ข้อควรปฏิบัติในการใช้งานอินเทอร์เน็ตคือข้อใด

วิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้ว่าบุตรของคุณทำอะไรในโลกออนไลน์บ้างคือการถาม ไม่ว่าคุณจะถามผู้ปกครองคนอื่นๆ เพื่อนที่มีความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต หรือบุตรของคุณเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ตของพวกเขา การถามคำถามที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าบุตรของคุณทำอะไรในโลกออนไลน์ เพื่อที่คุณจะได้มั่นใจว่าพวกเขามีการตัดสินใจออนไลน์ที่ถูกต้อง

คำถามสำหรับถามบุตรของคุณ

  • ดูเว็บไซต์อะไรบ้าง
  • ทำอะไรในเว็บไซต์เหล่านั้นบ้าง
  • ทำไมจึงไปที่เว็บไซต์นั้น
  • ใช้เวลากับเว็บไซต์นั้นนานเท่าใด
  • ต้องลงทะเบียนด้วยหรือไม่
  • เว็บไซต์ต้องการให้ระบุข้อมูลใดบ้าง
  • ให้ข้อมูลอะไรกับเว็บไซต์บ้าง

ข้อตกลงการใช้อินเทอร์เน็ตฉบับพิมพ์

คำแนะนำ 6 ข้อเกี่ยวกับความปลอดภัยฉบับพิมพ์

ใช้เวลาท่องอินเทอร์เน็ตกับบุตรของคุณ นี่เป็นวิธีที่ดีในการเรียนรู้ว่าบุตรของคุณมีปฏิสัมพันธ์แบบใดและกับใครเมื่อออนไลน์

พูดคุย

เมื่อคุณรู้ว่าบุตรของคุณใช้อินเทอร์เน็ตอย่างไรและพวกเขาเข้าถึงอะไรได้บ้าง คุณก็สามารถกำหนดแนวทางปฏิบัติและกฎได้ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่สามารถเข้าชมได้หรือสิ่งที่สามารถทำได้เมื่อออนไลน์ ถือเป็นเรื่องจำเป็นที่คุณจะต้องสื่อสารกฎนั้นกับบุตรของคุณอย่างชัดเจน

พูดคุยกับบุตรของคุณเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและสิ่งที่ควรทำในสถานการณ์ต่างๆ เป็นประจำ กระตุ้นให้บุตรของคุณถามคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์ที่พวกเขาเผชิญ การเข้าใจถึงความเสี่ยงที่บุตรของคุณเผชิญอยู่ และการพูดคุยกับบุตรของคุณเกี่ยวกับความเสี่ยงเหล่านี้เป็นประจำ จะช่วยเสริมสร้างการตัดสินใจและความรับผิดชอบเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ตของพวกเขา

กฎด้านความปลอดภัย

แม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะมอบโอกาสที่ยอดเยี่ยมในด้านความบันเทิง การศึกษา การเชื่อมต่อ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ใครก็ตามที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตควรมีความเข้าใจในความปลอดภัยออนไลน์ขั้นพื้นฐาน การสอนพื้นฐานเหล่านี้ให้กับบุตรของคุณถือเป็นเรื่องที่สำคัญ

  1. ไม่บอก ID บัญชีและรหัสผ่านเมื่อเพื่อนหรือคนแปลกหน้าถาม ไม่ว่าออนไลน์หรือออฟไลน์
  2. ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น วันเกิด งานอดิเรก บ้านเกิด หรือโรงเรียนในชื่อผู้ใช้ของตน
  3. ไม่บอกข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนเองหรือผู้อื่นในการแลกเปลี่ยนข้อมูล เช่น การส่งอีเมลหรือการแชท
  4. ไม่แชร์ภาพถ่ายของตนเอง ครอบครัว หรือบ้านกับผู้คนที่พบในโลกออนไลน์
  5. ไม่เปิดและลบอีเมลที่ส่งมาจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จัก
  6. ไม่ตอบกลับหากได้รับข้อความออนไลน์ที่หยาบคายหรือเป็นการข่มขู่ ล็อกออฟและรายงานกิจกรรมให้ผู้ปกครองทราบ
  7. ไม่มีสิ่งใดที่เขียนลงในเว็บแล้วจะเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง ให้ใช้ความระมัดระวังกับสิ่งที่เขียนและบุคคลที่เขียนถึง
  8. อย่านัดพบกับ “เพื่อน” ออนไลน์ในความเป็นจริง
  9. เมื่อไม่แน่ใจ: ขอความช่วยเหลือจากผู้ปกครองเสมอ หากไม่แน่ใจ ให้ล็อกออฟ

