รีไฟแนนซ์รถยนต์ ศรีสวัสดิ์ ใช้เอกสารอะไรบ้าง

เมื่อถึงคราวที่ต้องการจะลงทุนธุรกิจ หรือนำมาเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ทางออกหนึ่งที่ใครหลายคนเลือกใช้นั่นก็คือการรีไฟแนนซ์รถยนต์นั่นเอง แต่ถ้าหากรถที่มีอยู่เป็นรถมือสอง แบบนี้จะสามารถรีไฟแนนซ์ได้หรือเปล่านะ?

ในบทความนี้เงินติดล้อได้รวบรวมข้อมูลมาให้คุณแล้วว่าในขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถมือสองนั้น จำเป็นจะต้องจัดเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

รีไฟแนนซ์รถมือสองดีอย่างไร?

คำว่ารีไฟแนนซ์ หมายถึง การที่ผู้ทำนิติกรรมเช่าซื้อใดๆ เช่น บ้าน รถยนต์ หรือรถมือสอง ได้เริ่มต้นการทำสัญญาใหม่กับสถาบันการเงินอื่น เพื่อนำเงินก้อนมาปิดยอดค้างชำระให้กับสถาบันเดิม หรือถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือการไปกู้เงินจากอีกสถาบันการเงินนึงมาโปะหนี้ของที่เดิมนั่นเอง

โดยอาจได้เงื่อนไขหรือสิทธิประโยชน์ที่ดีกว่าเดิม เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ระยะเวลาในการผ่อนชำระที่ยาวนานกว่าเดิม หรือค่างวดที่ลดต่ำลง ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินที่เลือกใช้บริการ ซึ่งนับเป็นข้อดีของผู้ทำสัญญาที่จะได้ลดภาระทางการเงินลงบ้าง

นอกจากนี้ ยังสามารถยื่นกู้ในจำนวนที่มากกว่าหนี้เดิมที่ต้องการปิด เพื่อนำเงินส่วนต่างไปเสริมสภาพคล่องทางการเงินของตัวเองได้อีกด้วย

ทั้งนี้สำหรับการยื่นรีไฟแนนซ์รถมือสองนั้น โดยมากจะมีจุดประสงค์เพื่อนำเงินส่วนต่างไว้ใช้จ่าย หรือลดค่างวดลงในคราวเดียวกัน ทำให้สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงเป็นอันดับแรกนั่นก็คืออัตราดอกเบี้ยคงเหลือจากสถาบันการเงินเดิม และอัตราดอกเบี้ยจากสถาบันการเงินใหม่ว่ามีส่วนต่างมากแค่ไหน และคุ้มค่าต่อการรีไฟแนนซ์หรือไม่

• ตัวอย่างคำนวณความคุ้มค่ารีไฟแนนซ์รถมือสอง

  ในขั้นตอนแรกก่อนจะคำนวณว่าการรีไฟแนนซ์รถมือสองของคุณนั้นจะคุ้มค่าขนาดไหน จำเป็นจะต้องคำนวณก่อนว่าในการทำสัญญาเช่าซื้อรอบแรกนั้นเป็นไปอย่างไร และมียอดคงค้างเท่าใด โดยสามารถดูได้ตัวอย่าง ดังนี้

  ตัวอย่าง คุณ A ได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถมือสองคันหนึ่งในราคา 600,000 บาท ชำระเงินดาวน์ไปแล้วจำนวน 100,000 บาท ทำให้เหลือยอดที่ต้องผ่อนชำระทั้งหมด 500,000 บาท

  หากสถาบันการเงินใช้การคิดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ในอัตรา 4% ต่อปี โดยมีระยะเวลาการผ่อนชำระอยู่ 6 ปี หรือ 72 เดือน จะมีสูตรในการคำนวณดังนี้

สูตรการคำนวณ​

• เงินต้น 500,000 x ดอกเบี้ย 4% เท่ากับ 20,000 บาท
• จำนวนดอกเบี้ย 20,000 x ระยะเวลาผ่อนชำระ 6 ปี เท่ากับ 120,000 บาท
• เมื่อรวมเข้ากับเงินต้น 500,000 + 120,000 = 620,000 บาท
• เท่ากับว่าในแต่ละเดือนคุณ A จะต้องผ่อนชำระเป็นจำนวน 620,000 ÷ 72 เดือน = 8,612 บาท

ถ้าหากว่าคุณ A ทำการผ่อนชำระค่างวดไปแล้ว 40 งวด จะเหลือยอดเงินค้างอยู่กับสถาบันการเงินเดิมที่ 275,520 บาท (620,000 – (8,612 x 40) = 275,520 บาท)

หากคุณ A ได้ยื่นเรื่องต่อสถาบันการเงินใหม่เพื่อทำการรีไฟแนนซ์ โดยทางสถาบันการเงินนั้นได้ให้ราคาประเมินรถของคุณ A ที่ราคา 400,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ยใหม่เพียง 3% ต่อปี และปรับระยะเวลาการผ่อนชำระใหม่เป็น 72 งวดหรือ 6 ปี ทำให้สามารถคำนวณดอกเบี้ยได้ดังนี้

