ศูนย์วางแผนเรียนต่อต่างประเทศ The Lion Academy of International Studies ตัวแทนประเทศไทยให้คำปรึกษากับนักเรียสนใจไปเรียนต่อต่างประเทศในระดับปริญญาโท ปรึกษาฟรีได้ที่ทีมเดอะไลอ้อน ข้อมูลนี้ทีมงานเดอะไลอ้อนจัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลภาพรวมกว้าง ๆ การสอบเข้าในบางคณะหรือในบางมหาวิทยาลัยอาจจะมีเงื่อนไขพิเศษเพิ่มเติมนอกเหนือจากข้อมูลข้างล่างนี้เช่นกัน Show เรียนต่อปริญญาโทอังกฤษ Master Degree in the UKเมื่อพูดถึงการศึกษา เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าประเทศอังกฤษนั้นเป็นทางเลือกที่ดีแห่งหนึ่ง เพราะนอกจากจะได้การศึกษาที่มีคุณภาพสูงแล้ว นักเรียนยังจะได้ประสบการณ์ชีวิตที่น่าประทับใจอีกด้วย นั่นจึงไม่น่าแปลกใจที่นักเรียนหลายคนทั่วโลกเลือกที่จะศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ เพราะการศึกษาที่มีคุณภาพสูงนั้นจะเป็นสะพานที่นำคุณไปสู่เส้นทางที่รุ่งโรจน์ของหน้าที่การงานในอนาคต Length of Study: การเรียนต่อโทอังกฤษมีระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปีก็จบหลักสูตร หากคำนวนบวกลบคูณหารเปรียบเทียบในประเทศอื่น ถือว่าใช้เวลาสั้น ทำให้ประหยัดค่าครองชีพได้ เรียนทั้งหมด สามเทอม แบ่งเป็นสองเทอมแรกมีการเรียนการสอนปรกติ และเทอมสุดท้ายเป็นการทำวิทยานิพนธ์ (Dissertation) วุฒิการศึกษามิใช่สิ่งเดียวที่คุณจะได้จากการศึกษาต่อต่างประเทศ แต่รวมไปถึงประสบการณ์ใหม่ๆ มุมมองที่แตกต่าง และเครือข่ายทางสังคมที่กว้างขวางขึ้นจากการใช้ชีวิตในต่างแดน ซึ่งเดอะไลอ้อนเชื่อว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาตนเองต่อไป เหตุผลดีๆที่คุณควรเรียนต่อปริญญาโทในประเทศอังกฤษ
ขั้นตอนการรับสมัคร นักเรียนหลายคนเข้าใจการสมัครเรียนต่อปริญญาโทอังกฤษจำเป็นจะต้องมีผลสอบไอเอลทันที แต่ความจริงนั้นมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่สามารถรับใบสมัครได้โดยยังไม่ต้องยื่นผลสอบไอเอลแต่เอกสารที่สำคัญที่จะต้องทำการสมัครคือ
The Lion’s recommendation ช่วงที่นักเรียนควรยื่นใบสมัครปริญญาโทในประเทศอังกฤษ ทางเดอะไลอ้อนขอแนะนำอย่างยิ่ง สามารถเริ่มยื่นได้ตั้งแต่เดือนกันยายน ปีก่อนที่จะเริ่มไปศึกษา เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เนื่องจากใบสมัครยังไม่มาก การได้สมัครช่วงแรกๆ ที่เปิดรับสมัคร เพิ่มโอกาสได้ในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจำนวนการรอผลที่สั้นกว่า จำนวนที่นั่งยังมีอยู่เยอะ นักเรียนจะได้มีเวลาในการทำข้อสอบภาษาอังกฤษ IELTS ต่อไป ง่าย ๆ คือโล่งใจกว่าเยอะมาก เอาเวลาที่เหลือไปติวไอเอลให้ได้คะแนนเยอะ ๆ จะได้มีเวลาเต็มที่ เรียนต่อปริญญาโทอเมริกา สหรัฐอเมริกายังถือเป็นประเทศเป้าหมายหลักอันดับหนึ่งที่นักเรียนสนใจไปเรียนต่อกันมาก ไม่ว่าจะเป็นระดับภาษา มัธยม