ขอโทษค่ะไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก

ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก

5.9M views

Show

กรี๊ดดดด อยากจะกรี๊ดดทุกครั้งทีได้ยิน ประโยคนี้ค่ะ เวลาคุณสามีออกไปร่วมชุมนุม แต่ละที ติดต่อยากม๊ากกกกกกกก ทำไงดีคะ ไลน์ไปก็นานนกว่าจะตอบบบ เราเองก็ไม่อยากจะห้ามเค้าไม่ให้ไป เพราะเรื่องแบบนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่เรากลัวจะไม่ได้ไปชุมนุม เหลวไหลไปที่อื่นแล้วอ้างชุมนุม มากๆๆ

^ ^ วันนี้มาแนะนำ วิธีการดูว่า ...
ปิดเครื่อง หรือว่า แบตฯหมด 

ขอโทษค่ะไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก

1. ปิดเครื่อง
    - เมื่อเรากดปิดเครื่อง ก่อนปิดเครื่องเครื่องจะส่งสัญญาณไปบอกระบบว่า
"ฉันจะปิดเครื่องแล้วนะ"  =')

  = ผลก็คือ เมื่อโทรเข้า จะได้ยิน ...
"ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก" ทันที

2. แบตฯ หมด
  - ถ้าแบตหมดหรือไม่มีสัญญาณ เครื่องจะยังไม่ทันส่งสัญญาณไปบอกระบบ
ระบบจะไม่รู้ว่า คุณปิดเครื่อง จึงทำการค้นหาสัญญาณ เมื่อมีคนโทรเข้า

  = ผลก็คือ เมื่อโทรเข้า จะเป็นเสียงเงียบอยู่ประมาณ 5-10 วินาที
ก่อนที่จะได้ยินคำว่า "ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก"

นำมาแนะนำไว้ให้เป็นทริปเฉย ๆนะคะ
ไม่ได้จะมาทำให้คุณกลายเป็นคนระแวง หรืออย่างไร 

ขอโทษค่ะไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก

.... กระทู้นี้ย้ายมาจากห้องเบ็ดเตล็ด ...

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

วิธีการ รู้ว่าคนอื่นบล็อกเบอร์โทรคุณ

วิธีการ 1 วิธีการ 1 ของ 2:เช็คให้ชัวร์ว่าถูกบล็อก

  1. โทรหาคนที่สงสัยว่าจะบล็อกเบอร์คุณ. ถ้าส่ง SMS ไป ไม่มีทางเช็คได้แน่นอน ว่าเขาบล็อกคุณหรือเปล่า เพราะงั้นจะรออะไร โทรหาเขาเลย

  2. ฟังเสียงที่ปลายสาย. ถ้าดังแค่ทีเดียวแล้วถูกตัดสาย (หรือบางทีก็ไม่ทันถึง 1 ตื๊ด) หรือเข้า voicemail แทน ก็เป็นไปได้ว่าคุณถูกเขาบล็อก หรือมือถือเขาแบตหมด

    • อันนี้ก็แล้วแต่ค่ายมือถือที่เขาใช้ด้วย บางทีอาจจะได้ยินข้อความว่า "ไม่มีหมายเลขที่ท่านเรียก", "ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก" หรือ "เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้" เพื่อบอกว่าติดต่อเบอร์โทรนั้นไม่ได้ ซึ่งก็เป็นไปได้ทั้งเขาปิดเครื่อง เบอร์โทรถูกระงับ หรือคุณถูกบล็อกซะเอง
    • แต่ถ้าปลายสายเป็นเสียงเจ้าของเบอร์เขาฮัลโหลมา ก็แน่นอนว่าคุณไม่ได้ถูกบล็อก
  3. โทรซ้ำอีกรอบเพื่อยืนยัน. อย่างที่บอกว่าบางทีคุณก็ถูกตัดเข้า voicemail หรือได้ยินข้อความตามที่บอก ทั้งๆ ที่สายก็ว่างดี แถมเขาไม่ได้บล็อกคุณ เพราะงั้นต้องเช็คให้ชัวร์โดยโทรซ้ำ 2 - 3 รอบได้ยิ่งดี

    • แต่ถ้ายังจบแบบเดิม คือถูกตัดสายใน 1 หรือครึ่งตื๊ด ถูกตัดเข้า voicemail หรือได้ยินข้อความอย่างที่บอกไป ก็เป็นไปได้ว่ามือถือเขาแบตหมด ถูกตัด หรือเขาบล็อกเบอร์โทรคุณ
  4. ใช้เบอร์ปลอมโทรไป. ใช้ซิมใหม่ หรือยืมเครื่องคนอื่นโทร ไม่ก็ตั้งค่าให้มือถือไม่โชว์เบอร์ แล้วลองโทรหาเขาดูอีกครั้ง ที่แนะนำให้ใช้เบอร์อื่นโทรเพราะถ้าไม่โชว์เบอร์เขาอาจพาลไม่รับได้ วิธีนี้แหละที่เช็คได้ดีว่าตกลงเขาบล็อกคุณจริงหรือเปล่า

