โบรกเกอร์ FOREX คืออะไรโบรกเกอร์ Forex คือ บริษัทหรือตัวแทนเทรดเดอร์ที่ส่งคำสั่งซื้อขายเทรดเดอร์เข้าตลาดกลางเพื่อจับคู่ธุรกรรมการซื้อขาย มีรายได้เป็นค่าธรรมเนียม ค่า Spread และคอมมิชชั่น Show
คุณสมบัติของโบรกเกอร์ Forex ที่ดี มีอะไรบ้าง ?1.ช่องทางการฝาก-ถอนง่าย สะดวกและปลอดภัย รองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารออนไลน์ประเทศไทย 2. ฟรีค่าธรรมเนียมต่าง ๆ หรือมีราคาไม่แพงเกินไป เช่น ค่าธรรมเนียมการโอน ฝาก ถอน ต้องมีระบุชัดเจน 3.มีค่าสเปรดต่ำ หรือมีค่าสเปรดไม่สูงจนเกินไป 4.มีโบนัสให้ เพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการทำกำไร เช่น เมื่อฝากเริ่มต้นที่ 10$ จะได้โบนัส 30$ 5.มีการการจัดกิจกรรม หรือโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง เช่น มีรางวัลสำหรับนักเทรดต่อเนื่องยาวนาน 6.มีพนักงานคอยช่วยเหลือ ติดต่อได้อย่างรวดเร็วทันใจ มีความเอาใจใส่ แก้ปัญหาต่าง ๆได้ทันท่วงที ไม่ทิ้งให้รอนาน มีการบริการที่เป็นมืออาชีพ 7.มีความน่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตการควบคุมดูแลชัดเจน ถูกกฎหมายสากล มีความโปร่งใสและมีหน่วยงานควบคุมกำกับดูแล 8.มีความมั่นคง ความมาตรฐานในระดับสากล ความน่าเชื่อถือเป็นที่ยอมรับ ฯลฯ ตรงนี้ดูได้จากอายุบริษัทเปิดให้บริการมานานมากว่า 5 ปีขึ้นไป ได้รับรางวัลต่าง ๆ และเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป 9.เว็บไซต์มีภาษาไทยที่สมบูรณ์ การให้รายละเอียด เงื่อนไข ชัดเจน 10.มีความเสถียรของระบบเทรดมาก มีความเร็วที่เพียงพอ ระบบไม่ล่ม ไม่ค้าง ไม่มี Requote 10 โบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุด 2022Exness top1 forex 2022กลุ่มบริษัท Exness ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2008 ให้บริการเครื่องมือสกุลเงิน ได้แก่ คู่สกุลเงิน โลหะ Cryptocurrency พลังงาน ดัชนี และหุ้น โดยกลุ่มบุคลากรที่เป็นมืออาชีพด้านการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมีจุดประสงค์ร่วมกัน Exness ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนก้าวเป็นผู้นำตลาด แถมยังมีปริมาณการซื้อขายรายเดือนสูงถึง 6.736 แสนดอลลาร์ และมีลูกค้าที่ซื้อขายประมาณ 145,400 ข้อดี ข้อเสีย 1. เงินฝากขั้นต่ำเพื่อเริ่มเทรดน้อยโดยไม่ต้องมีการลงทุนเยอะ ตั้งแต่ 1 ดอลลาร์ 1. การขอเปิดบัญชีเดโมเพื่อทดลองเทรด ต้องมีบัญชีจริงก่อนจึงจะขอเปิดได้ 2. สเปรดต่ำ 2. ไม่มีโบนัส 3. เรื่อง Unilimited leverage ไม่จำกัด สามารถใช้ประโยชน์ในตรงนี้ เพื่อเป็นการลงทุนน้อย แต่ได้ผลกำไรที่มากกว่า 3. มีการคิดค่าคอมมิชชั่นสำหรับบัญชี ECN 4. ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ซึ่งจะไม่รวมไปถึงค่า swap สำหรับออเดอร์ที่เปิดเทรดข้ามวัน 5. 0% สำหรับการใช้มาจิ้น ในการเปิดออเดอร์เฮจคานกันไว้ 6. ฝากถอนได้ง่าย ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที และสามารถฝาก ถอนผ่านธนาคารไทยได้สำหรับคนไทย อับดับ 2 โบรกเกอร์ XM
