มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 2 โครงการรัฐ เช็กเลยแชร์ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล15 พฤษภาคม 2565”มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินที่ได้รับจาก 2 โครงการรัฐ ทั้งโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 โครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs กระทรวงแรงงาน Show
กรมสรรพากร แจ้งมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินสนับสนุนที่ได้รับจาก 2 โครงการภาครัฐ (ตามมติ ครม. 24 ม.ค. 2565) ประกอบด้วย
1.โครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตน มาตรา 33 ของ สำนักงานประกันสังคม โดยเงินที่ได้รับสิทธิยกเว้น คือ เงินสนับสนุนที่บริษัทได้รับตามโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตน มาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สำหรับเงื่อนไขการปรับปรุงในการคำนวณ ภ.ง.ด.50 มีดังนี้
2.โครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs ของ #กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน โดยเงินที่ได้รับสิทธิยกเว้น คือ เงินสนับสนุนที่บริษัทได้รับตามโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้มีการปรับปรุงโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs เพื่อให้การดำเนินโครงการฯ บรรลุวัตถุประสงค์ รวมทั้งธุรกิจ SMEs สามารถดำเนินการได้ต่อเนื่อง รายละเอียดในการปรับปรุงโครงการ ดังนี้ 1. เงื่อนไขการจ่ายเงินอุดหนุน นายจ้างที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการต้องลงทะเบียนนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปโดยให้มีผลในงวดเงินสมทบเดือนพ.ย. นี้เป็นต้นไป (นำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ภายในวันที่ 15 ธ.ค. 64) 2. วิธีดำเนินงาน
3. มาตรการทางภาษี เงินอุดหนุนที่รัฐจ่ายให้นายจ้างจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้วแต่กรณี โดยนายจ้างจะต้องไม่มานำเงินอุดหนุนดังกล่าว ไปคำนวณเป็นรายได้และรายจ่ายในการหักภาษี ทั้งนี้ กรมสรรพากรยังได้รับมอบหมายให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับมาตรการภาษีต่อไป น.ส.ไตรศุลี ได้กล่าวถึงผลการดำเนินงานโครงการฯ ตั้งแต่ 20 ต.ค.-10 พ.ย. นายจ้างเข้าร่วมโครงการจำนวน 127,613 แห่ง คิดเป็น 32.34% ของเป้าหมายนายจ้าง ลูกจ้างสัญชาติไทย จำนวน 2,062,356 คน คิดเป็น 51.12% ของเป้าหมายลูกจ้างสัญชาติไทย ทั้งนี้ นายจ้างที่ได้รับการอนุมัติแล้ว จำนวน 47,742 แห่ง คิดเป็น 37.41% ของนายจ้างที่ลงทะเบียนที่เหลืออยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่อนุมัติเข้าร่วมโครงการ หรืออยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขข้อมูล อย่างไรก็ตาม ขอให้นายจ้างที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ มั่นใจได้ว่า เงินอุดหนุนจากโครงการฯ นายจ้างจะไม่ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น เพราะจะไม่ถูกคำนวนเป็นรายได้หรือรายจ่ายในการหักภาษี --อินโฟเควสท์ โดย ปภัสสร องค์พิเชฐเมธา/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected] กองกฎหมาย กรมสรรพากร ได้ให้แนวทางสำหรับ มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินสนับสนุนที่ได้รับจากโครงการภาครัฐ ประกอบด้วย
ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 ไว้ดังนี้ สอบถามเพิ่มเติม โทร 1161----------------------------- ข่าวดี! ครม.ได้มีมติอนุมัติร่างกฎหมาย ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากโครงการของภาครัฐ แล้วค่ะ!!ที่ประชุม ครม. (24 ม.ค. 65) มีมติอนุมัติร่างกฎหมายการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินเยียวยา เงินช่วยเหลือ เงินสนับสนุน เงินอุดหนุน และประโยชน์อื่นใดที่ได้รับจากโครงการภาครัฐอันเนื่องมาจากการบรรเทา ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สำหรับนิติบุคคล เงินเยียวยาที่ได้รับจากรัฐ 2 โครงการนี้ ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นต้องไม่นำรายจ่ายที่จ่ายจากเงินอุดหนุนตามโครงการดังกล่าวมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล |