ครีมกันแดด Supergoop Pantip

เนื้อยิ่งเหลวเป็นน้ำ ๆ เท่าไร ก็จะยิ่งซึมซาบได้ไว สบายต่อผิวดี แต่ก็ทำให้ระเหยได้ไว ต้องทาบ่อยครั้งกว่าพวกเนื้อข้น ๆ ค่า

ส่วนสาวที่มีผิวหน้าเป็นสิวได้ง่าย หรือมีสิวอยู่ในขณะนี้ เราขอแนะนำให้ไปอ่านบทความด้านล่างเนาะ มีการเขียนแยกไว้ให้โดยเฉพาะละค่า

+ “ครีมกันแดดคนเป็นสิว” ยี่ห้อไหนดี รีวิว 10 ยี่ห้อ +

และนอกจากแสงแดดแล้ว ยังมีอีกตัวร้ายที่จะสามารถทำลายผิวหน้าอันบอบบางของเรา ๆ ได้อีก ซึ่งนั้นก็คือ “สารอนุมูลอิสระ” นั้นเองค่ะ โดยเจ้าสารตัวร้าย ถ้ารวมพลังกับแสงแดดแล้วละก็ ผิวหน้าของเราจะหมองคล้ำ เม็ดสีเมลานินขึ้นเอา ๆ และยังทำให้คอลลาเจนใต้ผิวหน้าเสียหาย จนเกิดเป็นริ้วรอยแห่งวัยนั้นเอง รวม ๆ แล้ว หน้าทรุดโทรมหนัก จนอาจจะดูแก่ไปก่อนวัยได้เลยค่ะ ดังนั้น เพื่อการปกป้องผิวหน้าขั้นสุด ก็ควรที่จะทานอาหารเสริมที่มีคุณสมบัติเป็นสาร Anti-Oxidant ที่ดีเพิ่มเติมด้วย ถ้าจะให้เราแนะนำละก็ อยากให้ทานสารสกัดเมล็ดองุ่นกันค่ะ ส่วนรายละเอียดเชิงลึก เชิญบทความที่ปุ่มด้านล่างเลยค่าา

+ “เกรปซีด” (Grape Seed) ยี่ห้อไหนดี มีรีวิว 10 ยี่ห้อ +

ตารางเปรียบเทียบรีวิว “ครีมกันแดดหน้า” ยี่ห้อไหนดี

เนื่องจากเนื้อหารีวิวครีมกันแดดทาหน้าแต่ละยี่ห้อ มันค่อนข้างยาวววววจริง ๆ ค่ะ ยาวจนแบบว่า อาจจะเหนื่อยและขี้เกียจอ่านกันได้ ก็ถ้ารู้สึกไม่อยากอ่านเยอะ อยากอ่านแบบสรุปรวบยอด และเห็นสินค้าแต่ละตัวมาวางเรียงเปรียบเทียบกันไปเลยซะมากกว่า ก็กดเข้าไปที่ปุ่มด้านล่างได้นะคะ จะเป็นตารางเปรียบเทียบพร้อมสรุปแบบคร่าว ๆ ค่า

ตารางเปรียบเทียบ ครีมกันแดดหน้า ยี่ห้อไหนดี

1. ครีมกันแดดหน้า ยี่ห้อ Kiehl’s Ultra Light Daily UV Defense SPF 50 PA++++ Anti-pollution

ราคาโดยประมาณ 85 / 990 / 1,290 บาท ต่อ 5 / 30 / 60 ml

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

ที่ได้รับรางวัลครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าดีเด่น ไม่ได้ได้มาเพราะโชคช่วยเด้อค่า เพราะ Kiehl’s Ultra Light Daily UV Defense Anti-pollution คุณเธอเค้าทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดคนเก่ง สกัดกั้นสิ่งแปลกปลอมที่พยายามเข้ามาทำร้ายผิวหน้าอันบอบบางของสาว ๆ ไม่ว่าจะแดด, ฝุ่นละออง หรือมลภาวะต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังฮอตฮิตทั้งในเมืองนอกและเมืองไทยกันด้วย เพราะเล่นใส่สารกันแดดมาให้ถึง SPF 50 กับ PA++++ เลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอ ยังผสมผสานกับเทคโนโลยีขั้นสูงจากทางแบรนด์ ทำให้ป้องกันรังสีได้ทั้ง UVA กับ UVB ซึ่งเป็นตัวการร้ายที่ทำให้เกิดฝ้าและริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยค่ะ