GMIโบรกเกอร์ GMIEDGE เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท GMI (Global Market Index) มีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.2009 จดทะเบียนที่ UK และได้รับใบอนุญาต Financial Conduct Authority (FCA) ของประเทศอังกฤษ มีตราสารมากกว่า 50 ชนิด ให้เลือกซื้อขาย ไม่ว่าจะเป็น คู่สกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี และ โลหะ มีเพียงแค่ต้นทุนค่าสเปรดเท่านั้น โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น ธุรกิจครอบคลุม 8 ประเทศ ได้แก่ Vietnam Indonesia India Brunei Pakistan South Africa Malaysia Thailand Philippines ข้อดี 1. การให้บริการ leverage สูงสุด 1:2000 2. ไม่มีค่าธรรมเนียม 3. ความรวดเร็วนการส่งคำสั่ง 0.005S 4. เงินฝากขั้นต่ำ USD 2.5 5. สเปรดต่ำสุด 0.0 PIPS 6. ฝากเงิน/ถอนเงิน รวดเร็วและปลอดภัย สำหรับคนไทยฝากถอนผ่านธนาคารออนไลน์ในประเทศไทยได้เลย 7. เว็บไซต์มีภาษาไทย และมีผู้ดูแลบัญชีเป็นคนไทย 8. โบนัสเงินฝาก 30% สูงสุด $500 สำหรับการฝากครั้งแรกและเป็นลูกค้าใหม่ และโบนัสเงินฝาก 15% สูงสุด $5,000 ได้ทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ เมื่อมีการฝากเงินเข้าบัญชีเทรดอย่างต่อเนื่อง ข้อเสีย 1. สินทรัพย์สำหรับการเทรดน้อย 2. ถอนเงินไม่ได้ทุกธนาคารในไทย 3. ไม่มีนโยบายแยกเงินทุนของลูกค้าออกจากบริษัท 4. แพลตฟอร์มการเทรดมีแค่ MT4 และยังไม่มีบริการเทรดบนเว็บไซต์ XTB ดีไหม จุดเด่น,จุดด้อย ข้อดี,ข้อเสีย คืออะไร ? ( review โบรกเกอร์ XTB ฉบับเต็ม)โบรกเกอร์XTBหน่วยงานกำกับดูแลFCA (อังกฤษ), CySec (ไซปรัส), KNF (โปแลนด์), IFSC (เบลีซ), CNMV (สเปน) ฝากขั้นต่ำ1 USDบัญชีทดลองYesสินค้าเทรดForex, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, หุ้น, สกุลเงินดิจิทัล และ CFD กว่า 1500 ตัวเลเวอเรจ1:500แพลตฟอร์มxStation (เว็บไซต์/มือถือ), MT4 ใบอนุญาตที่ XTB ได้รับเนื่องด้วยทาง XTB ให้บริการทั่วโลก มีสำนักงานอยู่กว่า 10 แห่ง กระจายไปตามทวีปต่างๆ ไม่แปลกใจเลยที่ว่าโบรกเกอร์ XTB จะมีใบอนุญาตค่อนข้างเยอะ ครอบคลุมแทบจะทั่วโลก แสดงถึงความมีมาตรฐานที่สูงมากของโบรกนี้
ลูกค้าประเทศไทยจะอยู่ภายใต้การดูแลในส่วนนี้
การฝากถอนสามารถฝากผ่านธนาคารในประเทศได้ 3 ธนาคาร คือ
