มนุษย์มีความต้องการทางด้านใดบ้าง

มาสโลว์ เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ.1908 ที่สหรัฐอเมริกา เขาเกิดในครอบครัวชาวยิวที่อพยพมายังดินแดนอเมริกา เป็นลูกชายคนโตสุดในบรรดาพี่น้องทั้ง 7 คน พ่อแม่ของเขาให้ความสำคัญต่อการศึกษาของลูกมาก เขาจึงได้รับการศึกษาในโรงเรียนที่ค่อนข้างดี แต่กระนั้นเขาก็เป็นคนมีเพื่อนน้อยและเขาชอบหลบไปอ่านหนังสือคนเดียวในห้องสมุดมากกว่าเล่นสนุกกับเพื่อน สิ่งหนึ่งที่เขาสนใจจากการอ่านและศึกษาค้นคว้าคือเรื่องเกี่ยวกับจิตวิทยาและพฤติกรรมของมนุษย์ เมื่อเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยเขาจึงเลือกเรียนในมหาวิทยาลัย Wisconsin ในสาขาจิตวิทยา จนจบปริญญาเอกใน ค.ศ.1934

มนุษย์มีความต้องการทางด้านใดบ้าง

จากผลงานการศึกษาวิจัยและงานเขียนในระดับปริญญาเอก ทำให้เขามีชื่อเสียง เขาเริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัย Brooklyn  ก่อนจะย้ายมาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ซึ่งที่นี่เองเขาได้พบกับปรมาจารย์ด้านจิตวิทยาและมนุษยนิยมมากมาย  การแลกเปลี่ยนความรู้และทรรศนะ ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาค้นคว้าและเสนอทฤษฎี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทฤษฏีลำดับขั้นความความต้องการของมาส์โลว์ที่เขาได้นำเสนอในปี ค.ศ.1943 ปรากฏในรายงานเรื่อง  “A Theory of Human Motivation” ทฤษฏีนี้เสนอว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาโดยธรรมชาติแล้วมีความพร้อมที่จะทำสิ่งที่ดี หากเขาได้รับความต้องการตามลำดับ ซึ่งแสดงไว้ในรูปของฐานพีระมิด โดยความต้องการลำดับแรกจะมีมากที่สุดเป็นความต้องการพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนขาดไม่ได้ ไปจนถึงความต้องการสูงสุดในบันไดขั้นที่ 5 ซึ่งความต้องการทั้ง 5 ขั้น มีรายละเอียดดังนี้

  1. ความต้องการด้านร่างกายหรือด้านกายภาพ (Physiological Needs)

    คือความต้องการขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนพึงมีและพึงต้องการเพื่อการดำรงชีวิตให้อยู่รอด นึกง่ายสุดคือปัจจัย 4 ได้แก่ อาหาร น้ำ เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ซึ่งความต้องการเหล่านี้ถือว่ามีความจำเป็น หากมนุษย์ไม่ได้รับความต้องการเหล่านี้อย่างเพียงพอก็จะส่งผลต่อคุณภาพของร่างกายตลอดจนประสิทธิภาพของการทำงานให้ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน ยกตัวอย่างบางประเทศในทวีปแอฟริกาที่เกิดภาวะทุกขภิกขภัย ขาดแคลนทั้งอาหาร น้ำและยารักษาโรค เนื่องจากเกิดความขัดแย้งและสงครามกลางเมือง พลเมืองไม่ได้รับความต้องการนี้อย่างเพียงพอจึงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยรวมทุกด้าน

  2. ความต้องการด้านความมั่นคงปลอดภัย (Safety Needs)

