ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์มีประโยชน์อย่างไร

ฟลูออไรด์ เป็นสารประกอบของแร่ฟลูออรีน (Fluorine) พบได้ในแหล่งน้ำธรรมชาติและอาหารบางชนิด โดยปกติแล้วในแต่ละวันฟลูออไรด์และแร่ธาตุอื่น ๆ อาจละลายออกจากผิวฟัน เนื่องจากกรดที่เกิดจากการสะสมของคราบแบคทีเรียและน้ำตาล แต่ก็สามารถสะสมขึ้นมาใหม่ได้ด้วยการรับประทานอาหารและน้ำซึ่งเป็นแหล่งของฟลูออไรด์ โดยฟลูออไรด์จะช่วยเสริมสร้างให้ฟันแข็งแรง ทนทานต่อกรด และช่วยรักษาฟันผุในระยะเริ่มต้น

ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์มีประโยชน์อย่างไร

แหล่งของฟลูออไรด์

นอกเหนือจากแหล่งน้ำธรรมชาติแล้ว ฟลูออไรด์ยังพบได้ในอาหารบางชนิด และผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น

  • ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เช่น ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก หรืออาหารเสริมต่าง ๆ เป็นต้น
  • อาหารทะเล เนื่องจากสามารถพบโซเดียมฟลูออไรด์ได้มากในน้ำทะเล ดังนั้น อาหารทะเลจึงมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ด้วย
  • อาหารที่ผ่านการปรุงด้วยน้ำประปาที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์
  • ชา
  • เจลาติน

ประโยชน์ของฟลูออไรด์

ฟลูออไรด์สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการช่วยลดการเกิดปัญหาฟันผุ ทำให้ฟันทนทานต่อการผุเสื่อมในระยะเริ่มต้นได้ นอกจากนี้ ฟลูออไรด์ยังมีส่วนในขั้นตอนการงอกของฟันแท้ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี เพิ่มความทนทานต่อกรดที่เกิดจากคราบแบคทีเรียและน้ำตาลบนผิวฟัน และเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ฟันทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ได้ด้วย จึงมีการนำฟลูออไรด์ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพฟัน ดังนี้

ยาสีฟัน

ในยาสีฟันแต่ละยี่ห้อจะมีปริมาณฟลูออไรด์ที่แตกต่างกัน ผู้ใช้อาจสังเกตสัดส่วนของฟลูออไรด์ในยาสีฟันได้จากฉลากข้างหลอดยาสีฟัน ซึ่งมีหน่วยวัดเป็นส่วนในล้านส่วน (ppm) โดยยาสีฟันที่มีสัดส่วนของฟลูออไรด์อยู่ที่ 1,350-1,500 ppm จะให้ผลได้ดีที่สุด ทั้งนี้ ควรเลือกยาสีฟันที่มีปริมาณฟลูออไรด์ที่เหมาะสมกับผู้ใช้ด้วยเช่นกัน ได้แก่

  • เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 3 ปี ควรใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ไม่น้อยกว่า 1,000 ppm 2 ครั้ง/วัน
  • เด็กที่มีอายุระหว่าง 3-6 ปี ควรใช้ยาสีฟันที่มีปริมาณของฟลูออไรด์มากกว่า 1,000 ppm ขนาดเท่ากับเมล็ดถั่ว อย่างน้อย 2 ครั้ง/วัน
  • ผู้ใหญ่ ควรแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ในสัดส่วน 1,350-1,500 ppm อย่างน้อย 2 ครั้ง/วัน

น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์

น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์อาจจ่ายโดยทันตแพทย์สำหรับเด็กที่มีอายุมากกว่า 8 ปี และผู้ใหญ่ที่มีปัญหาฟันผุควรใช้น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์เพิ่มนอกเหนือจากการแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์อย่างน้อย 1,350 ppm 2 ครั้ง/วัน นอกจากนี้ การใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ นับเป็นอีกหนึ่งวิธีในการเสริมสร้างสุขภาพฟันที่แข็งแรงสำหรับผู้ใหญ่และเด็กที่มีอายุมากกว่า 8 ปี อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้น้ำยาบ้วนปากในขณะที่แปรงฟัน เนื่องจากน้ำยาบ้วนปากอาจล้างฟลูออไรด์ที่อยู่ในยาสีฟันออกไปจนหมด