ขั้นตอนการเปิดบัญชี XTB การฝากถอนเงิน การยืนยันตัวตน และเริ่มต้นเทรด : (คลิ๊ก) เอกสารในการยืนยันตัวตนผ่านโบรกนี้ใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียว ก็สามารถยืนยันตัวตนได้แล้ว ซึ่งถือว่าสะดวกสบายมาก ความเร็วในการฝากถอนฝาก: ประมาณ 5 นาที ถอน: ประมาณ 1 วัน เรทในการฝากถอนฝาก: 100 USD (3,025.80 บาท) ถอน: 3,044.60 ส่วนต่าง +19 บาท สิ่งที่โดดเด่นของ XTB อีกเรื่องนึงคือ เรทฝากถอน ที่ถูกมาก จากการทดลองฝากถอนเงินผ่านธนาคากสิกร ด้วยจำนวนเงิน 100 USD ในตอนฝากใช้เงินทั้งสิ้น -3,025.80 บาท ส่วนถอนได้กลับมาทั้งสิ้น 3,044.60 บาท มีส่วนต่าง +19 บาท ซึ่งตอนนั้น ค่าเงินบาทอ่อนค่าพอดี (วันฝากและวันสั่งถอนอยู่ที่ 30.17 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนวันได้รับเงินเรทค่าเงินบาทอยู่ที่ 30.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) ส่วนเรื่องความเร็วในการฝากถอน ยังถือว่าช้าว่าโบรกต้นๆที่เรารีวิว โดย XTB ใช้เวลาการถอนอยู่ที่ประมาณ 1 วันทำการ ผลิตภัณฑ์การเทรดสินค้าการเทรดค่อนข้างหลากหลาย ทั้ง Forex, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, หุ้น CFD, ETF CFD, และสกุลเงินดิจิตอล
แพลตฟอร์มแพลตฟอร์มการเทรดของโบรกนี้ค่อนข้างน้อย มีให้เลือกเพียง 2 แพลตฟอร์ม คือ MT4 และ xStation (ทางโบรกชูแพลตฟอร์มตัวนี้) MT4 : สามารถเทรดผ่าน Desktop (Windows และ Mac), Tablet และ Mobile รองรับทั้ง iOS และ Android xStation : สามารถเทรดบน Websiteได้เลย (ไม่ต้องลงโปรแกรม) และบนมือถือ xStationเป็นโปรแกรมเฉพาะของทาง XTB ตอนนี้อยู่ที่ Version 5 มีการพัฒนามาตลอด เครื่องมือของโปรแกรมนี้ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งการดูข่าว, ปฏิทิน, การวิเคราะห์ตลาด และ การสแกนเงื่อนไขต่างๆ ตัวอย่างฟังก์ชัน Heatmap ในโปรแกรม xStation ที่สามารถดูภาพรวมของการเปลี่ยนแปลงของคู่สกุลเงินทั้งหมด ว่ามีทิศทางเป็นอย่างไรตาม Period ที่เราตั้ง ตัวอย่างฟังก์ชัน Stocks scanner ใน Market analysis ที่ไว้กรองหาหุ้นทั่วโลกตามเงื่อนไขที่เราตั้ง (สแกนข้อมูลพื้นฐาน) เหมาะสำหรับคนที่ชอบเทรดหุ้นเป็นอย่างมาก ประเภทบัญชีโบรกนี้มีประเภทบัญชีให้เลือกอยู่ 2 ประเภท คือ
โดย 2 บัญชีนี้ รายละเอียดโดยรวมแทบไม่ต่างกันเลย จะต่างแค่ Standard ไม่มีค่าคอม (Spread สูงกว่า Pro) ส่วน Pro มีค่าคอม (Spread ต่ำกว่า Pro) Spreadค่า Spread ของ XTB ในบัญชี Standard โดยรวมถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ค่อนไปในทางถูก
การสอนเทรดบนเว็ปไซต์ของ XTB มีการสอนเทรดตั้งแต่ระดับเริ่มต้น จนถึงระดับเชี่ยวชาญ ซึ่งบอกเลยว่าสอนค่อนข้างละเอียดมาก เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ เนื้อหานี่พูดถึงตั้งแต่ Forex คืออะไร, วิธีการใช้โปรแกรมเทรด, การวิเคราะห์ทางเทคนิค, การวิเคราะห์ทางพื้นฐาน, การบริหารความเสี่ยง และอื่นๆอีกมากมาย มีทั้งในรูปบทความ และ VDO อีกด้วย Live chatมีเจ้าหน้าคนไทยให้บริการ Live chat ตั้งแต่เวลา 01.00 pm – 22.00 pm วันจันทร์ ถึง ศุกร์ ทางทีมงานได้ลองเข้าไปสอบถามข้อมูลกับทาง Live chat ของโบรกนี้ พบว่า มีหลายครั้งที่เจ้าหน้าที่ไม่อยู่ ให้ Email ไปสอบถามแทน แนะนำให้โทรสอบถามเลยดีกว่า จะได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วมากกว่า การติดต่อ
