใช้เตารีดไอน้ำ ให้ใช้ ผ้าแห้งสะอาดคลุมผ้าเวลารีด แต่ต้องพรมน้ำให้ชื้นทั่วทั้งผืนก่อนรีด
    ผ้าลินิน ควรรีดด้านใน เพื่อไม่ให้ผ้าเป็นมัน
    ละลายผง ซักฟอกในน้ำอุ่น จะละลายได้เร็วกว่า และสิ้นเปลืองน้อยกว่าละลายในน้ำเย็น ผ้าขาว ที่ออกเหลืองเพราะใช้มานาน เช่น ถุงเท้า ให้ใช้เปลือกไข่ป่นละเอียดใส่ลง ไปในอ่างแช่ผ้าหรือแช่น้ำส้มสายชูทิ้งไว้สักครู่ จะทำให้ผ้าขาวขึ้น
    วิธีขจัดรอยเปื้อน จากคราบเหงือมี 3 วิธี
    1.ขจัดได้โดยซักด้วยน้ำที่ผสมน้ำส้ม สายชูเล็กน้อย หรือน้ำมะนาว
    2.แช่ผ้าไว้ในน้ำยาซักผ้าที่ทำให้เจือจางใน น้ำจากนั้นซักได้ตามปกติ
    3.ละลายแอสไพริน 2 เม็ดลงในน้ำ แล้วแช่ผ้าไว้สักครู่ จึงซักตามปกติ
    วิธีขจัดรอยเปื้อนจากคราบเลือด ขจัดคราบโดยนำนมข้นทาทันที ทิ้งไว้สักครู่แล้วนำไปขยี้น้ำออก
    วิธีขจัดรอยเปื้อนจากหมากฝรั่ง อย่างที่รู้กันว่าเสื้อผ้าติดหมากฝรั่งนั้นซักยาก เคล็ดลับแสนง่าย คือ การใช้ผ้าห่อน้ำแข็งมาประคบบริเวณรอยคราบ 5 นาที หมากฝรั่งจะเริ่มจับตัวเป็นก้อนแข็งจึงค่อย ๆ แกะออก หมากฝรั่งจะหลุดล่อนออกมาอย่างง่ายดายโดยไม่ทิ้งใยเหนียว ๆ ไว้เลย
    วิธีการทำความสะอาดไม้หนีบผ้า ถ้าไม้หนีบผ้าสักหลาดสกปรกให้แช่ในน้ำสบู่อุ่น ๆ ถ้าเป็นไม้หนีบผ้าพลาสติคให้แช่ในน้ำสบู่อ่อน ๆ ผสมน้ำอุ่น วิธีง่าย ๆ ให้นำเอาไม้หนีบผ้าใส่ถุงตาข่ายไนล่อน แล้วแขวนเอาไว้ในน้ำสบู่ เมื่อเอาขึ้นจากน้ำสบู่ ใช้แปรงถูคราบราที่เกาะ ล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งแดดให้แห้ง

    ตอบกลับ

  3. เด็กหญิงวรรณนภา จุ้ยมณี, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:25 pm said:

    สวัสดีค่ะ ข้าพเจ้าชื่อ เด็กหญิงวรรณนภา จุ้ยมณี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
    เรื่อง การดูแลเสื้อผ้า
    การดูแลเสื้อผ้า หมายถึง การทำความสะอาดและเก็บรักษาเสื้อผ้า โดยวิธีขจัดรอยเปื้อน ซัก ตาก รีด เก็บ พับ หรือแขวนในถุงเก็บเสื้อหรือในตู้
    เสื้อผ้าจะมีทั้ง 3 ประเภท ได้แก่
    1.เสื้อผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ ซึ่งเสื้อผ้าชนิดนี้จะทำมาจากเส้นใยที่มีอยู่ในธรรมชาติ เช่น
    -ผ้าฝ้ายผลิตจากปุยฝ้ายที่ห้อหุ้มเมล็ดฝ้าย
    -ผ้าลินินผลิตจากลำต้นแฟลกซ์
    -ผ้าไหมผลิตจากรังไหม
    -ผ้าขนสัตว์ผลิตจากขนแกะ อูฐ กระต่าย
    2.เสิ้อผ้าจากเส้นใยสังเคราะห์ ซึ่งเสื้อผ้าชนิดนี้จะทำมาจากใยที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้นจากสารเคมี เช่น
    -ผ้าไนลอน
    -ผ้าพอลิเอสเทอร์
    -ผ้าอไครลิก
    -ผ้าสแปนแด็กซ์
    3.เสื้อผ้าจากเส้นใยกึ่งสังเคราะห์ ซึ่งเสื้อผ้าชนิดนี้จะทำมาจากเส้นใยผสมระหว่างใยธรรมชาติและใยสังเคราะห์ หรือนำเอาเส้นใยธรรมชาติมาดัดแปลงด้วยวิธีทางเคมี เช่น
    -ผ้าเรยอน
    -ผ้าอะซิเตต
    -ผ้าที/ซี
    -ผ้าซีทีซี
    **ความรู้ที่ได้จากเรื่อง สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น เราได้ความรู้เกี่ยวกับการเก็บรักษาเสื้อผ้า เราก็สามารถนำวิธีการเก็บรักษาเสื้อผ้าที่เราได้เรียนมานำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ค่ะ**

    ตอบกลับ

  4. ด.ญ.กมลวรรณ เปี้ยจันทึก, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:26 pm said:

    สวัสดีค่ะ ข้าพเจ้า ด.ญ.กมลวรรณ เปี้ยจันทึก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3
    เรื่อง การดูแลเสื้อผ้า
    การดูแลเสื้อผ้า คือการทำความสะอาดและรักษาเสื้อผ้า ด้วยวิธีขจัดรอยเปื้อน ซัก ตาก รีด เก็บ พับ หรือแขวนในถุงเก็บเสื้อหรือในตู้
    การดูแลเสื้อผ้าให้ทนทาน
    ขณะสวมใส่เสื้อผ้าต้องระมัดระวังไม่ให้เปรอะเปื้อน และถูกของแหลมคมเกี่ยวขาด
    ไม่ควรใส่ของหนักหรือของมีคมในกระเป๋าเสื้อ,กระโปรง,กางเกง เพราะจะทำให้กระเป๋าขาดใด้
    เสื้อผ้าเมื่อถอดแล้วจะสวมใส่อีก ไม่ควรแขวนไว้ที่แหลมคม แต่ควรจะแขวนด้วยไม้แขวนและเก้บไว้ในที่อากาศถ่ายเทดี
    สำรวจสัญลักษณ์บนป้ายที่ติดมากับเสื้อผ้า และดูแลอย่างถูกวิธี
    สำรวจชนิดของผ้าเพื่อให้เลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือในการดูแลรักษา ได้อย่างเหมาะสม
    ขจัดรอยเปื้อนที่พบ เพื่อประหยัดแรงและเวลาในการซักเสื้อผ้า
    ว่อมแซมเสื้อผ้าที่ชำรุดก่อนซักทำความสะอาด
    แยกผ้าสี ผ้าขาว เพื่อไม่ให้เสื้อสีหม่นหมอง
    ศึกษาวิธีใช้งานวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือในการดูแลเสื้อผ้าให้เข้าใจ แล้วปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด
    จัดเก็บเสื้อผ้าอย่างถูกวิธี

    ตอบกลับ

  5. นันทิดา ลิ้มชื่น, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:27 pm said:

    สวัสดีค่ะ หนูชื่อ ด.ญ.นันทิดา ลิ้มชื่นค่ะ ชั้น มัทธยมศึกษาปีที่3
    ได้ เรียนรู้การดูแล ซื้อผ้าเวลาถอดควรระมัดระวังอย่าง ไรและการสักผ้าแพรผ้า ลินินควรทำความสะอาดอย่าง เช่นผ้าแพรควรสักไม่บิดควรที่ไช้ผ้าขนหนูห่อแล้วช่วยซับนำถ้าเสื้อผ้าเสื้อผ้าที่ เลอะยางกล้วย ขจัดคราบโดยใช้มะนาวที่ฝานเป็นชิ้นบางๆ ถูตรงรอยเปื้อน ที่เป็นคราบดำ แล้วรีบนำมาซักทันทีและ
    เสื้อผ้าที่ เลอะยาทาเล็บ ขจัดคราบโดยซับที่รอยเปื้อนด้วยน้ำยาล้างเล็บ และเช็ดด้วยผ้าที่สะอาด จนกระทั่งรอยเปื้อนจางลง (ควรลองหยดน้ำยาล้าง เล็บลงผ้าก่อน)
    เสื้อผ้าที่ เลอะยาแดง ขจัดคราบโดยเช็ดรอยเปื้อนด้วยแอมโมเนีย หรือซักด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำและนำไปไช้ ใน ชีวิตประจำวันได้คือเก็บรักษาเสื้อผ้าไห้ดีและสักรีดเสื้อผ้าอย่างถูกวิธี

    ตอบกลับ

  6. นายศักดิ์สิทธิ์ สิงหราช, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:28 pm said:

    สวัสดีครับ ข้าพเจ้าชื่อนายศักดิ์สิทธิ์ สิงหราช ชั้นม.3 จากที่ผมได้รับความรู้เเล้วในเรื่องการการดูเเลเสื้อผ้าเช่นการขจัดลอยเสื้อผ้า เช่น เสื้อผ้า ที่เปื้อนคราบเลือด ขจัดคราบโดยนำนมข้นทาทันที ทิ้งไว้สักครู่แล้วนำไปขยี้น้ำออก
    เสื้อผ้า ที่เปื้อนคราบเลือดจางๆ ขจัดคราบโดยใช้เบคกิ้งโซดาผสมน้ำสักเล็ก น้อย จนแป้งข้นๆ ถูเบาๆ เมื่อแห้งจึงปัดฝุ่นออก
    เสื้อผ้า ที่เปื้อนคราบเลือดฝังแน่น ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำเย็น ที่ผสมเกลือจนชุ่ม ถูเบาๆ จนรอยค่อยๆ จางลง แล้วใช้น้ำเปล่าถูอีกครั้ง สุดท้ายใช้ทิชชูซับน้ำให้แห้ง
    เสื้อผ้า ที่เปื้อนคราบกาแฟ ขจัดคราบโดยใช้แป้งข้าวเจ้าถู แล้วซักได้ตามปกติ
    เสื้อผ้า ที่เลอะคราบน้ำตาเทียน ขจัดคราบโดยใช้ก้อนน้ำแข็งขูดเกล็ดเทียน ออกให้มากที่สุด จากนั้นจึงใช้กระดาษประกบบริเวณที่เปื้อนทั้ง 2 ด้าน แล้วใช้เตารีดอุ่นๆ รีดทับจนน้ำตาเทียนซึมออกมาติดกับกระดาษ
    เสื้อผ้าที่ เลอะโคลน ขจัดคราบโดยปล่อยให้โคลนแห้ง ใช้แปรงปัดออก ซักด้วยน้ำเย็นหลายๆ ครั้ง จนไม่มีน้ำโคลนออกมา จึงซักด้วยผงซักฟอก
    เสื้อผ้า ที่ขึ้นราเล็กน้อย ขจัดคราบโดยรีบนำผ้าที่ขึ้นราใหม่ๆ ซักในน้ำสบู่ร้อนๆ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ / ให้บีบมะนาวลงไป แล้วแช่ผ้าไว้ในผงซักฟอกสักครู่ จึงซักผ้าตามปกติ
    เเล้วเราได้นำไปใช้ในชีวิตจริงเเล้วก็ได้รู้ถึงเรื่องการขจัดคราบจำทำไห้เราไดรู้เรื่องนี้เเล้วนำมาไช้เเล้วก็ได้เเสดงผลไห้เราเห็นว่าคราบที่เปลื่อนก็ออกหายไป

    ตอบกลับ

  7. prarinya prasittichai, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:35 pm said:

    สวัสดีครับ ข้าพเจ้าชื้อ ด.ช. ปริญญา ประสิทธิชัย ชั้นม.3 เลขที่ 17
    ได้เรียนรู้เรื่อง การดูแลเสื้อผ้า
    1. ถ้าเสื้อผ้าเลอะคราบ ครีม เนย น้ำมัน นำแป้งที่ใช้สำหรับทาตัวมา โรย ใช้กระดาษทิชชู หรือกระดาษบางอื่นๆ วางทับ นำเตารีดที่มีความร้อนพอสมควร ทับบนกระดาษ จนแป้งดูดคราบออกจนหมด รอยยคราบก้จะหาย
    2. ถ้าเสื้อผ้าเลอะรอยเปื้อนคราบเลือด นำนมข้นทาทันที ทิ้งไว้แล้วนำไปขยี้น้ำออก
    3. ถ้าเรอะรอยเปื้ยนยางผลไม้ ใช้สารส้มถูบริเวณรอยเปื้อน แล้วนำไปซักผงซักฝอก
    4. ถ้าเรอะรอยเปื้อนยาแดง ไห้เช็ดรอยเปื้อนด้วนแอมโมเนียหรือซักกับน้ำสมสายชู
    5.ถ้าเรอะดินสอ ไห้ไช้ยาสีฟันป้ายลงบนที่เรอะรอยดินสอแล้วขยี้และนำไปซัก
    และได้เรียนรู้เรื่องการถอดเสื้อผ้าไห้ถอดโดยระมัดระวังอย่าไห้เสื้อผ้าชีกขาด
    ถ้ารุดซิบไม่ออกไห้รูดออกเบาๆหรือไช้ขี้ผึ้งหรือเทียนทา จนรื้น
    และได้รู้ว่าเสื้อผ้าเรยอนมีเนื้อนุ่มสวยงาม มีความเงามันคล้ายไหม ดูดซึมน้ำได้ดีแต่ยับง่าย คลายยับยาก รีดเรียบทิ้งไว้จะรู้ลงแต่เปื่อยง่าย ติดไฟเร็ว
    และได้รู้เรื่องการรีดผ้าฝ่าย รีดโดยนำผ้าที่ตากไว้พอหม่าดๆ นำไปรีด ไม่ต้องพรมน้ำ หรือจะไช้น้ำยารีดผ้าเรียบก็ได้ และรีดด้วยอุณหภูมิสูง ผ้าจึงจะเรียบ

    ตอบกลับ

  8. อรยา คเชนทร, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:36 pm said:

    สวัสดีค่ะ หนูชื่อ ด.ญ.อรยา คเชนทร ชั้นม.3
    เวลาถอดเสื้อผ้าควรทำอย่างระมัด ระวัง อย่ากระชากหรือดึงอย่างรุนแรง ถ้าซิปติดต้องใจเย็น ค่อย ๆ รูด ใช้ขี้ผึ้งหรือเทียนไขทาจนทำให้ซิปรูดคล่อง
    เสื้อชุด หรือเสื้อโค้ทถอดออกจากตัวแล้วไม่ควรพาดวางไว้บนเก้าอี้นานหลายชั่วโมง ควรใส่ไม้แขวนไว้เพื่อรักษารูปทรงอยู่เสมอ
    ควรนำเสื้อผ้าออกจากตู้มาผึ่งแดดบ้าง แล้วจึงเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าดังเดิม วิธีนี้จะทำให้เสื้อผ้าไม่มีกลิ่นอับ
    ผ้าแพร หรือผ้าไหม ซักแล้วไม่ควรบิด แต่ใช้มือบีบหรือใช้วิธีห่อด้วยผ้าขนหนู ช่วยซับน้ำ ไม่ควรใช้เตารีดไอน้ำ ให้ใช้ผ้าแห้งสะอาดคลุมผ้าเวลารีด แต่ต้องพรมน้ำให้ชื้นทั่วทั้งผืนก่อนรีด
    ชุดว่าย น้ำ ไม่ว่าจะว่ายน้ำทะเลหรือสระว่ายน้ำ ควรได้รับการซักตากทันที เพราะคราบเกลือ ทราย หรือคลอรีนอาจเกาะติดอยู่บนชุดอาบน้ำทำให้สีตก ง่ายและเสียเร็ว
    ผ้าลินิน ควรรีดด้านใน เพื่อไม่ให้ผ้าเป็นมัน
    เราสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้โดย เวลาเราถอดเสื้อผ้าเราก็จะได้รู้ว่าเราควรถอดแบบใดที่ถูกวิธี และรีดที่ถูกวิธี

    ตอบกลับ

  9. แก้วมณี แจ่มแจ้ง, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:37 pm said:

    สวัสดีครับ ข้าพเจ้าชื่อแก้วมณี แจ่มแจ้ง ม.3 ได้รับความรู้เรื่องหลักการดูแลเสื้อผ้าและการนำเส้นใยมาทอให้เป็นผืนผ้าได้เป็น 3 ประเภทคือ

    1 เสื้อผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์
    2 เสื้อผ้าจากเส้นใยสังเคราะห์ เช่น ผ้าไนลอน ผ้าพอลิเอสเทอร์
    3 เสื้อผ้าจากเส้นใยกึ่งสังเคราะห์ เช่น ผ้าเรยอน ผ้าอะซิเตต

    หลักการดูแลเสื้อผ้าคือ
    -ขณะสวมใส่เสื้อผ้าต้องระมัดระวังไม่ให้อะไรมาเปรอะเปื้อน
    -ไม่ควรใส่ของหนักหรือของมีคมในกระเป๋าเสื้อ
    -เสื้อผ้าเมื่อถอดแล้วจะสวมใส่อีก เช่น เสื้อกันหนาว สูท
    -ขจัดรอยเปื้อนทันทีที่พบ จะช่วยประหยัดแรงงานและเวลา
    -แยกผ้าเวลาซักอะไรเป็นผ้าสีหรือผ้าขาว

    -เสื้อผ้าที่ เลอะคราบเหงื่อ มี 3 วิธีคือ
    1.ขจัดได้โดยซักด้วยน้ำที่ผสมน้ำส้ม สายชูเล็กน้อย หรือน้ำมะนาว
    2.แช่ผ้าไว้ในน้ำยาซักผ้าที่ทำให้เจือจางใน น้ำจากนั้นซักได้ตามปกติ
    3.ละลายแอสไพริน 2 เม็ดลงในน้ำ แล้วแช่ผ้าไว้สักครู่ จึงซักตามปกติ

    -การใช้ครามคือการใช้ตกแต่งผ้าสีขาวให้ขาวสดใส โดยนำครามละลลายกับน้ำแล้วนำผ้าที่ซักไปแช่ ทิ่งไว้ 5-10 นาที และหลังจากนั้นจึงบิดและไปตากและถ้าเกิดใส่มากเกินไปจะทำให้สีผ้าเปลี่ยน

    ตอบกลับ

  10. เด็กชายมณเฑียร กรนุ่ม, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:37 pm said:

    สวัสดีครับ ผมชื่อ เด็กชายมณเฑียร กรนุ่ม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
    เรื่อง การดูแลเสื้อผ้า
    การดูแลเสื้อผ้า หมายถึง การทำความสะอาดและเก็บรักษาเสื้อผ้า โดยวิธีขจัดรอยเปื้อน ซัก ตาก รีด เก็บ พับ หรือแขวนในถุงเก็บเสื้อหรือในตู้
    เสื้อผ้าที่ เลอะคราบเหงื่อ มี 3 วิธี
    1.ขจัดได้โดยซักด้วยน้ำที่ผสมน้ำส้ม สายชูเล็กน้อย หรือน้ำมะนาว
    2.แช่ผ้าไว้ในน้ำยาซักผ้าที่ทำให้เจือจางใน น้ำจากนั้นซักได้ตามปกติ
    3.ละลายแอสไพริน 2 เม็ดลงในน้ำ แล้วแช่ผ้าไว้สักครู่ จึงซักตามปกติ
    เสื้อผ้าที่ เลอะโคลน ขจัดคราบโดยปล่อยให้โคลนแห้ง ใช้แปรงปัดออก ซักด้วยน้ำเย็นหลายๆ ครั้ง จนไม่มีน้ำโคลนออกมา จึงซักด้วยผงซักฟอก
    เสื้อผ้า ที่ขึ้นราเล็กน้อย ขจัดคราบโดยรีบนำผ้าที่ขึ้นราใหม่ๆ ซักในน้ำสบู่ร้อนๆ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ / ให้บีบมะนาวลงไป แล้วแช่ผ้าไว้ในผงซักฟอกสักครู่ จึงซักผ้าตามปกติ
    เสื้อผ้า ที่เปื้อนรอยสนิม ขจัดคราบโดยนำผ้ามาชุบน้ำให้เปียกก่อน บีบน้ำมะนาวลงไปบนรอยเปื้อน ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงนำไปซักตามปกติ

    ตอบกลับ

    • เด็กชายมณเฑียร กรนุ่ม, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:41 pm said:

      ดีเลยครับ

      ตอบกลับ

  11. ด.ญ ภัทรวดี วรรณพิมพ์, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:38 pm said:

    สวัสดีค่ะหนูชื่อเด็กหญิง ภัทรวดี วรรณพิมพ์ ชั้นมัถธยมศึกษาปีที่3
    หนูได้รับรู้เรื่องการดูแลเสื้อผ้า ในการใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันเสื้อผ้าที่ใส่
    ควรจะดูแลรักษาหรือเก็บไว้ให้ดี ในการชักเสื้อผ้าควรจะแยกชัก เช่นผ้าขาวควรจะแยกชักเพื่อป้องกันสีตก การดูแลรักษาเสื้อต่างๆดูแลรักษาอย่างถูกวิธี
    เช่น การดูแลรักษา เสื้อผ้าฝ้าย ควรชักด้วยเครื่องชักผ้าแต่การชักด้วยมือจะเป็นการถนอมใยผ้ามากกว่า เสื้อผ้าไหม สว่นใหญ่จะนิยมส่งร้านชักรีด เพราะมีขั้นตอนชักที่ยุ่งยากและต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ แต่หากจะเองควรชักด้วยมือ
    หก้ามใช้เครื่องชักผ้าจะทำให้เกิดความเสีอดสีของเครื่องชักผ้า
    เสื้อผ้า ที่เปื้อนคราบเลือด ขจัดคราบโดยนำนมข้นทาทันที ทิ้งไว้สักครู่แล้วนำไปขยี้น้ำออก
    เสื้อผ้า ที่เปื้อนคราบเลือดจางๆ ขจัดคราบโดยใช้เบคกิ้งโซดาผสมน้ำสักเล็ก น้อย จนแป้งข้นๆ ถูเบาๆ เมื่อแห้งจึงปัดฝุ่นออก
    เสื้อผ้า ที่เปื้อนคราบเลือดฝังแน่น ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำเย็น ที่ผสมเกลือจนชุ่ม ถูเบาๆ จนรอยค่อยๆ จางลง แล้วใช้น้ำเปล่าถูอีกครั้ง สุดท้ายใช้ทิชชูซับน้ำให้แห้ง
    เสื้อผ้า ที่เปื้อนคราบกาแฟ ขจัดคราบโดยใช้แป้งข้าวเจ้าถู แล้วซักได้ตามปกติ
    เสื้อผ้า ที่เลอะคราบน้ำตาเทียน ขจัดคราบโดยใช้ก้อนน้ำแข็งขูดเกล็ดเทียน ออกให้มากที่สุด จากนั้นจึงใช้กระดาษประกบบริเวณที่เปื้อนทั้ง 2 ด้าน แล้วใช้เตารีดอุ่นๆ รีดทับจนน้ำตาเทียนซึมออกมาติดกับกระดาษ