การกลั่นแกล้งผ่านอินเทอร์เน็ต

เช่นเดียวกับที่เด็กมีโอกาสพบกับการกลั่นแกล้งหรือพฤติกรรมก้าวร้าวจากนักเรียนคนอื่นๆ ในโรงเรียน พวกเขาก็อาจถูกกลั่นแกล้งทางออนไลน์ได้เช่นกัน “นักเลงคีย์บอร์ด” เหล่านี้อาจส่งข้อความหรือรูปภาพที่มุ่งร้ายและโหดร้ายผ่านทางอินเทอร์เน็ตหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างเช่นโทรศัพท์มือถือ เพื่อรังควาน ทำให้อับอาย ทำให้ขายหน้า และข่มขู่เป้าหมายของตน การกลั่นแกล้งในรูปแบบอื่นๆ อาจรวมถึงการแฮครหัสผ่าน การขโมยอัตลักษณ์ และการแบล็คเมล เด็กจำนวนมากมีโอกาสเท่ากันที่จะกลายเป็นผู้กระทำหรือผู้ถูกกระทำ แม้ว่าบางคนจะไม่เปิดเผยตัว นักเลงคีย์บอร์ดก็มักจะเป็นเด็กคนอื่นที่เด็กรู้จักจากโรงเรียน ค่าย กลุ่มชุมชน หรือละแวกบ้าน

เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพูดคุยกับเด็กอย่างเปิดอกเกี่ยวกับวิธีรับมือกับปัญหาการกลั่นแกล้งผ่านอินเทอร์เน็ต หากบุตรของคุณเผชิญกับการกลั่นแกล้งผ่านอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ให้จำไว้ว่าผู้ที่กลั่นแกล้งต้องการเห็นปฏิกิริยาตอบโต้จากเป้าหมายของตน เด็กควรหลีกเลี่ยงการยกระดับสถานการณ์ด้วยการไม่ตอบสนองต่อผู้ที่กลั่นแกล้ง ผู้ปกครองควรแจ้งเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นหากปัญหายังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้บันทึกข้อความทั้งหมด รวมถึงวันที่และเวลาด้วย

แหล่งข้อมูล

เด็กที่มีอายุแค่สองปีอาจปฏิสัมพันธ์กับอินเทอร์เน็ตได้ระหว่างที่นั่งอยู่บนตักของพ่อแม่ แต่เมื่อโตขึ้น พวกเขาอาจเริ่มท่องโลกออนไลน์ด้วยตัวเอง โดยอยู่ภายใต้การสนับสนุนและการชี้แนะเท่าที่คุณจะมอบให้พวกเขาได้ ขึ้นอยู่กับผู้ปกครองว่าจะกำหนดมาตรการควบคุมใดบ้าง และจะผ่อนปรนลงเมื่อใดหากเด็กเติบโตขึ้นและสามารถตัดสินใจได้อย่างมีวุฒิภาวะแล้ว ต่อไปนี้เป็นแหล่งข้อมูลจำนวนหนึ่งที่คุณสามารถใช้เพื่อปลูกฝังพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของบุตรได้

ในปัจจุบันนี้ ระบบอินเทอร์เน็ต ได้เข้ามามีบทบาทที่สำคัญเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลต่างๆ การติดต่อสื่อสาร หรือจะเป็นการอำนวยความสะดวกสบายในด้านต่างๆ เช่น อาหารเดลิเวอร์รี่ผ่านแอพพลิเคชั่น การทำธุรกรรมทางการเงินและอื่นๆ อีกมากมาย วันนี้ลองมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากอินเทอร์เน็ตกัน

ประโยชน์ของระบบอินเทอร์เน็ต

โลกปัจจุบันนี้มีความก้าวหน้าขึ้นมาก ไม่ว่าจะหันหน้ามองไปทางไหนก็พบว่า เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ช่วยให้การดำเนินชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างราบรื่นด้วยระบบอินเทอร์เน็ต และแอพพลิเคชั่นต่างๆ

