การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตเพื่อการพัฒนาชุมชนและเพื่อศึกษาระดับการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาลของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตเพื่อการพัฒนาชุมชน พร้อมทั้งหาแนวทางการพัฒนาและการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาลของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตเพื่อการพัฒนาชุมชนอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตในอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 396 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 36 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test ผลการวิจัย พบว่า 1.การดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาลของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตเพื่อการพัฒนาชุมชนอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับมาก 2.การวิเคราะห์เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยที่ยอมรับได้ โดยพิจารณาหลักธรรมาภิบาลในประเด็นต่างๆ รวมทุกด้าน ค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 3.42 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ 3.ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาลของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตเพื่อการพัฒนาชุมชนอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ได้แก่ ขาดความรู้ในการจัดทำเอกสารและบัญชีต่างๆ รวมถึงความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์การดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์ฯ และการขาดกฎหมายรองรับในการนำไปบังคับใช้และถือปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ Show ข้อ ๖ สมาชิกทุกคนต้องฝากเงินสัจจะอย่างน้อยเดือนละหนึ่งหุ้น (๑ หุ้นมีมูลค่าหุ้นละ ๑๐๐ บาท) แต่ต้องไม่เกินหนึ่งในห้าของหุ้นทั้งหมดของกลุ่ม ข้อ ๗ เงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มฯ จะได้จาก ค่าสมัครสมาชิก เงินฝากสัจจะ เงินค่าบำรุง เงินค่าปรับ เงินบริจาคเงินฝากสะสมพิเศษ เงินรายได้อื่นๆ และเงินกู้ยืมจากภายนอกซึ่งที่ประชุมใหญ่รับรอง ข้อ ๘ กลุ่มสามารถรับฝากเงิน จากสมาชิก จากบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกก็ได้ โดยมีหรือไม่มีค่าตอบแทนเงินฝากก็ได้ ตามที่คณะกรรมการจะประกาศกำหนดเพื่อใช้เป็นโครงการพิเศษเป็นคราวๆ ไป เท่าที่จำเป็นในการใช้เงิน ข้อ ๙ สมาชิกทุกคนต้องฝาก - ผ่อนชำระเงินทุกประเภทภายในวันที่ ๔-๕ ของทุกเดือน ที่เจ้าหน้าที่หรือเหรัญญิกกลุ่ม (หากวันทำการตรงกับวันหยุดของธนาคารให้เลื่อนเป็นวันถัดไป) ข้อ ๑๐ การฝากเงินสัจจะ สามารถฝากล่วงหน้ากี่เดือนก็ได้ แต่ไม่เกินรอบปีบัญชีนั้น โดยต้องแจ้งให้กลุ่มฯ ทราบด้วย ข้อ ๑๑ กลุ่มฯ จะคืนเงินสัจจะให้สมาชิกเมื่อพ้นจากสมาชิกภาพ ทั้งนี้ต้องไม่มีพันธะใดๆ ข้อ ๑๒ กรณีกลุ่มฯ ติดต่อสมาชิกไม่ได้เพื่อการคืนเงิน จะนำเงินดังกล่าวเข้ากองทุนสวัสดิการ ทั้งนี้ กรอบระยะเวลาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการกลุ่มฯ ข้อ ๑๓ ไม่ว่ากรณีใดๆ จะไม่มีการขายหุ้นให้คนอื่น ข้อ ๑๔ สมาชิกสามารถถอนเงินสัจจะของตนเองได้ต้องมีอายุสมาชิก ๕ ปี ขึ้นไป ถอนได้ไม่เกิน ๕๐% ของสัจจะทั้งหมด และการถอนเงินสัจจะต้องมีเงินสัจจะคงเหลือไว้ในกลุ่มอย่างน้อยเท่ากับการฝากเงินสัจจะ ๑๐๐ บาทต่อเดือนเป็นเวลาเท่ากับอายุการเป็นสมาชิก และไม่มีพันธะหนี้สินใดๆ กับกลุ่มฯ โดยถอนได้ปีละ ๑ ครั้ง หมวด ๔ การกู้ยืมเงินข้อ ๑๕ กลุ่มให้บริการกู้ยืมเงิน ๗ ประเภท คือ ข้อ ๑๖ สมาชิกที่จะกู้เงินต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานดังนี้ ข้อ ๑๗ กู้สามัญ มีรายละเอียดดังนี้ ข้อ ๑๘ กู้ร่วม มีรายละเอียดดังนี้ ข้อ ๑๙ กู้เพื่อการพึ่งตนเองโดยใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน มีรายละเอียดดังนี้ ข้อ ๒๐ กู้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงาน มีรายละเอียดดังนี้ ข้อ ๒๑ กู้ประวัติดี มีรายละเอียดดังนี้ ข้อ ๒๒ กู้ฉุกเฉิน มีรายละเอียดดังนี้ ข้อ ๒๓ กรณีการกู้ฉุกเฉิน สามารถแจ้งความประสงค์โดยที่ยังไม่ต้องยื่นใบกู้ล่วงหน้า แต่ให้เขียนแบบฟอร์มการกู้ภายใน ๓๐ วัน หลังจากได้รับเงิน ข้อ ๒๔ กู้เพื่อพัฒนาและติดตั้งระบบโซลาร์เชลล์ (พลังงานแสงอาทิตย์) มีรายละเอียดดังนี้ ข้อ ๒๕ การยื่นใบกู้ ให้ยื่นก่อนการประชุมประจำเดือนของกรรมการอย่างน้อย ๑ สัปดาห์ โดยต้องเขียนตามแบบฟอร์มที่กลุ่มฯฯกำหนด และให้ทำสัญญาเงินกู้ไว้ล่วงหน้า เมื่อผ่านการพิจารณาอนุมัติจึงจะจ่ายเงินให้ผู้กู้ได้ ข้อ ๒๖ การชำระคืนเงินต้นทุกประเภทให้เป็นไปตามตารางและข้อสัญญาที่คณะกรรมการกลุ่มฯกำหนด ข้อ ๒๗ การกู้เงินในแต่ละครั้ง ผู้กู้ขาดส่งเงินต้นได้ไม่เกิน ๖ ครั้ง หากเกินกว่านั้น ทางกลุ่มฯ จะคิดค่าปรับ ๕๐ บาท/เดือน และจะถือว่าเสียประวัติ เมื่อชำระคืนหมดแล้ว จะถูกพักสิทธิ์ในการกู้ครั้งต่อไปตามระยะเวลาที่ขาดส่งเงินกู้เกิน ๖ เดือน ข้อ ๒๘ การกู้เงินในแต่ละครั้ง ผู้กู้ขาดส่งเงินค่าบำรุงได้ไม่เกิน ๖ ครั้ง หากเกินกว่านั้น ทางกลุ่มฯ จะคิดค่าปรับ ๑๐๐ บาท/เดือน ข้อ ๒๙ กรณีที่ผู้กู้ส่งเงินต้นน้อยกว่าจำนวนเงินที่กำหนดไว้ในตารางตามสัญญา ไม่ถือว่าขาดส่งในงวดนั้น ไม่ถือว่าเสียประวัติ และไม่ต้องจ่ายค่าปรับใด ๆ ข้อ ๓๐ การกู้เงินทุกประเภท สมาชิกจะต้องชำระคืนเงินกู้อย่างน้อยร้อยละ ๒๐ ต่อปีของยอดเงินที่กู้ ยกเว้นการกู้เพื่อการพึ่งตนเองโดยใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ให้ยึดถือตามเงื่อนไขสัญญาที่ทำไว้กับกลุ่มฯ ข้อ ๓๑ กรณีขาดส่งเงินกู้เกินกว่าครึ่งสัญญาเงินกู้หรือกรณีสิ้นสุดสัญญาการชำระคืนเงินกู้แต่ผู้กู้ยังส่งเงินคืนไม่ครบ ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการกลุ่มฯที่สามารถดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดได้ หมวดที่ ๕ กำไรและสวัสดิการข้อ ๓๒ กลุ่มจะมีการจัดสรรกำไรปีละหนึ่งครั้ง ข้อ ๓๓ นำกำไรขั้นต้นมาจัดสรร ดังนี้ ข้อ ๓๔ นำกำไรสุทธิมาจัดสรร ดังนี้ ข้อ ๓๕ คณะกรรมการกลุ่มฯจะเป็นผู้รับผิดชอบกองทุนดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดการเสียหาย และมีสิทธิอนุมัติจ่ายเพื่อประโยชน์ตามประเภทของกองทุนที่กำหนดไว้ ข้อ ๓๖ สมาชิกทุกคนมีสิทธิได้รับสวัสดิการจากกลุ่ม ดังนี้ ข้อ ๓๗ ค่ารักษาพยาบาลที่สมาชิกสามารถเบิกได้ หมายถึง ค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่เกิดจากการรักษาในสถานพยาบาลของรัฐ เอกชน และหมอพื้นบ้าน รวมถึงค่าเลนส์ คอนแทคเลนส์ และอุปกรณ์ในการช่วยรักษาเฉพาะโรค ข้อ ๓๘ กรณีการตรวจสุขภาพ จะต้องให้แพทย์สั่งเพื่อตรวจเป็นการเฉพาะโรค ข้อ ๓๙ กรณีการรักษาด้วยตนเอง หมายถึง การซื้อยารักษาโรคเบื้องต้น การซื้อยาสมุนไพร หรือตำรับยา ให้ระบุราคายาในใบเสร็จรับเงินหรือใบแทนใบเสร็จรับเงินของกลุ่มฯ ในกรณีที่เป็นตำรับยาจะต้องเขียนหนังสือรับรองความเป็นตำรับยา ข้อ ๔๐ กรณีการรักษาโรคโดยแพทย์แผนไทยหรือหมอพื้นบ้าน จะต้องมีรายละเอียดที่ระบุโรค อาการ และคำวินิจฉัยที่ชัดเจนจากแพทย์แผนไทยหรือหมอพื้นบ้าน โดยเฉพาะกรณีการรักษาด้วยวิธีการนวด จะต้องเป็นการนวดเพื่อการรักษาโรคเท่านั้น ข้อ ๔๑ กรณีการรักษาสุขภาพในช่องปาก การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเบิกได้ไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาทต่อปี ข้อ ๔๒ กรณีเบิกจ่ายค่าเลนส์แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ เบิกได้วงเงินไม่เกิน ๑,๕๐๐ บาทต่อปี ทั้งนี้ให้แนบเอกสารผลการตรวจสายตาจากนักทัศนมาตรหรือร้านตรวจสายตาประกอบการเบิกค่าเลนส์แว่นตา และให้สมาชิกเบิกได้ปีเว้นปี ข้อ ๔๓ กรณีการดูแลสุขภาพ เบิกได้ในวงเงินไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาทต่อปี โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ข้อ ๔๔ การรักษาพยาบาลที่ไม่เป็นตามระเบียบของกลุ่มฯ ไม่สามารถเบิกได้ ได้แก่ ค่าตรวจสุขภาพประจำปี ค่ากรอบแว่น ค่าศัลยกรรมตกแต่งที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ การตกแต่งเพื่อความสวยงาม ค่ายาบำรุงหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีวัตถุประสงค์เพื่อบำรุงสุขภาพไม่ใช่เพื่อการรักษา ค่าห้องพักในสถานพยาบาล ค่าทำบัตรผู้ป่วย ค่าเดินทาง ค่าอาหาร รวมถึงค่าธรรมเนียมต่างๆ นอกเหนือจากนี้ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมกลุ่มฯ ข้อ ๔๕ หลักฐานในการเบิกค่ารักษาพยาบาล มีดังนี้ หมวด ๖ การบริหารและการประชุมใหญ่ข้อ ๔๖ กลุ่มจะมีคณะกรรมการกลุ่มฯและฝ่ายตรวจสอบ ซึ่งได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่โดยทั้ง ๒ ชุด มีวาระการทำงาน ๒ ปี ข้อ ๔๗ คณะกรรมการกลุ่มฯ จะต้องมีตำแหน่งต่างๆ ดังนี้ ข้อ ๔๘ กำหนดให้กรรมการมีการประชุมทุกเดือนรวมทั้งการประชุมผ่านระบบออนไลน์ ทั้งนี้กรรมการกลุ่มฯ ที่ขาดประชุม ๓ ครั้งติดต่อกัน หรือขาดการประชุม ๕ ครั้งในรอบปีทำงาน ให้พ้นจากตำแหน่ง และกรรมการกลุ่มฯ ที่พ้นจากตำแหน่งจะไม่ได้รับค่าตอบแทนสำหรับปีนั้นๆ ข้อ ๔๙ ฝ่ายตรวจสอบ มีจำนวนอย่างน้อย ๓ คน ทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชีการเงิน และตรวจสอบการดำเนินงานของคณะกรรมการกลุ่มฯ ให้เป็นไปตามนโยบายและแนวทางในที่ประชุมใหญ่กำหนด โดยต้องนำเสนอผลดังกล่าวให้สมาชิกได้ทราบในวันประชุมใหญ่ ทั้งนี้ฝ่ายตรวจสอบที่ได้รับเลือกต้องเป็นกรรมการกลุ่มฯ มาก่อนหรือเป็นสมาชิกที่มีประสบการณ์ด้านการจัดตั้งกลุ่มหรือกองทุนชุมชน ข้อ ๕๐ กรณีที่คณะกรรมการกลุ่มฯ เห็นว่าการดำเนินงานของกลุ่มประสบปัญหาการรับ - จ่ายเงินล่าช้า คณะกรรมการกลุ่มฯ มีสิทธิ์แต่งตั้งผู้แทนประจำจังหวัดทำหน้าที่แทนคณะกรรมการกลุ่มฯ โดยการประสานงานและมอบหมายงานจากคณะกรรมการกลุ่มฯ ให้ทำหน้าที่รวบรวมเงินส่งเข้ากลุ่มตามกำหนด ลงรายการฝากสัจจะและการชำระคืนเงินกู้ในสมุดประจำตัวสมาชิกเป็นสื่อกลางระหว่างกลุ่มออมทรัพย์กับสมาชิก ข้อ ๕๑ ปีบัญชีเริ่มตั้งแต่ ๑ มกราคม - ๓๑ ธันวาคม ข้อ ๕๒ คณะกรรมการกลุ่มและฝ่ายตรวจสอบ ต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่ปีละครั้ง หลังจากปิดบัญชีไม่เกิน ๓ เดือน หรือไม่เกินเดือนมีนาคม ข้อ ๕๓ การลงมติในที่ประชุมใหญ่ สมาชิก ๑ คน ลงมติได้ ๑ เสียง มติของที่ประชุมต้องมีเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุม ข้อ ๕๔ กลุ่มออมทรัพย์นักพัฒนาภาคใต้ ได้ถูกกำหนดให้เป็นกลไกการทำงานด้านสวัสดิการที่ต้องดูแลคนทำงานพัฒนาซึ่งมีความสัมพันธ์หรือเป็นสมาชิกของคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้) ข้อ ๕๕ กำหนดให้ประธานกลุ่มออมทรัพย์นักพัฒนาภาคใต้ เป็นกรรมการของ กป.อพช.ใต้ โดยตำแหน่ง ทั้งนี้ ประธานสามารถมอบหมายกรรมการกลุ่ม ฯ เป็นตัวแทนเพื่อเข้าร่วมประชุมกับ กป.