    ตอบกลับ

  12. สุนิศา ชุ่มอุระ, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:38 pm said:

    สวัสดีค่ะหนู ชื่่อ สุนิศา ชุ่มอุระ ชันม.3 หนูได้รับความรู้เกี่ยวกับ การดูแลเสื้อผ้า ดังนี้ เราควรระวังไม่ให้เสื้อผ้่าของเราขาดหรือเปลื่อนผ้าเราต้องเสียเวลาซ่อมหรือซื้อใหม่ ตัวอย่างรอยเปลื่อน วิธีการเช็ดรอยโดย
    1.ถ้าเปลื่ิอนยางกล้วยควรขจัดยางกล้วยโดยใช้มะนาวที่ฝานเป็นชิ้นบางๆ ถูตรงรอยเปื้อน ที่เป็นคราบดำ แล้วก็รีบนำมาซัก
    2.ถ้าเสื้อที่ เลอะคราบน้ำมันรถ ขจัดรอยโดยใช้มะนาวถูบริเวณ ที่เปื้อน จนรอยเปื้อนจางลง แล้วจึงนำไปซัก
    3.ถ้าเสื้อผ้า ที่ขึ้นราเล็กน้อย ขจัดคราบโดยรีบนำผ้าที่ขึ้นราใหม่ๆ ซักในน้ำสบู่ร้อนๆ ให้บีบมะนาวลงไป แล้วแช่ผ้าไว้ในผงซักฟอกสักครู่ จึงซักผ้าตามปกติ เป็นต้น และเราควรหมั่นตู้เสื้อผ้าทุกหกเดือน รื้อสิ่งของที่ไม่ได้ใช้ไปบริจาค และจัดเก็บแต่ละส่วนให้เป็นระเบียบอยู่เสมอ หมวกที่เราใสควรทำความสะอาดเพราะอาจมีเชื้อโรดอาศัยอยู่ การซักผ้า ผ้าสีและผ้าขาวควรซักแยกออกจากเพราะจะให้ตก เป็นต้น

    ตอบกลับ

  13. ด.ช. นนทชัย สวนสำราญ, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:39 pm said:

    สวัสดีครับ ผม ชื่อ ด.ช. นนทชัย สวนสำราญ ชั้น ม.3

    จากที่ผมได้อ่านเรื่อง การดูแลเสื้อผ้า ผมได้ความรู้ว่า การถอดเสื้อผ้าอย่างระวัง ไม่ควรกะชากควรถอดเบาๆและควรเก็บเสื้อผ้าให้ไม่โดนฝุ่น ผ้าแพร หรือผ้าไหม ซักแล้วไม่ควรบิด แต่ใช้มือบีบหรือใช้วิธีห่อด้วยผ้าขนหนู ช่วยซับน้ำ ไม่ควรใช้เตารีดไอน้ำ ให้ใช้ผ้าแห้งสะอาดคลุมผ้าเวลารีด แต่ต้องพรมน้ำให้ชื้นทั่วทั้งผืนก่อนรีด ผ้าขาว ที่ออกเหลืองเพราะใช้มานาน เช่น ถุงเท้า ให้ใช้เปลือกไข่ป่นละเอียดใส่ลง ไปในอ่างแช่ผ้าหรือแช่น้ำส้มสายชูทิ้งไว้สักครู่ จะทำให้ผ้าขาวขึ้นผ้าเปื้อนหมึก ผ้าเปื้อนหมึกปากกาลูกลื่น ถ้าหมึกยังไม่แห้งให้ใช้เกลือโรยตรงรอยหมึก แล้วถูด้วยมะนาวก่อนซัก ถ้าหมึกแห้งแล้วให้จุ่มรอยเปื้อนในนมสด แล้วค่อยนำไปซักเสื้อผ้าที่ เลอะยางกล้วย ขจัดคราบโดยใช้มะนาวที่ฝานเป็นชิ้นบางๆ ถูตรงรอยเปื้อน ที่เป็นคราบดำ แล้วรีบนำมาซักทันทีเสื้อผ้าที่ เลอะยาทาเล็บ ขจัดคราบโดยซับที่รอยเปื้อนด้วยน้ำยาล้างเล็บ และเช็ดด้วยผ้าที่สะอาด

    ตอบกลับ

  14. เอกลักษณ์ หุ่นแก้ว, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:39 pm said:

    สวัสดีครับ ข้าพเจ้า ด.ช. เอกลักษณ์ หุ่นแก้ว ม.3 ได้รับความรู้เรื่องการดูแลเสื้อผ้า ประเภทของเสื้อผ้ามีอยู่3ประเภทได้แก่
    1.เสื้อผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ
    ชนิดของผ้า 1ผ้าฝ้าย 2ผ้าลินิน 3ผ้าไหม 4ผ้าขนสัตว์
    2.เสื้อผ้าจากเส้นใยสังเคราะห์
    ชนิดของผ้า 1ผ้าไนลอน 2ผ้าพอลิเอสเทอร์ 3ผ้าไครลิก 4ผ้าแปนเด้กซ์หรือไลครา
    3.เสื้อผ้าจากเส้นใยกึ่งสังเคราะห์
    ชนิดของผ้า 1ผ้าเรยอน 2ผ้าอะซิเตต 3ผ้าที/ซี 4ผ้าซีทีซี
    หลักการดูแลเสื้อผ้า
    1.ขณะสวมใส่เสื้อผ้าต้องระมัดระวัง
    2.ไม่ควรใส่ของหนักในกระเป๋าเสื้อ
    3.สำรวจสัญลักษณ์บนเสื้อผ้า
    การขจัดรอยเปื้อน

    ตอบกลับ

  15. ด.ญ.ขนิษฐา โสวจันทร, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:39 pm said:

    สวัสดีค่ะ ข้าพเจ้า ชื่อเด็กหญิง ขนิษฐา โสวจันทร ชั้น ม.3
    หนูได้รับความรู้เรื่อง การดูแลเสื้อผ้า คือ การดูแลเสื้อผ้า เป็นการทำความสะอาดและเก็บรักษาเสื้อผ้า โดยวิธีขจัดรอยเปื้อน ซัก ตาก รีด เก็บ พับ หรือแขวนในตู้เสื้อผ้า
    การดูแลเสื้อผ้าอย่างถูกวิธีและประณีตมีความสำคัญ ดังนี้
    1.ทำให้เสื้อผ้าสะอาด ไม่มีคราบสกปรก หรือมีกลิ่นเหม็นจากเหงื่อไคล
    2.ป้องกันไม่ใหเกิดโรคผิวหนังที่มาจากเสื้อผ้ากปรก เช่น หิด กลาก เกลื้อน ผดผื่นคัน เป็นต้น
    3.ช่วยถนอมเนื้อผ้าให้ทนทาน ไม่เสื่อมสภาพ และมีอายุการใช่งานยาวนาน
    4.ส่งเสริมบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ให้ดูดี สง่างาม เป็นที่ชื่นชอบของผู้พบเห็น
    5.ผู้สวมใส่เกิดความมันใจ และภาคภูมิใจ
    6.ปลูกฝังลักษณะนิสัยให้เป็นคนรักความสะอาด มีระเบียบวินัย ประณีต สวยงาม
    เสื้อผ้าแบ่งออกตามชนิดของเส้นใยที่นำมาทอเป็นผืนผ้าได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
    1.เสื้อผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ ซึ่งเป็นเส้นใยที่มีอยู่ในธรรมชาติ เช่นผ้าฝ่าย ผ้าลินิน ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์
    2.เสื้อผ้าจากเส้นใยสังเคราะห์ ซึ่งเป็นใยที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้นมาจากเคมี เช่น ผ้าไนลอน ผ้าพอลิเอสเทอร์ ผ้าอไครลิก ผ้าสแปนเด็กซ์
    3.เสื้อผ้าจากเส้นใยกึ่งสังเคราะห์ ซึ่งเป็นเส้นใยผสมระหว่างใยธรรมชาติและใยสังเคราะห์ เช่นผ้าเรยอน ผ้าอะซิเตต ผ้าที/ซี ผ้าซีทีซี

    ห้องเก็บเสื้อผ้า ควรมีการจัดตู้เสื้อผ้าใหม่ และทิ้งเสื้อชุดที่ไม่ใช้เสียบ้าง นำเสื้อผ้าที่เป็นชุดมาปัดฝุ่นและผึ่งแดด ปัดฝุ่นกล่องต่าง ๆ กระเป๋าเดินทาง ที่แวนหมวก เช็ดผนังห้อง ชั้นวางของ และตะขอต่าง ๆ ใส่กระดาษหอมไว้ตามชั้น แล้ววางของไว้ให้เป็นที่เรียบร้อย

    ใส่อุปกรณ์ดักจับความชื้นในตู้ และเพิ่มเครื่องหอมเช่น การบูร บุหงารำไป แก้ปัญหากลิ่นอับและเพิ่มความหอมให้เสื้อผ้า
    ราวตากผ้า เช็ดถูราวตากผ้าด้วยผ้าชุบน้ำบิดพอหมาด เช็ดก่อนใช้ ถ้าทำราวตากผ้าใหม่เพื่อให้เชือกตากผ้าอ่อนนุ่มไม่แห้ง ให้นำเชือกมาต้มในน้ำเดือด หลาย ๆ นาทีก่อน แล้วจึงใช้น้ำร้อนราดอีกครั้งก่อนจะนำเชือกนั้นไปขึงเป็นราวตากผ้า

    ไม้หนีบผ้า ถ้าไม้หนีบผ้าสักหลาดสกปรกให้แช่ในน้ำสบู่อุ่น ๆ ถ้าเป็นไม้หนีบผ้าพลาสติคให้แช่ในน้ำสบู่อ่อน ๆ ผสมน้ำอุ่น วิธีง่าย ๆ ให้นำเอาไม้หนีบผ้าใส่ถุงตาข่ายไนล่อน แล้วแขวนเอาไว้ในน้ำสบู่ เมื่อเอาขึ้นจากน้ำสบู่ ใช้แปรงถูคราบราที่เกาะ ล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งแดดให้แห้ง

    หลักกการดูแลเสื้อผ้า
    การดูแลเสื้อผ้าให้ทนทาน ใช้งานได้นาน มีหลักการ ดังนี้
    1.ขณะสวมใส่เสื้อผ้าต้องระมัดระวังไม่ให้เปรอะเปื้อน และถูกของแหลมคมเกี่ยวขาด
    2.ไม่ควรใส่ของหนักหรือของมีคมในกระเป๋า

    ตอบกลับ

  16. เฉลิมศักดิ์ คำพาที, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:39 pm said:

    ได้ความรู้ เวลาถอดเสื้อผ้าควรระวังอย่ากระชากเสื้อหรือดึงแรงมากเพราะจะทำให้เสื้อขาดง่าย ผ้าแพร หรือผ้าไหม ซักแล้วไม่ควรบิด เเต่ใช้มือบีบ หรือใช้ผ้าขนหนูห่อไว้เพือให้ผ้าขนหนูดูดน้ำออกและไม่ควรเตารีดไอน้ำ ให้ใช้ผ้าสะอาดคลุมเวลารีด การดูแลเสื้อผ้าให้ใช้ได้นานมีหลายวิธีดังนี้ 1 ขณะสวมใส่เสื้อผ้าต้องระวังไม่ให้เปรอะเปื้อน 2 ไม่ควรใส่ของหนักและของมีคมในกระเป๋าเสื้อ 3 เสื้อผ้าเมือจะสวมใส่อีก เช่น เสื้อกันหนาว สูทไม่ควรแขวนไว้ที่ตะปู 4 สำรวจสัญลักษณ์บนป้ายผ้าที่ติดมากับเสื้อผ้า 5 สำรวจชนิดผ้าพื่อให้เลือกใช้วัสดุ 6 หยิบสิ่งของออกจากกระเป๋าเสื้อ 7 ขจัดรอยเปื้อนทันทีที่พบ ด.ช.เฉลิมศักดิ์ คำพาที

    ตอบกลับ

  17. ด.ญ.กมลวรรณ เปี้ยจันทึก, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:40 pm said:

    ได้ความรู้เกียวกับ หลักการดูแลเสื้อผ้าให้ทนทาน ไช้งานได้นานมากขึ้น (1) ขณะที่สวมใส่เสื้อผ้าต้องระมัดระวังไม่ให้เปรอะเปื้อนเสื้อผ้า (2) ไม่ควรใส่ของหนักหรือของมีคมในกระเป๋าเสื้อ (3) เสื้อผ้าเมื่อถอดแล้วจะสวมใส่อีก เช่น เสื้อกันหนาว ไม่ควนแขวนไว้ที่ปะตู (4) สำรวจสัญลักษณ์บนปกป้ายผ้าที่ติดมากับเสื้อผ้า (5) สำรวจชนิดของผ้าเพื่อให้เลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ (6) หยิบสิ่งของออกจากกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง (7) (ด.ช. วุฒิชัย เอมโอษฐ์ ม.3)

    ตอบกลับ

  18. kittichai, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:40 pm said:

    เรื่อง การดูเเลเสื้อผ้า

    ผ้าไหม ซักแล้วไม่ควรบิด ควรห่อด้วยผ้าขนหนู ไม่ควรใช้เตารีดไอน้ำเเต่ควรใช้ผ้าแห้งสะอาดคลุมผ้าเวลารีด แต่ต้องพรมน้ำให้ชื้นทั่วทั้งผืนก่อนรีด
    ผ้าขาว ที่ออกเหลือง ใช้เปลือกไข่ป่นละเอียดผสมกับน้ำส้มสายชู ทิ้งไว้สักครู่ จะทำให้ผ้าขาวขึ้น เสื้อผ้าที่ เลอะคราบครีม เนย น้ำมัน ขจัดคราบโดยนำแป้งที่ใช้สำหรับทาตัวมา โรย ใช้กระดาษทิชชู หรือกระดาษบางอื่นๆ วางทับ นำเตารีดที่มีความร้อนพอสมควร ทับบนกระดาษ จนแป้งดูดคราบออกจนหมด แล้วจึงนำไปซัก ก่อนการซักผ้าให้แยกผ้าสีและผ้าขาว เพราะว่าผ้าแต่ล่ะชนิดมีคุณสมบัติต่างกัน ดังนั้นจึงควรแยกผ้า เสื้อผ้าที่สวมแล้วและเปียกเหงื่อ ควรแขวนไว้ให้หมดเหงื่อ ดีกว่าการนำผ้าที่ใช้แล้วถอดใส่ตระกล้าทันที เพราะจะทำให้มีกลิ่นอับชื้นจากเหงื่อ ควรนำเสื้อผ้าที่ใช้แล้วแขวนในที่ที่ลมโกรก หรือแขวนผึ่งไว้ในที่อากาศปลอดโปร่งเพื่อให้เหงื่อแห้งก่อนซัก
    เด็กชาย กิตติชัย เมทนีชวลิต มัธยมศึกษาปีที่3 เลขที่3

    ตอบกลับ

  19. อภิเดช ทัศนากร, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:41 pm said:

    ได้ความรู้เรื่องชนิดของผ้าว่ามี 2 ชนิด 1.ผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ 2.ผ้าจากเส้นใยสังเคราะห์ เช่น 1.ผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น
    1.ผ้าฝ้าย สมบัติคือ มีความมันเงา ยืดหยุ่นต่ำ และไม่มีไฟฟ้าสถิด นำไปทำเสื้อผ้าเด็กอ่อน
    2.ผ้าขนสัตว์ สมบัติคือ อยู่ตัวดีเมื่อแห้ง ดูดความชื้นได้ดี ให้ความอบอุ่น
    นำไปเย็บสูต เสื้อกันหนาว ผ้าห่ม
    2.ผ้าจากเส้นใยสังเคราะห์ เช่น
    1.ผ้าไนลอน สมบัติคือ เหนียว แข็งแรงทนทานมาก ยืดหยุ่นง่าย นำไปทำ ถุงน่องสตรีและเสื้อผ้าต่างๆ
    2.ผ้าสแปนเด็กซ์ สมบัติคือ ต้านทานแรงดึงได้สูง นำไปทำ เสื้อชั้นในสตรี ยางยืดและผ้าที่ใช้ในการแพทย์
    เราต้องดูแลเสื้อผ้าให้สะอาดและต้องเก็บให้ะอาดและไว้ในตู้เก็บเสื้อผ้า และนำมาซักและรีดให้เสื้อคงตัวและเรียบสวยงามและคงรูป และพอนำไปใช้ก็จะดูสวยและสะอาด
    ด.ช. อภิเดช ทัศนากร ม.3

    ตอบกลับ

  20. สันติ คเชนทร, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:41 pm said:

    ได้รู้แต่ละชนิดผ้า 1.ผ้าเส้นใยทําธรรมชาติ ชึ่งเป็นเส็นใยตามธรรมชาติ เช่น 1.1ผ้าฟ้าย เงาน้อยยืดยุ่นตํ่า อาจหดหลังชัก เหนียวปานกลาง 1.2ผ้าลินิล เงามัน สวยงาม ดูดชับความร้อนได้ดีกว่าผ้าฟ้าย แห้งเร็ว ทนความร้อน 1.3ผ้าไหม เงามัน สวยงาม ผ้าทิ้งตัวดี ดูดซับความชื่อได้ดี ย้อมสีได้ง่าย สวมใส่แล้วจะรู้สึกสบาย 1.4 ผ้าขนสัตว์ อยู่ตัวดีเมื่อแห้ง เมื่อชืนจะทิ้งตัวและยืดยุนได้ดี 2.เสื่อผ้าจากเส้นใยสังเคราะ ซึ่งเป็นผ้าที่มนุษย์สังเคราะขึ้นเอง 2.1 ผ้าไนลอน มีความเหนียว ทนทานมาก ยืดยุ่นง่าย 2.2 ผ้าพออลิเอสเทอร์ เส้นใยนุ่ม นํ้านักเบาไม่ยับง่าย 2.3ผ้าอไครลิก ไม่หด แห้งง่าย ทนทานต่อกาชักฟอก 2.4 ผ้าสแปนเด็กซ์หรือ ผ้าไลครา ต้านแรงดึงได้สูง 3.เสื่อผ้าจากเส้นใยสังเคราะ ซึ้งเป็นเส้นใยจากธรรมชาติและสารเคมี 3.1 ผ้าเรยอน เนื้อนุ่ม สวยงาม มีความเงาคร้ายไหม 3.2ผ้าอะชิเตต เนื่อนุ่ม เป็นมันเงา ไมยับ ไม่หด ไมค่อยดูดความชื่น 3.3 ผ้า t/c ไม่ยืด ไม่หด ทนต่อกาชักด้วยเครื่อง 3.4 ผ้า(ctc) ไม่หดตัวทนทานกว่าผ้าฟ้าย
    การนําไปใช้ในชีวิตปรจําวัน การเลือกผ้าได้อย่างถูกต้อง การขจัดรอยเปื่อนอย่างถูกต้อง ชักตากรีดอย่างถูกวิธี ด.ช. สันติ คเชนทร ม.3

    ตอบกลับ

  21. นายพีรพล พูลพร้าว, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:41 pm said:

    สวัสดี ‘ คับผมนาย ‘ พีรพล พูลพร้าว- ความรู้ที่ได้ในเรื่องการดูแลเสื้อผ้า ความรู้ที่ได้มากมายเลยคับได้รู้เรื่องการขจัดรอยเปลื้อนที่ขจัดอยากและได้รู้วิธีขจัดรอยเปลื้อน รอยเปลื้อนที่สักอยากมีเยาะเช่น เสื้อผ้าที่ เลอะคราบดินสอ วิธีแก้
    ใช้ยาสีฟันป้ายลงบนรอยดินสอ แล้วขยี้ เสื้อผ้าที่ เลอะยางกล้วย วิธีแก้ ขจัดคราบโดยใช้มะนาวที่ฝานเป็นชิ้นบางๆ ถูตรงรอยเปื้อน ที่เป็นคราบดำ แล้วรีบนำมาซักทันที / เป็นต้น ความรู้ที่ได้สำคัญมากเราสามารถเอาความรู้ที่ได้มาสักเสื้อผ้าที่เราใส่กันทุก วันได้ และเราเอาความรู้ที่มีไปสักรอยเปลื้อนต่างๆ ได้ดีและความรู้ที่เรามีหรือความรู้ที่เราได้มาจากการเรียนรู้ของเรื่องเสื้อผ้า เราควนนำความรู้ไปบอกคนให้มากๆ จะทำให้คนในประเทศมีเสื้อผ้าที่สอาดให้กันเพราะเสื้อผ้าเป็นสิ่งสำคัญของคนทุกๆที่ :’) ( นายพีรพล พูลพร้าว ม.3 / เลขที่ 1 )

    ตอบกลับ

  22. วีรศักดิ์ ศรีกำเหนิด, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:41 pm said:

    สวัสดีครับ
    เวลาถอดเสื้อผ้าควรทำอย่างระมัด ระวัง อย่ากระชากหรือดึงอย่างรุนแรง ถ้าซิปติดต้องใจเย็น ค่อย ๆ รูด ใช้ขี้ผึ้งหรือเทียนไขทาจนทำให้ซิปรูดคล่อง
    เสื้อชุด หรือเสื้อโค้ทถอดออกจากตัวแล้วไม่ควรพาดวางไว้บนเก้าอี้นานหลายชั่วโมง ควรใส่ไม้แขวนไว้เพื่อรักษารูปทรงอยู่เสมอ
    ควรนำเสื้อผ้าออกจากตู้มาผึ่งแดดบ้าง แล้วจึงเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าดังเดิม วิธีนี้จะทำให้เสื้อผ้าไม่มีกลิ่นอับ
    ผ้าแพร หรือผ้าไหม ซักแล้วไม่ควรบิด แต่ใช้มือบีบหรือใช้วิธีห่อด้วยผ้าขนหนู ช่วยซับน้ำ ไม่ควรใช้เตารีดไอน้ำ ให้ใช้ผ้าแห้งสะอาดคลุมผ้าเวลารีด แต่ต้องพรมน้ำให้ชื้นทั่วทั้งผืนก่อนรีด
    ชุดว่าย น้ำ ไม่ว่าจะว่ายน้ำทะเลหรือสระว่ายน้ำ ควรได้รับการซักตากทันที เพราะคราบเกลือ ทราย หรือคลอรีนอาจเกาะติดอยู่บนชุดอาบน้ำทำให้สีตก ง่ายและเสียเร็ว
    ผ้าลินิน ควรรีดด้านใน เพื่อไม่ให้ผ้าเป็นมัน
    ละลายผง ซักฟอกในน้ำอุ่น จะละลายได้เร็วกว่า และสิ้นเปลืองน้อยกว่าละลายในน้ำเย็น
    ผ้าขาว ที่ออกเหลืองเพราะใช้มานาน เช่น ถุงเท้า ให้ใช้เปลือกไข่ป่นละเอียดใส่ลง ไปในอ่างแช่ผ้าหรือแช่น้ำส้มสายชูทิ้งไว้สักครู่ จะทำให้ผ้าขาวขึ้น
    เสื้อผ้าที่ เลอะคราบครีม เนย น้ำมัน ขจัดคราบโดยนำแป้งที่ใช้สำหรับทาตัวมา โรย ใช้กระดาษทิชชู หรือกระดาษบางอื่นๆ วางทับ นำเตารีดที่มีความร้อนพอสมควร ทับบนกระดาษ จนแป้งดูดคราบออกจนหมด แล้วจึงนำไปซัก
    สามารถนำไปใช้โดย ถภ้าเราซักผ้าเราก็จะรู้และถูกวิธี

    ตอบกลับ

  23. สุธีร์ พันธุ์มณฑา, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:45 pm said:

    สวัสดีครับ ข้าพเจ้าชื้อ ด.ช. สุธีร์ พันธุ์มณฑา ชั้นม.3
    ได้เรียนรู้เรื่อง การดูแลเสื้อผ้า
    1. ถ้าเสื้อผ้าเลอะคราบ ครีม เนย น้ำมัน นำแป้งที่ใช้สำหรับทาตัวมา โรย ใช้กระดาษทิชชู หรือกระดาษบางอื่นๆ วางทับ นำเตารีดที่มีความร้อนพอสมควร ทับบนกระดาษ จนแป้งดูดคราบออกจนหมด รอยยคราบก้จะหาย
    2. ถ้าเสื้อผ้าเลอะรอยเปื้อนคราบเลือด นำนมข้นทาทันที ทิ้งไว้แล้วนำไปขยี้น้ำออก
    3. ถ้าเรอะรอยเปื้ยนยางผลไม้ ใช้สารส้มถูบริเวณรอยเปื้อน แล้วนำไปซักผงซักฝอก
    4. ถ้าเรอะรอยเปื้อนยาแดง ไห้เช็ดรอยเปื้อนด้วนแอมโมเนียหรือซักกับน้ำสมสายชู
    5.ถ้าเรอะดินสอ ไห้ไช้ยาสีฟันป้ายลงบนที่เรอะรอยดินสอแล้วขยี้และนำไปซัก
    และได้เรียนรู้เรื่องการถอดเสื้อผ้าไห้ถอดโดยระมัดระวังอย่าไห้เสื้อผ้าชีกขาด
    ถ้ารุดซิบไม่ออกไห้รูดออกเบาๆหรือไช้ขี้ผึ้งหรือเทียนทา จนรื้น
    และได้รู้ว่าเสื้อผ้าเรยอนมีเนื้อนุ่มสวยงาม มีความเงามันคล้ายไหม ดูดซึมน้ำได้ดีแต่ยับง่าย คลายยับยาก รีดเรียบทิ้งไว้จะรู้ลงแต่เปื่อยง่าย ติดไฟเร็ว
    และได้รู้เรื่องการรีดผ้าฝ่าย รีดโดยนำผ้าที่ตากไว้พอหม่าดๆ นำไปรีด ไม่ต้องพรมน้ำ หรือจะไช้น้ำยารีดผ้าเรียบก็ได้ และรีดด้วยอุณหภูมิสูง ผ้าจึงจะเรียบ

    ตอบกลับ

  24. เด็กชาย ธนพล อยู่สูวรรณ, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:46 pm said:

    กระผม เด็กชาย ธนพล อยู่สุวรรณ ม.3 ขณะสวมเสื้อผ้าต้องระมัดระวังไม่ให้เปรอะเปื้อนและการถูกของแหลมคมเกี่ยว
    เมื่อถอดเสื้อควรแขวนไว้กับไม้แขวนเสื้อ ไม่ควรแขวนไว้บนตะขอหรือตะปูเพราะจะทำให้เสื้อเสียรูปทรงและฉีกขาดได้ง่าย แต่ถ้าเป็นเสื้อกันหนาวไม่ควรแขวนทิ้งไว้ เพราะว่าจะทำให้เสื้อยืดเสียรูปทรง
    ในกระเป๋าเสื้อ ไม่ควรใส่ของที่หนักมาก เพราะจะทำให้กระเป๋าเสื้อเสียรูปทรงและฉีกขาดเร็ว
    เมื่อถอดเสื้อผ้าออกจากตัว ควรตรวจดูรอบเปื้อน ถ้าเสื้อถูกรอยเปื้อนให้รีบขจัดรอยเปื้อนในทันที เพราะว่ารอยเปื้อนใหม่จะทำความสะอาดได้ง่ายกว่าปล่อยทิ้งไว้นาน
    หากพบว่าเสื้อผ้ามีส่วนที่ชำรุด ก่อนการนำไปทำความสะอาดควรซ่อมแซมให้เรียบร้อยเสียก่อน
    เมื่อประกอบอาหารหรือทำกิจกรรมอื่นๆที่อาจทำให้เสื้อผ้าเปื้อน ควรสวมผ้ากันเปื้อนทุกครั้ง ❤

    ตอบกลับ

  25. fgdfgf, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:46 pm said:

    สวัสดีครับ ผมชื้อ ด.ช.เสกสรรค์ ม่วงมณี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เลขที่11
    ผมใด้รับความรู้เรื่องการขจัดคราบต่างๆบนเสื้อผ้า การดูเเลรักษาผ้าเเละเนื้อผ้า
    เเละการถนอมผ้า เช่น ทำอย่างไรให้รูดซิดง่ายชึ้น ผ้าเเพรซักเเล้วไม่ควรบิด ควรติดไฟใว้ในตู้เสื้อผ้า เเละควรตรวจสื่งของในตู้ทุกๆ6เดือน เป็นต้น
    การนำไปใช่ในชีวิตประจำวัน คือ ควรดูเเลรักษาเนื้อผ้าให้สะอาดทุกๆวัน จะทำให้เนื่อผ้าสะอาดมากขึ้นไม่มีกลิ่นอับติดเสื้อผ้า ไมเหม็นอับ ไม่มีคราบไคร่ สีไม่จาง สะอาด ไม่ก่อให้เกิดโรคผิวหนัง เเละ เชื้อลาในเสื้อผ้าของเราทำให้เสื่อผ้าไม่เสือมสภาพหรือเก่าเร็ว เเละทำให้เราเกิดความมั้นใจในขนาดสวมใส่
    ถ้าเราไม่รักษาเสื้อผ้าหรือเนื้อผ้าจะก่อให้เกิดผลเสืยต่อสุขภาพในร่างกาย
    เหม็นอับ เสื้อผ้าเสือมง่าย ไม่ทน เหม็นอับ เพราะชะนั้นเราจึงต้องดูเเลรักษาเสื้อผ้าอย่างสม้ำเสมอเป็นต้น

    ตอบกลับ

  26. นาย ณัฐวัฒน์ ธรรมสวัสดิ์, on พฤษภาคม 29, 2013 at 2:47 pm said:

    สวัสดีนร๊คัป ผมชื่อนาย ณัฐวัฒน์ ธรรมสวัสดิ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3
    ผมได้เรียนรู้เรื่อง การดูแลเสื้อผ้า เสื้อผ้าเป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ช่วยห่มหุ้มร่างกายคนเราตลอดเวลาซึ่งจำเป็นต้องดูแลรักษาความสะอาดของเสื้อผ้า
    การดูแลเสื้อผ้าทำให้เสื้อผ้าสะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็นต่างๆ ทำให้คนที่สวมใสไม่เกิดโรคผิวหนัง ทำให้เสื้อผ้าไม่เก่าเร็วหรือไม่เสื่อมสภาพ ทำให้คนใส่มีความมั่นใจ การเก็บรักษาเสื้อผ้า ต้องจัดเก็บ วลาถอดเสื้อผ้าควรทำอย่างระมัด ระวัง อย่ากระชากหรือดึงอย่างรุนแรง ถ้าซิปติดต้องใจเย็น ค่อย ๆ รูด ใช้ขี้ผึ้งหรือเทียนไขทาจนทำให้ซิปรูดคล่อง
    เสื้อชุด หรือเสื้อโค้ทถอดออกจากตัวแล้วไม่ควรพาดวางไว้บนเก้าอี้นานหลายชั่วโมง ควรใส่ไม้แขวนไว้เพื่อรักษารูปทรงอยู่เสมอ
    ควรนำเสื้อผ้าออกจากตู้มาผึ่งแดดบ้าง แล้วจึงเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าดังเดิม วิธีนี้จะทำให้เสื้อผ้าไม่มีกลิ่นอับ
    ผ้าแพร หรือผ้าไหม ซักแล้วไม่ควรบิด แต่ใช้มือบีบหรือใช้วิธีห่อด้วยผ้าขนหนู ช่วยซับน้ำ ไม่ควรใช้เตารีดไอน้ำ ให้ใช้ผ้าแห้งสะอาดคลุมผ้าเวลารีด แต่ต้องพรมน้ำให้ชื้นทั่วทั้งผืนก่อนรีด
    ชุดว่าย น้ำ ไม่ว่าจะว่ายน้ำทะเลหรือสระว่ายน้ำ ควรได้รับการซักตากทันที เพราะคราบเกลือ ทราย หรือคลอรีนอาจเกาะติดอยู่บนชุดอาบน้ำทำให้สีตก ง่ายและเสียเร็ว
    ผ้าลินิน ควรรีดด้านใน เพื่อไม่ให้ผ้าเป็นมัน
    ละลายผง ซักฟอกในน้ำอุ่น จะละลายได้เร็วกว่า และสิ้นเปลืองน้อยกว่าละลายในน้ำเย็น

    ตอบกลับ

  27. ด.ญ.พัสกร สายสาหร่าย, on มิถุนายน 1, 2013 at 12:00 pm said:

    สวัสดีค่ะ ข้าพเจ้า ด.ญ.พัสกร สายสาหร่าย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
    เรื่อง : การดูแลเสื้อผ้า
    การดูแลเสื้อผ้า หมายถึง หารทำความสะอาดและเก็บรักษาเสื้อผ้า ดดยวิธีขจัดรอยเปื้อน ซัก ตาก รีด เก็บ พับ หรือแขวนในถุงเก็บเสื้อหรือในตู้
    เสื้อผ้าสำเร็จรูปที่วางจำหน่ายทั่วไปในปัจจุบัน มีการออกแบบและตัดเย็บจากผ้าหลายประเภท ซึ่งการที่ผ้าแต่ละประเภทมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ส่งผลให้ต้องดูแลอย่างถูกวิธีและใช้ความประณีตด้วย
    – ประเภทของเสื้อผ้า
    1.เสื้อผ้าจากใยธรรมชาติ ซึ่งเป็นเส้นใยที่มีอยู่ในธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้ายผลิตจากปุยฝ้ายซึ่งเป็นส่วนที่ห่อหุ้มเมล็ดฝ้าย
    2.เสื้อผ้าจากเส้นใยสังเคราะห์ ซึ่งเป็นใยที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้นจากสารเคมี แล้วผลิตเป็นผืนผ้า เช่น ผ้าไนลอน
    3.เสื้อผ้าจากใยกึ่งสังเคราะห์ ซึ่งเป็นใยผสมระหว่างใยธรรมชาติและใยสังเคราะห์ หรือนำเอาเส้นใยธรรมชาติมาดัดแปลงด้วยวิธีทางเคมี เช่น ผ้าเรยอน
    – ประโยชน์ และ สิ่งที่สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประวัน ที่ได้จากเรื่องนี้
    1.ความหมายและความสำคัญของการดูแลรักษาเสื้อผ้า
    การดูแลเสื้อผ้าเป็นการขจัดรอยเปื้อน การซัก การตาก การรีดและการเก็บรักษาเสื้อผ้าประเภทต่าง ๆ อย่างถูกวิธีเพื่อให้เสื้อผ้าคงสภาพดี ใช้งานได้นานโดยไม่ต้องซื้อให่
    2.ประเภทของเสื้อผ้า
    เสื้อผ้าแบ่งตามประเภทของผ้าที่ใช้ตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าใยธรรมชาติ เสื้อผ้าใยสังเคราะห์ เสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์
    3.หลักการดูแลเสื้อผ้า
    การดูแลเสื้อผ้าอย่างถูกวิธีมีหลักการ คือ สำรวจชนิดของเส้นใยผ้า ปฏิบัติตามสัญลักษณ์ตามป้ายผ้า ศึกษาวิธีใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือดูแลเสื้อผ้า รวมถึงวิธีดูแลเสื้อผ้าแต่ละชนิดให้เข้าใจ แล้วปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
    4.วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือในการดูแลเสื้อผ้า
    ควรเลือกใช้ให้ตรงกับลักษณะงาน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    5.วิธีการดูแลเสื้อผ้าประเภทต่าง ๆ
    – ขจัรอยเปื้อนอย่างถูกวิธ
    – ซัก ตาก รีด และเก็บอย่างถูกวิธี

    ตอบกลับ

  28. สิทธิชาติ บุญอิ่ม, on กรกฎาคม 3, 2013 at 2:19 pm said:

    สวัสดีคับ ผมชื่ิอนาย สิทธิชาติ บุญอิ่ม ชั้น ม.3 เลขที่ 2
    ได้อ่าน แล้ว ก็สรุป ว่า
    1 เสื้อผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์
    2 เสื้อผ้าจากเส้นใยสังเคราะห์ เช่น ผ้าไนลอน ผ้าพอลิเอสเทอร์
    3 เสื้อผ้าจากเส้นใยกึ่งสังเคราะห์ เช่น ผ้าเรยอน ผ้าอะซิเตต

    หลักการดูแลเสื้อผ้าคือ
    -ขณะสวมใส่เสื้อผ้าต้องระมัดระวังไม่ให้อะไรมาเปรอะเปื้อน
    -ไม่ควรใส่ของหนักหรือของมีคมในกระเป๋าเสื้อ
    -เสื้อผ้าเมื่อถอดแล้วจะสวมใส่อีก เช่น เสื้อกันหนาว สูท
    -ขจัดรอยเปื้อนทันทีที่พบ จะช่วยประหยัดแรงงานและเวลา
    -แยกผ้าเวลาซักอะไรเป็นผ้าสีหรือผ้าขาว

    -เสื้อผ้าที่ เลอะคราบเหงื่อ มี 3 วิธีคือ
    1.ขจัดได้โดยซักด้วยน้ำที่ผสมน้ำส้ม สายชูเล็กน้อย หรือน้ำมะนาว
    2.แช่ผ้าไว้ในน้ำยาซักผ้าที่ทำให้เจือจางใน น้ำจากนั้นซักได้ตามปกติ
    3.ละลายแอสไพริน 2 เม็ดลงในน้ำ แล้วแช่ผ้าไว้สักครู่ จึงซักตามปกติ

    -การใช้ครามคือการใช้ตกแต่งผ้าสีขาวให้ขาวสดใส โดยนำครามละลลายกับน้ำแล้วนำผ้าที่ซักไปแช่ ทิ่งไว้ 5-10 นาที และหลังจากนั้นจึงบิดและไปตากและถ้าเกิดใส่มากเกินไปจะทำให้สีผ้าเปลี่ยน

    ตอบกลับ

  29. ด.ช.นพรัตน์ เอี้ยวพันธ์, on กรกฎาคม 31, 2013 at 1:25 pm said:

    สวัสดีครับ ผมชื่อ เด็กชายนพรัตน์ เอี้ยวพันธ์ เลขที่ 14 ชั้้น ม.3
    สรุปการดูแลเสื้อผ้า
    เวลาถอดเสื้อผ้าควรทำอย่างระมัด ระวัง อย่ากระชากหรือดึงอย่างรุนแรง ถ้าซิปติดต้องใจเย็น ค่อย ๆ รูด ใช้ขี้ผึ้งหรือเทียนไขทาจนทำให้ซิปรูดคล่อง
    เสื้อชุด หรือเสื้อโค้ทถอดออกจากตัวแล้วไม่ควรพาดวางไว้บนเก้าอี้นานหลายชั่วโมง ควรใส่ไม้แขวนไว้เพื่อรักษารูปทรงอยู่เสมอ
    ประเภทของเสื้อผ้า
    1. เสื้อผ้าเส้นใยธรรมชาติ
    2.เสื้อผ้าเส้นใยสังเคราะห์
    3.เสื้อผ้าเส้นใยกึ่งสังเคราะห์
    การขจัดรอยเปื้อนบนเสื้อผ้า
    เสื้อผ้าที่เลอะสี ปากกาเมจิก ให้ถูด้วยน้ำมันสน แล้วนำไปซัก
    เสื้อผ้าที่ เลอะคราบปากกาลูกลื่น ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำชุบแอลกอฮอล์เช็ดจนรอย เลอะจางลง แล้วจึงนำไปซัก
    เสื้อผ้าที่ เลอะคราบดินสอ ใช้ยาสีฟันป้ายลงบนรอยดินสอ แล้วขยี้
    เสื้อผ้าที่ เลอะลิปสติก เอามันเปลวหมูทาตรงรอยเปื้อน หรือใช้น้ำมันหมูทา แล้วจึงซักในน้ำสบู่ร้อนๆ หรือใช้ผงซักฟอกขาว โรยตรงรอยเปื้อนแล้วขยี้ แล้วจึงซักตามปกติ / ใช้วาสลินถูตรงรอยเปื้อนแล้วนำมาซักตามปกติ / นำมาแช้ไว้ในน้ำผสมเกลือทิ้งไว้ 1 คืน จะทำให้รอยลิปสติกหาย
    เสื้อผ้าที่ เลอะยางหญ้า ยางดอกไม้ ขจัดคราบโดยนำมาซักในน้ำสบู่ที่ข้นและ ร้อน ถ้ายังไม่ออกให้ใช้สารฟอกขาวช่วย
    ผ้า เปื้อนหมากฝรั่ง อย่างที่รู้กันว่าเสื้อผ้าติดหมากฝรั่งนั้นซักยาก เคล็ดลับแสนง่าย คือ การใช้ผ้าห่อน้ำแข็งมาประคบบริเวณรอยคราบ 5 นาที หมากฝรั่งจะเริ่มจับตัวเป็นก้อนแข็งจึงค่อย ๆ แกะออก หมากฝรั่งจะหลุดล่อนออกมาอย่างง่ายดายโดยไม่ทิ้งใยเหนียว ๆ ไว้เลย

    ตอบกลับ

  30. ด.ช.ธนาธิป ภู่สกุล, on กรกฎาคม 31, 2013 at 1:57 pm said:

    สวัสดีคับผมชื้อด.ช.ธนาธิป ภู่สกุล ชั้น ม.3 เลขที่12
    ได้เรียนรู้เรื่อง การดูแลเสื้อผ้า
    หลักกการดูแลเสื้อผ้า
    การดูแลเสื้อผ้าให้ทนทาน ใช้งานได้นาน มีหลักการ ดังนี้
    1.ขณะสวมใส่เสื้อผ้าต้องระมัดระวังไม่ให้เปรอะเปื้อน และถูกของแหลมคมเกี่ยวขาด
    2.ไม่ควรใส่ของหนักหรือของมีคมในกระเป๋า
    วิธีขจัดรอยเปื้อน จากคราบเหงือมี 3 วิธี
    1.ขจัดได้โดยซักด้วยน้ำที่ผสมน้ำส้ม สายชูเล็กน้อย หรือน้ำมะนาว
    2.แช่ผ้าไว้ในน้ำยาซักผ้าที่ทำให้เจือจางใน น้ำจากนั้นซักได้ตามปกติ
    3.ละลายแอสไพริน 2 เม็ดลงในน้ำ แล้วแช่ผ้าไว้สักครู่ จึงซักตามปกติ
    วิธีขจัดรอยเปื้อนจากคราบเลือด ขจัดคราบโดยนำนมข้นทาทันที ทิ้งไว้สักครู่แล้วนำไปขยี้น้ำออก
    วิธีขจัดรอยเปื้อนจากหมากฝรั่ง อย่างที่รู้กันว่าเสื้อผ้าติดหมากฝรั่งนั้นซักยาก เคล็ดลับแสนง่าย คือ การใช้ผ้าห่อน้ำแข็งมาประคบบริเวณรอยคราบ 5 นาที หมากฝรั่งจะเริ่มจับตัวเป็นก้อนแข็งจึงค่อย ๆ แกะออก หมากฝรั่งจะหลุดล่อนออกมาอย่างง่ายดายโดยไม่ทิ้งใยเหนียว ๆ ไว้เลย
    วิธีการทำความสะอาดไม้หนีบผ้า ถ้าไม้หนีบผ้าสักหลาดสกปรกให้แช่ในน้ำสบู่อุ่น ๆ ถ้าเป็นไม้หนีบผ้าพลาสติคให้แช่ในน้ำสบู่อ่อน ๆ ผสมน้ำอุ่น วิธีง่าย ๆ ให้นำเอาไม้หนีบผ้าใส่ถุงตาข่ายไนล่อน แล้วแขวนเอาไว้ในน้ำสบู่ เมื่อเอาขึ้นจากน้ำสบู่ ใช้แปรงถูคราบราที่เกาะ ล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งแดดให้แห้ง

    ตอบกลับ

  31. วุฒิชัย เอมโอษฐ์, on สิงหาคม 7, 2013 at 2:12 pm said:

    (ด.ช.วุฒิชัย เอมโฮมษฐ์ เลขที่ 8 ม.3) ได้ความรู้เกียวกับ หลักการดูแลเสื้อผ้าให้ทนทาน ไช้งานได้นานมากขึ้น (1) ขณะที่สวมใส่เสื้อผ้าต้องระมัดระวังไม่ให้เปรอะเปื้อนเสื้อผ้า (2) ไม่ควรใส่ของหนักหรือของมีคมในกระเป๋าเสื้อ (3) เสื้อผ้าเมื่อถอดแล้วจะสวมใส่อีก เช่น เสื้อกันหนาว ไม่ควนแขวนไว้ที่ปะตู (4) สำรวจสัญลักษณ์บนปกป้ายผ้าที่ติดมากับเสื้อผ้า (5) สำรวจชนิดของผ้าเพื่อให้เลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ (6) หยิบสิ่งของออกจากกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง

    ตอบกลับ

  32. ทนงศักดิ์ ประทิน, on พฤษภาคม 22, 2014 at 9:18 pm said:

    สวัสดีครับ อาจาร์แดง กระผม เด็กชาย ทนงศักดิ์ ประทิน ชั้นม.3 เลขที่ 5 จากการเรียนวิชาการงานอาชีพ เรื่อง การดูเเลเสื้อผ้า สิ่งที่ กระผมได้รับความรู้คือ ……..
    การดูเเลเสื้อผ้า คือ การดูเเลเสื้อ กางเกง หรือสิ่งของที่ใช้ไว้ปิดบังร่างกาย ให้สะอาด เเละเก็บรักษาให้ดีเพื่อประสิทธิภาพในการใช้ที่ยาวนาน ดูเหมือนใหม่ตลอดเวลา เเละดูสีสันสวยงาม หน้าใส่ยิ่งขึ้น
    ประเภทของผ้า มี 2 ชนิด ดังนี้
    1. เสื้อผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์
    2. เสื้อผ้าจากเส้นใยสังเคราะห์ เช่น ผ้าไนลอน ผ้าพอลิเอสเทอร์ ผ้าอไครลิก ผ้าสเเปนเด็กซ์ ผ้าเรยอน ผ้าอะชิเตต ผ้าที/ซี ผ้าซีทีซี
    การดูเเลรักษาเสื้อผ้า
    การใส่เสื้อผ้าที่ดีต้องใส่อย่างระมัดระวัง ไม่ให้เรอะคราบต่างๆ ไม่ควรมีของที่มีน้ำหนักเกินอยู่ในกระเป๋า หรือของมีคม จำพวกมีด เเล้วก็เวลาใส่เสื้อผ้าไม่ควรนำมาใส่ใหม่ ควรจะซักก่อน เเละเวลาซักควรจะแยกเสื้อผ้าก่อน ระหว่าง เสื้อผ้าขาว เสื้อผ้าสีเป็นต้น
    วัสดุ อุปกรณื และเครื่องใช้ในการดูแลเสื้อผ้า มีดังนี้
    ผงซักฟอก สารฟอกขาว น้ำยาปรับผ้านุ่ม สารตกแต่งผ้าขาว สารตกแต่งให้ผ้าคงรูป กะละมัง แปรงซักผ้า ตะกร้า เครื่องซักผ้า เตารีด ที่รีดผ้า ไม้เเขวนเสื้อ ที่หนีบผ้า
    การขจัดรอยเปื้อน
    1. รอยเปื้อนกาแฟ ควรนำแป้งข้าวเจ้า โรยบนรอยเปื้อน ทิ้งให้แห้ง แล้วใช้แปรงขนอ่อนปัดแป้งออก เเล้วซักตามปกติ
    2. รอยเลือด ควรนำผ้าเเช่น้ำ และใช้เเอมโมเนียเจือจางเช็ด เเล้วนำไปซัก
    3. รอยหมึกปากกา เอาเกลือโรย เเล้วบีบน้ำมะนาวให้ชุ่ม ผึ่งเเดดไว้ครึ่งวันจนเเห้ง เเละนำไปซัก
    4. รอยเปื้อนโคลน ปล่อยให้เเห้ง เเล้วใช้แปรงปัดออก จากนั้นซักด้วยน้ำเย็นหลายๆครั้ง จนไม่มีน้ำโคลนออก จึงนำไปซักตามปกติ
    5. รอยเปื้อนเหงื่อ ซักด้วยน้ำส้มสายชูเล็กน้อย จึงนำไปซักตามปกติ
    ส่วนการที่จะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร คือ การนำวิธีที่ได้จากการเรียนรู้เหล่านี้ไปใช้ในการซักผ้าของเราเอง เพื่อให้เสื้อผ้าของเราดูสะอาด เเละดูใหม่ตลอดเวลา เเละสามารถนำวิธีขจัดคาบต่างๆ ไปบอกต่อเพื่อนๆให้รู้ เพื่อจะได้เกิดประโยชน์สูงสุด

    ตอบกลับ

  33. นายอรรถวิทย์ เนียมรัตน์, on พฤษภาคม 28, 2014 at 2:44 pm said:

    (สวัสดีครับ ผมชื่อ ด.ช.โชติช่วง เข็มกำเหนิด เลขที่3 ม.3)
    ผมได้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลเสื้อผ้า ผมชอบมากคับ

    ตอบกลับ

  34. รพีพร ฮกประจง, on พฤษภาคม 28, 2014 at 2:44 pm said:

    สวัสดี ข้าพเจ้า ด.ญ.รพีพร ฮกประจง เลขที 29 ม.3
    สรุปเรื่องการดูแลเสื้อผ้า
    การดูแลเสื้อผ้า หมายถึง การทำความสะอาดและเก็บรักษาเสื้อผ้า โดยวิธีขจัดรอยเปื้อน ซัก ตาก รีด เก็บ พับ หรือแขวนในถุงเก็บเสื้อหรือในตู้
    ประเภทของเสื้อผ้า
    เสื้อผ้าแบ่งตามประเภทของผ้าที่ใช้ตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าใยธรรมชาติ เสื้อผ้าใยสังเคราะห์ เสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์
    วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือในการดูแลเสื้อผ้า
    ควรเลือกใช้ให้ตรงกับลักษณะงาน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    หลักการดูแลเสื้อผ้าให้ทนทาน
    1 ขณะที่สวมใส่เสื้อผ้าต้องระมัดระวังไม่ให้เปรอะเปื้อนเสื้อผ้า
    2 ไม่ควรใส่ของหนักหรือของมีคมในกระเป๋าเสื้อ
    3 เสื้อผ้าเมื่อถอดแล้วจะสวมใส่อีก เช่น เสื้อกันหนาว ไม่ควรแขวนไว้ที่ปะตู
    4 สำรวจสัญลักษณ์บนปกป้ายผ้าที่ติดมากับเสื้อผ้า
    5 สำรวจชนิดของผ้าเพื่อให้เลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์
    6 หยิบสิ่งของออกจากกระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋ากางเกง

    ตอบกลับ

  35. ธนพล เเตงสอน, on พฤษภาคม 29, 2014 at 9:52 am said:

    สวัสดีคับ ผมชื่อ ธนพล เเตงสอน ได้รับความรู้เรื่องการดูแลเสื้อผ้าอย่างถูกวิธี เสื้อผ้าสะอาด ไม่มีดาบสกปรก ป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อโรค ไม่เสื่อมคุณภาพ

    ตอบกลับ

  36. ด.ญ. สรัลชนา รักษาราษฎร์, on พฤษภาคม 29, 2014 at 9:54 am said:

    สวัสดีค่ะ ดิฉัน ชื่อ ด.ญ. สรัลชนา รักษาราษฎร์ ชั้น ม.3 เลขที่31
    ได้เรียนรู้เรื่อง การดูแลเสื้อผ้า หมายถึงการทำความสะอาดและเก็บรักษาเสื้อผ้าโดยวิธีจัดรอยเปื้อน ซัก ตาก รัด เก็บ พับ หรือแขวนในถุงเสื้อหรือในตู้
    การดูแลเสื้อผ้าอย่างถูกวิธีและประณีตมีความสำคัญ ดังนี้
    1.ทำให้เสื้อผ้าสะอาด ไม่มีคราบสกปรก หรือมีกลิ่นเหม็นจากเหงื่อไคล
    2.ป้องกันไม่ให้เกิดโรคผิวหนังอันเนื่องมาจากเสื้อผ้าสกปรก เช่น หิด กลาก เกลื้อน ผดผื่นคัน เป็นต้น
    3.ช่วยถนอมเนื้อผ้าให้ทนทานไม่เสื่อมสภาพ และมีอายุการใช้งานยาวนาน
    4.ส่งเสริมบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ให้ดูดี สง่างาม เป็นที่ชื่นชอบของผู้พบเห็น
    5.ผู้สวมใส่เกิดความมั่นใจ และภาคภูมิใจ
    6.ปลูกฝังลักษณะนิสัยให้เป็นคนรักษาความสะอาด มีระเบียบวินัย ประณีต สวยงาม
    ประเภคของเสื้อผ้ามี 3 ประเภทคือ
    1.เสื้อผ้าจกเส้นใยธรรมชาติ
    2.เสื้อผ้าจากเส้นใยสังเคราะห์
    3.เสื้อผ้าจากเส้นใยกึ่งสังเคราะห์
    หลักกการดูแลเสื้อผ้า
    การดูแลเสื้อผ้าให้ทนทาน ใช้งานได้นาน มีหลักการ ดังนี้
    1.ขณะสวมใส่เสื้อผ้าต้องระมัดระวังไม่ให้เปรอะเปื้อน และถูกของแหลมคมเกี่ยวขาด
    2.ไม่ควรใส่ของหนักหรือของมีคมในกระเป๋า
    วิธีขจัดรอยเปื้อน จากคราบเหงือมี 3 วิธี
    1.ขจัดได้โดยซักด้วยน้ำที่ผสมน้ำส้ม สายชูเล็กน้อย หรือน้ำมะนาว
    2.แช่ผ้าไว้ในน้ำยาซักผ้าที่ทำให้เจือจางใน น้ำจากนั้นซักได้ตามปกติ
    3.ละลายแอสไพริน 2 เม็ดลงในน้ำ แล้วแช่ผ้าไว้สักครู่ จึงซักตามปกติ
    วิธีขจัดรอยเปื้อนจากคราบเลือด ขจัดคราบโดยนำนมข้นทาทันที ทิ้งไว้สักครู่แล้วนำไปขยี้น้ำออก
    วิธีขจัดรอยเปื้อนจากหมากฝรั่ง อย่างที่รู้กันว่าเสื้อผ้าติดหมากฝรั่งนั้นซักยาก เคล็ดลับแสนง่าย คือ การใช้ผ้าห่อน้ำแข็งมาประคบบริเวณรอยคราบ 5 นาที หมากฝรั่งจะเริ่มจับตัวเป็นก้อนแข็งจึงค่อย ๆ แกะออก หมากฝรั่งจะหลุดล่อนออกมาอย่างง่ายดายโดยไม่ทิ้งใยเหนียว ๆ ไว้เลย
    วิธีการทำความสะอาดไม้หนีบผ้า ถ้าไม้หนีบผ้าสักหลาดสกปรกให้แช่ในน้ำสบู่อุ่น ๆ ถ้าเป็นไม้หนีบผ้าพลาสติคให้แช่ในน้ำสบู่อ่อน ๆ ผสมน้ำอุ่น วิธีง่าย ๆ ให้นำเอาไม้หนีบผ้าใส่ถุงตาข่ายไนล่อน แล้วแขวนเอาไว้ในน้ำสบู่ เมื่อเอาขึ้นจากน้ำสบู่ ใช้แปรงถูคราบราที่เกาะ ล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งแดดให้แห้ง

    ตอบกลับ

  37. อริสา จันทร์คง, on พฤษภาคม 29, 2014 at 9:56 am said:

    สวัสดีค่ะ ‘ ดิฉัน ชื่อ ด.ญ.อริสา จันทร์คง เลขที่ 34 ม.3 ได้รับความรู้เกี่ยวกับการดูแลเสื้อผ้า คือ การทำเสื้อผ้าให้สะอาด ไม่มีคราบสกปรกหรือมีกลิ่นเหม็นจากเหงื่อไคล

    หลักการดูแลเสื้อผ้า
    1.ขณะสวมใส่เสื้อผ้าต้องระมัดระวังไม่ให้เปอะเปื้อน
    2.ไม่ควรใส่ของหนักหรือของมีคมในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากระโปรง
    3.ขจัดรอยเปื้อนทันทีที่พบ
    4.ซ่อมแซมเสื้อผ้าที่ชำรุดก่อนซักทำความสะอาด
    5.แยกเสื้อผ้าก่อนที่จะนำไปซัก
    6.จัดเก็บเสื้อผ้าอย่างถูกวิธี

    การดูแลเสื้อผ้าแต่ละประเภทให้สะอาด คงสะภาพดี ใช้งานได้นาน ต้องรู้จักวิธีการขจัดรอยเปื้อน ซัก ตาก รีด และเก็บรักษาให้ถูกต้อง

    ตอบกลับ

  38. ดุจศิตา ศรัทธาผล, on พฤษภาคม 29, 2014 at 9:58 am said:

    สวัสดีค่ะ หนูชื่อ ด.ญ.ดุจศิตา ศรัทธาผล ชั้น ม.3 เลขที่ 23 ได้รับความรู้ในเรื่อง การดูแล และ รักษาทำความสะอาดเสื้อผ้า
    ข้อ1. ถ้าเสื้อผ้าเลอะคราบ ครีม เนย น้ำมัน นำแป้งที่ใช้สำหรับทาตัวมา โรย ใช้กระดาษทิชชู หรือกระดาษบางอื่นๆ วางทับ นำเตารีดที่มีความร้อนพอสมควร ทับบนกระดาษ จนแป้งดูดคราบออกจนหมด รอยยคราบก้จะหาย
    ข้อ2. ถ้าเสื้อผ้าเลอะรอยเปื้อนคราบเลือด นำนมข้นทาทันที ทิ้งไว้แล้วนำไปขยี้น้ำออก
    ข้อ3. ถ้าเรอะรอยเปื้ยนยางผลไม้ ใช้สารส้มถูบริเวณรอยเปื้อน แล้วนำไปซักผงซักฝอก
    ข้อ4. ถ้าเรอะรอยเปื้อนยาแดง ไห้เช็ดรอยเปื้อนด้วนแอมโมเนียหรือซักกับน้ำสมสายชู
    ข้อ5.ถ้าเรอะดินสอ ไห้ไช้ยาสีฟันป้ายลงบนที่เรอะรอยดินสอแล้วขยี้และนำไปซัก
    และได้เรับความรู้ในเรื่องการถอดเสื้อผ้า ไห้ถอดโดยระมัดระวังอย่าไห้เสื้อผ้าชีกขาด
    ถ้ารุดซิบไม่ออกไห้รูดออกเบาๆหรือไช้ขี้ผึ้งหรือเทียนทา จนรื้น
    และได้รู้ว่าเสื้อผ้าเรยอนมีเนื้อนุ่มสวยงาม มีความเงามันคล้ายไหม ดูดซึมน้ำได้ดีแต่ยับง่าย คลายยับยาก รีดเรียบทิ้งไว้จะรู้ลงแต่เปื่อยง่าย ติดไฟเร็ว
    และได้รู้เรื่องการรีดผ้าฝ่าย รีดโดยนำผ้าที่ตากไว้พอหม่าดๆ นำไปรีด ไม่ต้องพรมน้ำ หรือจะไช้น้ำยารีดผ้าเรียบก็ได้ และรีดด้วยอุณหภูมิสูง ผ้าจึงจะเรียบ เท่านี้เราก็จะมีเสื้อผ้าที่อยู่กับเราได้นานๆ

    ตอบกลับ

  39. มลนิฐิ พูลพงษ์, on พฤษภาคม 29, 2014 at 9:58 am said:

    สวัสดีค่ะ ข้าพเจ้า ด.ญ.มลนิฐิ พูลพงษ์ ม.3 เลขที่ 28
    ได้ความรู้จาากเรื่องนี้ คือ
    วิธีขจัดรอยเปื้อนจากคราบเลือด ขจัดคราบโดยน้ำนมข้นทาทันที ทิ้งไว้สักครู่แล้วนำไปขยี้น้ำออก
    วิธีขจัดรอยเปื้อนจากหมากฝรั่ง อย่างที่รู้กันว่าเสื้อผ้าติดหมากฝรั่งนั้นซักยาก เคล็ดลับแสนง่าย คือ การใช้ผ้าห่อน้ำแข็งมาประคบบริเวณรอยคราบ 5 นาที หมากฝรั่งจะเริ่มจับตัวเป็นก้อนแข็งจึงค่อย ๆ แกะออก หมากฝรั่งจะหลุดล่อนออกมาอย่างง่ายดายโดยไม่ทิ้งใยเหนียว ๆ ไว้เลย
    วิธีขจัดรอยเปื้อนรา{แบบเล็กน้อย} นำผ้าไปซักในน้ำสบู่ร้อนร้อน หรือบีบน้ำมะนาวลงไปที่มีราขึ้นแล้วแช่ผ้าในผงซักฟอกซักครู่ แล้วจึงซักตามปรกติ
    วิธีการทำความสะอาดไม้หนีบผ้า ถ้าไม้หนีบผ้าสักหลาดสกปรกให้แช่ในน้ำสบู่อุ่น ๆ ถ้าเป็นไม้หนีบผ้าพลาสติคให้แช่ในน้ำสบู่อ่อน ๆ ผสมน้ำอุ่น วิธีง่าย ๆ ให้นำเอาไม้หนีบผ้าใส่ถุงตาข่ายไนล่อน แล้วแขวนเอาไว้ในน้ำสบู่ เมื่อเอาขึ้นจากน้ำสบู่ ใช้แปรงถูคราบราที่เกาะ ล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งแดดให้แห้ง
    หลักการดูแลเสื้อผ้าให้ทนทาน ไช้งานได้นานมากขึ้น
    1) ขณะที่สวมใส่เสื้อผ้าต้องระมัดระวังไม่ให้เปรอะเปื้อนเสื้อผ้า
    2) ไม่ควรใส่ของหนักหรือของมีคมในกระเป๋าเสื้อ
    3) เสื้อผ้าเมื่อถอดแล้วจะสวมใส่อีก เช่น เสื้อกันหนาว ไม่ควนแขวนไว้ที่ปะตู
    4) สำรวจสัญลักษณ์บนปกป้ายผ้าที่ติดมากับเสื้อผ้า
    5) สำรวจชนิดของผ้าเพื่อให้เลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์
    6) หยิบสิ่งของออกจากกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง

    ตอบกลับ

  40. นางสาว ชลลดา พวงวาสนา, on พฤษภาคม 29, 2014 at 10:03 am said:

    [นางสาว ชลลดา พวงวาสนา เขลที่ 19 ม.3]
    ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการดูเเลเสื้อผ้าเเละได้รู้การเก็บเสื้อผ้าเเละประเภทเสื้อผ้าว่าประเภทเสื้อผ้าเเบบไหนมีคุณสมบัติอย่างใร เเละนำไปใช้ประโยชน์อย่างไร เช่น ผ้าลินินมีคุณสมบัติคือ ดูดซับความชื้นได้ดีกว่า เเห้งเร็ว ทนความร้อน ประโยชน์ ทำผ้าปูโต๊ะ ผ้าเช็ดปากการ ได้รู้เกี่ยวกับสัญลักษณ์ว่าอันไหนควรอันไหนไม่ควรทำ ได้รู้เกี่ยวกับการดูแลเสื้อผ้าที่ถุกต้อง และได้รุ้เกี่ยวกับการเก็บรักษาเสื้อผ้าที่ถูกต้อง ได้ความรู้เกี่ยวกับการดูเเลเสื้อผ้า เเละการเก็บรักษาเสื้อผ้าให้ทนทาน และได้รู้เกี่ยวกับประเภทของเสื้อผ้า การดูแลเสื้อผ้า ต้องมีความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆเช่น รอยเปื้อนโครน ปล่อยให้โครนแห้ง แล้วใช้แปรงปัดออก จากนั้นซักด้วยน้ำเย็นหลายๆครั้ง จนไม่มีน้ำโครนออกมา จึงนำผ้าไปซักตามปกติ

    การดูแลเสื้อผ้าอย่างถูกวิธีมีความสำคัญอย่างไร * คำตอบของคุณ

    ประโยชน์ของการดูแลเสื้อผ้า.
    ทำ ให้เสื้อผ้าสะอาดเรียบร้อย.
    ช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพที่ดีให้แก่ผู้สวมใส่.
    เนื้อผ้าไม่สกปรก ไม่หมอง ไม่เก่าง่าย.
    เนื้อผ้าที่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีจะไม่เปื่อยง่าย ทำ ให้เสื้อผ้ามีอายุการใช้งานนานขึ้น.
    ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมหรือลดภาวะโลกร้อน เนื่องจากการใช้เสื้อผ้าอย่างคุ้มค่า ช่วยลด.

    การดูแลเสื้อผ้ามีความหมายว่าอย่างไร

    การดูแลเสื้อผ้า หมายถึง การทำความสะอาดและเก็บรักษาเสื้อผ้า โดยวิธีขจัดรอยเปื้อน ซัก ตาก รีด เก็บ พับหรือแขวนในถุงเก็บเสื้อหรือในตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูปที่วางจำหน่ายทั่วไปในปัจจุบัน มีการออกแบบและตัดเย็บจากผ้าหลายประเภท บางครั้งตกแต่งด้วยเลื่อมลูกปัดให้ดูหรูหรา ซึ่งการที่ผ้าแต่ละประเภทมีคุณสมบัติแตกต่างกัน และมีการตกแต่ง ...

    การดูแลเสื้อผ้าอย่างถูกวิธีและปราณีตมีความสำคัญอย่างไร

    การดูแลเสื้อผ้าอย่างถูกวิธีและประณีตมีความสำาคัญ ดังนี้ ทำาให้เสื้อผ้าสะอาด ไม่มีคราบสกปรก หรือไม่มีกลิ่นเหม็นจากเหงื่อไคล ป้องกันไม่ให้เกิดโรคผิวหนัง อันเนื่องมาจากเสื้อผ้าสกปรก ช่วยถนอมเนื้อผ้าให้ทนทาน ไม่เสื่อมสภาพ และมีอายุการใช้งานยาวนาน

    การดูแลเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายมีความสำคัญอย่างไร

    การดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย การดูแลและการท าความสะอาดเสื้อผ้าถือว่าเป็นสิ่งส าคัญที่ช่วยให้เสื้อผ้าสะอาดมองดูใหม่อยู่เสมอ และสามารถใช้ งานได้ยาวนาน โดยใช้น ้าและสารซักฟอกเพื่อขจัดเหงื่อไคล ฝุ่นละอองหรือคราบอื่นๆที่เปื้อนเสื้อผ้า นอกจากนั้น การจัดเก็บเสื้อผ้าอย่างเป็นระเบียบ เป็นหมวดหมู่ จะช่วยให้เกิดความสะดวก ...