ซัมเมอร์ ปริญญาตรี โท และเอก ศูนย์วางแผนเรียนต่อต่างประเทศ The Lion Academy of International Studies มีสถาบันชั้นนำในอเมริกาให้นักเรียนไทยได้ตามฝันและสร้างประสบการณ์การเรียนในต่างประเทศ เดอะไลอ้อนเองมีมหาวิทยาลัยที่เป็นพันธมิตรในเครือ แต่ต้องเรียนให้เข้าใจอย่างตรงไปตรงมาในประเทศอเมริกาว่า อาจจะยังไม่มีใครเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยในอเมริกาได้ทั้งหมด ก็ประเทศใหญ่มหึมามาก บางมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้มีตัวแทนในต่างประเทศ มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกามีมากถึง 4, 000 กว่ามหาวิทยาลัย ซึ่งเยอะมากๆ และไม่ได้มีระบบการจัดแรงกิ้งแบบ National Ranking ไม่มีกระทรวงศึกษาธิการเหมือนในหลาย ๆ ประเทศ ดังนั้นการเลือกมหาวิทยาลัย ปัจจัยจากแรงค์กิ้งอาจจะไม่ถูกต้องสักทีเดียว หากต้องการดูควรเลือกจากประเภทในการจัดลำดับ Category ก็จะช่วยให้ง่ายในระดับหนึ่ง เพราะว่าบางมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้เน้นการทำวิจัย research เราอาจจะไม่เห็นชื่อในมหาวิทยาลัยนั้น ๆ ในระบบแรงกิ้งที่นักเรียนไทยใช้เป็นตัววัด แต่บางมหาวิทยาลัยมุ่งเน้นการเรียนการสอนอย่างเดียวไม่ได้เน้นการทำวิจัย จึงทำให้อาจจะไม่ได้มีชื่อติดโผ่เข้าไป แต่อาจจะเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในคณะหนึ่ง หรือบางมหาวิทยาลัยเอกชนในอเมริกาที่รับเข้ายาก แต่ไม่เคยเห็นหรือได้ยินชื่อนั้นมาก่อน แต่การรับเข้าเน้นเกรดสูงแบบเกียรตินิยมก็มี หากแต่การเลือกควรมุ่งไปดูที่ประเภทของคณะ วิชา ที่สนใจ ยกตัวอย่างเช่น มหาวิทยาลัยที่เด่นดังมากด้านศิลปศาสตร์อย่าง Occidental college ใน Los Angeles หนึ่งในมหาวิทยาลัยเอกชนที่เก่าแก่ในการสอนด้าน Liberal Arts College ที่มีบุคคลอันมีชื่อเสียงอย่าง Obama , Ben Affleck etc. เราก็อาจจะไม่คุ้นหูแต่เชื่อหรือไม่ว่าในการรับเข้าสุดโหด และมีจำนวนนักเรียนในห้องที่มีอย่างจำกัด และนั่นก็คือสาเหตุที่เราอาจจะต้องมองให้ลึกลงไปในเรื่องของประเภทของคณะลงไปด้วยเช่นกัน การเลือกมหาวิทยาลัยมีคำกล่าวของศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยท่านหนึ่งพูดว่า “เราต้องการเรียนคลาสเล็ก ๆ ที่อาจารย์รู้จักเรา หรือต้องการเรียนมหาลัยใหญ่แต่นั่งหลังห้อง” ก็เป็นมุมน่าคิดที่น่าสนใจทีเดียว ปัจจัยจึงขึ้นอยู่กับคณะ วิชา ประเภท เมือง ก็มีส่วนช่วยในการตัดสินใจ หากจะพิจารณาแรงค์ในการเลือกอาจจะไม่ได้ถูกต้องสักทีเดียวนัก ส่วนใหญ่ก็จะคุ้นไปเลยคือมหาวิทยาลัยในกลุ่ม Ivy League เพราะว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มมหาวิทยาลัยเอกชนเน้นวิจัยเป็นหลัก มหาวิทยาลัยเอกชนที่มีดวามเด่นทางด้านวิชาการ การวิจัย และเป็นท๊อปที่มีนักเรียนนักศึกษาและศิษย์เก่ามีชื่อเสียง Ivy League 8 สมาชิกมีใครกันบ้าง?
