Show
สวัสดีครับเพื่อน ๆ มีงานบ้านอยู่อย่างหนึ่ง ที่เราต้องทำอยู่เสมออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือ การซักผ้าครับ ถ้าเรามีผ้ากองโต แล้วต้องซักมือนั้น เราคงเหนื่อยมาก ๆ แต่ถ้าเรามี เครื่องซักผ้า ไว้ใช้งาน จะช่วยเราได้มากเลยครับ เครื่องซักผ้า เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกบ้าน ๆ ต้องมีไว้ใช้งาน จะขาดไปไม่ได้เลยนะครับ เพราะ เครื่องซักผ้า นี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกเราได้เป็นอย่างดี มีหน้าที่ช่วยทำความสะอาดเสื้อผ้าของเรา โดยที่เราไม่ต้องเหนื่อยซักมือเองเลยครับ การซักผ้าด้วยมือของเรานั้น ค่อนข้างที่จะลำบากมากเลยนะ เพราะสารเคมีจากผงซักผอก จะทำให้มือของเพื่อน ๆ แห้ง หรือเกิดเป็นแผลได้ ค่อนข้างแสบมือพอสมควร แบบนั้นไม่ค่อยดีสักเท่าไร แต่ถ้ามี เครื่องซักผ้ามาช่วย เราจะสบายขึ้นเยอะเลยครับ ในส่วนของ เครื่องซักผ้า นั้น ก็ยังมีหลายแบบด้วยนะ เช่น เครื่องซักผ้าแบบฝาบน เครื่องซักผ้าฝาหน้า และ เครื่องซักผ้าแบบ 2 ถัง รวมทั้งยังมี เครื่องอบผ้า มาเพื่อใช้อบผ้าให้แห้งอย่างรวดเร็วอีกด้วย ยิ่งช่วยให้เราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นไปอีกครับ สำหรับ เครื่องซักผ้า ในท้องตลาดบ้านเราตอนนี้ มีแบรนด์ดัง ๆ มากมายหลายรุ่นให้เลือกใช้ อีกทั้ง เครื่องซักผ้าแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่น ก็ได้มีการคิดค้น และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มีความทันสมัย สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ LG Samsung Electrolux เป็นต้น เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้เลือกซื้อหามาใช้งานกัน เพื่อน ๆ ก็อาจจะคิดว่า กำลังมีแผนจะซื้อพอดีเลย แต่ไม่รู้ว่าควรซื้อรุ่นไหนมาใช้งาน พอดีเลยครับ เพราะในวันนี้ ตังค์ทอน จะมาแนะนำ 10 อันดับ เครื่องซักผ้า ยี่ห้อไหนดี ซักผ้าได้อย่างสะอาด ใช้งานง่าย ประสิทธิภาพเยี่ยม ให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกัน รวมทั้งจะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อให้ด้วย เพื่อให้เพื่อน ๆ ใช้ประกอบการตัดสินใจครับ จะมีเครื่องซักผ้ารุ่นไหนน่าสนใจบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลยครับ
1. Electrolux เครื่องซักผ้าและอบแห้งฝาหน้า รุ่น EWW1142R7MB
แบรนด์ : Electrolux รุ่น : EWW1142R7MB ความจุถังซัก : 13 kg น้ำหนักเครื่อง : 78 กิโลกรัม ขนาดเครื่อง (ส x ก x ล) : 850 x 600 x 659 มิลลิเมตร Electrolux เครื่องซักผ้าและอบแห้งฝาหน้า รุ่น EWW1142R7MB เครื่องซักผ้าจากแบรนด์ดัง ที่จะช่วยให้เสื้อผ้าตัวโปรดของเพื่อน ๆ สะอาดขึ้น และดูใหม่อยู่เสมอ มาพร้อมกับเทคโนโลยีการทำความสะอาดที่ยอดเยี่ยม พร้อมกับช่วยปกป้องสีผ้าได้ดีมากกว่าเดิม สำหรับเครื่องซักผ้ารุ่นนี้ มีความจุในการซักผ้า 11 กิโลกรัม และอบอีก 7 กิโลกรัม มาพร้อมกับความเร็วรอบปั่นหมาดสูงสุด 1400 รอบ/นาที ผ้าแห้งดีมาก ๆ ต่อมาครับ มาพร้อมกับเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ใหม่ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซักผ้าได้ดีมากขึ้น รวมทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าระบบ Inverter ทั่วไปด้วย สามารถซักผ้าที่มีความละเอียดอ่อนสูงได้ อย่างเช่น ผ้าขนสัตว์ ผ้าไหม ในส่วนนี้ ได้มีการรับรองจาก WOOLMARK มาเรียบร้อยแล้ว มาพร้อมเซ็นเซอร์วัดน้ำหนักผ้า ช่วยป้องกันไม่ให้ใส่ผ้าซักมากเกินไป หรือน้อยเกินไป มีเทคโนโลยี UltraMix ช่วยในการถนอมเนื้อผ้า และช่วยให้สีสันของเนื้อผ้า ดูสดใสเหมือนวันแรกที่ใส่ เครื่องรุ่นนี้เหมาะสำหรับติดตั้งไว้ใช้งานทั้งที่บ้านพักอาศัย คอนโด หอพัก อพาร์ทเม้นท์ และที่พักอาศัยที่มีที่จำกัดได้อย่างลงตัวครับ จุดเด่น
2. LG เครื่องซักผ้าฝาบน รุ่น T2518VSAJ ระบบ Smart Inverter ความจุซัก 18 กก.
แบรนด์ : LG รุ่น : T2518VSAJ กำลังไฟฟ้าเข้า (วัตต์) : 200 วัตต์ ระบบมอเตอร์ : Smart Inverter ขนาดถังซัก (kg) : 18 รับประกันมอเตอร์ (Year) : 10 รับประกันตัวเครื่อง (Year) : 1 ขนาด : 63.2 W X 102 H X 67 D LG เครื่องซักผ้าฝาบน รุ่น T2518VSAJ ระบบ Smart Inverter ความจุซัก 18 กก. เครื่องซักผ้าระบบอินเวอรืเตอร์ ที่มาพร้อมกับความสามารถในการถนอมผ้าได้อย่างเหนือชั้น ซักผ้าได้อย่างสะอาดเอี่ยม รวดเร็วทันใจ และประหยัดพลังงานมาก ๆ ในส่วนของเครื่องซักผ้ารุ่นนี้นะครับ มีมอเตอร์แบบ Smart Inverter ที่ม่ีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากขึ้น มีระบบ Turbo Drum ช่วยให้สามารถซักผ้าได้อย่างสะอาด ขจัดคราบฝังลึกได้ดี ตัวถังซักสามารถหมุนได้ 3 รูปแบบ ซักผ้าได้อย่างสะอาด ถังซัก และจานซักเป็นสแตนเลสทั้งหมด เพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียภายในถังซัก ช่วยให้สามารถซักผ้าได้อย่างสะอาดมากยิ่งขึ้น ด้วยโปรแกรม Auto Pre Wash ที่เป็นวิธีง่าย ๆ ในการช่วยขจัดคราบฝังลึกในเนื้อผ้า ซึ่งในส่วนนี้ จะเหมือนกับเป็นการเพิ่มการซัก 1 ครั้งก่อนการซักปกติครับ ในการใช้งานตัวเครื่อง ถือว่าทำได้อย่างสะดวกมาก ๆ โดยจะมีแผงควบคุมระบบสัมผัส และจอแสดงผล LED ใช้งานได้อย่างง่ายดาย และสะดวกสบายมาก ๆ และฝาเปิด-ปิดดีไซน์สวยทันสมัย และป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีด้วยครับ จุดเด่น
3. Electrolux EWF8024D3WB เครื่องซักผ้าฝาหน้า ความจุการซัก 8 กิโลกรัม
แบรนด์ : Electrolux รุ่น : EWF8024D3WB ขนาดถังซัก(กก) : 8 รอบปั่นหมาด(รอบ/นาที) : 1200 โปรแกรมการซัก(โปรแกรม) : 12 ระบบ Inverter : มี ปริมาตรถังซัก : 53 ลิตร Electrolux EWF8024D3WB เครื่องซักผ้าฝาหน้า ความจุการซัก 8 กิโลกรัม เครื่องซักผ้าจากแบรนด์ดัง ที่เราคุ้นเคยชื่อเสียงกันมาเป็นอย่างดีอย่าง Electrolux ที่ได้รับการออกแบบดีไซน์มาอย่างสวยงาม ทันสมัย ใช้งานได้อย่างง่ายดาย ไม่ยุ่งยาก มาพร้อมกับขาตั้งเครื่อง ที่มีความทนทานแข็งแรง สามารถใช้งานได้นาน ภายในตัวเครื่องซักผ้ารุ่นนี้ มาพร้อมกับเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ใหม่ ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้การซักผ้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซักผ้าได้อย่างสะอาด ถนอมผ้าดี และ ยังช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากกว่าระบบอินเวอร์เตอร์ทั่วไปอีกด้วยครับ ต่อมา มาพร้อมกับระบบ Hygienic Care ซึ่งจะเป็นฟังก์ชั่นไอน้ำเพื่อช่วยในการกำจัดเชื้อโรค และสารก่อภูมิแพ้ ทำให้ผู้สวมใส่เสื้อผ้า มีสุขภาพดีขึ้น มีโปรแกรมการซักผ้ามาให้มากถึง 12 โปรแกรม เพื่อน ๆ สามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการเลย สำหรับการใช้งาน สามารถใช้ฟังก์ชั่นแช่ผ้าก่อนซักผ้า ถ้าผ้าสกปรกมาก ๆ สามารถเพิ่มผ้าในระหว่างซักก็ได้เช่นกัน และ มีโปรแกรมการล้างถังซักมาให้ด้วย เพื่อที่จะทำความสะอาดถังให้สะอาดพร้อมใช้งานอยู่เสมอครับ จุดเด่น
4. SAMSUNG ซัมซุง เครื่องซักผ้าฝาบน 15 กิโล รุ่น WA15R6380BV/ST
แบรนด์ : SAMSUNG รุ่น : WA15R6380BV/ST ความกว้าง : 70.50 เซนติเมตร ความยาว : 74.80 เซนติเมตร ความสูง / หนา : 115.00 เซนติเมตร สี : สีดำ SAMSUNG ซัมซุง เครื่องซักผ้าฝาบน 15 กิโล รุ่น WA15R6380BV/ST เครื่องซักผ้าประสิทธิภาพดี สุดอัจฉริยะ ด้วยระบบอินเวอร์เตอร์ ช่วยให้สามารถประหยัดพลังงานได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับเครื่องรุ่นนี้นะครับ มาพร้อมกับถังซักที่ได้รับการออกแบบดีไซน์มาเป็นรูปทรงเพชร พร้อมรูระบายน้ำขนาดเล็ก ช่วยให้หมดปัญหาผ้าติดถังซักได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับช่องจ่ายผงซักฟอก ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ ช่วยให้เกิดกระแสน้ำวนพลังแรง ช่วยให้สามารถละลายผงซักฟอก แล้วกระจายอย่างสม่ำเสมอ ก่อนที่เครื่องจะเริ่มทำการซักผ้า ทำให้ลดปัญหาคราบผงซักฟอกเหลือติดอยู่บนเสื้อได้ และยังช่วยลดปัญหาผ้าพันกันด้วย ในส่วนของการใช้งานตัวเครื่อง จะมีโหมดปั่นหมาดทรงพลัง ช่วยให้ประหยัดเวลา ทำให้ผ้าแห้งอย่างรวดเร็วขึ้น และหมดปัญหากลิ่นอับชื้น สามารถเพิ่มเวลาแช่ผ้ากับน้ำยาปรับผ้านุ่ม เพื่อให้ผ้าได้กลิ่นหอมยาวนานยิ่งขึ้น การควบคุมเครื่อง จะมีแผงควบคุมแบบคู่ที่เอียงลง พร้อมจอแสดงผล LED สีฟ้าใส สามารถดูข้อมูล และเมนูการทำงานต่าง ๆ ของตัวเครื่องได้อย่างชัดเจน มีฝาปิดกระจกใส มองเห็นภายในเครื่องได้อย่างชัดเจนด้วยครับ จุดเด่น