ส่วนเรื่อง Texture ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ เพราะชื่อก็บอกแล้วว่าเป็น Ultra-light คุณเค้าจึงมีความบางเบาสูงมากกกกกก ทาปุ๊บซึมปั๊บ โดยไม่ทิ้งคราบมันไว้บนใบหน้าให้เห็นเลยจ้า และสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ เนื่องจากปราศจากน้ำหอมกับพาราเบน ส่วนผิวแพ้ง่ายก็ไม่ต้องกังวล คุณเค้าได้รับการรับรองจากแพทย์ผิวหนังเป็นที่เรียบร้อยแล้วเด้อว่า ปลอดภัย ใช้งานได้ ก่อให้เกิดอาการแพ้ค่อนข้างต่ำด้วยค่ะ

แต่!!! ถ้าสาว ๆ มีผิวหน้าที่มันมาก เราขอแปะโป้งแนะนำสูตรสีฟ้า หรือ Aqua Gel สูตรนี้ เธอเขาบางเบายิ่งกว่าเดิมไปอิ๊กกกก เหมือนทาน้ำเปล่าลงบนผิว แล้วซึมหายไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นครีมกันแดดหน้าที่ไม่ออกสี จึงสามารถทาเดี่ยว ๆ ได้โดยไม่ทำให้เกิดปรากฏการณ์หน้าลอย สีผิวไหนก็ใช้ได้ ปังหมดไม่มีบ้ง! หรือใครอยากใช้ก่อนแต่งหน้าก็ไม่เป็นปัญหาเช่นกัน เพราะเค้าทำงานได้ดีแม้ใช้ร่วมกับครีมอื่น ๆ มีส่วนช่วยให้เมคอัพติดทนยิ่งขึ้น แถมยังช่วยคุมมันได้ตลอดทั้งวันเลย สำหรับใครที่ยังไม่มี ถ้าไม่ซื้อคือพลาดเน้ออ

2. ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อ Biore UV Aqua Rich Watery

ราคาโดยประมาณ 169 / 290 บาท ต่อ 50 / 90 ml

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

ถ้าสาว ๆ กำลังมองหาถึงครีมกันแดดทาหน้าที่ถูกและดี ต้องไม่พลาดกับ Biore UV Aqua Rich Watery เลยค่า ในอดีตถ้าจะหาซื้อคุณชี ต้องลงทุนบินไปถึงญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะคุณเธอเล่นตัวไม่ยอมเข้าเมืองไทยสักที แต่ด้วยพลังแห่งเมืองทิพย์ ทำให้ชีมาตีตลาดในเมืองไทยและขายดียืนหนึ่งไปเลย ด้วยราคาค่าตัวที่ย่อมเยา แม้แต่สาว ๆ วัยมหาลัยก็ควักเงินซื้อกันได้อย่างแน่นอน และที่เลอค่ากว่าใคร ก็ตรงที่ชีเค้ามาในรูปแบบ Aqua จึงทำให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดี โดยไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งกร้านอีกด้วย เนื้อครีมก็เกลี่ยได้ง่าย ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนใบหน้า แถมช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น หลังทาสามารถแต่งหน้าได้ทันที โดยไม่ต้องเอาหน้าอังพัดลมเลยจ้า

โดยชีเค้าก็มาด้วยกันถึง 2 สูตร ให้สาว ๆ เมืองทิพย์เลือกกันตามอัธยาศัย โดยมีสูตรแบบ Essence ทั่วไป ที่ไม่มีสีใด ๆ และแบบ Light Up Essence ที่จะช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสแบบธรรมชาติทันทีที่ใช้ ก็ถ้าอยากมีผิวที่สวยใสเหมือนสาวแดนปลาดิบละก็ คงต้องเลือกซื้อ Light Up Essence กันแหละคะ อีกทั้งเทคโนโลยีขั้นสูง ก็ทำให้ชีเค้าใช้แทนเมคอัพเบสได้ พร้อมทั้งเป็นเลิศในการช่วยคุมความมัน กระจายแสงบนใบหน้าให้ดูมีมิติยิ่งขึ้นอีกด้วยนะ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าคุณชีทั้งสองจะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ แต่เค้าก็ผ่านการทดสอบมาอย่างดีว่า ไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง หรือก่อให้เกิดสิวเพิ่มเติม แต่ถ้ายังคงกังวลอยู่ เราแนะนำให้ซื้อขนาดเล็กมาทดลองกันก่อน ถ้าไม่ถูกใจ จะได้ไม่เสียดายเงินกันค่า แต่เรารับรองเลย ถ้าได้ใช้ต้องติดใจจนต้องซื้อซ้ำกันแน่ ๆ เพราะผู้เขียนเป็นเหยื่อมาแล้วค่า โดนชีตกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 หลอด (จริง ๆ นะ) ให้เป็นลูกรักยืนหนึ่งไม่เปลี่ยนใจไปไหนเลยค่ะ