Tickmill คืออะไรแบรนด์ Tickmill มีเจ้าของและดำเนินการโดย 3 บริษัทย่อยด้วยกันคือ Tickmill Ltd (Seychelles), Tickmill Europe Ltd (EU) และ Tickmill UK Ltd (United Kingdom) โดยรูปแบบของการให้บริการจะเป็นโบรกเกอร์แบบ Non-Delaing Desk ให้บริการเทรด Forex, Indices, Oil, Metals และ Bonds ผ่าน 3 ประเภทบัญชีดังนี้
บทความแนะนำสำหรับผู้เริ่มเทรด Forexรูปแบบบัญชีก็จะชัดเจนสำหรับติดต้นทุนการเทรด ก่อนนี้ตอนที่โบรกเกอร์นี้เปิดใหม่ๆ จำได้ว่า สำหรับบัญชีเทรด Classic และ Pro ให้เริ่มฝากทุนขั้นต่ำแค่ 25 ดอลลาร์เอง แต่เดี๋ยวนี้เพิ่มมาเป็น 100 ดอลลาร์แล้ว สามารถเทรดทุกสินค้าแบบเดียวกันหมดทุกประเภทบัญชี และส่วนของสื่อความรู้มีการปรับปรุงเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Webinars, Ebooks, วีดีโอสำหรับสอนศัพพ์สำหรับฟอเร็กซ์ วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน วิเคราะห์ด้านเทคนิค บทความ มุมมองตลาด และยังมีเครื่องมืออีกมากมายเช่น Authochartis และมีบริการ Copy Trading ด้วย ข้อดีของโบรกเกอร์ Tickmill
ข้อเสียของโบรกเกอร์ Tickmill
ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ Tickmillแม้ว่าเพิ่งตั้งมาไม่นานในปี 2014 ถือว่าเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์รายใหม่ แต่ไม่ได้หมายถึงไม่มีความน่าเชือถือ ดูอย่างเรื่องของการกำกับการและอนุญาตดำเนินการที่ Tickmill ได้มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นของ CySEC, FCA และของ FSA ที่บอกถึงการขยายฐานลูกค้าไปแต่ละพื้นที่ด้วยและมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ FCA หรือ Finanacial Conduct Authorit ของอังกฤษที่เห็นว่าเป็นหน่วยงานที่เข้มงวดในการออกใบอนุญาตมาก เรื่องของทุนของลูกค้าทาง Tickmill แยกทุนไว้กับ Barcklays Bank และยังมีการประกันทุนลูกค้าตามกฏของ FCA ด้วย และยังได้รับรางวัลที่บอกถึงการยอมรับในตลาดอย่างต่อเนื่อง การจดทะเบียนองค์กรควบคุมของโบรกเกอร์ Tickmill
เกี่ยวกับค่าบริการการซื้อขายกับ Tickmill (สเปรด คอมมิชชั่น)การคิดต้นทุนการเทรด Tickmill ก็มีรูปแบบไม่ต่างจากที่โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์อื่นๆ คือเป็นการรวมต้นทุนอยู่ที่สเปรดที่เดียว หรือแยกออกมาเป็นค่าคอมมิชชั่น แล้วบวกกับสเปรดต่างหากสำหรับการเปิดเทรด และต้นทุนสำหรับถือออเดอร์ที่เปิดเทรดข้ามวันหรือ SWAP ก็เกิดขึ้นได้ถ้าไม่ใช่บัญชีแบบที่เป็น