5. Electrolux เครื่องซักผ้าฝาหน้า UltimateCare II 300 รุ่น EWF9024D3WB
แบรนด์ : Electrolux รุ่น : EWF9024D3WB น้ำหนักเครื่อง : 71 กิโลกรัม ขนาดเครื่อง (ส x ก x ล) : 850 x 600 x 659 มิลลิเมตร รอบปั่นหมาดสูงสุด : 1200 รอบ/นาที (400, 600, 800, 1200) ปริมาตรถังซัก : 69 ลิตร Electrolux เครื่องซักผ้าฝาหน้า UltimateCare II 300 รุ่น EWF9024D3WB มาพร้อมกับระบบอินเวอร์เตอร์ กับขาตั้งที่มีความแข็งแรงทนทาน มีฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ มาให้เลือกใช้อย่างครบครัน สำหรับเครื่องซักผ้าจากแบรนด์ดังอย่าง Electrolux รุ่นนี้นะครับ มาพร้อมเทคโนโลยี Eco Inverter เป็นเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ใหม่ ที่มีประสิทธิภาพในการซัก และสามารถประหยัดพลังงานสูงกว่าอินเวอร์เตอร์ทั่วไป ต่อมา เทคโนโลยี UltraMix ช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างดีเยี่ยม ลดเวลาการซักได้ดีกว่าเครื่องซักผ้าธรรมดา ๆ สามารถซักผ้าได้อย่างสะอาด และช่วยถนอมสีผ้าให้มีความสวยงาม สดใสเหมือนใหม่อยู่เสมอ ช่วยให้มั่นใจได้ในความสะอาดเลยครับ มีฟังก์ชั่น Hygienic Care ที่ช่วยกำจัดสิ่งสกปรก เชื้อโรค แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ช่วยให้ลดปัญหาสุขภาพของผู้สวมใส่เสื้อผ้าได้ มีระบบ Time Manager สามารถปรับระยะเวลาการซักตามความสกปรกของผ้า มีระบบ Child Lock เพื่อความปลอดภัยต่อเด็ก ๆ ในบ้าน สำหรับเครื่องซักผ้ารุ่นนี้ ซักผ้าได้อย่างสะอาดใช้งานได้ง่าย เหมาะแก่การมีไว้ติดบ้านเลยครับ จุดเด่น
6. LG เครื่องซักผ้าฝาหน้า รุ่น FM1207N6W ระบบ Inverter Direct Drive
แบรนด์ : LG รุ่น : FM1207N6W ขนาดถังซัก (kg) : 7 กก. วัสดุถังซัก : Stainless Steel เทคโนโลยี : Inverter DD รับประกันมอเตอร์ (Year) : 10 LG เครื่องซักผ้าฝาหน้า รุ่น FM1207N6W ระบบ Inverter Direct Drive เครื่องซักผ้าทีมาพร้อมเทคโนโลยีการซักผ้าที่ทันสมัย ซักผ้าได้อย่างสะอาด ประหยัดพลังงาน และยังสามารถซักได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย สำหรับเครื่องซักผ้ารุ่นนี้นะครับ มาพร้อมเทคโนโลยี และฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ มีมาให้ใช้งานอย่างครบครัน โดยจะมี เทคโนโลยี 6 Motion Direct Drive ถังซักหมุน 6 ทิศทาง เพิ่มประสิทธิภาพการซัก ทำให้สามารถซักผ้าได้อย่างสะอาดมาก ๆ และยังช่วยถนอมผ้าได้ดีอีกด้วย ต่อมา เครื่องซักผ้ารุ่นนี้ เป็นระบบ Inverter Direct Drive Motor มอเตอร์ต่อตรง ไม่มีสายพาน และรอก ทำให้เครื่องรุ่นนี้ ทำงานได้เงียบมาก ๆ ไม่รบกวนการพักผ่อนของคนในบ้านเลย ปั่นผ้าได้นิ่งสุด ๆ ไม่มีแรงสั่นสะเทือนเลยครับ มาพร้อมกับ ระบบ Smart Diagnosis (ระบบตรวจสอบปัญหาอัจฉริยะ) ตรวจสอบปัญหาเครื่องได้ง่าย ๆ ผ่านสมาร์ทโฟนของตัวเพื่อน ๆ เอง ทำได้อย่างง่ายดาย และสะดวกสบายมากขึ้นครับ รวมไปถึงมรโปรแกรมการล้างถังซักมาให้ เพื่อทำความสะอาดถังซักให้สะอาด พร้อมที่จะซักผ้าในรอบใหม่ ๆ ได้ดีขึ้นครับ จุดเด่น
7. Samsung ซัมซุง เครื่องซักผ้าฝาบน Digital Inverter รุ่น WA13T5260BW/ST
แบรนด์ : Samsung รุ่น : WA13T5260BW/ST ความจุถังซัก : 13 KG ขนาด : 61 x 67.5 x 110.5 cm ระบบอินเวอร์เตอร์ : ใช่ ฟังก์ชันอื่น ๆ : เทคโนโลยี Wobble, Magic Dispenser, Intensive Wash, Smart Check, Eco Tub Clean Samsung ซัมซุง เครื่องซักผ้าฝาบน Digital Inverter รุ่น WA13T5260BW/ST เครื่องซักผ้าอัจฉริยะประหยัดพลังงานอินเวอร์เตอร์ จากแบรนด์ดังที่มีชื่อเสียงอย่าง Samsung ที่มีความสามารถ ในการซักผ้าได้อย่างสะอาดหมดจด ด้วยปลายนิ้วสัมผัสอย่างสะดวก ไม่ว่าผ้าจะสกปรกมากแค่ไหน ก็สามารถซักได้สะอาด ไร้ที่ติ สำหรับเครื่องซักผ้ารุ่นนี้นะครับ มาพร้อมระบบ Digital Inverter Motor ช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่า 40% ลดเสียง และแรงสั่นสะเทือนขณะเครื่องทำงาน ไม่รบกวนเวลาพักผ่อน มาพร้อมกับระบบ Magic Dispenser ที่ตัวใบพัดนั้น จะช่วยละลายผงซักฟอกก่อนปล่อยลงถังซัก ช่วยให้ลดปัญหาคราบตกค้างติดเสื้อผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อมาครับ มีระบบ Deep Softner ช่วยให้เกิดความหอมบนเสื้อผ้า ที่ยาวนานกว่าเดิม เราไม่ต้องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มในปริมาณมาก ๆ เลยครับ มีระบบ Magic Filter ตัวกรองพิเศษทำจากเรซิ่นคุณภาพดี สามารถดักจับฝุ่นละออง และใยผ้าได้ทุกระดับน้ำ และมาพร้อมกับโปรแกรมล้างถังซักมาให้ใช้งาน เพื่อทำความสะอาดถังให้พร้อมใช้งานครับ จุดเด่น มีระบบ Wobble Technology หมดปัญหาผ้าพันกันยุ่งเหยิงถนอมผ้าระหว่างซัก 8. Hisense เครื่องซักผ้าฝาบน สีเทา รุ่น WTJA801T ความจุ 8 กก.