3. ครีมกันแดดหน้า ยี่ห้อ Supergoop! PLAY Everyday Lotion SPF 50 PA++++

ราคาโดยประมาณ 299 / 409 / 790 / 1,150 ต่อ 10 / 30 / 71 /162 ml

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

กระแสครีมกันแดดจากแบรนด์ Supergoop! แรงดีไม่มีตก ก็เพราะคุณก้อย รัชวิน ภรรยาคนสวยของคุณตูนบอดี้แสลม ได้ตอบคำถามประเด็นเด็ดของสังคมว่า ทำไมคุณก้อยถึงได้มีใบหน้าที่กระจ่างใสทั้ง ๆ ที่วิ่งจากเหนือลงใต้ แต่ความออร่าก็ไม่มีถอย นั้นก็เพราะว่า ได้ใช้ครีมกันแดดทาหน้า Supergoop! PLAY Everyday Lotion ตัวนี้นี่เอง ใครอยากหน้าไม่ไหม้กับดำคล้ำละก็ ก็ใช้ตามคุณก้อยกันได้เลยค่ะะ

และที่คุณก้อยตัดสินใจได้เลือกใช้ครีมกันแดดทาหน้าตัวนี้ ส่วนหนึ่งก็น่าจะเป็นเพราะว่า นางมีส่วนผสมที่จัดหนักจัดเต็ม ไม่ว่าจะ สารต้านอนุมูลอิสระจาก Sunflower Extract, โรสแมรี่ และข้าว อีกทั้งยังผสานส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นเพิ่มเติมอีกเพียบ (ดูได้จากตารางด้านล่าง) ส่วนเรื่องกันแดดก็ไม่น้อยหน้าด้วย SPF 50 กับ PA++++ เท่านั้นยังไม่พอ นางยังพิเศษกว่ายี่ห้อไหน ๆ เพราะเป็นไอเทม 2 in 1 ที่ซื้อแค่หนึ่ง แต่ใช้ได้ตั้งแต่หัวจรดเท้ากันเลยทีเดียว ด้วยส่วนผสมที่ปลอดภัยและไร้สารตกค้าง ทำให้เด็กใช้ได้ ผู้ใหญ่ที่มีผิวแพ้ง่ายก็ใช้ดี ไม่ทำให้เหนอะหนะน่ารำคาญผิวทุกส่วนอีกด้วย

และต้องขอพูดเลยค่ะพี่จี้ ว่าคุณเค้าเป็นครีมกันแดดในรูปแบบ Broad Spectrum Sunscreen ที่สามารถป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB อย่างมีประสิทธิภาพ บวกกับการทนน้ำ ทนเหงื่อ จะขึ้นน้ำลงเรือ เนื้อครีมก็ยังคงเกาะติดหนึบอยู่บนใบหน้าได้ดีซะยิ่งกว่าตีนตุ๊กแกเสียอีก อีกทั้งใช้แค่เพียงปริมาณเล็กน้อย ก็ทาได้ครอบคลุมทั่วใบหน้า จะทาซ้ำระหว่างวันก็ได้ ไม่ทิ้งคราบขาว และที่ปังปุริเย่กว่าใครอื่น ก็คงเป็นเรื่องกลิ่นที่ไม่ฉุนและแสบจมูกเหมือนยี่ห้ออื่น ๆ นางจะมีกลิ่นซีตรัสแบบหอมอ่อน ๆ ที่ช่วยให้ความสดชื่น สะอาดสะอ้าน ผ่อนคลาย และปลุกใจในยามเช้ากันด้วย ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าจะถูกใจสำหรับสาว ๆ ที่ไม่ชอบกลิ่นแอลกอฮอล์แบบอิฉันค่า

4. ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อ MizuMi UV Water Serum & UV Water Defense

