การแก้ปัญหาในการ ประกอบอาหาร

                การประกอบอาหารสำรับคาวตามกระบวนการทำงาน เป็นการประกอบอาหารสำรับในท้องถิ่นภาคกลาง ดังตัวอย่างต่อไปนี้

                การทำแกงเลียง ตามกระบวนการทำงานมีขั้นตอนดังนี้

                1.  การวิเคราะห์งาน เป็นการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำแกงเลียง และศึกษาคุณสมบัติของผู้ปฏิบัติงาน เพื่อนำมาใช้ในการวางแผนการทำแกงเลียง ซึ่งวิเคราะห์ได้ดังนี้

                      ลักษณะงาน แกงเลียงเป็นอาหารสำรับในท้องถิ่นภาคกลาง จัดเป็นอาหารประเภทแกงที่ใส่เครื่องพริกแกงเลียงและผักสดหลายชนิด ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ผู้ปฏิบัติงานควรศึกษาเกี่ยวกับวิธีการทำแกงเลียง การจัดเตรียมวัตถุดิบ เครื่องปรุง ภาชนะ และเครื่องใช้ในการประกอบอาหาร ซึ่งจะใช้เวลาในการปฏิบัติงานประมาณ 30 นาที

                      คุณสมบัติของผู้ปฏิบัติงาน ควรเป็นผู้ที่มีความรู้ด้านอาหาร โภชนาการอาหาร รักความสะอาด มีความประณีต มีทักษะการวางแผน ทักษะการจัดการ และทักษะการแก้ปัญหา

2.  การวางแผนในการทำงาน เป็นการกำหนดกรอบในการทำงาน โดยสร้างแผนที่ความคิด เพื่อให้เห็นภาพรวมของการทำงาน ดังนี้

การแก้ปัญหาในการ ประกอบอาหาร

                3.  การปฏิบัติงานตามลำดับขั้นตอน เป็นการทำแกงเลียงตามขั้นตอนต่อไปนี้

                      1)  ล้างวัตถุดิบทั้งหมดให้สะอาด แล้วปอกเปลือกฟักทองและบวบ หั่นเป็นชิ้นพอคำ ข้าวโพดอ่อนหั่นแฉลบ เห็ดฟางผ่าครึ่ง เด็ดตำลึงและแมงลักเอาเฉพาะยอดและใบอ่อน กุ้งนำมาปอกเปลือก

                      2)  เทน้ำซุปใส่หม้อ ตั้งไฟปานกลางจนเดือด ใส่เครื่องพริกแกงเลียง พอน้ำแกงเดือดใส่ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน เห็ดฟาง บวบ กุ้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา ชิมรสชาติ

                      3)  รอจนผักสุก ใส่ตำลึง แมงลัก คนให้เข้ากัน แล้วตักใส่ชาม

                4.  การประเมินผลการทำงาน เป็นการตรวจสอบรสชาติแกงเลียง ถ้ามีรสชาติจืดเกินไป ควรเติมน้ำปลาเพิ่มเติม ถ้าต้องการให้ผักในแกงเลียงมีสีสด ควรใส่ผักตอนน้ำเดือดจัด

ใครที่เปิดร้านขายอาหารตามสั่งอยู่ แล้วสงสัยว่าจะต้องปรับตัวอย่างไรให้ยอดขายทะลัก อยากให้หน้าร้านขายอาหารได้หมดเกลี้ยง ไม่มีของเหลือทิ้งให้ปวดใจ ยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชั่นส์ จะมาบอก 3 วิธีลดปัญหาของเหลือในร้านอาหาร เจ้าของร้านอาหารหรือผู้ประกอบการร้านอาหารคนไหนนำไปใช้ รับรองเลยว่าหน้าร้านขายอาหารหมด บริหารสต็อกได้สบายแบบไม่ขาดทุน และที่สำคัญไม่ต้องมีวัตถุดิบเหลือทิ้งให้สิ้นเปลืองต้นทุนอาหารอีกด้วย จะมีวิธีใดบ้าง มาดูกันเลย

1 เริ่มจากเมนูง่าย ๆ ที่คนชอบ 'เมนูข้าวตามสั่ง เลือกดี ๆ กำไรอื้อ'

สำหรับร้านอาหารที่เจ้าของธุรกิจเพิ่งเริ่มเปิดร้านหรือยังไม่แน่ใจว่าจะเน้นขายเมนูใดเป็นหลัก สิ่งนี้จะไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป เพราะสิ่งแรกที่เจ้าของร้านต้องทำคือ จะต้องมีการกำหนดเมนูของร้านก่อน แต่จะต้องเป็นการเลือกเมนูที่ไม่ใช่แค่คิดเมนูไปเรื่อย ๆ เช่น อยากขายเมนูนั้น อยากขายเมนูนี้ สิ่งเหล่านี้จะยิ่งทำให้รู้สึกสับสน และจับทางไม่ถูกว่าร้านอาหารที่เราทำควรมีเมนูไหนไว้เสิร์ฟให้กับลูกค้า

ทางที่ดีควรเอาเฉพาะเมนูที่คุณทำแล้วมั่นใจว่าอร่อย เป็นเมนูที่เสิร์ฟแล้วลูกค้าชอบ อย่างเช่น ลองกำหนดเมนูง่าย ๆ ตามที่คนทั่วไปชอบ เช่น อาหารประเภทข้าวผัด ผัดกะเพรา ยำรสแซ่บ หรือของทอด ก็เป็นเมนูที่คนชอบ และสำหรับใครที่ยังไม่มีไอเดีย ยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชั่นส์ ก็มีสูตรอาหารจานเดียวมาให้ทุกคนอีกเช่นเคย กับ 10 เมนูยอดนิยม ทำง่าย ขายดีที่เจ้าของร้านสามารถนำสูตรนี้ไปฝึกทำให้คล่อง พร้อมเป็นอาหารจานเดียวที่ไม่ว่าลูกค้าคนไหนได้ทานก็อร่อยได้มาตรฐานทุกจาน เป็นร้านอาหารตามสั่งที่มีรสชาติดี คุณภาพคับจาน อร่อยได้หลากหลายเมนู ลูกค้าชอบไม่มีเบื่อ อย่างเช่น ต่อยอดเมนูอาหารจานเดียว อย่าง ข้าวผัดกะเพรา ด้วยการต่อยอดเมนูทำเป็นไข่เยี่ยวม้ากะเพรากรอบราดข้าว ทั้งคุ้มทั้งอิ่ม ทำได้ง่าย และเร็วในไม่กี่ขั้นตอน ลูกค้าได้กินเป็นต้องติดใจ

เคล็ดลับ: เจ้าของร้านต้องทำคู่มือสูตรอาหารของร้านตัวเอง แต่ต้องจำไว้เสมอว่า การที่เรามีส่วนผสมของเมนูที่แม่น งดการปรุงอาหารจากรสมือ จะทำให้อาหารมีรสชาติคงที่ โดยวิธีการที่ง่ายที่สุด คือเจ้าของร้านต้องมีการรวบรวมวิธีการปรุงอาหารแต่ละเมนู การใช้วัตถุดิบ และการปรุงรสควรมีอัตราส่วนผสมของแต่ละเมนูที่ชัดเจน ทางร้านสามารถทำวิธีการปรุงให้เป็นหน่วยช้อน เพื่อความง่ายในการปรุง และทำให้ได้อาหารที่มีรสชาติคงที่ พร้อมเป็นอาหารจานด่วนที่ลูกค้าไม่ต้องรอนาน เพราะหากฝีมือ หรือสูตรยังไม่นิ่ง และมีการปรับเปลี่ยนสูตรอยู่ทุกวัน จะทำให้ลูกค้าส่ายหัวได้ ซึ่งสิ่งนี้จะไม่เป็นผลดีกับร้านของคุณแน่นอน

2 'แม่ซอสปรุงสำเร็จ' ของมันต้องมี ร้านขาดไม่ได้

มีหน้าร้านแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน เจ้าของร้านสามารถเริ่มต้นด้วยการมีตัวซอสสำหรับผัด ที่มีไว้สำหรับเมนูผัดข้าวผัด ผัดกะเพรา ผัดผัก รวมไปถึงการใช้ซอสในการหมักหมู ไก่ ให้นุ่มอร่อย ที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจทุกครั้งที่ได้ทาน