  1. เป็นสื่อออนไลน์ ที่สามารถให้ข้อมูลข่าวสารทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว สังเกตุได้ว่าปัจจุบันนี้มีนักข่าวจำนวนมากที่ผันตัวเองเป็นนักข่าวออนไลน์ เนื่องจากคนในสังคมปัจจุบันหันมาสนใจอ่านข่าวออนไลน์มากขึ้นแทนการอ่านหนังสือพิมพ์
  2. เป็นสื่อกลางในการประกอบธุรกิจ มีแม่ค้าพ่อค้าหลายคนใช้โลกออนไลน์ในการขายสินค้าของตัวเองโดยไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องจ้างแรงงาน ไม่ต้องใช้ทุนเยอะก็สามารถทำกำไรให้แก่ตัวเองได้แล้ว
  3. เปิดกว้างเพื่อรับข้อคิดเห็นในเรื่องที่สนใจ คนในสังคมปัจจุบันนี้สามารถใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อสอบถามกลุ่มคอเดียวกันให้เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดในห้องสนทนาของกลุ่มนั้นๆ หรือจะเป็นหน้ากระดานข่าว (กระทู้) เรื่องราวต่างๆ ที่กำลังติดตาม
  4. ทำให้ผู้คนทั่วโลกสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ สังเกตได้ว่าปัจจุบันนี้ได้มีหลายช่องทางในการติดต่อสื่อสารทั้ง Facebook, E- Mail, Line และช่องทางแชทผ่านแอพพลิคชั่นต่างๆ มากมาย สร้างความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
  5. ห้องสมุดที่รวบรวมสาระทั่วโลกมาไว้ที่เดียว ไม่ว่าคนเราจะต้องการข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องอะไรก็ตาม สามารถเข้ามาค้นหาได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังห้องสมุดอีกต่อไป ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นมีทั้งรูปแบบที่เป็นตัวหนังสือ และวิดีโอให้สามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น
  6. อำนวยความสะดวกในการจัดซื้อสิ่งของ อาหาร เครื่องดื่ม หรือจะเป็นธุรกรรมทางการเงินได้โดยไม่จำเป็นต้องออกจากบ้านไปเสี่ยงโรคโควิด 19 ที่กำลังระบาดในปัจจุบัน
  7. ใช้เป็นสื่อกลางของการประกาศและการประชาสัมพันธ์ต่างๆ อย่างเช่น ขายบ้าน ขายรถ สมัครงานประกาศแจ้งเตือน เป็นต้น
  8. เป็นเครื่องมือในการ Entertain ให้กับตนเองและคนรอบข้าง ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เชียร์กีฬา หรือเล่นเกมได้อีกมากมาย

บริษัท วันบีลีฟ จำกัด : บริการวางระบบอินเทอร์เน็ต เดินสายแลน ระบบไวเลส

ข้อควรปฏิบัติในการใช้งานอินเทอร์เน็ตคือข้อใด

อินเทอร์เน็ต กับระบบการศึกษา

ยุคนี้ไม่ว่าประเทศไหนๆ ต่างก็ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเป็นสื่อการเรียนการสอน จึงถือได้ว่าอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อการเรียนการสอนที่สำคัญกับระบบการศึกษาไปแล้วดังนี้

1. เป็นแหล่งความรู้ขนาดใหญ่

สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาข้อมูลต่างๆ ที่ประกอบไปด้วยเนื้อหา ภาพ และข้อมูลด้านอื่นๆ อีกมากมายง่าย อย่างเช่น การศึกษาเรื่องดาราศาสตร์ ไม่จำเป็นต้องรอดูดาวช่วงกลางคืนก็สามารถดูภาพเคลื่อนไหวจากเว็บออนไลน์ได้เลย

2. ทำกิจกรรมได้ง่ายยิ่งขึ้น

ระบบดังกล่าวจะช่วยให้นักเรียนสามารถเข้าทำกิจกรรมผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็วทันที อย่างที่ทราบกันดีว่าทุกวันนี้มีโรคระบาดหนักที่ทำให้ทางโรงเรียนได้มีการพักการเรียนการสอนไป หลายโรงเรียนเลือกจัดให้มีการเรียนการสอนผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตโดยที่นักเรียนสามารถทำกิจกรรมได้ด้วยตนเองเพียงแค่ไม่ต้องมาโรงเรียน

3. เป็นแรงจูงใจในการเรียนรู้

โดยที่นักเรียนสามารถปรึกษา หรือสอบข้อมูลกับผู้อื่นที่อาจมีข้อคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป ช่วยให้เห็นภาพของเรื่องนั้นๆ ในมุมที่กว้างขึ้น ทำให้หลายๆ คนมีแรงจูงใจในการเรียน หรือศึกษาเรื่องราวต่างๆ เพิ่มมากขึ้น