    หลังจากที่มนุษย์ได้รับความต้องการพื้นฐานเพียงพอแล้ว เขาจะเริ่มมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นคือการมีชีวิตอยู่รอดและปลอดภัย เขาจึงต้องการครอบครัวที่อบอุ่น ต้องการการงานที่มั่นคง เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงของฐานะและการเงิน การมีรายได้ที่มั่นคง มีเจ้านายและเพื่อนร่วมงานที่ดี ล้วนจัดอยู่ในความต้องการนี้ ที่จะยังให้เกิดความสำเร็จทั้งในเรื่องส่วนตัวและการงานอย่างแน่นอน หากเขาได้รับความรู้สึกว่ามั่นคงและปลอดภัย

  3. ความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของ (Belongingness and Love Need)

    เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน ด้วยเหตุผลนี้มนุษย์จึงเกิดความต้องการขั้นที่ 3 คือการมีเพื่อน มีครอบครัว คนรัก มีการยอมรับในความสามารถและตัวตน ความเป็นพวกพ้อง และสิ่งสำคัญสุดคือ “ความรัก” ที่เป็นสิ่งจรรโลงให้โลกนี้มีความสงบสุข สังคมเกิดความปรองดอง ความรักมีหลากหลายระดับ แต่เชื่อแน่ว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่ช่วยเชื่อมต่อความรู้สึก ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครก็ตาม

  4. ความต้องการเกียรติยศชื่อเสียงและความภาคภูมิใจ (Self- Esteem Need)

    เมื่อมนุษย์เติบโตมาถึงจุดหนึ่ง ที่มีความต้องการด้านกายภาพ ความปลอดภัย ความรัก เพียบพร้อมสมบูรณ์ เขาจะเริ่มมีความต้องการอีกขั้นคือความก้าวหน้าและการยอมรับในคุณค่าของตนจากบุคคลอื่นรอบข้าง ความต้องการการยกย่องชมเชย โดยแบ่งเป็นการนับถือตนเอง คือการเห็นคุณค่าของตนเอง เชื่อมั่นว่าตนเองมีความรู้ความสามารถ และสามารถประสบความสำเร็จได้ และการยอมรับการนับถือจากผู้อื่นหรือคนรอบข้าง คือการได้รับการยกย่องชมเชย ให้รางวัล เชิดชูจากบุคคลอื่นรอบข้างนั่นเอง

  5. ความต้องการความสมบูรณ์ของชีวิต (Self-Actualization Needs)

    เป็นความต้องการขั้นสูงสุด ที่มนุษย์น้อยคนจะไปถึงได้ เริ่มจากการที่ต้องได้รับความต้องการทั้งสี่ด้านข้างต้นอย่างเพียงพอก่อน ความต้องการนี้มาสโลว์อธิบายว่า เป็นความต้องการและความปรารถนาที่มนุษย์จะใช้ความสามารถและศักยภาพที่มีทั้งหมดในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ เท่าที่เขาพึงจะทำได้ตามศักยภาพ เช่น เมื่อเป็นนักดนตรีก็พยายามพัฒนาตนเองให้เป็นนักดนตรีที่เล่นเก่งที่สุด ด้วยการฝึกฝน เป็นต้น

    หนึ่งในความต้องการพื้นฐานขั้นแรกของมนุษย์ทุกคน คือ ที่อยู่อาศัย ที่ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยตอบสนองความต้องการในเชิงของความมั่นคงปลอดภัยทางกายภาพ แต่ยังรวมถึงความมั่นคงปลอดภัยทางการเงินในแง่ของการมองบ้านเป็นหนึ่งในการลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือครองได้ในวันข้างหน้า ต่างจากการลงทุนในตลาดหุ้นที่มีความผันผวน การซื้อบ้านจึงสามารถช่วยตอบสนองความต้องการในส่วนนี้ของทุกคน

    แต่หากมองไกลออกไปถึงสถานการณ์หลังตัดสินใจซื้อบ้านสักหลังไปแล้ว บ้านหลังนั้นจะยังคงช่วยตอบสนองความต้องการทางด้านความมั่นคงปลอดภัยดังเช่นในความต้องการขั้นที่สองของ Maslow ได้ยาวนานเพียงใด คงต้องให้ผู้ซื้อบ้านคำนึงถึงการดูแลรักษาและซ่อมบำรุงที่ต้องจ่ายในฐานะเจ้าของบ้าน รวมทั้งความครอบคลุมของสัญญาประกันต่างๆ ที่จะช่วยตอบโจทย์ความมั่นคงปลอดภัยนี้ได้อย่างแท้จริง