แต่การเลือกมหาวิทยาลัยในอเมริกายังมีตัวเลือกนับพัน ๆ ที่มีคุณภาพสูงอีกมากมายให้เลือกไม่เฉพาะในกลุ่มข้างบน อีกนับพัน ๆ มหาวิทยาลัย ย้ำนะครับนับพัน ๆ การเลือกมหาวิทยาลัยด้วยจำนวนนับพัน และความแตกต่างกันคงจะใช้แรงกิ้งอย่างเดียววัดอาจจะไม่ถูกสักทีเดียวนัก อย่างที่ได้อธิบายอเมริกาเองก็ไม่ได้มีสาระบบเครื่องมือวัดแบบการจัดแรงค์ระดับชาติ หรือกระทรวงด้านนี้ ส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยมีชื่อส่วนใหญ่เป็นภาคส่วนของเอกชน ที่จะต่างจากฝั่งอังกฤษซึ่งเป็นของรัฐ การบริหารปกครองทางภาคเอกชนที่มีอำนาจ และกฎของสภามหาวิทยาลัยเอง จึงไม่แปลกถ้าเราจะเห็นกฎการรับเข้าศึกษาที่มีความหลากหลายและ แตกต่างกัน ความยืดหยุ่น หรือความเข้มข้นในการคัดเลือกบุคคล หรือบางที่การได้เจรจากับมหาวิทาลัยโดยตรงแบบ individual basis มันก็มีให้เห็นอยู่ในหลาย ๆ เคสเป็นต้น และก็ไม่แปลกถ้าจำนวนมหาวิทยาลัยมีมากมายขนาดนี้ และมหาวิทยาลัยใหญ่ ๆ ไม่ได้มีเอเจนซี่ตามประเทศต่างๆ ก็ต้องพูดแบบตรงไปตรงมาว่ามหาวิทยาลัยที่มีความเก่าแก่มานาน ความแข่งขันทั้งนักเรียนในประเทศที่ต้องการเข้าไปเรียนที่มีจำนวนมากมายขนาดนั้น คือว่ากันภาษาง่าย ๆ การแข่งขันเข้าเรียนมีสูงมากพอ และมีนักเรียนมากมายเพียงพอในแต่ละปีอยู่แล้ว เราจึงเห็นข้อความในมหาวิทยาลัยที่ว่านักเรียนต้องสมัครตรงเข้ามหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยไม่ได้มีพาร์ทเนอร์ตัวแทนในการช่วยเรื่องใบสมัคร เป็นต้น ซึ่งจะแตกต่างจากในหลายประเทศ เช่น อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเยอรมัน แต่แน่นอนในบางมหาวิทยาลัยก็เริ่มเห็นความสำคัญ และเริ่มมีพันธมิตรในการช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติมากขึ้น และเริ่มมีระบบการเรียนที่เป็น Pathways มากขึ้นด้วยเช่นกัน Academic Year จะมีเรียนทั้งหมด 4 เทอม ต่อปี การเรียนจะแบ่งซอยย่อย แต่ละเทอม บางทีอาจจะเรียนแค่เทอมละสองวิชา-สามวิชาต่อเทอมก็ยังได้ ทำให้นักเรียนมีเวลามากในการค้นคว้า และทำคะแนนได้ดี ซึ่งถือเป็นจุดเด่นในการเรียนที่ประเทศอเมริกา การเก็บเครดิตอย่างต่ำเช่น 6 เครดิตต่อภาคการศึกษา เป็นต้น โอกาสในการทำงานหลังจบการศึกษา หรือระหว่างเรียน แน่นอนว่ายังถือเป็นจุดแข็งของอเมริกาที่ในบางคณะวิชามีโอกาสที่จะทำงานหลังจากจบการศึกษาได้ การรับเข้านอกจากจะสมัครเข้าตรง ในหลาย ๆ มหาวิทยาลัยเริ่มมีทางเลือกให้นักเรียนต่างชาติมากขึ้น หากเกรดเฉลี่ยหรือภาษาจะยังไม่ถึงการได้เรียนแบบ Pathways ที่มหาวิทยาลัยได้ทำร่วมกับเอกชนที่ทำหลักสูตรเพื่อเตรียมความพร้อมก่อน ดังนั้นคุณสมบัติผู้สมัครในการสมัครก็จะลดลงมา เช่น เกรดเฉลี่ย และผลคะแนนภาษา ระยะเวลาการเรียนปริญญาโทอเมริกา ก็ส่วนใหญ่ใช้เวลาได้เริ่มต้น 1-2 ปี การเรียนระยะเวลาหนึ่งปี นั้นหมายความว่านักเรียนเองจำเป็นต้องมีเกรดที่ดีในการที่เรียนวิชาต่าง ๆ ให้จบภายในหนึ่งปีด้วยเช่นกัน แต่ถ้าไม่ได้มีเวลาจำกัดการเรียน จริงๆ แล้วระยะเวลาสองปีที่เป็นช่วงเวลาที่ดีในการเก็บเกี่ยววิชาความรู้และประสบการณ์ต่างแดนได้ดีกว่าถ้านับการเก็บเครดิตในแต่ละเทอมให้เต็มที่ ยกเว้นในกรณีที่นักเรียนต้องเรียนเข้าเรียนแบบระบบ Pathways ก็อาจจะมีระยะเวลาในการเรียนบวกเพิ่มขึ้นไป ขั้นตอนในการรับสมัครปริญญาโทอเมริกา