4. พัฒนาตัวเองและสมองได้มากขึ้น

การเข้าศึกษาผ่านระบบอินเทอร์เน็ตนั้นช่วยให้ตัวผู้เรียนเองมีการพัฒนาตัวเองมากขึ้น ยิ่งเรียนยิ่งสงสัย ยิ่งเกิดความต้องการที่จะเรียนรู้ ก็สามารถใช้ระบบออนไลน์ตอบสนองความต้องการเหล่านั้นได้ด้วยระยะเวลาอันรวดเร็ว

ข้อควรระวังในการใช้ระบบอินเทอร์เน็ต

ด้วยความทันสมัย ความสะดวก รวดเร็วของการค้นหาข้อมูล ทำให้มียอดผู้เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ที่มีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกันไป ดังนั้นการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อในชีวิตประจำวันจะต้องให้ความระมัดระวังค่อนข้างมากเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย ซึ่งจะมีข้อระวังดังต่อไปนี้

  1. ไม่ควรบอกข้อมูลส่วนตัว แก่คนไม่รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นชื่อที่อยู่ เบอร์โทร เลขบัญชี หรือแม้แต่โรงเรียน เพื่อป้องกันอันตรายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน
  2. แจ้งผู้ปกครอง หรือผู้ใหญ่ทันทีกรณีที่เจอรูปภาพ คลิปวิดีโอ ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม
  3. การนัดเจอกับบุคคลที่เจอกันผ่านอินเทอร์เน็ต จะต้องให้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
  4. ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ไม่ใช้คำหยาบคายส่อเสียด ด่าทอผู้อื่น ตัวอย่างในปัจจุบันนี้เห็นได้บ่อยครั้ง ที่มีการฟ้องร้องค่าเสียหายเกี่ยวกับการหมิ่นประมาท ใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพ
  5. ไม่คัดลอกผลงาน หรือลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาติ หรือถ้าได้รับอนุญาติจะต้องให้เครดิตของเจ้าของผลงานนั้นๆ ด้วย
  6. เคารพกฎระเบียบ เงื่อนไข และจะต้องมีมารยาทในการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต
  7. ไม่ใช้อินเทอร์เน็ตในทางที่ผิด ไม่หลงไปเข้าในอบายมุขที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อตนเอง

เมื่อโลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทในการดำรงชีวิตมากขึ้น หน้าที่ของทุกคนคือการเลือกใช้อย่างมีสติเพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด แล้วจะปลอดภัยจากความอันตรายที่มาพร้อมกับโลกออนไลน์ ให้มองแต่มุมดีๆ ความสะดวกสบายที่ได้รับเพียงเท่านี้ก็สามารถมีความสุขในการใช้อินเทอร์เน็ตในชีวิตประจำวันแล้ว

ข้อใดคือข้อควรปฏิบัติในการนำข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตมาใช้งาน

* ควรเผยแพร่ข้อมูล และข่าวสารที่เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ ไม่ควรนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ขัดต่อศีลธรรมและจริยธรรมอันดี รวมทั้งข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น * ควรบีบอัดภาพหรือข้อมูลขนาดใหญ่ก่อนนำไปเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต เพื่อประหยัดเวลาในการดึงข้อมูลของผู้ใช้

ข้อปฏิบัติของนักเรียนเมื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต คือข้อใด

ข้อตกลงในการใช้งานอินเตอร์เน็ต.
1. ใช้ภาษาที่สุภาพและเหมาะสม 1.1 ไม่ใช้คำหยาบ ล้อเลียน หรือด่าทอผู้อื่น ... .
2. ไม่เผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม 2.1 ไม่เปิดเผยข้อมูลเท็จที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ... .
3. เคารพสิทธิและข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น 3.1 ไม่ใช้งานหรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น.

ข้อควรระวังในการใช้งานอินเทอร์เน็ตมีอะไรบ้าง

1. ไม่บอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ชื่อโรงเรียนของตนให้แก่บุคคลอื่นที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต 2. หากพบข้อความหรือรูปภาพใดๆบนอินเทอร์เน็ตที่มีลักษณะหยาบคายหรือไม่เหมาะสมควรแจ้งใหผู้ปกครองทราบทันที่ 3. ไม่ควรไปพบบุคคลใดก็ตามที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน และหากผู้ปกครองอนุญาต