งานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น (สอศ.) (รหัสวิชา 20100-1005) มีแผน+เฉลย (PDF) หนังสือเล่มนี้เรียบเรียงตามจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคำอธิบายรายวิชา หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เนื้อหาโดยสังเขป หนังสือเล่มนี้ มีเนื้อหาประกอบไปด้วยการศึกษาและปฏิบัติงานเกี่ยวกับ "หลักความปลอดภัยในปฏิบัติงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์" แหล่งกำเหนิดไฟฟ้า กฏของโอห์ม พลังงานไฟฟ้า วงจรไฟฟ้าเบื้องต้น วงจรไฟฟ้าแสงสว่าง กฏควบคุมมอเตอร์เบื้องต้น อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าและการต่อสายดิน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ R L C หม้อแปลงไฟฟ้า รีเลย์ ไมโครโฟน ลำโพง อุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ การบัดกรี การใช้มัลติมอเตอร์ เครื่องกำเหนิดสัญญาณ ออสซิลโลสโคป การประกอบวงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น เหมาะสำหรับใช้ประกอบการเรียนการสอนรายวิชา กลุ่มสมรรถนะรายวิชาพื้นฐาน ประเภทวิชาอุตสาหกรรม ตรงตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ สารบัญ บทที่ 1 ความปลอดภัยในงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Safety of Electrical and Electronics) รายละเอียดหนังสือ สินค้าที่ลูกค้ามักซื้อด้วยกัน ใบเนือ้ หา หนา้ ท่ี ๑ / ๑๔ ระบบความปลอดภยั ในงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์ ๑.๑ ทฤษฎีความปลอดภยั ในงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ๑.๑.๑ ประโยชนข์ องไฟฟ้า ไฟฟ้า เป็นพลังงานรปู หนึง่ ท่ีสามารถเปลย่ี นรูปเป็นพลงั งานรปู อ่นื ๆ ไดห้ ลายรปู แบบ โดยอาศัย ๑) ใหค้ วามรอ้ น เชน่ เตารดี หม้อหงุ ขา้ วไฟฟา้ กาต้มน้าไฟฟา้ เป็นตน้ ๑.๑.๒ อันตรายของไฟฟา้ จากประโยชน์ของไฟฟ้าทมี่ ากมาย มนษุ ยจ์ ึงสามารถดารงชีวิตไดอ้ ยา่ งสะดวกสบาย และมคี วาม ๑) กระแสไฟฟ้าไหลเกิน เกิดจากการมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านตัวนาเกินพิกัดท่ีกาหนด แบ่งได้ ๒ ลักษณะ คือ
ไฟฟ้า (๑) ไฟฟา้ ลัดวงจร เป็นสภาวะที่กระแสไฟฟา้ ไหลครบวงจรโดยไม่ผ่านอุปกรณ์เคร่ืองมือหรือเคร่ืองใช้ไฟฟ้าหรือผ่าน หนา้ ที่ ๒ / ๑๔ รูปที่ ๑.๑ แสดงฉนวนของสายไฟชารดุ รปู ท่ี ๑.๒ แสดงการใช้อปุ กรณ์ไฟฟา้ หลายตัวตอ่ ในจดุ เดียวกัน รปู ที่ ๑.๓
แสดงการถูกไฟฟ้าดูดจากการจบั สายไฟฟา้ ที่ชารดุ หน้าที่ ๓ / ๑๔ (๒) การรั่วไหลลงสดู่ ิน การถูกไฟฟ้าดูดลกั ษณะน้ี จะมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายจากสายท่ีมไี ฟฟ้าลงสดู่ ินโดยตรง (๓) การรว่ั ไหลผา่