เรียนต่อปริญญาโทออสเตรเลีย สำหรับนักเรียนที่สนใจเรียนต่อปริญญาโทออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลียยังเป็นเป้าหมายหลัก ๆ สำหรับนักเรียนไทยเช่นกัน ด้วยคุณภาพการศึกษา และคุณภาพชีวิตถือว่าออสเตรเลียให้คำตอบในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดเด่นเรื่องของโอกาสทางการทำงานไม่ว่าจะเป็นระหว่างเรียนหรือหลังเรียนจบ ณ ปัจจุบันประเทศออสเตรเลียถือว่าให้โอกาสกับนักศึกษาสามารถทำงานได้ถูกต้องตามกฎหมาย
การรับเข้ามหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย จะต่างนิดหน่อยตรงที่ว่า ในหลาย ๆคณะ หากมหาวิทยาลัยพิจารณาแล้วว่าคุณสมบัติอาจจะยังขาดไปบ้าง การเรียนในมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียจะมีให้ปรับพื้นฐานก่อนการเข้าสู่ระดับปริญญาโท ซึ่งจะพบบ่อย แบบเรียนเป็นขั้น ๆ ก่อน เช่น นักเรียนเรียนจบปริญญาตรี สาขารัฐศาตร์มา แต่สนใจอยากเรียนการตลาดในระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียอาจจะยื่นเงื่อนไขให้เรียนเป็นขั้นโดยแบ่งดังนี้ Stage one: Academic English Language (ในกรณีที่ภาษาไม่ถึงตามเกณฑ์ที่กำหนด) ระยะเวลาระดับปริญญาโทออสเตรเลีย ส่วนใหญ่อาจจะใช้เวลาที่มากกว่าคืออาจจะอยู่ประมาณหนึ่งปีกว่า ๆ ถึงสองปีในบางกรณี ขั้นตอนในการรับสมัครปริญญาโทออสเตรเลีย
เรียนต่อปริญญาโทนิวซีแลนด์ (Master Degree Level 9) จะว่าไปภาพกว้างๆ ก็มีคล้ายอยู่กับประเทศออสเตรเลียอยู่บ้างตรงจุดเด่นที่นักเรียนปริญญาโทสามารถทำงานได้ระหว่างเรียนและหลังจบการศึกษาก็ให้โอกาสต่อวีซ่าประเภท Post Study Work ได้เช่นกัน นับว่าเป็นตัวเลือกสำหรับนักเรียนไทย ๆ หลาย ๆ คนที่ชอบอยากหาประสบการณ์การทำงานหลังเรียนจบ Academic Year ระยะเวลาเรียนอยู่ประมาณ 15 เดือน
บางโปรแกรมมี 5 เทอม หรือ 8 สัปดาห์ต่อเทอม เช่น หรือบางโปรแกรมเรียน 3 เทอม หรือ 16 สัปดาห์ต่อเทอม เช่น ขั้นตอนในการรับสมัครปริญญาโทนิวซีแลนด์
เรียนต่อปริญญาโทเยอรมัน สำหรับตัวเลือกข้ามฝั่งกลับไปฝั่งยุโรป ประเทศที่มีความเจริญทางเทคโนโลยีอย่างเยอรมัน ตัวเลือกใหม่ของนักเรียนไทยถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว เพราะว่ามหาวิทยาลัยในเยอรมันก็มีหลักสูตรนานาชาติที่สามารถรองรับให้นักเรียนไทยเข้าไปศึกษาต่อได้ ซึ่งการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ จะว่าตัวเลือกนี้นอกจากจะได้ใช้ภาษาอังกฤษแล้ว หากการใช้ชีวิตประจำวันจะทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ภาษาเยอรมันถือว่าเป็นการเพิ่มต้นทุนให้ประสบการณ์การใช้ภาษาด้วยเช่นกัน และหากจบการศึกษาระดับปริญญา นักเรียนก็สามารถได้วีซ่าทำงานหลังเรียนจบได้อีก อย่างน้อย ๆ หนึ่งปี ก็ถือว่าทำให้นักเรียนได้รับโอกาสที่ดีในการเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างแท้จริง