สาเหตุที่ร้านอาหารต้องมีแม่ซอสปรุงสำเร็จในการทำอาหารนั้น เป็นเพราะว่าแม่ซอสปรุงสำเร็จช่วยทำให้อาหารอร่อยได้คงที่ทุกจาน ซึ่งจะดีกว่าการตักซอสปรุงทีละครั้ง ที่นอกจากจะทำให้รสชาติของจานอาหารไม่แน่นอนแล้ว ยังทำให้ร้านไม่สามารถควบคุมต้นทุนอาหารที่เป็นเครื่องปรุงให้คงที่ได้อีกด้วย การมีซอสปรุงสำเร็จจะทำให้ร้านอาหารสามารถทำอาหารจานด่วนได้เร็ว รสชาติอร่อยคงที่ และช่วยช่วยควบคุมคุณภาพอาหาร และต้นทุนไม่ให้บานปลาย รวมถึงการที่ร้านอาหารมีซอสไว้สำหรับหมักเนื้อสัตว์อย่างพวกหมู ไก่ หรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ จะทำให้ได้เนื้อที่มีรสชาติอร่อยกว่าเนื้อที่ไม่หมักเมื่อนำไปทำอาหารนั่นเอง คลิกเพื่อดูรวมสูตรแม่ซอสปรุงสำเร็จ

เคล็ดลับ:

  • อยากควบคุมต้นทุนอาหารได้อย่างคงที่ สามารถใช้ผงปรุงครบรส รสไก่ ตราคนอร์ อร่อยชัวร์ หรือผงปรุงครบรส รสหมู ตราคนอร์ อร่อยชัวร์ แพ็กใหญ่ เป็นตัวช่วยผู้ประกอบการควบคุมต้นทุนได้หายห่วง ครบเครื่องกระเทียมพริกไทย ได้มาตรฐานความอร่อยทุกจานจนลูกค้าแน่นร้าน
  • สำหรับร้านอาหารที่ต้องการหมักเนื้อสัตว์เอง ไม่ว่าจะเป็นพวกเนื้อหมู วัว หรือไก่ ก่อนอื่นต้องหั่นเนื้อเนื้อให้ได้ขนาดเท่ากันทุกชิ้น สามารถเลือกสไลด์เนื้อให้เป็นแท่งที่มีความกว้างประมาณ 2 นิ้ว โดยมีความหนาประมาณ 1 นิ้ว ส่วนความยาวสามารถหั่นได้ตามใจชอบ เวลาที่หั่นจะต้องวางมีดประมาณ 50 องศา แล้วค่อย ๆ ทำการหั่นเนื้อให้เป็นแผ่นบาง อย่าหนามาก และควรหั่นแบบขวางลาย จะทำให้เนื้อที่หมักมีความนุ่มอร่อย และเคี้ยวง่าย
  • สามารถนำเนื้อสัตว์ไปหมักกับแม่ซอสปรุงสำเร็จ สำหรับเนื้อหมูหนึ่งถ้วยให้ใส่แม่ซอสปรุงสำเร็จสัก 1-2 ช้อนโต๊ะ โรยเบกกิ้งโซดาประมาณ ½ ช้อนชา หมักไว้นอกตู้เย็นประมาณ 30 นาที หรือจะนำเข้าตู้เย็นก็ได้ ทำให้เนื้อสัตว์ที่หมักอยู่ได้เป็นวัน
  • เพื่อให้เนื้อหมักของร้านคุณอร่อยกลมกล่อม ถูกปากคุณลูกค้า อย่าลืมใช้ผงปรุงครบรส รสไก่ ตราคนอร์ อร่อยชัวร์ หรือผงปรุงครบรส รสหมู ตราคนอร์ อร่อยชัวร์ จะทำให้เนื้อหมูที่หมักมีกลิ่นหอมอร่อยครบเครื่องกระเทียมพริกไทย ละลายง่าย เข้มข้น เข้าเนื้อเร็ว พร้อมเป็นตัวช่วยผู้ประกอบการมืออาชีพ