แบรนด์ : Hisense รุ่น : WTJA801T ประเภท : เครื่องซักผ้าฝาบน ความจุ : 8 kg ขนาด : 53.2 × 53.2 × 92 cm ขนาดถังซัก(กิโลกรัม) : 8 รอบปั่นหมาด(รอบ/นาที) : 700 โปรแกรมการซัก (โปรแกรม) : 10 โปรแกรมซักด่วน : มี Hisense เครื่องซักผ้าฝาบน สีเทา รุ่น WTJA801T ความจุ 8 กก. เครื่องซักผ้าใช้งานได้อย่างสะดวก ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ มีพลังในการขจัดคราบฝังลึกได้อย่างยอดเยี่ยม แบรนด์ Hisense นี้ ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ ที่มีชื่อเสียงในสินค้าเครื่องซักผ้านะครับ โดยเครื่องรุ่นนี้ มาพร้อมกับ ระบบ Double Water Fall ที่สามารถสร้างกระแสน้ำที่แรงเพื่อขจัดคราบที่ฝังแน่นที่สุด ได้อย่างสะอาดมาก ๆ ช่วยให้ผ้าไม่พันกัน ลดความเสียหายของเนื้อผ้า มาพร้อมกับ Smart Fuzzy Logic Control ที่จะสามารถชั่งน้ำหนักผ้าโดยอัตโนมัติ เพื่อทำการปรับปริมาณน้ำในเครื่อง ให้เหมาะสมต่อการซักแต่ละครั้ง มีระบบ Bubble Clean กล่องน้ำยาซักผ้าที่มีโครงสร้างคล้ายเขาวงกต ในส่วนนี้ จะมีส่วนช่วยในการละลาย และทำให้น้ำยาซักผ้าเกิดฟองละเอียด ทำให้สามารถซึมลึกเข้าสู่ทุกอณูเส้นใย รวมไปถึง มีตัวกรองพิเศษ 2 ชั้น สามารถกรองเศษผ้าชิ้นเล็กๆ เช่น ผ้าสำลี ไฟเบอร์ หรืออื่นๆ ที่ยากต่อการมองเห็น และมีฝาปิดเปิดแบบกระจกนิรภัยที่แข็งแรง และสามารถปิดได้อย่างนุ่มนวลด้วยระบบ Soft-Close ด้วยครับ จุดเด่น
9. เครื่องซักผ้า 2 ถัง LG รุ่นใหม่ TT16WAPG ขนาด 16 KG
แบรนด์ : LG รุ่น : TT16WAPG ความจุซัก : 16 กก. ปั่น 10 กก. สี : สีทูโทน ฝาใส ขนาด : กว้าง 964 x สูง 1,043 x ลึก 540 มม. เครื่องซักผ้า 2 ถัง LG รุ่นใหม่ TT16WAPG ขนาด 16 KG เครื่องซักผ้าแบบ 2 ถัง ใช้งานง่าย สามารถเลือกโปรแกรมซักได้ 3 แบบ (Gentle, Normal, Strong) ตามความต้องการใช้งานเลย สะดวกสบายมาก ๆ โดยเพื่อน ๆ สามารถเลือกโปรแกรมซักให้เหมาะกับชนิดของเสื้อผ้าได้ สำหรับเครื่องซักผ้ารุ่นนี้ มาพร้อมกับ จานซักแบบ Roller Jet ที่มีความทรงพลัง เพราะจานซักนี้ จะทำการถูผ้าพร้อมกับการหมุน ช่วยขจัดคราบสกปรกได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยให้สามารถให้ซักผ้าได้สะอาดหมดจด รวมทั้ง ยังอ่อนโยนกับเนื้อผ้าอีกด้วย ต่อมาครับ มาพร้อมกับเทคโนโลยี Wind Jet Dry เป็นเทคโนโลยีของทางแบรนด์ LG ที่ช่วยลดความชื้นออกจากเสื้อผ้าในขั้นตอนการปั่นแห้ง ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งยังช่วยให้ถังซักแห้งป้องกันเชื้อราได้ มาพร้อมกับฟังกชั่น Health+ Filter ปกป้องเสื้อผ้าให้ปราศจากเชื้อโรค และช่วยให้ผ้าที่ซักเสร็จแล้ว ยังคงมีสีสันที่สดใสสวยงาม ดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ ในส่วนของความปลอดภัย เครื่องรุ่นนี้ก็มีระบบนี้ด้วยเช่นกัน โดยถ้าเปิดเครื่องในระหว่างที่ปั่นอยู่ เครื่องก็จะหยุดทำงานในทันทีเลยครับ จุดเด่น
10. TOSHIBA เครื่องซักผ้า 2 ถัง ขนาด 7.5 กก. รุ่น VH-H85MT
แบรนด์ : TOSHIBA รุ่น : VH-H85MT ความจุการซัก : 7.5 กิโลกรัม ระดับน้ำ : 4.6 ลิตร ขนาดถังซัก กว้างxลึกxสูง : 414 x 418 x 502 มิลลิเมตร ขนาดถังปั่น กว้างxสูง : 248 x 287 มิลลิเมตร TOSHIBA เครื่องซักผ้า 2 ถัง ขนาด 7.5 กก. รุ่น VH-H85MT เครื่องซักผ้าพลังเทอร์โบ จุผ้าได้มาก ซักได้สะอาดมาก ๆ ด้วยครับ สำหรับเครื่องซักผ้าจากแบรนด์ Toshiba รุ่นนี้นะครับ มาพร้อมกับจานซักกำลังแรง อย่าง High Blades Pulsator ที่มีความสามารถในการกำจัดคราวสกปรกต่าง ๆ ได้อย่าวสะอาดหมดจด รวมทั้ง ยังช่วยถนอมเนื้อผ้าให้ยังคงดีอยู่เสมอ ตัวถังปลอดสนิม ผลิตจากโพลิเมอร์คุณภาพสูง มีความแข็งแรงทนทาน ไม่เป็นสนิมง่าย และเกิดรอยคราบเปื้อนได้ยาก มาพร้อมกับ โปรแกรมการซัก 2 ระบบ สามารถเลือกระดับการซักได้ทั้งแบบปกติและแบบแรง เพื่อความเหมาะสมกับผ้าชนิดต่าง ๆ ได้ตามต้องการ สำหรับตัวถังปั่น จะมี Ultra Spin ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปั่นหมาดให้ผ้าแห้งไว และ ฝาถังโปร่งใส สามารถมองเห็นทุกสถานะของการทำงานในตัวเครื่องได้อย่างสะดวกอีกด้วย เครื่องซักรุ่นนี้ คุ้มค่าน่าใช้งานมากครับ จุดเด่น