ราคาโดยประมาณ 419 – 429 บาท ต่อ 40 g

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

แค่เห็นแพ็คเกจจิ้งของ MizuMi UV Water Serum & UV Water Defense ก็โดนตกกันถ้วนหน้า ด้วยความน่ารักตะมุตะมิของนางที่พกพาใส่กระเป๋าไปไหนก็สะดวก หรือจะมีไว้ประดับโต๊ะเครื่องแป้งก็เก๋ไม่แพ้กัน โดยนางก็จะมี 2 สูตร ให้เลือกซื้อกันนะคะ สำหรับขวดสีฟ้าจะเป็นสูตร UV Water Serum เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความเหนียวหนืดและเหนอะหนะของครีมกันแดด เพราะเนื้อ Texture เค้าบางมากกก ก ไก่ล้านตัว เกลี่ยซึมสู่ผิวได้ง่าย และก็สะดวกมาก ๆ เพราะทารองพื้นต่อได้ทันทีโดยไม่ต้องรอจ้า

ส่วนอีกสูตรขวดสีส้มหรือ UV Water Defense รุ่นนี้จะมีความเข้มข้นที่มากกว่า แต่นางจะกันน้ำ กันฝน กันลม หรือแม้กระทั่งเอาหน้าลงไปจุ่มน้ำทะเลอย่างต่อเนื่องถึง 40 นาทีก็เอาอยู่ สามารถทาซ้ำได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ทำให้เครื่องสำอางหลุดหายไปไหน!! ไม่โป๊ะแน่นวลลล เหมาะกับสายกิจกรรม นักเล่นกีฬาสุด ๆ กันด้วยเด้อ ซึ่งทั้ง 2 สูตรเอง ก็ยังปราศจากสารเคมีระคายเคืองแบบ 100% หรือวงในเค้าเรียกกันว่า 5 Free! อย่าง Oil Free, Alcohol Free, Paraben Free, Fragrance Free, และ Synthetic Color Free แต่จะใช้สารที่สกัดจากธรรมชาติล้วน ๆ มาทดแทน จึงเหมาะมากสำหรับไอ้ต้าวทุกคนที่กังวลเรื่องสารเคมีตกค้าง

หรือสาว ๆ ที่มีผิวแพ้ง่ายก็ไม่ต้องห่วง เพราะได้รับการรับรองจากแพทย์ผิวหนังมาเรียบร้อยแล้ว โอกาสทำหน้าแพ้ต่ำมาก ส่วนเรื่องประสิทธิภาพก็ดีงาม ป้องกันแสงแดดได้ทั้ง UVA1/UVA2/UVB และยังสามารถใช้ได้ทั้งหญิงกับชายโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ ด้วยนะ เพราะถึงแม้จะมีสีขาวขุ่น แต่พอเกลี่ยลงบนใบหน้าก็จะซึมลงผิวไปแทบจะทันที แถมยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีอีกด้วย (ส่วนผสมบำรุงแต่ละตัวเด็ดอยู่นะ ดูตารางด้านล่างสิ) ก็บอกเลยว่า ถ้าใครได้ลองใช้ครีมกันแดดทาหน้า MizuMi พวกเธอต้องมูฟออนเป็นวงกลมกันแน่!! โดนตกจนงอหัวกันไม่ขึ้นเลยละค่า

5. ครีมกันแดดหน้า ยี่ห้อ Rohto Skin Aqua Tone Up UV Essence SPF 50+ PA++++

ราคาโดยประมาณ 250 – 275 บาท ต่อ 80 g

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

ปังต่อไม่หยุดกับครีมกันแดดหน้าส่งตรงจากญี่ปุ่นจ้าา!! ก็คุณเค้าได้รับ “การยอมรับ” จากเว็บไซต์บิ้วตี้ชื่อดังอย่าง @cosme มาแล้วว่า เป็น The Best Sunscreen ที่ได้รับรางวัลตั้งแต่ปี 2018, 2019 และ 2020 ชนะต่อเนื่อง 3 ปี แบบเกินเบอร์สุด ๆ !! ซึ่งคุณเค้าก็ใช้ได้ทั้งกับผิวหน้าและผิวกายแบบ 2 in 1 และยังมี 2 สูตรให้จับจองกันด้วยค่า

โดยหนึ่งในนั้นก็คือ หลอดสีม่วงที่จะมีเนื้อ Essence ของสีลาเวนเดอร์ (สวยถูกใจสาย Purple lover แบบเรามากกกก) ที่เมื่อทาแล้ว จะช่วยปรับสีผิวให้สว่างขึ้นแบบธรรมชาติ ไม่บ้ง ไม่หลอก ไม่เทากันอย่างแน่นอนนน และยังเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีผิว Cool Undertones ซึ่งถ้าได้ใช้ก่อนแต่งหน้าละก็คือนิพพาน! บวกกับส่วนผสมจากวิตามินซีและไฮยารูลอนที่จะมาช่วยกันบำรุงผิวหน้าให้กระจ่างใสและชุ่มชื้น จึงเหมาะกับสาวที่มีผิวหน้าแห้ง และกังวลว่าผิวจะลอกระหว่างวัน หรือสาว ๆ ผิวมันก็ใช้ได้ เพราะคุณเค้าคุมมันได้ดีเกินคาดเลยละ

ต่อมาเป็นน้องสีเขียว Mint Green ที่เป็น Limited Edition ขายแค่ในญี่ปุ่นในช่วงหน้าร้อนเท่านั้น โดยคุณเธอจะแตกต่างจากตัวพี่ตรงที่มีเนื้อเบสเป็นสีเขียว สีนี้คือเลิศสุดสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการปรับผิวให้กระจ่างใสด้วยการลดรอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็นจากสิว และมีผิว Warm Under Tone นอกจากนี้ น้องเขียวก็ไม่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมซึ่งแตกต่างจากรุ่นพี่ น้องเขียวจึงเป็นที่นิยมสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์นั้นเอง

แต่สิ่งที่เหมือนกันสำหรับทั้งพี่และน้องก็คือ สารกันแดด SPF50+ PA++++ ที่ถือว่า ช่วยป้องกันได้ดีมากสำหรับหน้าร้อนในเมืองไทย และทางด้านเนื้อ Texture ก็มีความบางเบาตามสไตล์ครีมกันแดดหน้าญี่ปุ่น ซึมลงผิวเร๊วเร็ววววว เกลี่ยได้ง่ายด้วยนิ้ว เกาะติดบนผิวหน้าและผิวกายได้ยาวนาน ไม่ไหลออกตามเหงื่อ แต่ก็ล้างออกได้ง่ายมาก ไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้าง ก็บอกเลย ถ้ายังไม่เคยได้ลองใช้ละก็ ห้ามพลาดเด็ดขาดค่าา

6. ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อ Espoir Water Splash Sun Cream SPF 50+ PA+++

ราคาโดยประมาณ 85 / 149 / 350 บาท ต่อ 10 / 20 / 60 ml

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

ครีมกันแดดหน้าที่ให้งานผิวกับซัมเมอร์นี้ ต้องยกให้ Espoir Water Splash Sun Cream SPF 50+ PA+++ น้องคนนี้เลยค่า เพราะใช้แล้วหน้าฉ่ำน้ำจนโอปป้าต้องมองเหลียวหลัง!! ซึ่งพวกนางก็มาในรูปแบบ Water Splash ที่ทาลงบนผิวหน้าแล้ว เนื้อเจลจะแตกตัวออกเป็นน้ำ ทำให้เกลี่ยได้ง๊ายง่ายยยย ยิ่งกว่าปลอกกล้วยอีก!! ถึงแม้จะเป็นสูตรน้ำกระจาย แต่ก็เกาะผิวได้ดีเช่นกันนะจ้ะ เหงื่อไหลยังไงก็ไม่หลุด ยิ่งถ้าได้ใช้ควบคู่กับการแต่งหน้า จะกลายเป็นลุคที่ Glass Skin ตามสไตล์สาวเกาหลี เปลี่ยนผิวที่ดูแห้งกร้านให้เป็นผิวที่มีสุขภาพดี ราวกับนอนครบมาแล้ว 8 ชั่วโมง กันเลยค่ะ

อีกทั้งยังจุใจไปกับ 3 สูตรให้เลือกซื้อ โดยสีน้ำตาลสูตร Sun Cream จะช่วยให้ผิวฉ่ำว้าวมากขึ้น และยังช่วยให้รองพื้นติดทนด้วยนะ ส่วนสีเขียวสูตร Fresh จะทาแล้วรู้สึกสบายผิวเป็นพิเศษ ก็เหมาะสำหรับสาวผิวผสมและผิวมัน สุดท้ายสีชมพู่สูตร Cica Tone Up Cream จะเหมาะกับคนผิวหน้าหมองคล้ำที่ต้องการให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติในทันทีหลังจากที่ได้ทาค่าา

แต่ไม่ว่าจะเลือกซื้อสูตรไหน ก็การันตีได้ถึงงานเติมน้ำให้ผิวแบบไม่มีหลอก และไม่หนักหน้า หรือเหนอะหนะผิวเลย เพราะคุณน้องเค้ายืนหนึ่งเรื่องความสบายต่อผิวหลังทาจริง ๆ และยังไม่จบเพียงเท่านี้ พวกนางยังเต็มเปี่ยมไปด้วยสารสกัดธรรมชาติล้วน ๆ อย่าง Aloe Barbadensis Leaf Extract, Centella Asiatica Extract, Anthemis Nobilis Flower Extract ที่จะมาช่วยกันบำรุงผิวหน้าเพิ่มเติมด้วยเด้อ ไม่ว่าจะเป็นการลดรอยแดง รอยดำ หรือการช่วยสมานแผลให้ผิวกลับมาดีอีกครั้ง ถ้าสาว ๆ คนไหนชอบกันแดดหน้าที่ให้งานผิวฉ่ำ ๆ ดูอิ่มน้ำ และปกป้องแสงแดดได้ดี ก็เตรียมเงินให้พร้อม ไม่จัดน้องเค้าถือว่าพลาดค่าา

7. ครีมกันแดดหน้า ยี่ห้อ Neutrogena® Ultra Sheer® Dry-Touch Sunscreen Broad Spectrum SPF 100+

ราคาโดยประมาณ 479 / 699 บาท ต่อ 88 / 147 ml

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

ครีมกันแดดหน้าที่เด่นเกินหน้าเกินตาเพื่อนร่วมห้อง ก็คงต้องยกให้ Neutrogena® Ultra Sheer® Dry-Touch Sunscreen Broad Spectrum SPF 100+ กันเลยค่าาาาา ก็ดูค่าสารกันแดดชีสิคะ!! มีตั้ง SPF100+ ล้ำหน้ากว่าใครเค้า! และยังควบคู่กับการเป็นกันแดดหน้าแบบ Broad Spectrum ทำให้ชีมีอำนาจอันเหลือล้นในการปกป้องผิวได้จากทั้ง UVA และ UVB สกัดกั้นการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้อยู่หมัด อีกทั้งยังช่วยปกป้องไม่ให้ผิวคล้ำเสียจากแสงแดดได้เป็นอย่างดีแบบสุด ๆ อีกด้วย

และทางด้านเนื้อกันแดด ก็เป็นสีขาวละมุนอ่อน ๆ แต่ก็ไม่ทำให้หน้าลอยหรือวอก ชายจริงหญิงแท้ก็ใช้ได้หมดไม่มีแกงงง ส่วนเนื้อครีมก็บางเบา สามารถใช้ได้ทุกวัน ทุกกิจกรรมหนักแน่นหรือกิจกรรมเบา ๆ ก็ไม่หวั่น มาน้อยมามากก็ไม่กลัว เพราะชีเด็ดกว่าใครเค้าจริง ๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่า ชีเขาขายดีมากกกกกกในอเมริกา จนได้รับรางวัล Allure Reader's Choice Award Winner ในปี 2019 ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าประจำแบรนด์ มงจึงลงชีไปแบบเต็ม ๆ กันเลยล่ะค่าา

นอกจากนี้ ชีก็ยังเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว เพราะชีไม่ทำให้ผิวแห้งหรือลอกเป็นขุย และในขณะเดียวกันก็ยังมีเทคโนโลยี Dry-touch ที่จะช่วยดูดซึมความมันออกจากใบหน้า และยังช่วยลดอาการอุดตันภายใต้ผิวหนัง รวมถึงลดอาการเกิดสิวอักเสบอีกด้วย และที่สำคัญชีก็เคลมตัวเองว่า เป็นครีมกันแดดหน้าที่ปราศจากสารพาราเบนกับแอลกอฮอล์ ที่จะก่อให้เกิดอาการระคายเคืองผิว แต่ ๆ ชีจะยังคงมีส่วนผสมจากน้ำหอม ดังนั้นถ้าใครแพ้น้ำหอม เราแนะนำให้ลองเทสก่อนใช้งานจะเป็นทางที่ดีที่สุด แต่ถ้าใครไม่แพ้ละก็ จัดเถอะค่ะ!!

8. ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อ SRICHAND Luminescence Fabulous UV Shield SPF 50 PA+++

ราคาโดยประมาณ 79 บาท ต่อ 15 ml

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

งานครีมกันแดดทาหน้า ไม่พูดถึงนางจะได้หรออออ เพราะนางติดท็อปครีมกันแดดทาหน้าดีเด่นจากแบรนด์คนไทยเชียวหนา ซึ่งนางก็คือ SRICHAND Luminescence Fabulous UV Shield SPF 50 PA+++ แบรนด์สามัญประจำหญิงไทยใจงามนี่เองค่า ก็ตั้งแต่ผันตัวมาทำเครื่องสำอางและสกินแคร์มากขึ้น นางก็เป็นกระแสอยู่ตลอดเวลา เพราะราคาที่แสนจะย่อมเยา แต่คุณภาพสู้แบรนด์แพง ๆ ได้ดีเลยทีเดียว

ยิ่งครีมกันแดดหน้ารุ่นนี้ ก็ได้ออกแบบมาเพื่อแดดเมืองไทยโดยเฉพาะ ใช้แล้วผิวหน้ากระจ่างใสมากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยปกป้องผิวไม่ให้ไหม้หรือคล้ำเสียจากแดดได้ดี อีกทั้งเนื้อครีมก็ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ทิ้งคราบมันหรือร่องรอยคราบ ๆ ครีม ๆ เหลือไว้บนใบหน้าด้วย บอกเลยว่า ลืมภาพความทรงจำของความเหนอะหนะแบบครีมกันแดดในสมัยก่อน ๆ ไปได้เลย เพราะนางพลิกโฉมตัวเอง เพื่อให้เป็นครีมกันแดดทาหน้าที่ดีเป็นอันดับต้น ๆ นั้นเองจ้า

แต่ถึงจะเห็นหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักอย่างนี้ แต่ชีก็ไม่ใช่เล่น ๆ น้าาา นางผันตัวเองสู่ตลาดนอกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะในเว็บ Ebay หรือ Amazon นางฝาดเรียบบ อีกทั้งยังได้ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงส่งตรงมาจากญี่ปุ่น ทำให้คุณภาพดีเกินต้านมากแม่ จะทาก่อนแต่งหน้าก็ได้ หรือเติมระหว่างวันก็ได้ และที่สำคัญ นางผ่านการทดสอบมาหมดแล้วว่า ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง อีกทั้งยังปราศจากสารเคมีทั้งหลาย จำพวกพาราเบน, น้ำหอม และน้ำมันอีกด้วย สุดท้ายไม่พูดถึงคงไม่ได้ นางเป็นครีมกันแดดหน้า Cruelty Free หรือการไม่ทดลองกับสัตว์! จึงเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เราควรสนับสนุนอย่างมากที่สุด ได้เห็นกันแบบนี้แล้ว ต้องลองซื้อมาใช้แล้วละค่ะ

9. ครีมกันแดดหน้า ยี่ห้อ Bio Essence Miracle Bio-Water Cooling Sunscreen SPF 50+ PA++

ราคาโดยประมาณ 169 / 329 บาท ต่อ 40 / 80 ml

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

สาวผิวแพ้ง่ายที่กำลังมองหาครีมกันแดดหน้า ต้องมาต่อแถวทางแถวนี้เลยจ้าาาาา ขอแนะนำ Bio Essence Miracle Bio-Water Cooling Sunscreen SPF 50+ PA++ เพราะทางแบรนด์เค้าการันตีตัวเองเลยนะว่า ได้ผ่านการทดสอบ Dermatologically Tested จึงเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือมีผิวหน้า Sensitive ซึ่งคุณสมบัติของนาง ก็เลิศตรงที่จะช่วยลดอาการอุดตันภายใต้ผิวหนังได้ดี ทาแล้วซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ทิ้งคราบมันให้หลงเหลือไว้ดูต่างหน้าด้วยค่ะ

อีกทั้งยังเป็นครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าสูตรน้ำที่เป็นแบบน้ำจริงจังมากกกเจ้าค่า! เพราะบางเบาสุดอะไรสุด จนรู้สึกเหมือนกับแทบจะไม่ได้ทาครีมกันแดดแม้แต่น้อย เกลี่ยก็โคตรง่าย และหลังจากทาลงไปบนผิวแล้ว ก็ทำให้ผิวรู้สึกเย็นสบายด้วย Cooling Effect ช่วย Relax ผิวให้ไม่ตึงเครียดไปอีกกกก บวกกับพลังการล็อคผิวจากสารสกัด Hyaluronic acid ทำให้น้ำไม่ระเหยออกจากผิว และยังช่วยบำรุงผิวที่แห้งเสียได้อย่างล้ำลึกอีกด้วยค่ะ

เท่านั้นยังไม่พอ นางยังเป็นเมคอัพเบสได้ดี ช่วยอำพรางรูขุมขน รอยดำ รอยแดง ให้ดูจางลงได้ด้วย อีกทั้งสาว ๆ ต้องเลิฟตรงที่หลังลงรองพื้นเสร็จ ก็ทานางต่อได้เลยทันที และนางก็ไม่ทำให้หน้าเหนียวเลยย Miracle สมมงมากกกก ส่วนเนื้อครีมก็สีขาวขุ่นช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส สว่างขึ้นอีกหนึ่งระดับด้วยนะ ปังกันต่อกับส่วนผสมสำคัญอย่าง Vitamin E และทานาคา ที่จะมาช่วยกันบำรุงผิวได้อีกกก ทั้งบำรุงเด่น ปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดีแบบนี้ ถ้ายังไม่เคยใช้ และไม่รู้จะซื้อครีมกันแดดหน้ายี่ห้อไหนดี ลองคุณคนนี้สิคะ (นางติดเทรนกระแสเมืองนอกมากก หากใครต้องการอ่านรีวิวแน่น ๆ ลองค้นหาเป็นภาษาอังกฤษโลดด มีให้อ่านมากมายเลยค่า)

10. ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อ SASI Plankton Please Oil Free Sun Protection SPF50/PA++++

ราคาโดยประมาณ 88 บาท ต่อ 20 ml

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

SASI หรือ ศศิ แบรนด์ที่บิ้วตี้บล็อกเกอร์หลายคนแนะนำกันมาก เพราะนางออกอะไรมา ไม่ว่าจะคอลเลคชั่นในก็ปังหมด (เพราะนางราคาสบายกระเป๋ามาก ๆๆ) แต่ในครั้งนี้ นางฉีกกฎของครีมกันแดดทาหน้าที่เคยมี ด้วย SASI Plankton Please Oil Free Sun Protection SPF50/PA++++ ที่ถึงแม้ว่า จะเป็นครีมกันแดด แต่ก็เน้นช่วยบำรุงผิวได้ดีเทียบเท่ากับการใช้สกินแคร์บำรุงผิวเลยล่ะ โดยเฉพาะสารสกัดที่ให้มา ก็ไม่ได้ไก่กาอาลาเล่เด้อออ นางมี Plankton ส่งตรงมาจากท้องทะเลลึกบริททานี่ จากประเทศฝรั่งเศสเป็นส่วนผสมหลัก และทำงานควบคู่กับ Vitamin E ช่วยกันบำรุงให้ผิวเรียบเนียน นุ่ม ชุ่มชื้นทันทีหลังทาครีม และยังทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส จนได้งานผิวปัง ๆ แบบไม่อุด ไม่ตัน ไม่โป๊ะ ศศินางทำได้จ้า

อีกทั้งด้วยราคาที่แสนจะสบายกระเป๋าทำให้ซื้อสัก 3 หลอด ก็ไม่ทำให้ขนหน้าแข้งร่วง พกติดตัวไว้เติมระหว่างวันเก๋ ๆ ก็ยังได้ ส่วนเนื้อครีมก็ค่อนข้างบางเบาเลยทีเดียว ทาแล้วก็ซึมลงผิวหน้าได้ง่าย และยังรักษาความฉ่ำของผิว รวมถึงไม่ต้องกังวลว่า จะหน้ามันนะคะ เพราะนางเอาอยู่! นอกจากนี้ ก็มาพร้อมด้วยสารกันแดด SPF50/PA++++ ที่ไม่ว่าจะร้อนขนาดไหน ก็ไม่เกิด Sun Burn แน่นวลลล ยิ่งไปกว่านั้น ก็ดูแพคเกจนางสิคะ น่ารักเป็นไอ้ต้าวตัวเล็กพกพาง่าย และยังมีสี Peace อ่อน ๆ ที่เข้าเทรนด์ช่วงซัมเมอร์นี้อย่างเถียงไม่ได้เลย ก็สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ยังไม่ชัวร์ ลองซื้อแบบซองมาใช้ก่อนก็ได้ นางมีขายที่ร้านสะดวกซื้อทุกที่ แต่ขอเตือนเลยนะว่า ติดใจกันแน่ ๆ ค่า