3 กำหนดสัดส่วนจานให้เป๊ะ ได้ใจลูกค้าแบบเต็ม ๆ

อย่าลืมคิดเรื่องต้นทุนอาหารเด็ดขาด ร้านอาหารจะต้องทำราคาขายให้เหมาะสมกับคุณภาพอาหาร โดยจะต้องคำนึงถึงเรื่องของการจัดซื้อวัตถุดิบ การจัดเก็บ ไม่ให้มีของเหลือทิ้ง เพื่อให้มีเงินเก็บอยู่ในมือมากที่สุด ยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชั่นส์ จึงขอนำเสนอสูตรคำนวณต้นทุนอาหาร เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการบริหารร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับอาหารตามสั่งทั่วไปจะต้องมีต้นทุนที่ไม่สูง ขายไม่แพง ทำได้เร็ว เจ้าของร้านควรกำหนดสัดส่วนวัตถุดิบเพื่อให้มั่นใจว่าอาหารทุกเมนูที่ส่งตรงจากครัวถึงโต๊ะอาหารจะต้องมีปริมาณเท่ากัน เคล็ดลับง่าย ๆ ในการกำหนดสัดส่วนวัตถุดิบ เริ่มแรกต้องกำหนดสัดส่วนวัตถุดิบของทุกเมนู โดยสัดส่วนของอาหารที่ดีจะต้องไม่เล็ก หรือมากจนเกินไป ทางร้านจะต้องควบคุมปริมาณของอาหารให้อยู่ในปริมาณที่พอดี เพราะต่อให้ร้านคุณอยากสร้างความประทับใจให้ลูกค้ามากแค่ไหน ก็ต้องอย่าลืมเรื่องของการบริหารต้นทุนวัตถุดิบของร้านอาหารอยู่เสมอด้วย

เคล็ดลับ:

  • ต้นทุนของสดพวกผักจะมีราคาไม่คงที่ เจ้าของร้านจะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายตรงนี้ และไม่สามารถผลักภาระนี้ไปให้กับลูกค้าด้วยการขึ้นราคาอาหาร ที่อาจจะส่งผลให้ลูกค้าไปใช้บริการที่ร้านอื่นแทนได้ เจ้าของร้านจะต้องรู้วิธีการรับมือเมื่อต้องเจอกับปัญหาผักแพง เพราะการควบคุมต้นทุนให้อยู่ เป็นเรื่องที่สำคัญ
  • ลองเปลี่ยนวิธีการสต็อกวัตถุดิบจากที่เคยใช้ของสดพวกมะนาวสดในการปรุงอาหาร เช่นในการทำเมนูยำยอดนิยมต่างๆ อย่าง ยำวุ้นเส้น ยำหมูกรอบ และยำขนมจีน เจ้าของธุรกิจสามารถใช้ผงรสมะนาว ตราคนอร์ แทนได้ ลดการเสียต้นทุนในการขนส่ง หมดปัญหาเรื่องของสดที่เหลือทิ้ง ทำจากมะนาวแป้นแท้ 100% สามารถนำไปปรุงอาหารได้ทันทีแบบไม่ต้องเสียเวลาคั้นให้ยุ่งยาก สามารถกำหนดสัดส่วนในการใช้ได้ง่าย และช่วยให้ทุกจานมีความเปรี้ยวที่คงที่ และรสชาติไม่เพี้ยน สร้างความประทับใจ ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหารได้เป็นอย่างดี

เพียงเท่านี้ร้านของคุณก็สามารถลดปัญหาของเหลือในร้านอาหารได้แล้ว รับรองความขายดีจนทำแทบไม่ทัน ขายหมดทุกวันแน่นอน และอย่าลืมทำให้ทุกจานในร้านของคุณอร่อยได้มาตรฐานทุกจาน ด้วยการเลือกใช้เครื่องปรุงจากคนอร์ สำหรับผู้ประกอบการมืออาชีพ (Knorr Professional) ไม่ต้องสต็อกของสดให้ยุ่งยาก ควบคุมต้นได้คงที่ อาหารอร่อยตั้งแต่นาทีแรกที่ปรุงไปจนถึงมือลูกค้า เคล็ดลับความอร่อยที่มัดใจลูกค้าได้อยู่หมัด