Academic Year ระยะเวลาเรียนต่อโทเยอรมันประมาณ 1 ปี หรือ 2 Semester เปิดสอนสอง Intake คือช่วง Spring/Autumn (มีนาคม หรือ กันยายน) แต่ในบางกรณีหากนักเรียนบางคนไม่มีแบคกราวน์ในสาขานั้น จำเป็นอาจจะลงโปรแกรมเรียน Pre-Master Preparation Course Master ระยะเวลาประมาณ 3 เดือนก่อนคอร์สปริญญาโทจะเริ่ม และที่น่าสนใจในประเทศเยอรมันคือ หลังจากเรียนจบปริญญาโท มหาวิทยาลัยก็จัดเป็นคอร์สเตรียมตัวเข้าพร้อมสู่โลกการทำงานด้วยโปรแกรมที่เรียกว่า Career Preparation Programme อีก 6 เดือนหลังจากจบปริญญาด้วยเพื่อนก้าวสู่การทำงานฝึกทักษะด้านผู้นำ เพื่อเข้าสู่ตลาดแรงงานในเยอรมันต่อไป ขั้นตอนในการรับสมัครปริญญาโทเยอรมัน
เรียนต่อปริญญาโทแคนาดา เรียนต่อโทแคนาดาจริง ๆ มีความคล้ายกับในประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่หลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนระยะเวลาที่เรียน ข้อกำหนดในการสอบเข้า การแข่งขันในบางมหาวิทยาลัยที่มีการแข่งขันกันสูงในเขตบริติชโคลัมเบีย การรับสมัครปริญญาโทก็จะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละสาขาและของมหาวิทยาลัยในแคนาดาเช่นกัน Academic Year: ระยะเวลาเรียนต่อปริญญาโทแคนาดาอยู่ประมาณ 1.5-2 ปี เปิดสอน Intake ช่วง กันยายน /มกราคม พฤษภาคม ขั้นตอนในการรับสมัครปริญญาโทแคนาดา
ไปเรียนต่างประเทศใช้คะแนนอะไรบ้างถ้าไปเรียนต่อหลักสูตรนานาชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก มหาวิทยาลัยมักต้องการให้ผู้สมัครยื่นคะแนนสอบภาษาอังกฤษประกอบการพิจารณาด้วย โดยผลคะแนนที่นิยมใช้กันแพร่หลายก็ได้แก่ TOEFL และ IELTS หรือบางคอร์สอาจต้องยื่นคะแนนอื่นๆ เช่น GRE หรือ GMAT ประกอบด้วย อย่าลืมทำการบ้านล่วงหน้าว่ามหาวิทยาลัยที่สมัครต้องการคะแนนอะไรบ้าง จะ ...
ต่อ ป.โท ใช้เอกสารอะไรบ้าง1) ใบสมัครระดับบัณฑิตศึกษา 2) สำเนาใบรายงานผลการศึกษา กรณีเรียนหลักสูตรต่อเนื่อง ต้องแนบสำเนาแสดงผลการศึกษาระดับ ปวส.มาด้วย จำนวน 2 ฉบับ 3) รูปถ่าย 1 นิ้ว (อายุไม่เกิน 6 เดือนก่อนรับสมัคร) จำนวน 3 รูป 4) สำเนาบัตรประชาชน / สำเนา Passport สำหรับชาวต่างชาติ จำนวน 1 ฉบับ
จะไปเรียนต่อต่างประเทศต้องเตรียมอะไรบ้างต้องใส่อะไรในกระเป๋าขึ้นเครื่องบ้าง. สำเนาหนังสือเดินทาง (passport copy). เครื่องใช้ในห้องน้ำ เช่น คอนแทคเลนส์และน้ำยาทำความสะอาด เครื่องสำอาง มีดโกนต่างๆ. ปลั๊กพ่วงและสายไฟ - เพื่อให้คุณสามารถเสียบปลั๊กได้หลายเครื่องด้วยอแดปเตอร์ตัวเดียว. หนังสือและอุปกรณ์การเรียนต่างๆ. เสื้อผ้าที่เหมาะกับช่วงฤดูที่จะไปอยู่. สมัครเรียน ป.ตรี ต้องใช้อะไรบ้างเอกสารประกอบการสมัครเรียน. ใบสมัครเข้าศึกษาระดับปริญญาตรี/โท 1 ฉบับ. สำเนาบัตรประชาชน/สำเนาบัตรข้าราชการ(ถ้ามี) 3 ฉบับ. สำเนาทะเบียนบ้าน 3 ฉบับ. สำเนาวุฒิการศึกษาที่ถูกต้องสมบูรณ์ ระบุวันสำเร็จการศึกษา (ใบ รบ. ... . กรณีเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล ให้แนบสำเนาการเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล 3 ฉบับ. |