SWAP Free ทาง Tickmill ได้แบ่งการคิดต้นทุนตามรูปแบบบัญชีอย่างชัดเจน สำหรับบัญชี Classic รวมต้นทุนเทรดอยู่ที่สเปรด คู่เงินหลักๆ เริ่มที่ 1.6 pips เช่นถ้าเทรดล็อตมาตรฐาน เปิด 1.00 ล็อตหรือเทรด 1,000 ดอลลาร์ ถ้าเปิดก็เริ่มติดลบที่ 16 ดอลลาร์ทันที (วิธีการง่ายสุดในการดูต้นทุนเทรดแต่ละครั้งคือเปิดแล้วติดลบเท่าไร โดยส่วนมากก็จะอิงจากล็อตมาตรฐานหรือ 1.00 อย่าดูที่ pips) ส่วนบัญชีมีค่าคอมมิชชั่น Pro ค่าคอมตกที่ 4 ดออลาร์ต่อการเทรด 1 ล็อตหรือ 1,000 ดอลลาร์ เช่นเมื่อเปิดเทรด 1.00 หรือ 1,000 ดอลลาร์ ติดลบทันที 4 ดอลลาร์ขึ้น (ที่บอกว่าขึ้นเพราะบวกจากส่วนต่างสเปรดด้วย ที่เริ่มจาก 0.0 pips เป็นส่วนมาก บัญชีมีค่าคอมมิชชั่น สเปรดก็จะน้อยเป็นหลัก ถ้าเป็นบัญชีเทรดแบบ VIP ที่มีค่าคอมมิชชั่น แต่ทุนฝากขั้นต่ำต้อง 50,000 ดอลลาร์ขึ้น ค่าคอมจะถูกลงอีกเริ่มที่ 2 ดอลลาร์ต่อ ล็อต เมื่อเทียบต้นทุนการเทรด (ไม่รวมต้นทุน SWAP ถ้าไม่ใช่บัญชีที่เป็นแบบ SWAP FREE ต้องเกิดขึ้นหมดในกรณีถือออเดอร์ที่เปิดข้ามวัน) ดังนั้นบัญชีเทรดแบบ Pro เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด !! บทสรุป รีวิว Tickmillโบรกเกอร์ Tickmill เป็นอีกรายที่น่าสนใจ ส่วนข้อมูลมีหน้าเว็บภาษาไทย การฝากถอนนอกจากทางเลือกหลักๆ สำหรับคนไทยฝากถอนผ่านธนาคารออนไลน์ได้เลย แพลตฟอร์มการเทรดใช้ Metatrader 4 ที่เป็นมาตรฐาน เทรดผ่าน เด้สท๊อบ เว็บ Andriod หรือ iOS ได้หมด ที่เป็นมาตรฐานของ Metatrader อยู่แล้ว ข้อเสียคืออาจยังไม่มี Metatrader 5 ให้เลือกเพิ่มเพราะเดี๋ยวนี้หลายๆ โบรกเกอร์ที่ให้เทรด Metatrader 4 ได้เพิ่ม Metatrader 5 เป็นตัวเลือกด้วย สื่อข้อมูลสำหรับความรู้มีมาก รวมทั้งพวกวิเคราะห์ข่าวพื้นฐาน หรือทาง technical analsysis และมีทูลเพิ่มสัญญาณช่วยเทรดอย่าง Autochartist ให้ฟรีด้วย (กรณี Autochartist หลายๆ โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ก็ทำแบบเดียวกัน) Review Broker Forexวิเคราะห์ วิจารย์ ข้อดี-ข้อเสีย ข้อมูลจากการเทรดด้วยบัญชีจริง โดยทีมงานหลายคน ... เงื่อนไขการเทรดสำหรับเทรดเดอร์ ระหว่างบัญชี Classic บัญชี Pro และ VIP บัญชีแบบมีค่าคอมมิชชั่น (Pro และ VIP) ถือว่าถูกกว่าหลายโบรกเกอร์ โดยตกอยู่ที่ 4 ดอลลาร์สำหรับบัญชี Pro และ 2 ดอลลาร์ สำหรับบัญชี VIP ในขณะที่โบรกเกอร์อื่นๆ ด้วยเงื่อนไขการเทรดที่คล้ายกันต้นทุนจะตกอยู่ที่ 6-7 ดอลลาร์ขึ้นไป คำเตือน: ทุกการลงทุนล้วนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนก่อนลงทุนทุกครั้ง ทาง forexthai.in.th เป็นเพียงผู้ให้บริการข้อมูลการลงทุนในด้าน Forex เท่านั้น ไม่สามารถรับประกันหรือรับผิดชอบผลใดๆ จากการลงทุนของผู้ใช้งานในเว็บไซต์ได้ และทางเราไม่สนับสนุนให้มีการระดมทุนใดๆทั้งสิ้น |