• ยอดใหม่ 400,000 x ดอกเบี้ย 3% เท่ากับ 12,000 บาท
• จำนวนดอกเบี้ย 12,000 x ระยะเวลาผ่อนชำระ 6 ปี เท่ากับ 72,000 บาท
• เมื่อรวมเข้ากับเงินต้น 400,000 + 72,000 = 472,000 บาท
• เท่ากับว่าในแต่ละเดือนคุณ A จะต้องผ่อนชำระเป็นจำนวน 472,000 ÷ 72 เดือน = 6,556 บาท

หมายความว่าค่างวดที่คุณ A จะต้องจ่ายจะเหลือเพียง 6,556 บาทเท่านั้น ถือว่าลดภาระทางการเงินลงไปได้อีกมากเลยทีเดียว อีกทั้งเมื่อนำเงินไปปิดยอดเก่าแล้วยังเหลือเงินส่วนต่างมากถึง 124,480 บาทไว้ใช้จ่ายอีกด้วย

เมื่อได้รับการอุมัติแล้ว ทางสถาบันการเงินจะนับว่านี่เป็นการทำสินเชื่อใหม่อีกครั้งหนึ่ง และกรณีนี้ไม่ถือว่าผู้ยื่นขอสินเชื่อมีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ดีใดๆ ทั้งสิ้น

ตรวจสอบให้ดี! รถมือสองที่คุณมี รีไฟแนนซ์ได้หรือไม่

แม้ว่าการรีไฟแนนซ์รถมือสองจะเป็นการทำเรื่องต่อจากสินเชื่อเดิม แต่ทางสถาบันการเงินเองก็มีเงื่อนไขเพื่อคุ้มครองตัวเองเพื่อไม่ให้เสียเปรียบในการค้าเช่นเดียวกับการขอสินเชื่อใหม่

เพราะฉะนั้น รถมือสองที่ทางสถาบันการเงินจะรับรีไฟแนนซ์ได้ จำเป็นจะต้องมีเงื่อนไขดังนี้

• รถมือสองที่นำมารีไฟแนนซ์จะต้องมีอายุไม่เกิน 20 ปี หรือขึ้นอยู่กับสถาบันการเงิน
• รถมือสองต่างประเทศนำเข้า หรือสั่งประกอบ บางรุ่นจะไม่สามารถรีไฟแนนซ์ได้

5 เอกสารจำเป็นก่อนยื่นเรื่อง มีอะไรบ้าง

เมื่อตัดสินใจแล้วว่าตัวคุณเองพร้อมที่จะทำการรีไฟแนนซ์รถมือสองอย่างแน่นอน ทีนี้เรามาดูกันว่าในแง่ของเอกสารก่อนที่จะนำไปยื่นรีไฟแนนซ์นั้น จำเป็นต้องใช้อะไรบ้าง

• สำเนาบัตรประชาชน พร้อมกับนำบัตรประชาชนตัวจริงมาด้วย
• สำเนาทะเบียนบ้าน ไม่จำเป็นต้องนำทะเบียนบ้านฉบับจริงมา
• สำเนาทะเบียนรถยนต์ ฉบับจริง
• สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร เพื่อแสดงหลักฐานการเดินบัญชีย้อนหลัง
• หลักฐานแสดงที่มาของรายได้ ได้แก่ Statement จากธนาคาร หรือหนังสือรับรองเงินเดือนย้อนหลังอายุไม่เกิน 2 เดือน (ถ้ามี)

โดยปกติทางสถาบันการเงินจะทำการจัดเตรียมเครื่องถ่ายเอกสารไว้ให้พร้อมสำหรับการทำเรื่องอยู่แล้ว หากคุณยังไม่ได้ทำการถ่ายสำเนาเอกสารสำคัญเหล่านี้เตรียมไว้ก่อน ก็สามารถนำเอกสารฉบับจริงไปคัดลอกสำเนาที่สถาบันทางการเงินที่คุณใช้บริการได้

สรุป

นอกจากข้อดีแล้ว การรีไฟแนนซ์ก็มีข้อเสียเหมือนกัน เนื่องจากระยะเวลาที่ต้องผ่อนชำระยาวนานขึ้น แต่ถ้าหากคุณพิจารณาแล้วว่าเป็นการกู้สถานการณ์ทางการเงินได้ดีที่สุด ก็ขอให้คุณตรวจสอบรายละเอียดให้รอบคอบ ถ้าหากว่าคุณกำลังมองหาสถาบันทางการเงินเพื่อทำการรีไฟแนนซ์รถมือสอง ลองติดต่อเข้ามาที่เงินติดล้อสิครับ

เรามีสินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์รถมากมายรถมากมายหลายประเภท ให้อัตราประเมินสูงพร้อมอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมต่อลูกค้าทุกคน อนุมัติไว รับรองว่ามีเงินสดฉุกเฉินไว้ใช้ทันใจคุณอย่างแน่นอนครับ