เครื่องซักผ้าคืออะไร
เครื่องซักผ้า คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง ที่มาพร้อมกับความสามารถในการซักเสื้อผ้าต่าง ๆ ให้สะอาดเอี่ยม ชาวยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งาน ไม่ต้องเหนื่อยมานั่งซักมือเอง ช่วยผ่อนแรงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องสารเคมีจากผงซักฟอกที่อาจจะทำให้มือของคุณบวมหรือแห้งลอกเป็นแผ่นได้ รวมไปถึง ยังช่วยประหยัดเวลาในการซักผ้าได้เป็นอย่างดีด้วย เพื่อให้เราได้ใช้เวลาที่เครื่องกำลังทำงานนี้ ไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ โดยในปัจจุบัน เครื่องซักผ้า มีหลายแบบให้เลือกใช้งานตามความต้องการ โดยมีทั้งเครื่อง ซักผ้าฝาหน้า เครื่องซักผ้าฝาบน และเครื่องซักผ้า 2 ถัง ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถเลือกซื้อหามาใช้งานได้ และควรมีไว้ใช้งานด้วยครับ เครื่องซักผ้ามีกี่ประเภทอย่างที่ผมได้เคยบอกไปแล้วนะครับว่า เครื่องซักผ้านั้น มีหลายแบบเลย ทั้ง เครื่องซักผ้าฝาบน เครื่องซักผ้าฝาหน้า และ เครื่องซักผ้า 2 ถัง รายละเอียดต่าง ๆ สามารถติดตามได้เลยครับ ดังต่อไปนี้ 1. เครื่องซักผ้าฝาบน เครื่องซักผ้าฝาบน เป็นเครื่องที่ใช้งานง่าย มีหลากหลายจนาดให้เลือกใช้งาน ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ มาพร้อมกับมอเตอร์ที่มีพลังการซักที่รุนแรง สามารถซักผ้าได้อย่างสะอาดหมดจด ใช้เวลาในการซักไม่นาน และราคาไม่แพงมาก สามารถเข้าถึงได้ครับ มีหลากหลายแบรนด์ หลากหลายรุ่น หลากหลายราคาให้เลือก รวมไปถึง เครื่องซักผ้าฝาบนบางรุ่น ก็จะมีโปรแกรมเพิ่มผ้าระหว่างการซัก มาให้ใช้งานด้วย สามารถใส่ผ้าซักได้ง่าย มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ มาให้อย่างครบครัน ปุ่มโปรแกรมควบคุมต่าง ๆ อยู่บ้านบน เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ถือเป็นแบบแรกที่ได้รับความนิยมมากครับ 2. เครื่องซักผ้าฝาหน้า เครื่องซักผ้าฝาหน้า เป็นเครื่องซักผ้า ที่ประหยัดน้ำดีมาก ๆ สามารถซักผ้าได้อย่างสะอาดมากที่สุด หลาย ๆ คนนิยมใช้งานเครื่องซักผ้าประเภทนี้ เพราะว่า ซักผ้าได้สะอาด ถนอมผ้าเป็นเยี่ยม และลดปัญหาผ้าพันกันด้วย สำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า จะใช้น้ำอุ่นเพื่อชำระล้างคราบสกปรกได้เป็นอย่างดี รวมทั้ง มาพร้อมกับเทคโนโลยีการหมุนถังซัก ช่วยให้สามารถซักผ้าได้อย่างสะอาดมากยิ่งขึ้น แต้ต้องบอกเพื่อน ๆ อย่างหนึ่งด้วยครับ ว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้า จะมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ ต้องหาพื้นที่จัดวางให้ดี ต้องพิจารณาสำรวจดูก่อนครับ ว่าควรวางพื้นที่ไหนดี แต่ควรจะกว้างสักนิดนะครับ เพื่อที่จะได้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกครับ 3. เครื่องซักผ้า 2 ถัง เครื่องซักผ้า 2 ถัง เป็นเครื่องซักผ้าที่เราสามารถทำสองอย่างพร้อมกันได้ ทั้งการซัก และการปั่น โดยเครื่องซักผ้าประเภทนี้ ออกแบบดีไซน์มาให้มี 2 ถังแยกกันอย่างชัดเจน โครงสร้างใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถกำหนดเวลาในการซักผ้าได้เอง ช่วยให้เราสามารถแยกซักผ้าสี และผ้าขาวได้ง่าย การใช้งานนั้น สามารถใช้งานต่อเนื่องได้เลย เมื่อซักผ้าเสร็จ ย้ายผ้าไปยังถังปั่น เพื่อทำการปั่นหมาด ในขณะเดียวกัน ก็นำผ้ากองใหม่ มาซักต่อในถังซักได้เลย ในระหว่างที่กำลังปั่นผ้ากองแรกอยู่ ในการใช้งานถือว่าใช้งานได้ดีมาก ๆ เลยทีเดียว ง่าย สะดวกสบาย ไม่ซับซ้อน รวมไปถึง ราคาก็ไม่ได้แพงมาก สามารถซื้อได้ไม่ลำบากครับ วิธีการเลือกซื้อเครื่องซักผ้า
เครื่องซักผ้า ถือได้ว่าเป็นผู้ช่วยในเรื่องการทำความสะอาดเสื้อผ้าให้เราได้เป็นอย่างดี หลาย ๆ คนสนใจที่จะซื้อไว้ใช้งานบ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะพิจารณาเรื่องอะไรบ้าง เรามีคำตอบมาให้ดังต่อไปนี้เลยครับ 1. พิจารณาจากประเภทของเครื่องซักผ้า เครื่องซักผ้านั้นมีหลายประเภทให้เพื่อน ๆ เลือกใช้นงานนะครับ ซึ่งในแต่ละประเภทก็จะมีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันไป เพื่อน ๆ สามารถพิจารณาเลือกให้ตรงกับความต้องการใช้งานมากที่สุดได้เลย โดยจะมี 3 ประเภท คือ เครื่องซักผ้าฝาบน : จะมาพร้อมกับพลังมอเตอร์ที่มีกำลังแรง ซักผ้าได้อย่างสะอาดหมดจด ประหยัดเวลา ประหยัดพลังงานได้อย่างยอดเยี่ยม จุผ้าได้เยอะ และราคาเหมาะสม ไม่แพงมากครับ เครื่องซักผ้าฝาหน้า : เป็นเครื่องซักผ้าที่ซักได้โดยไม่มีปัญหาผ้าพันกันเลย ซักสะอาด ถนอมผ้าได้ดี และยังประหยัดน้ำมาก ๆ ด้วย เครื่องซักผ้าแบบนี้ได้รับความนิยมอย่างมากเลยครับ เครื่องซักผ้า 2 ถัง : สำหรับเครื่องซักผ้า 2 ถัง เป็นเครื่องซักผ้าที่ออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถซัก และ ปั่น ได้พร้อมกัน แต่เราต้องทำการเปลี่ยนถังเองนะ โดยรวมถือว่าใช้ง่าย 2. เลือกความจุของเครื่องให้เหมาะสมกับการใช้งาน ก่อนเลือก เครื่องซักผ้า เพื่อน ๆ ต้องสำรวจดูก่อนครับว่า เพื่อน ๆ อยู่กันหลายคนหรือไม่ มีจำนวนผ้ามากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะได้เลือกความจุได้อย่างเหมาสมนะ ไม่มากเกินไป และ ไม่น้อยเกินไป โดยส่วนใหญ่นั้นนะครับ ความจุของเครื่องซักผ้าจะมีความจุประมาณนี้ 7 – 10 กิโลกรัม จะเหมาะสำหรับ 1 – 3 คน 10 – 12 กิโลกรัม จะเหมาะสำหรับ 4 – 6 คน 12 – 14 กิโลกรัม ก็จะเหมาะสมสำหรับ 6 คนขึ้นไป และ ถ้า 14 กิโลกรัมขึ้นไป จะเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่มาก ๆ เลยนั่นเองครับ ในส่วนนี้จะเป็นการประมาณการเพื่อให้เพื่อน ๆ สามารถพิจารณาได้เท่านั้นครับ แต่อาจจะมีปัจจัยอื่น ๆ ด้วยคือ ซักผ้าบ่อยหรือไม่ ซักผ้าปูที่นอนต่าง ๆ หรือเปล่า บางครอบครัว ก็อาจจะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าบ่อย ๆ แม้ว่าจะมีคนอยู่กันเยอะ แต่ปริมาณผ้าไม่ได้มากตามไปด้วย เราก็อาจจะพิจารณาความจุขนาดกลาง ๆ ก็ได้ ในส่วนนี้ลองพิจารณาเลือกได้เลยครับ 3. เครื่องซักผ้าที่มีฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ นอกจาก เครื่องซักผ้า จะมีฟังก์ชั่นหลัก ๆ ในการซักผ้าได้อย่างสะอาดหมดจด ปั่นผ้าได้หมาดแล้ว เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ ๆ ก็ยังมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่มีประโยชน์มาให้ใช้งานเพิ่มเติมด้วยนะครับ ซึ่งถือว่าดีมาก อย่างเช่น การตั้งเวลาซักได้ ฟังก์ชั่นนี้อำนวยความสะดวกสบายได้ดีมาก ๆ เลยนะครับ เวลาที่เราต้องไปทำธุระ หรือติดภารกิจต่าง ๆ เราสามารถตั้งเวลาการซักเอาไว้ให้เสร็จพอดีกับเวลาที่เรามาถึงบ้านก็ได้นะครับ พอเรามาถึงบ้าน ผ้าที่ตั้งเวลาไว้ก็ซักเสร็จพอดีเลย เราก็เอาไปตากได้ จังหวะพอเหมาะมากเลยทีเดียว อีกฟังก์ชั่นที่ดี ก็การอบผ้าแห้ง ฟังก์ชั่นนี้ก็ดีมาก ๆ เลยครับ เมื่อเราทำการซักผ้าเสร็จแล้ว ปั่นหมาดแล้ว แต่เราต้องการที่จะสวมเสื้อผ้านี้เลย หรือ จำเป็นต้องใช้เสื้อผ้าชุดนี้ เราก็นำผ้าเข้าไปในถัง แล้วกดอบผ้า รอเวลาไม่นานครับ ประมาณ ครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง เสื้อผ้าที่เราอบ ก็จะแห้งสนิทดีมากเลยทีเดียวครับ เราก็สามารถนำเสื้อผ้ามาสวมใส่ได้ทันที หอม สะอาด แห้งสนิทดีเลยครับ แต่ในจุดนี้ต้องดูให้ดีด้วยนะครับ ว่าเนื้อผ้าบางชนิดไม่เหมาะกับการอบผ้านะครับ เราก็จะได้ไม่นำไปอบให้ผ้าเสีย แล้วเปลี่ยนเป็นตากปกติครับ 4. มีฟังก์ชั่นล้างถังซักอัตโนมัติมาให้ใช้งาน เครื่องซักผ้านั้น เรามักจะใช้งานบ่อยเกือบจะทุกวัน เมื่อใช้ซักผ้าไปนาน ๆ ก็จะมีปัญหาการอับชื้นภายในถัง มีคราบสกปรกจากฝุ่นต่าง ๆ ที่ติดมากับเสื้อผ้า และมีคราบจากน้ำยาซักผ้า หรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม ติดค้างอยู่ภายในถัง เพราะฉะนั้น เราจำเป็นต้องดูแลความสะอาดเครื่องซักผ้าด้วย โดยควรที่จะมีฟังก์ชั่นการทำความสะอาดถังซักอัตโนมัติ เพื่อที่เราจะได้ใช้ทำความสะอาดถังให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่ต้องทุกวันก็ได้ อาจจะประมาณ 1 เดือน ทำการล้างสักครั้งหนึ่ง เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาคราบสกปรกตกค้าง และไม่เกิดเชื้อราต่าง ๆ เมื่อเครื่องซักผ้าสะอาด ผ้าที่เราซักก็จะไม่มีสิ่งตกค้างติดมาด้วยนั่นเองครับ 5. เลือกเครื่องซักผ้าที่มาพร้อมระบบประหยัดพลังงาน เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบัน ได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้นนะครับ ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคมาก ๆ ระบบที่ผมกำลังพูดถึงคือ ระบบ Smart Inverter ช่วยประหยัดพลังงาน ซึ่งระบบนี้ จะดีกว่าระบบทั่วไปตรงที่ ระบบ Smart Inverter จะทำให้เครื่องซักผ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงมากยิ่งขึ้น สั่งการให้เครื่องทำงานอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ใช้พลังงานน้อยลง ช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี รวมไปถึง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้เราด้วย รวมทั้งระบบ Smart Inverter ก็ยังทำงานได้เงียบมาก ๆ ไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของคนในบ้านด้วย ถ้าเป็นไปได้ ให้เลือกเครื่องที่มีระบบนี้ครับ 6. มีการรับประกันและการบริการหลังการขายมาให้ สำหรับประเด็นสุดท้ายนี้ ที่เพื่อน ๆ จะมองข้ามไปไม่ได้เด็ดขาดเลยนะครับ คือ ควรมีการรับประกันสินค้า และมีบริการหลังการขายที่ดีมาให้เราด้วย เพื่อที่เราจะได้มั่นใจในการใช้งานนั่นเอง ในส่วนนี้นะครับ ถ้าเราซื้อเครื่องซักผ้ามาใช้งานเรียบร้อยแล้ว พบว่ามีปัญหาขัดข้องบางอย่าง ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น เราก็จะได้ติดต่อให้ทางแบรนด์รับประกันให้เรา อาจจะเปลี่ยนสินค้า หรือแก้ไขซ่อมแซม โดยตัวเครื่องควรรับประกันให้อย่างต่ำ 1 ปี รับประกันมอเตอร์อย่างต่ำ 5 ปี รวมไปถึง ถ้าใช้ไปเป็นเวลานานแล้ว เครื่องมีปัญหา บริการหลังการขายที่ดีคือ ต้องมีศูนย์บริการเยอะ มีอะไหล่พร้อมซ่อมแซมให้เรา เพื่อที่เราจะได้นำเข้าไปตรวจเช็ค และมั่นใจได้ว่า จะสามารถซ่อมได้อย่างเรียบร้อย ไม่ต้องรอะไหล่นาน ทำให้การรับประกันและบริการหลังการขาย มีความสำคัญมาก ต้องมีเท่านั้นครับ วิธีการดูแลรักษาเครื่องซักผ้าให้อยู่กับเราไปนาน ๆ
1. ควรล้างเครื่องซักผ้าอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เมื่อใช้งานเครื่องซักผ้าไปสักระยะหนึ่ง ย่อมมีสิ่งสกปรกตกค้างภายในถังซักครับ ทางที่ดีควรล้างทำความสะอาดด้วย ฟังก์ชั่นล้างถังซักอัตโนมัติอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้สิ่งสกปรกต่าง ๆ หลุดออกไป ไม่มาติดเสื้อผ้าของเราในระหว่างการซัก ซึ่งจะทำให้เสื้อผ้าของเราสกปรกครับ สาเหตุที่มีสิ่งสกปรกตกค้างคือ ในตอนที่เครื่องปล่อยน้ำทิ้งนั้น ฝุ่น ตะกอน อาจจะออกไปไม่หมดนั่นเอง และถ้าต้องการให้สะอาดมากยิ่งขึ้น ให้เพื่อน ๆ ใช้น้ำร้อนในการล้างถังซักนะครับ เพราะว่า น้ำร้อนนั้นนะครับ จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกไปได้ดี รวมไปถึง ยังสามารถขจัดกลื่นต่าง ๆ ได้ด้วย ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อให้ถังซักของเราสะอาดที่สุดนั่นเองครับ 