“หน่วยงานประจำจังหวัด” ตามความหมายในระเบียบสภาองค์กรของผู้บริโภค ฉบับที่ 4 ว่าด้วยการจัดตั้งหน่วยงานประจำจังหวัด กลไกเขตพื้นที่ สมาชิก และองค์กรของผู้บริโภคของสภาองค์กรของผู้บริโภค พ.ศ.2562 หมายความว่า สมาชิกที่ได้รับการจัดตั้งขึ้น โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการให้เป็นหน่วยงานประจำจังหวัด ซึ่งถูกกำหนดไว้ใน มาตรา 12 (4) แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค พ.ศ.2562 ว่า โครงสร้างขององค์กรซึ่งอย่างน้อยต้องมีสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภคและหน่วยงานประจำจังหวัด ซึ่งอาจมีทุกจังหวัดหรือบางจังหวัดตามที่เห็นสมควร ตลอดทั้งวิธีการบริหารงานของสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค ซึ่งอย่างน้อยต้องมีเลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภคเป็นหัวหน้าสำนักงาน และวิธีการบริหารงานในหน่วยงานประจำจังหวัด รวมตลอดทั้งผู้มีอำนาจกระทำการแทนสภาองค์กรของผู้บริโภค Show “หน่วยงานประจำจังหวัด” ก่อเกิดมาพร้อมกับการมี “สภาองค์กรของผู้บริโภค” หรือ สอบ. ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของ สอบ. เป็นนวัตกรรมของระบบการคุ้มครองผู้บริโภคที่มีหน่วยงานประจำจังหวัดกระจายอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อเป็นตัวแทนของผู้บริโภคทุกด้าน สามารถดำเนินงานคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว เท่าทันสถานการณ์ และความต้องการ บทบาทหน้าที่ของหน่วยงานประจำจังหวัด(1) เสนอแนะนโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคต่อหน่วยของรัฐในระดับจังหวัด(2) สนับสนุนและดำเนินการตรวจสอบ ติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์ปัญหาสินค้าและบริการ แจ้งหรือโฆษณาข่าวสาร เตือนภัยเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่อาจกระทบต่อสิทธิของผู้บริโภค อาจก่อให้เกิดความเสียหาย หรือเกิดความเสื่อมเสียแก่ผู้บริโภคในระดับจังหวัด โดยจะระบุชื่อสินค้า บริการ หรือชื่อของผู้ประกอบธุรกิจด้วยก็ได้ (3) รายงานการกระทำหรือการละเลยการกระทำ อันมีผลกระทบต่อสิทธิของผู้บริโภคไปยังหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานอื่นที่รับผิดชอบในระดับจังหวัด และเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ (4) สนับสนุนการรวมตัวและช่วยเหลือองค์กรของผู้บริโภคภายในจังหวัด เพื่อรักษาประโยชน์ของผู้บริโภค(5) ร่วมกับสมาชิกและองค์กรของผู้บริโภคอื่นในจังหวัด “จัดให้มีสภาจังหวัด” โดยให้หน่วยงานประจำจังหวัดทำหน้าที่เป็นเลขานุการ (6) รับเรื่องร้องเรียน ไกล่เกลี่ยหรือประนีประนอมยอมความข้อพิพาทเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค(7) ดำเนินคดีในนามของสภาได้ เมื่อได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาจังหวัด ตามที่กำหนดในหมวดว่าด้วยการฟ้องคดี เว้นแต่หน่วยงานประจำจังหวัดนั้น เป็นองค์กรที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ให้ดำเนินคดีแทนผู้บริโภคได้(8) จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนงบประมาณรายปี และราย 6 เดือน(9) จัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานเสนอต่อสำนักงานเป็นประจำทุก 6 เดือน โดยอย่างน้อยรายงานต้องมีเนื้อหาครอบคลุมผลงานที่เป็นความสำเร็จ ปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะ (10) ดำเนินการใช้จ่ายงบประมาณและจัดทำรายงานการเงินและบัญชีให้เป็นไปตามระเบียบ สอบ.ว่าด้วยการงบประมาณ การบัญชี การเงิน และการสอบบัญชีของ สอบ. และ(11) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่คณะกรรมการมอบหมาย ปัจจุบัน (ข้อมูลวันที่ 25 มีนาคม 2565) สอบ.แต่งตั้งองค์กรสมาชิก ยกระดับขึ้นเป็นหน่วยงานประจำจังหวัด ทำหน้าที่คุ้มครองและพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภคในจังหวัด รับเรื่องร้องเรียน ไกล่เกลี่ย หรือประนีประนอมยอมความข้อพิพาทเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค และสามารถดำเนินคดีในนามของสภาฯ ได้ตลอดจนดำเนินการอื่นใดตามที่ สอบ.กำหนด จำนวน 13 หน่วย ประกอบด้วย ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับกระบวนวิธีพิจารณาในศาล ซึ่งเป็นประโยชน์และสร้างความเป็นธรรม รวมทั้งมีแต้มต่อให้กับ ผู้บริโภคอีกหลายประเด็น แต่อย่างไรก็ตามเจตนารมณ์ เบื้องต้นของศาลผู้บริโภค จะดำเนินการไกล่เกลี่ยให้คู่ความได้ตกลงกัน หรือ ประนีประนอม ยอมความเป็นสำคัญ แต่ขอย้ำต่อจากนี้ไปผู้ประกอบการธุรกิจจะถูกผู้บริโภคฟ้องง่ายขึ้น และมากขึ้น ทั้งเป็นเรื่องใหม่ต่อ ศาลที่จะต้องรับภาระคดีพิพาทระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจ และผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการธุรกิจมีความรับ ผิดชอบต่อ สินค้า หรือการให้บริการ มีความสุจริตจริงใจไม่ค้ากำไรเกินควร ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องขึ้น “ศาลผู้บริโภค” แต่อย่างไร
|