การเคลือบฟลูออไรด์

ทันตแพทย์อาจใช้ฟลูออไรด์ปริมาณเข้มข้นมาเคลือบที่ผิวฟันในทุก ๆ 6 เดือน โดยใช้ฟลูออไรด์ในรูปของสารละลาย น้ำยาเคลือบฟัน เจล และโฟม ซึ่งใช้ทาเคลือบฟันได้ง่ายและแห้งเร็ว เพื่อทำให้ผิวฟันแข็งแรงขึ้นและป้องกันปัญหาฟันผุ โดยสามารถทำได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่

ทั้งนี้ สำหรับเด็กที่มีอายุ 3 ปี ควรได้รับการเคลือบฟลูออไรด์อย่างน้อย 2 ครั้ง/ปี ส่วนเด็กทุกช่วงวัยที่มีความเสี่ยงหรือมีปัญหาฟันผุอาจต้องเข้ารับการเคลือบฟันมากกว่า 2 ครั้ง/ปี และในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดปัญหาฟันผุควรเคลือบฟลูออไรด์ทุก ๆ 3 เดือน

ฟลูออไรด์ปลอดภัยหรือไม่ ?

แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าฟลูออไรด์สามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพอื่น ๆ แต่การใช้ฟลูออไรด์ในปริมาณที่มากเกินขนาดก็มีความเป็นไปได้ที่จะก่อให้เกิดภาวะเป็นพิษ ซึ่งระดับการเกิดพิษจะขึ้นอยู่กับปริมาณฟลูออไรด์ที่สัมพันธ์กับน้ำหนักตัวของผู้ใช้ ดังนั้น ผู้ปกครองจึงควรระมัดระวังมากเป็นพิเศษในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ในเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี หรือควรเก็บให้พ้นจากมือเด็ก

นอกจากนี้ การได้รับฟลูออไรด์มากเกินขนาดที่มักเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ อาจก่อให้เกิดอาการฟันตกกระ (Fluorosis) พบได้มากในเด็กอายุประมาณ 8 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ฟันกำลังจัดตัวอยู่ใต้เหงือก โดยอาการจะเป็นรอยตำหนิบนผิวฟันตั้งแต่รอยเล็ก ๆ จนแทบมองไม่เห็น ไปจนถึงรอยสีน้ำตาลที่สังเกตได้ชัดเจน แต่หากอาการฟันตกกระรุนแรงก็อาจทำให้เกิดหลุมบนฟัน หรือการเปลี่ยนสีของผิวฟันได้

ดังนั้น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของทันตแพทย์ หรือคำแนะนำบนฉลากข้างผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้ฟลูออไรด์ และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการใช้ฟลูออไรด์ในปริมาณและวิธีการที่ไม่เหมาะสม

ฟลูออไรด์ (Fluorides) เป็นสารที่ขึ้นชื่อเรื่องการดูแลสุขภาพฟัน เพราะมีคุณสมบัติรักษาฟันให้แข็งแรง ป้องกันฟันผุ ซ่อมแซมฟันผุในระยะแรก และยับยั้งแบคทีเรีย ฟลูออไรด์จึงเป็นสารสำคัญที่ควรมีในยาสีฟันและผลิตภัณฑ์สำหรับช่องปาก แต่รู้หรือไม่ว่า ไม่ใช่ยาสีฟันทุกหลอดที่จะมีฟลูออไรด์เป็นส่วนประกอบ

ฟลูออไรด์เป็นแร่ธาตุที่มีอยู่ตามธรรมชาติ สามารถพบได้ในน้ำและอาหาร ฟันและผิวเคลือบฟัน (Enemal) ของคนเราประกอบไปด้วยแร่ธาตุหลายชนิด ฟลูออไรด์ก็เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้น การได้รับฟลูออไรด์ในปริมาณที่เหมาะสมเป็นประจำ ไม่ว่าจะจากน้ำดื่ม อาหาร ยาสีฟันฟลูออไรด์ หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จะช่วยให้ฟันแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์มีประโยชน์อย่างไร

ผลิตภัณฑ์ฟลูออไรด์มีแบบไหนบ้าง?