2. ทำความสะอาดช่องสำหรับใส่ผงซักฟอก สำหรับช่องใส่ผงซักฟองกับน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้น เป็นอีกหนึ่งจุดที่เราต้องดูแลเรื่องความสะอาดด้วย เพราะทุกครั้งที่เราซักผ้า เราก็จะใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม และผงซักฟอกลงไป ทำให้มีคราบต่าง ๆ ติดอยู่ ถ้าเราไม่ทำอะไรกับจุดนี้เลย ยิ่งใส่มากขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะทำให้เกิดการอุดตันได้ ดังนั้น เราต้องล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดด้วย เพื่อที่จะได้กำจัดปัญหาการอุดตันของคราบต่าง ๆ และช่วยให้ผ้าไม่ติดคราบเหล่านี้ด้วย 3. อย่าใส่ผ้าที่ต้องการซักลงไปมากจนเกินไป ตัวเครื่องซักผ้านั้น แต่ละรุ่นจะมีความจุกำหนดมาไว้เรียบร้อยแล้ว เราจะทราบได้ทันทีว่าควรใส่ลงไปเท่าไร ถ้าใส่มากจนเกินไป จะทำให้เครื่องซักผ้าซักไม่ไหว สำหรับความสะอาดไม่ต้องพูดถึงเลย ไม่สะอาดแน่นอนครับ รวมทั้ง ยังเป็นการทำให้เครื่องซักผ้าทำงานหนักเกินกำลังอีกด้วย จุดนี้ต้องระวังนะครับ เพื่อให้การซักมีประสิทธิภาพสูงที่สุด ควรใส่ผ้าลงไปให้พอดีกับความจุนะครับ จะดีมากที่สุด 4. นำของออกจากกระเป๋าเสื้อกระเป๋ากางเกงก่อนลงถังซัก ก่อนนำผ้าลงถังซักเพื่อน ๆ ต้องสำรวจกระเป๋าเสื้อ และกระเป๋ากางเกงก่อนนะครับ ว่ามีสิ่งของอยู่ในนั้นหรือไม่ อย่างเช่น เหรียญ ปากกา เงิน ธนบัติ และอื่น ๆ เพราะสิ่งของต่าง ๆ เหล่านี้ จะลงไปติดในถังซัก ทำให้ถังซักเกิดการติดขัด จนส่งผลร้ายแรงถึงขึ้น เครื่องซักผ้าพังเสียหายได้เลย โดยเฉพาะที่จะพบได้บ่อย ๆ คือ เหรียญครับ เหรียญจะไปติดตามร่องทำให้เครื่องหมุนลำบาก จนติดขัดเสียหายได้ครับ 5. ห้ามทิ้งผ้าที่ซักเสร็จเรียบร้อยแล้วไว้ในเครื่องนาน ๆ หลักจากเครื่องซักผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว แล้วเพื่อน ๆ ทิ้งไว้ในเครื่องนาน ๆ ไม่ยอมเอาไปตาก สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ กลิ่นเหม็นอับชื้น จะเกิดขึ้นกับเสื้อผ้า จนอาจจะไปถึงขั้นขึ้นราได้ ดังนั้น เพื่อน ๆ ต้องห้ามลืมเวลาเด็ดขาด 6. หมั่นตรวจสอบเครื่องซักผ้าให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ ถ้าเครื่องซักผ้ามีอายุการใช้งานที่นานหลายปีแล้ว แน่นอนครับว่า ย่อมเกิดการสึกหรอขึ้นบ้างไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอนครับ สิ่งที่ต้องทำก็คือ ต้องหมั่นตรวจสอบสภาพของเครื่องซักผ้าอยู่เสมอ โดยดูจาก มีน้ำรั่วในจุดไหนบ้างหรือไม่ ฟังเครื่องในระหว่างทำงานผิดปกติหรือเปล่า การปั่นผ้าเรียบร้อยดีไหม ถ้าพบว่าจุดไหนที่มีความผิดปกติ ควรตามช่างมาตรวจสอบ และทำการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดีครับ สรุปเครื่องซักผ้า ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประโยชน์มาก เป็นสิ่งจำเป็นจะต้องมีติดบ้านไว้เลยครับ เพราะในทุก ๆ วัน เราและครอบครัวของเรา ต้องสวมใส่เสื้อผ้ากันทุกวันอยู่แล้ว รวมทั้ง เวลาออกไปข้างนอกบ้าน ก็ต้องพบเจอกับ ฝุ่น ควัน มลพิษ และเชื้อโรคต่าง ๆ จนทำให้เสื้อผ้าของเราสกปรก เหม็น และมีเชื้อโรคติดมาด้วยแน่นอน ทำให้เราต้องซักผ้าบ่อย เพื่อที่เสื้อผ้าจะได้สะอาด ปราศจากเชื้อโรค และดีต่อสุขภาพ แต่การจะซักมือเองนั้น เหนื่อยมากแน่นอนครับ ทำให้เราต้องใช้ เครื่องซักผ้า มาทำหน้าที่นี้แทนเรา เพื่อที่จะได้เกิดความสะดวก และรวดเร็ว ประหยัดเวลาได้เป็นอย่างดีครับ ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการมีไว้ใช้งานบ้าง เพื่อน ๆ สามารถเลือกจาก 10 อันดับ เครื่องซักผ้า ยี่ห้อไหนดี ได้เลยนะครับ เพราะเราคัดรุ่นที่ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม คุณภาพดี น่าใช้งาน คุ้มค่าคุ้มราคา มาไว้ตรงนี้แล้ว สามารถเลือกได้ตามความชอบใจเลยครับ |