    ในแง่ของความต้องการเป็นที่รักและเป็นส่วนหนึ่ง ความต้องการในขั้นนี้มีอิทธิพลสำคัญในหัวของผู้ซื้อในช่วงของการประเมินว่าบ้านหลังที่กำลังจะซื้อนั้นมีสภาพแวดล้อมทางชุมชนเป็นอย่างไร ทำเลที่ตั้งเป็นแบบไหน อยู่ในเมืองเล็กๆ หรือเป็นย่านใจกลางเมืองที่มีคนพลุกพล่าน สามารถเข้ากันได้กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตมากน้อยเพียงใด และบ้านหลังที่กำลังจะซื้อเป็นตัวแทนในชุมชนที่อยู่นั้นอย่างไร ทั้งในภาพลักษณ์เชิงกายภาพและเชิงเศรษฐกิจสังคม

    ต่อมาความต้องการมีคุณค่า อย่างที่เข้าใจกันดีว่าการมีบ้านสามารถบ่งบอกถึงสถานะทางสังคมได้หลายอย่าง อีกทั้งยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ถือว่าการมีบ้านเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของการประสบความสำเร็จซึ่งก่อให้เกิดความรู้สึกมีคุณค่าและภาคภูมิใจในตนเอง สถานะทางสังคมนี้สามารถนิยามได้แตกต่างออกไปตามแต่ละคน สำหรับบางคนการมีบ้านคือช่องทางของการได้แสดงออกถึงตัวตนผ่านสไตล์การตกแต่ง บางคนซื้อบ้านเพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้สึกถึงสถานะที่สูงขึ้น และปฏิเสธไม่ได้ว่าบ้านสามารถสะท้อนถึงสถานะทางการเงินของแต่ละคนได้เช่นเดียวกัน ลองจินตนาการถึงตอนที่ใครสักคนบอกว่าตนเองอาศัยอยู่ในกระท่อม ในขณะที่อีกคนอาศัยอยู่ในคอนโดหรือเพนท์เฮ้าส์สิ ประเภทของที่อยู่อาศัยเหล่านี้สามารถบ่งบอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเจ้าตัวได้ในทันที

    คลิกที่นี่เพื่อทำความเข้าใจกับ Mind Map ในการเลือกซื้อโครงการอสังหามากขึ้น และเพื่ออ่านบทความ ถามใจตัวเองดูว่า The Aspen Tree คือโครงการเดียวที่ช่วยเติมเต็ม Self-Actualization Needs ในวัยอิสระของคุณใช่หรือไม่?

