ภาษาอังกฤษที่ใช้กันทั่วโลกแตกย่อยสาขาออกเป็น 2 แขนงด้วยกันคือ British English ภาษาอังกฤษแบบอังกิ๊ดอังกิด และ American English ภาษาอังกฤษแบบอเมริกั๊นอเมริกัน แน่นอนว่ามันย่อมต้องมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว คราวนี้ปัญหาก็มาตกอยู่กับคนไทยที่ใช้ภาษาอังกฤษอย่างเราๆนั่นแหละค่ะ จะใช้คำไหนดี หรือสับสนคำศัพท์ ความหมายเดียวกันแต่พอไปเจอคนอเมริกันพูดอีกอย่าง เจอคนอังกฤษพูดอีกอย่าง เราก็มึนไปสิคราวนี้ ความแตกต่างระหว่าง
British English กับ American English มีหลายด้านดังนี้ค่ะ British English (BrE) Amrican English (AmE) ความหมาย flat
apartment ห้องพัก คำศัพท์ที่เป็น British หรือ American English บางคำ ออกเสียงเหมือนกัน มีความหมายเหมือนกัน แต่สะกดต่างกัน ตัวสะกดที่มักเจอบ่อยๆคือ
คำอื่นๆที่สะกดไม่เหมือนกัน เช่น British English American English programme program 3. ความแตกต่างทางด้านไวยากรณ์ (grammar)Collective noun หรือนามที่เป็นกลุ่ม ถ้าเป็น American English จะเป็นเอกพจน์เสมอ แต่ถ้าเป็น British English จะเป็นได้ทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ ขึ้นอยู่กับความหมายที่ต้องการหมายถึง 3.1 การเขียนวันที่ แบบ American English จะเขียน เดือน / วัน / ปี แต่ถ้าเป็น British English จะเขียนเรียงแบบ The + วันที่ + of + เดือน + ปี 3.2 เหตุการณ์ที่เพิ่งจบไป American English จะใช้ past simple แต่ British English จะนิยมใช้ present perfect มากกว่า 3.3 กริยา 3 ช่อง บางคำใช้ต่างกัน เช่น British English American English get / got / got get / got / gotten 3.4 เวลาเขียนตัวเลขแบบ British Englishจะมี and อยู่หน้าตัวเลขสุดท้ายที่มากกว่า 100 แต่ American Englishไม่มี and
4. ความแตกต่างทางด้านการออกเสียง (pronunciation)4.1 คำศัพท์หลายคำที่มีตัวอักษร aถ้า British English ออกเสียง อา British English American English ask อาสค์
ask แอสค์ 4.2 คำศัพท์ที่มี ue, ewถ้าเป็น British English จะออกเสียง อิวเช่น due ดิว 4.3 อักษร t ถ้าอยู่ระหว่างสระหรืออักษร l หรือ rถ้าเป็น British English จะออกเสียง ท better เบ้ทเท่อะ 4.4 สียง r ที่อยู่ระหว่างตัวอักษรหรือท้ายคำ ถ้าเป็น British
English จะไม่ออกเสียง rpart พาท สาเหตุที่เราต้องรู้จักทั้งแบบ American English และ British English เพราะภาษาอังกฤษมีความหลากหลาย เราอาจจะได้ยินได้ฟังในหลายแบบเพื่อจะได้เข้าใจถึงความแตกต่างที่คนอื่นเขาพูดกัน |