แม้ว่าเราอาจได้รับฟลูออไรด์จากอาหารและน้ำดื่ม แต่ฟลูออไรด์ปริมาณดังกล่าวอาจไม่เพียงพอต่อการรักษาความแข็งแรงของฟัน เราจึงจำเป็นต้องได้รับฟลูออไรด์จากผลิตภัณฑ์อื่น เช่น

  • ยาสีฟันฟลูออไรด์
    การใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์เป็นวิธีหลายคนคุ้นเคย อีกทั้งยังง่ายและสะดวก เพราะเราแปรงฟันเป็นกิจวัตรประจำวัน หลังจากแปรงฟันควรหลีกเลี่ยงการบ้วนปากด้วยน้ำ หรืออาจบ้วนน้ำเพียงเล็กน้อย รวมถึงงดดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารอย่างน้อย 30 นาทีเพื่อให้ฟลูออไรด์เคลือบผิวเคลือบฟัน ซึ่งเป็นวิธีใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์ที่ถูกวิธี
  • ผลิตภัณฑ์ฟลูออไรด์อื่น ๆ
    นอกจากยาสีฟันฟลูออไรด์แล้ว เราสามารถรับฟลูออไรด์จากผลิตภัณฑ์อื่น เช่น น้ำยาบ้วนปากผสมฟลูออไรด์ที่ใช้หลังการแปรงฟัน ฟลูออไรด์ในรูปแบบอาหารเสริม หรือสารฟลูออไรด์ที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่งจำเป็นต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์และมักใช้ในผู้ที่มีปัญหาช่องปาก เป็นต้น

ยาสีฟันสมุนไพรมีฟลูออไรด์ไหม ?

ในปัจจุบันคนไทยนิยมใช้ยาสีฟันสมุนไพรกันมากขึ้น อาจเพราะกระแสการใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่เชื่อกันว่าปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ ยาสีฟันสมุนไพรมักมีส่วนประกอบจากวัตถุดิบหลายชนิด สรรพคุณของสมุนไพรบางชนิดอาจช่วยเสริมความแข็งแรงของฟัน ช่วยให้รู้สึกสะอาดและสดชื่นหลังแปรงฟัน ลดปัญหากลิ่นปากจึงช่วยให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้น อีกทั้งข้อมูลทางการศึกษาบางส่วนยังชี้ว่าสมุนไพร อย่างกานพลูและสะเดาช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคในช่องปากที่เป็นสาเหตุของฟันผุและโรคเหงือกได้ด้วย

แต่ยาสีฟันสมุนไพรตามท้องตลาดส่วนใหญ่มักชูสรรพคุณในการทำความสะอาดและลดปัญหากลิ่นปากเป็นหลัก โดยไม่ได้เติมฟลูออไรด์เข้าไปในยาสีฟัน ซึ่งขัดกับคำแนะนำของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขที่ให้ใช้ยาสีฟันใดก็ตามที่มีฟลูออไรด์เป็นส่วนประกอบด้วยเสมอ ทว่ายังมียาสีฟันสมุนไพรบางยี่ห้อที่ไม่ได้มีเพียงแค่สารสกัดจากสมุนไพรเท่านั้น แต่มีการเติมฟลูออไรด์ในยาสีฟันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาฟันและสุขภาพช่องปาก

หากต้องการเลือกซื้อยาสีฟันสมุนไพร ควรเลือกซื้อยาสีสมุนไพรที่ผสมฟลูออไรด์ เพื่อดูแลสุขภาพช่องปากได้อย่างครอบคลุม ทั้งคุณสมบัติป้องกันฟันผุและเสริมความแข็งแรงของฟันจากฟลูออไรด์ และสรรพคุณต้านการอักเสบ การทำความสะอาด และลมหายใจหอมสดชื่นหลังแปรงฟันจากสมุนไพร นอกจากนี้ ควรเลือกซื้อยาสีฟันสมุนไพรจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐานและเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ เพราะของใช้สำหรับช่องปาก อย่างยาสีฟันสมุนไพรฟลูออไรด์จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนการผลิตที่มีคุณภาพเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้