    ความต้องการขั้นสุดท้าย Self-Actualization อันที่จริงแล้วเป็นเรื่องยากหากจะวัดว่าใครได้เติมเต็มความต้องการในขั้นนี้ได้แล้ว หากคนคนหนึ่งสามารถผ่านขึ้นมาถึงจุดนี้ได้แต่ยังคงต้องผ่อนจ่ายหนี้ที่ซื้อบ้านมา จะสามารถเรียกว่าเป็น Self-Actualized ได้เต็มปากหรือไม่ แล้วสำหรับคนที่มีปัจจัยความต้องการพื้นฐานทุกอย่างพร้อมสรรพ มีบ้านและไม่มีหนี้ คนเหล่านี้มีระดับของ Self-Actualized ที่มากกว่างั้นหรือ? ท้ายที่สุดแล้วเราไม่สามารถสรุปได้เพราะมันขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละคน อีกทั้งยังมีตัวแปรอื่นๆ อีกมากมายในการตอบโจทย์ความต้องการในขั้นนี้ตามทฤษฎีของ Maslow แต่หากจะมองในแง่ของการซื้อบ้าน คงต้องดูให้ลึกลงไปว่าจุดประสงค์ของการซื้อบ้าน คือ ซื้อเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย หรือซื้อบ้านเพื่อหวังจะให้เป็น ‘บ้าน’ จริงๆ หากคุณหมกมุ่นอยู่กับการนั่งดีดตัวเลขคำนวณกำไรในอนาคตตั้งแต่วันนี้แล้วล่ะก็ แปลว่าคุณอาจจะไม่อยากก่อร่างสร้างความเป็นบ้านในเชิงของการเติมเต็มความรู้สึกซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านเพื่อหวังจะสร้างความเป็นบ้าน มันคือการซื้อที่มีความหมายลึกลงไปกว่าการซื้อเพียงอสังหาริมทรัพย์สักแห่ง เจตนารมณ์ที่ต่างออกไปนี้จะทำให้คนเริ่มมีความรู้สึกผูกพันธ์ในทุกๆ การใช้จ่ายและรู้ว่าพื้นที่แห่งนี้จะเข้ามาเติมเต็มจิตวิญญาณให้แก่ตนเองอย่างที่ไม่เคยมีสิ่งของชิ้นไหนทำได้ เมื่อใดก็ตามที่คุณได้มีช่วงเวลาพิเศษและสัมผัสได้ถึงพลังงานดีๆ ของความเป็นบ้านเช่นนี้ เมื่อนั้นคุณก็มีโอกาสที่จะไปถึงความรู้สึกของการเติมเต็มในตนเองได้อย่างสมบูรณ์

    มนุษย์มีความต้องการทางด้านใด

    1. ความต้องการทางด้านร่างกาย (Physiological Needs) ได้แก่ ความต้องการ อากาศ นํ้า อาหาร และความต้องการทางเพศ 2. ความต้องการความมั่นคง (Security Needs) ได้แก่ ความต้องการความ ปลอดภัยและความปลอดภัยจากความกลัวและการคุกคามต่างๆ 3. ความต้องการทางด้านสังคม (Social Needs) ได้แก่ ความต้องการความรัก ความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่ง ...

    ความต้องการด้านใดสําคัญต่อมนุษย์มากที่สุด

    5. ความต้องการพัฒนาศักยภาพของตน (Self-actualization) เป็นความต้องการขั้นสูงสุดของมนุษย์และความต้องการนี้ยากต่อการบอกได้ว่าคืออะไร เราเพียงสามารถกล่าวได้ว่า ความต้องการพัฒนาศักยภาพของตนเป็นความต้องการที่มนุษย์ต้องการจะเป็น ต้องการที่จะได้รับผลสำเร็จในเป้าหมายชีวิตของตนเอง และต้องการความสมบูรณ์ของชีวิต

    ความต้องการของมนุษย์มีกี่ระดับ อะไรบ้าง

    เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อของ Abraham Maslow กับทฤษฎีที่เชื่อว่ามนุษย์จะมีลำดับความต้องการแบ่งออกเป็น 5 ขั้น คือ 1. Physiological Needs ความต้องการพื้นฐาน เช่น อาหาร น้ำ เครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัย 2. Safety Needs ความต้องการด้านความปลอดภัย 3. Love and belonging Needs ความต้องการเป็นที่รักและเป็นส่วนหนึ่ง 4. ...

    ความต้องการของมนุษย์มีลักษณะอย่างไร

    ความต้องการของมนุษย์เป็นเครื่องกระตุ้นและแรงผลักดันให้มนุษย์แสดงพฤติกรรม อย่างใดอย่างหนึ่งออกมาในอันที่จะปฏิบัติงานให้สาเร็จบนพื้นฐานความเชื่อหรือสมมุติฐานว่า มนุษย์มีความต้องการ และพฤติกรรมของมนุษย์จากความต้องการทางจิตวิทยาที่ทาการศึกษา เกี่ยวกับความต้องการของมนุษย์ที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปก็คือ