อพช.ใต้ ได้ตามความเหมาะสม หมวดที่ ๗ บทเฉพาะกาลข้อ ๕๖ การโอนเงินเข้าบัญชีเงินของกลุ่มฯ โดยไม่ได้แจ้งให้กลุ่มทราบเป็นภาระสืบค้นต่อกลุ่ม จะต้องถูกดำเนินการปรับเป็นเงิน ๑๐๐ บาท ทันที ที่มีผู้อ้างสิทธิเป็นเจ้าของเงินดังกล่าวพร้อมหลักฐานที่ชัดเจน หากไม่สามารถสืบค้นได้ภายใน ๑ ปีนับจากวันที่รับเงิน ให้นำยอดดังกล่าวเข้าสมทบกองทุนพัฒนากลุ่มและขบวนขององค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ พร้อมทั้งแจ้งยอดให้ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีรับทราบต่อไป ข้อ ๕๗ กองทุนสำรองดำเนินงาน หมายถึง กองทุนที่ใช้สำหรับแก้ไขปัญหาที่ทำให้เกิดความเสียหายทางการเงินจากการดำเนินงานในรอบปี ซึ่งจะเป็นผลกระทบต่อเงินสัจจะ เงินฝากพิเศษ และเงินกองทุนอื่นๆ ข้อ ๕๘ กองทุนพัฒนากลุ่มและขบวนขององค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ หมายถึง กองทุนที่ใช้สำหรับการพัฒนากลุ่มและขบวนขององค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ให้เข้มแข็งขึ้น รวมถึงการรณรงค์ต่างๆ ดังนี้ ข้อ ๕๙ ระเบียบของกลุ่มออมทรัพย์นักพัฒนาภาคใต้ ฉบับนี้ได้รับการแก้ไขเมื่อ แก้ไขล่าสุด ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ตามมติที่ประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี ๒๕๖๒ วันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๓ ข้อ ๖๐ การใดที่ไม่ได้ระบุไว้เกี่ยวกับการเงินและการแก้ไขระเบียบนี้ ให้ที่ประชุมใหญ่พิจารณา ระเบียบเพิ่มเติมกรณีเงินกู้เพื่อการพึ่งตนเองโดยใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ๑) อัตราการจ่ายค่าน้ำมันรถคำนวณ ๔ บาทต่อกิโลเมตร ค่าที่พักไม่เกิน ๑,๕๐๐ บาทโดยผู้กู้เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ๒) เป้าหมายระยะสั้น ได้แก่ การกู้เพื่อการก่อสร้าง ซื้ออาคาร ต่อเติมอาคาร ซื้อที่ดินเพื่อการเกษตรหรือเพื่ออยู่อาศัยของสมาชิกหรือเป็นที่ทำการขององค์กร หรือเพื่อบริหารจัดการองค์กรให้ผ่านพ้นช่วงรอยต่อระยะสั้นในการของบประมาณมาดำเนินงาน ๓) เป้าหมายระยะยาว ได้แก่ การพัฒนาที่ดิน หรือพัฒนาการเกษตร อันนำไปสู่การทำธุรกิจเพื่อการพึ่งตนเองอย่างยั่งยืนในระยะยาวของสมาชิกหรือองค์กรโดยมิใช่การซื้อ-ขายที่ดินเพื่อเก็งกำไร ทั้งนี้ขึ้นกับการพิจารณาของคณะกรรมการ โดยภายหลังจากประกาศมีผลบังคับใช้ กลุ่มฯจะเริ่มดำเนินการตามวัตถุประสงค์ใน ข้อ ๑. คือระยะเริ่มต้นเท่านั้น ต่อเมื่อสถานะทางการเงินเหมาะสม คณะกรรมการมีมติร่วมกันและประกาศแจ้งให้สมาชิกทราบอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงจะดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้อ ๒. ต่อไป |