นโครงอุปกรณ์ การถูกไฟฟา้ ดดู ลักษณะดงั รูปที่ ๑.๔ จะมแี รงดันไฟฟ้าบางส่วนรว่ั มาปรากฏที่โครง รูปท่ี ๑.๔ แสดงการรว่ั ไหลของกระแสไฟฟ้าผ่านโครงอปุ กรณ์ผา่ นร่างกาย ตารางที่ ๑.๑ แสดงปรมิ าณกระแสไฟฟ้าที่ไหลผา่ นและทม่ี ีผลกระทบต่อรา่ งกาย ปรมิ าณกระแสไฟฟ้า (mA) ผลกระทบทมี่ ีปฏกิ ริ ยิ าตอ่ ร่างกาย 2 มอี าการอ่อนเพลีย ประสาทมอื สัน่ กล้ามเนื้อกระตุกเล็กน้อย เกดิ ความกลัว 5 – 10 มอี าการช็อก (Shock) กล้ามเนอ้ื กระตกุ เกดิ อาการเจ็บปวด ระบบหายใจลม้ เหลว 10 – 25 ความดนั เลือดสูง บริเวณถกู ดดู เกิดอาการหดตัวของกลา้ มเน้อื ระบบหายใจล้มเหลว 25 – 80 เกรง็ กล้ามเนอื้ หายใจตดิ ขดั สมองอาจขาดออกซิเจน ถ้านานเกนิ ๔ นาที 80 – 200 ขาดเลอื ดเลีย้ งหวั ใจ หวั ใจล้มเหลวหลงั ถกู ดูดชั่วขณะ หัวใจหยดุ เตน้ หรือเสียชีวติ ได้ 200 – 5,000 หัวใจล้มเหลวหลังถูกดดู ๐.๑ วนิ าที ผิวหนังถูกทาลาย หวั ใจหยดุ เต้นและเสยี ชีวติ ได้ มากกวา่ 5,000 ถกู เผาไหม้ เนื้อเย่อื ตายและเสียชวี ิตได้ จากตารางที่ ๑.๑ สามารถแยกผลของกระแสไฟฟา้ ที่มตี ่อรา่ งกาย ตามความรุนแรงของอาการไดด้ ังนี้ หายใจ มีโอกาสเสยี ชวี ิตได้ภายใน ๒-๓ นาที การทางานของหวั ใจลม้ เหลว หนา้ ที่ ๔ / ๑๔ ๑.๑.๓ การปฏิบัติงานทางด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ท่ีปลอดภัย การใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องคานึงถึงความ ๑) ด้านการใชไ้ ฟฟ้า มีหลกั ในการปฏิบตั ิในการใชเ้ ครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าและอปุ กรณ์ไฟฟา้ ดังน้ี เครง่ ครดั สภาพสมบรู ณ์ ไมใ่ ช้งาน รว่ั ได้ รูปที่ ๑.๕ แสดงการใช้เคร่อื งใชไ้ ฟฟ้าในบรเิ วณที่มีน้าท่วมขงั รูปที่ ๑.๖ แสดงการตอ่ สายดนิ ของเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ เข้ากบั ระบบสายดิน หน้าท่ี ๕ / ๑๔ (๘) ขณะที่ร่างกายเปียก หรือยืนบนพ้ืนที่เปียกดังรูปท่ี ๑.๗ ไม่ควรใช้อุปกรณ์ เครื่องมือหรือเคร่ืองใช้ไฟฟ้า เพราะ รูปท่ี ๑.๗ แสดงอนั ตรายจากการใช้งานไฟฟา้ ขณะรา่ งกายเปยี ก รปู ที่ ๑.๘ แสดงการใชไ้ ขควงตรวจสอบไฟทดสอบจดุ ทคี่ ดิ ว่าน่าจะมไี ฟรวั่ (๑๑) ต้องใชเ้ ครื่องมอื ชา่ งในงานไฟฟา้ ที่มีฉนวนหุ้มอยู่ในสภาพปกติ ไม่ชารดุ บกพรอ่ ง หนา้ ที่ ๖ / ๑๔ รูปที่ ๑.๙ แสดงป้ายแจ้งเตือนหา้ มสมั ผัส (๑๔) ควรแยกวงจรไฟฟ้าเป็นส่วน ๆ เช่น วงจรเครื่องปรับอากาศ วงจรไฟฟ้าแสงสว่าง วงจรไฟฟ้ากาลังและ (๑๕) การเดินสายไฟฟา้ ภายในบ้าน ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎการเดินสายไฟฟา้ ของการไฟฟ้า โดยใช้อุปกรณท์ ่ีมี (๑๖) ก่อนทาการตรวจซ่อมอปุ กรณห์ รือเครื่องใชไ้ ฟฟา้ ต้องมน่ั ใจวา่ มกี ารปลดไฟฟ้าออกจากระบบแลว้ หนา้ ที่ ๗ / ๑๔ รูปท่ี ๑.๑๐ แสดงการใช้อุปกรณ์ปอ้ งกนั ก่อนปฏบิ ัติงานไฟฟ้า ๑.๒ การปฐมพยาบาลผู้ถูกไฟฟ้าดดู ๑.๒.๑ การช่วยเหลือผู้ประสบอันตรายจากไฟฟ้าดูด ผู้ช่วยเหลือ จะต้องให้ความช่วยเหลืออย่างถูกวิธี และรวดเร็ว ๑) ตดั กระแสไฟฟา้ ของจดุ เกิดเหตอุ อก ดว้ ยการปลดสวิตช์ หรือถอดเตา้ เสียบ หรอื ปลดสวติ ชป์ ระธานดังรูปที่ ๑.๑๑ รปู ท่ี ๑.๑๑ แสดงการปลดสวติ ชป์ ระธาน หน้าที่ ๘ / ๑๔ รปู ท่ี ๑.๑๒ แสดงการใช้ไมเ้ ข่ยี สายไฟฟ้าออกจากผปู้ ระสบภัย รูปท่ี ๑.๑๓ แสดงการตรวจการหายใจและชีพจรของผู้ถกู ไฟฟ้าดดู หนา้ ที่ ๙ / ๑๔ (๑) จัดวางผู้ถูกไฟฟ้าดูด นอนหงายราบกับพ้ืน ผู้ช่วยเหลืออยู่ทางด้านขวา หรือซ้ายของผู้ถูกไฟฟ้าดูด
จัดให้ศีรษะ รูปที่ ๑.๑๔ แสดงการจดั ศีรษะผูถ้ กู ไฟฟ้าดูด เพือ่ ปฐมพยาบาล รูปที่ ๑.๑๕ แสดงการเปา่ ปากใหผ้ ถู้ ูกไฟฟา้ ดูด หน้าที่ ๑๐ / ๑๔ (๒) สอดน้ิวหัวแม่มอื
เข้าไปในปากผถู้ ูกไฟฟ้าดดู จับขากรรไกรล่างยกขน้ึ จนปากอ้าออก สังเกตส่งิ ติดค้างในปากและ (๓) วางมอื สองขา้ งซ้อนทับกันบนทรวงอกของผู้ถูกไฟฟา้ ดูด ส่วนทีเ่ ป็นกระดูกอกเหนือลน้ิ ปเี่ หยียดนวิ้ มอื และแขนให้ รปู ท่ี ๑.๑๖
แสดงการนวดหัวใจใหผ้ ้ถู ูกไฟฟา้ ดดู รูปที่ ๑.๑๗ แสดงการชว่ ยเหลืออย่างต่อเนื่องจนกว่าถงึ มือแพทย์ หนา้ ที่ ๑๑ / ๑๔ เคร่ืองมือ เครื่องใช้ไฟฟ้า และระบบไฟฟ้า ผู้ปฏิบัติงานหรือผู้ใช้งานไฟฟ้า จึงต้องมีความละเอียดรอบคอบ ความระมัดระวัง ไม่ หนังสืออา้ งอิง ๑. บุญสืบ โพธศ์ิ รี และคณะ. ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ บือ้ งต้น. กรงุ เทพฯ : ศนู ย์สง่ เสริมอาชีวะ, ๒๕๕๐. หน้าที่ ๑๒ / ๑๔ ใบทดสอบ ภาคเรยี นที่ ๑ / ๒๕๖๒ ช่ือ…………………………………………………………............................…………เลขท…ี่ …………...........…...วันที่…………………...........…………… คาสงั่ ทาเครือ่ งหมายกากบาทขอ้ คาตอบทถ่ี ูกท่ีสุดเพียงขอ้ เดียว ...................................................................................... ๑. ขอ้ ใดเปน็ ประโยชนข์ องไฟฟา้ ก. ให้แรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงกระแสสลับ ข. ให้กระแสไฟฟ้ากระแสตรงกระแสสลบั ค. ให้สนามแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า ง. ให้ความต้านทานไฟฟ้า ๒. ข้อใดเป็นความหมายของไฟฟ้าดูด ก. เกิดกระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นร่างกายมนษุ ย์ ข. มีกระแสไฟฟ้าไหลผา่ นวงจรไฟฟ้าตลอดเวลา ค. เกดิ สนามไฟฟา้ แผอ่ อกมาโดยรอบวงจรไฟฟา้ ง. สนามแม่เหลก็ ไฟฟา้ สามารถดึงดูดโลหะจาพวกเหลก็ ได้ ๓. ในกรณที ส่ี ายไฟฟา้ เกดิ การชารดุ จนลวดตัวนาภายในสัมผัสกัน จะเกดิ เหตกุ ารณ์ใด ก. กระแสไฟฟา้ ไหลเกนิ ข. การลดั วงจร ค. โหลดเกนิ ง. ไฟฟา้ ร่ัว ๔. ขอ้ ใดเป็นการปฏบิ ัติงานดา้ นไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ทปี่ ลอดภยั ก. ควรแยกวงจรไฟฟ้าเปน็ ส่วน ๆ ข. ปฏิบตั ิงานเก่ียวกบั ไฟฟา้ แตล่ ะครัง้ ควรทาคนเดียวโดยลาพงั ค. อปุ กรณ์และเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ชารุดเลก็ น้อยสามารถใชง้ านได้ปกติ ง. ควรหยดุ ปฏิบตั งิ านเกยี่ วกับไฟฟ้าเมอ่ื รบั ประทานยาทีท่ าใหง้ ่วงนอน ๕. ขอ้ ใดเป็นสง่ิ แรกทคี่ วรปฏบิ ตั เิ ม่ือกลับจากการละการปฏบิ ตั ิงานเก่ียวกับไฟฟ้าไปชั่วคราว ก. ตรวจสอบเครือ่ งหมายตา่ ง ๆ ทท่ี าไวว้ ่าอยูใ่ นสภาพเดมิ หรอื ไม่ ข. รอเพ่ือนรว่ มงานใหพ้ ร้อมกอ่ นการปฏิบัตงิ าน ค. ตรวจสอบสวติ ช์ตดั ตอนหรอื สะพานไฟ ง. ปฏิบตั ิงานตอ่ เนอ่ื งจากเดมิ ทนั ที ๖. อะไรเปน็ ข้อควรปฏบิ ัตเิ มอ่ื ใช้เครือ่ งใช้ไฟฟา้ และอิเล็กทรอนกิ ส์ทม่ี ีโครงเปน็ โลหะ ก. ต่อสายไฟฟ้าระหวา่ งโครงโลหะของอปุ กรณ์กับสายล่อฟ้า ข. ต่อสายไฟฟา้ ระหว่างท่อประปากบั โครงของอปุ กรณ์ ค. ต่อสายไฟฟา้ ระหว่างสายนวิ ตรอนกับโครงของอปุ กรณ์ ง. ตอ่ สายไฟฟา้ ระหวา่ งโครงโลหะกบั แทง่ ลงดิน ๗. เมือ่ ตอ้ งการชว่ ยเหลอื ผู้ประสบอันตรายจากไฟฟา้ ดูดควรปฏิบตั อิ ย่างไรเปน็ อันดบั แรก ก. แจง้ เจา้ หน้าทรี่ ถพยาบาล ข. เข้าไปพยงุ ผถู้ กู ไฟฟ้าดูดอย่างรวดเรว็ ค. ตดั กระแสไฟฟ้าของจดุ เกดิ เหตอุ อก ง. ใช้ส่งิ ของเขย่ี อปุ กรณ์หรือสายไฟออกหา่ งจากผู้ถกู ไฟฟ้าดูด ๘. ข้อใดเป็นการปฐมพยาบาลผู้ทถ่ี ูกกระแสไฟฟ้าดูดไมถ่ ูกวิธี ก. วางผู้ป่วยใหน้ อนหงาย ข. ประกบปากของผปู้ ่วยใหส้ นทิ ค. ใชม้ อื กดเหนอื ช่องทอ้ ง ง. นวดหวั ใจและเป่าปากสลับกัน หนา้ ท่ี ๑๓ / ๑๔ ๙. การปฐมพยาบาลเด็กเลก็ ดว้ ยการเป่าปาก ตอ้ งเป่าลมเป็นจงั หวะอยา่ งไร ก. ๑๐-๑๒ ครั้ง/นาที ข. ๑๒-๑๕ คร้ัง/นาที ค. ๑๕-๒๐ ครั้ง/นาที ง. ๒๐-๓๐ ครัง้ /นาที ๑๐. กรณผี ู้ปว่ ยไมห่ ายใจและยงั ไมม่ ีชพี จรต้องปฐมพยาบาลด้วยวิธีใด ก. เปา่ ปาก ๑๐-๑๕ ครง้ั ข. เปา่ ปาก ๑๒-๑๕ ครั้ง/นาที ค. นวดหัวใจ ๑๕ คร้ัง สลับกับเปา่ ปาก ๒ ครั้ง ง. นวดหัวใจ ๖๐-๑๐๐ คร้งั /นาที เฉลยใบทดสอบ หน้าท่ี ๑๔ / ๑๔ |