การทำงาน และชีวิตส่วนตัว ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ แต่ก็มีบางครั้งที่เกิดปัญหาในการแบ่งเวลาทั้งเรื่องการทำงาน และการมีชีวิตส่วนตัว ให้มีความสมดุล ซึ่งคนทำงานในปัจจุบัน เริ่มหันมาใส่ใจการแบ่งเวลาระหว่างงานกับชีวิต หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่า Work Life Balance กันมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการจำเป็นต้องทราบถึงความต้องการนี้ และอาจเริ่มสร้างความสมดุลขึ้นมา เพื่อตอบสนองความต้องการของคนในองค์กร เราจึงอยากนำเหตุผลดีๆ ว่าทำไม
ความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว จึงมีความสำคัญกับองค์กร? 1.คนทำงานมีความเครียดน้อยลง หากผู้ประกอบการ ไม่เล็งเห็นถึงความสำคัญของความสมดุลระหว่างการทำงานกับชีวิตส่วนตัว ของคนทำงาน และสร้างความกดดันให้กับคนทำงาน อย่างการต้องตอบไลน์ ตอบอีเมล์ในวันหยุดหรือวันลาพักร้อน จะทำให้คนทำงานเกิดความเครียดสะสม เนื่องจากไม่ได้หยุดพักผ่อนอย่างจริงจัง 2.ลดโอกาสการเกิดภาวะหมดไฟในการทำงาน หากพนักงานทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยที่ขาดการหยุดพักผ่อน อาจทำให้เกิดความเครียดสะสมและส่งผลให้เกิดภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout Syndrome) และส่งผลกระทบต่อการทำงาน และการปฏิสัมพันธ์กับผู้คนอื่นๆในองค์กรได้ 3.คนทำงานมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น หากเป็นการทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์แล้วนั้น เวลาพักผ่อน การมอบเวลาให้คนทำงานได้มีชีวิตส่วนตัว ถือเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากหากคนทำงานไม่ได้หยุดพัก และมีพื้นที่ในการใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างเพียงพอ ก็จะส่งผลให้ความคิดสร้างสรรค์เหล่านั้นไม่เกิดขึ้น และจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้คนทำงานมากขึ้นนั่นเอง 4.องค์กรจะเข้มแข็งขึ้น ถ้าหาจุดสมดุลเจอ จุดสมดุลของการทำงานในองค์กร ต้องเริ่มขึ้นจากการวางแผนการทำงานของผู้ประกอบการ รวมถึงกฏระเบียบในการทำงาน องค์กรที่วางแผนดี และมีกฏระเบียบที่เข้มแข็งเพียงพอ ก็ไม่จำเป็นต้องให้พนักงานได้ทำงานในวันหยุด หรือในวันพักผ่อน แต่หากองค์กรใดไม่มีการวางกฎระเบียบในการทำงานที่เพียงพอ ก็อาจจะส่งผลให้คนทำงานไม่มีระเบียบ การทำงานเป็นไปอย่างล่าช้า และทำให้ต้องมาทำงานเพิ่มเติมในวันหยุดนั่นเอง 5.คนทำงานมีความสุข องค์กรจะก้าวหน้าได้ดีกว่า องค์กรใด ที่มีผู้ประกอบการที่ใส่ใจในความสมดุลของการทำงานของพนักงาน องค์กรนั้น จะเป็นองค์กรที่พนักงานมักมีความสุขในการทำงาน ซึ่งความสุขเหล่านี้ จะส่งผลให้บรรยากาศในการทำงานเป็นไปได้ด้วยดี และทำให้องค์กรมีการพัฒนา มีความก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
เชื่อว่าเป้าหมายสูงสุดของใครหลายคน คือการประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ว่าจะเป็นด้านชื่อเสียงเงินทอง หรือเพื่อฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นจาก “การทำงาน” ด้วยเหตุนี้คนจำนวนมากจึงทุ่มเททำงานหนัก จนส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน ต่างกันตรงที่นำไปใช้ทำอะไร บางคนให้ความสำคัญกับงานเป็นหลัก บางคนแบ่งเวลามาเพื่อดูแลครอบครัว หรือบางคนก็ใช้เวลาไล่ตามความฝัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคนเราสามารถให้ความสำคัญกับทุกอย่างได้ เพียงรู้จักบริหารเวลาให้เกิดความสมดุลในชีวิตด้วย Work-Life Balance หรือการใช้ชีวิตให้สมดุลกันทั้งด้านการทำงานและการใช้ชีวิต วารสารสรรพากรฉบับนี้มีเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คนทำ งานสามารถจัดการชีวิตตัวเองให้มี Work-Life Balance ในแบบของตัวเองได้มาฝากทุกท่านกันค่ะ 1.หาจุดที่พอดีให้ได้
2.ขีดเส้นแบ่งให้ชัดเจน 3.ขอความช่วยเหลือให้เป็นและพูดปฏิเสธให้ได้ 4.ไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟกต์ตลอดเวลา 5.ทำสิ่งที่ตัวเองมีความสุข ร่างกายมนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักร ดังนั้นควรมีการหยุดพักบำรุงตัวเองทำงานอย่างพอเหมาะเพื่อป้องกันความเสื่อมของร่างกาย และรักษาให้มีคุณภาพเพื่อการทำงานในระยะยาวได้อย่างดีมีประสิทธิภาพ การสร้างสมดุลในการทำงานและชีวิตส่วนตัวแบบ Work-Life Balance นั้นเป็นสิ่งที่บุคลากรและองค์กรควรให้ความสำคัญทีเดียว เพราะสิงนี้จะช่วยให้ชีวิตสมดุล ่ประสบความสำเร็จทั้งหน้าที่การงานการดูแลครอบครัวสุขภาพร่างกายดีสุขภาพจิตใจยอดเยี่ยม เมื่อทุกอย่างดีแล้วก็จะทำให้ชีวิตมีความสุขทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ยิ่งขึ้นและมีพนักงานที่มีคุณภาพช่วยสร้างศักยภาพให้กับองค์กรได้ในระยะยาวอีกด้วย |