    • ถ้าเสียงปลายสายดังตามปกติ คือตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด ไปเรื่อยๆ เหมือนเวลารอสายทั่วไป แสดงว่าเขาบล็อกเบอร์คุณ พอใช้เบอร์อื่นโทรถึงติดต่อได้ตามปกติ
    • ถ้ายังถูกตัดสายใน 1 หรือครึ่งตื๊ด ถูกตัดเข้า voicemail หรือได้ยินข้อความอย่างที่บอกไป แสดงว่าเป็นที่เครื่องหรือเบอร์โทรของเขาแล้วล่ะ
    ขอโทษค่ะไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
  5. ให้เพื่อนช่วยติดต่อ. อย่างที่บอกว่าให้ลองเปลี่ยนซิมหรือยืมเครื่องเพื่อนโทรดู แต่ถ้าอยากเช็คให้ชัวร์แต่ก็กลัวผลลัพธ์ ถ้าได้ยินเสียงรอสายตามปกติ ก็ให้เพื่อนช่วยคุยซะเลย ว่าเกิดอะไรขึ้น วิธีนี้สุ่มเสี่ยงอยู่ เพราะถ้าเจ้าของเบอร์เคืองจนบล็อกคุณจริง เขาอาจจะโกรธลามมาถึงคนที่คุณวานให้ช่วยโทรเช็ค ถ้าเป็นเพื่อนร่วมกัน

วิธีการ 2 วิธีการ 2 ของ 2:ติดต่อช่องทางอื่น

  1. ยอมรับผลที่อาจตามมา. ถ้าเขาบล็อกคุณโดยบังเอิญ โทรไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าเขาจงใจบล็อก แล้วคุณยังดันทุรังติดต่อ เขาอาจมองเป็นการคุกคามตามรังควานได้ ซึ่งเขาสามารถดำเนินคดีกับคุณได้เลย ยังไงลองอ่านสถานการณ์ดูก่อน

  2. โทรด้วยเบอร์อื่นหรือซ่อนเบอร์. อย่างที่บอกว่าในมือถือจะมีให้ตั้งค่าซ่อนเบอร์ได้ เวลาโทรไปก็จะขึ้นว่า "เบอร์ที่ไม่รู้จัก" หรือ "Unknown"

    • แต่ข้อเสียคือขนาดคุณเองยังระแวง ไม่ค่อยรับสายเบอร์ที่ไม่มีหมายเลข ขึ้นแต่ว่า "เบอร์ที่ไม่รู้จัก", "Unknown" หรือ "Restricted" เพราะเดี๋ยวนี้มิจฉาชีพเยอะเหลือเกิน เลยแนะนำให้หาซิมเบอร์อื่น หรือยืมมือถือเพื่อนโทรแทน
  3. ทักแชทไป. เช่น ทักไปใน Line หรือ Facebook ถ้าใช้กันทั้งคู่แล้วเคยแชทกัน นอกจากนี้ก็ยังมี WhatsApp, Viber, Skype และโปรแกรมแชทอื่นๆ ยังไงลองเลือกที่เขาออนเป็นประจำ

  4. ทิ้งข้อความไว้ใน voicemail. ถึงเขาจะไม่ได้รับแจ้งเตือนว่าคุณโทรมาหรือฝากข้อความไว้ใน voicemail แต่ถ้าเปิดฟังเมื่อไหร่ก็อยู่ในนั้นแหละ เพราะงั้นก็อาศัยช่องทางนี้ฝากข้อความสำคัญที่อยากให้เขารู้ไว้ซะเลย

  5. โพสต์ในโซเชียล. ถ้ามีเรื่องสำคัญหรือคอขาดบาดตายต้องติดต่อคนที่บล็อกคุณจริงๆ ก็อีเมลไป หรือหลังไมค์ไปหาเขาตามโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่เขาใช้ได้เลย หรือด่วนกว่านั้นและไม่ใช่เรื่องส่วนตัวหรือความลับ ก็โพสต์ที่หน้าของเขาซะเลย แต่ย้ำอีกทีว่าต้องเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ ถ้ากลายเป็นว่าเขาบล็อกเพราะคุณไปทำเขาโกรธก่อน ก็อย่าเพิ่งไปราดน้ำมันใส่กองไฟ รอจนเขาสงบใจได้ค่อยติดต่อก็ยังไม่สาย