ประโยชน์ของฟลูออไรด์ต่อสุขภาพฟันและช่องปาก

ฟลูออไรด์เป็นแร่ธาตุที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของผิวเคลือบฟัน ชะลอการสลายของแร่ธาตุในฟันและผิวเคลือบฟันด้านนอก ช่วยซ่อมแซมฟันผุในระยะเริ่มต้น และลดการสร้างกรดของแบคทีเรียในผิวเคลือบฟัน ฟลูออไรด์จึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำหน้าที่เหมือนเกราะปกป้องฟัน ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดกับฟัน ช่วยลดความเสี่ยงของฟันผุ และป้องกันปัญหาช่องปากอื่น ๆ ที่อาจตามมา เช่น กลิ่นปาก การสูญเสียฟัน และการขาดความมั่นใจในตนเอง

นอกจากนี้ ฟลูออไรด์ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและปกป้องฟันแท้ที่กำลังขึ้นมาใหม่ในกลุ่มเด็ก ๆ ด้วย โดยเด็กสามารถใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์ได้ตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น โดยความเข้มข้นของฟลูออไรด์ที่เหมาะสมสำหรับเด็กจะขึ้นอยู่กับช่วงอายุ แต่เพื่อความปลอดภัย คุณพ่อคุณแม่ที่ไม่แน่ใจในการใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์ในทารกและเด็กอ่อน ควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อน

ข้อมูลจากงานวิจัยจำนวนมากเกี่ยวกับสรรพคุณของฟลูออไรด์ในการป้องกันฟันผุชี้ว่าฟลูออไรด์สามารถลดความเสี่ยงของฟันผุได้จริง ข้อมูลจากสมาคมทันตแพทย์แห่งประเทศไทยแนะนำว่ายาสีฟันฟลูออไรด์สำหรับผู้ใหญ่ ควรมีความเข้มข้นของฟลูออไรด์ประมาณ 1,000 ppm โดยปริมาณฟลูออไรด์ที่สูงขึ้นอาจช่วยลดการเกิดฟันผุได้มากขึ้นเล็กน้อย แต่ความเข้มข้นของฟลูออไรด์ในยาสีฟันไม่ควรเกิน 1,500 ppm เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงได้

วิธีดูแลสุขภาพช่องปากอย่างเหมาะสม

การได้รับฟลูออไรด์ปริมาณที่เหมาะสมในระยะยาวไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายแต่อย่างใด เราจึงสามารถใช้ยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์ได้เป็นประจำ รวมทั้งควรรักษาสุขภาพฟันและเหงือกด้วยวิธีอื่นร่วมด้วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุและเสริมสร้างสุขภาพช่องปากที่ดี เช่น

  • แปรงฟันด้วยวิธีที่ถูกต้องอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน เช้าและก่อนนอน
  • ใช้ไหมขัดฟันด้วยวิธีที่ถูกต้องเป็นประจำ
  • จำกัดอาหารและเครื่องดื่มน้ำตาลสูง
  • งดกัดหรือแทะอาหารที่แข็งและเหนียว
  • เข้ารับการขูดหินปูนและตรวจสุขภาพช่องปากโดยทันตแพทย์ทุก 6 เดือน

อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์สำหรับช่องปาก ทั้งยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากไม่ได้มีฟลูออไรด์ทุกยี่ห้อ ดังนั้น ทุกครั้งที่ซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับช่องปาก ควรอ่านฉลากส่วนผสมเพื่อมองหาฟลูออไรด์และปริมาณฟลูออไรด์ที่เหมาะสมตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ หากพบความผิดปกติเกี่ยวกับช่องปาก อย่างมีกลิ่นปาก ปวดฟัน เลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวม และเหงือกร่น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างเหมาะสม