เงินเดือนหมื่นห้าออกรถได้ไหม

หลายคนทำงานเก็บเงินมาได้สักระยะ อยากมีรถยนต์สักคันไว้ใช้งานเพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง และสำหรับใครที่กำลังมองหารถยนต์อยู่ ซึ่งขณะเดียวกันค่ายรถแต่ละค่าย ก็พากันแข่งขันออกรถรุ่นใหม่ออกมาแทบจะไล่ตามกันไม่ทัน วันนี้เราได้นำข้อมูลดีๆมากฝากกัน ลองไปดูกันว่าเงินเดือน 15,000 ขึ้นไปนั้นสามารถซื้อรถยนต์รุ่นไหนได้บ้าง พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ

เงินเดือนหมื่นห้าออกรถได้ไหม



แต่ก่อนคิดจะเริ่มซื้อรถยนต์นั้น ให้พิจารณาถึงภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นตามมาหลังจากครอบครองรถยนต์ นอกเหนือจากค่างวดรถที่ต้องส่งเป็นประจำทุกเดือน ไม่ว่าจะเป็น

-ค่าน้ำมัน 1,000 บาทต่อสัปดาห์ (โดยประมาณ)

-ค่าบำรุงรักษาตามระยะ 1,000 บาทขึ้นไปต่อครั้ง (ปีละ 2-3 ครั้ง)

-ค่าประกันภัยรถยนต์ชั้นหนึ่ง 15,000 บาทขึ้นไปต่อปี (โดยประมาณ)

-ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าทางด่วน, ค่าที่จอดรถ, ค่าซ่อมรถ เป็นต้น



ธนาคารอนุมัติเงินเดือน 15,000 ผ่อนเดือนละ 3,000 บาทได้โดยจะคิดเงินดาว์เป็น 15-25% ของราคารถ หรือบางที่บริษัทอาจจะคิดเป็นเงินดาวน์ 0 % ไปจนถึง 15 % เช่น รายได้ต่อเดือนจากการทำงาน 15,000 บาท มีความต้องการในการซื้อรถ 1 คัน เป็นราคา 500,000 บาท หากดาวน์ไปประมาณ 80,000-140,000 บาท ก็จะได้ผ่อนรถใน ราคา 3,000-5,000 บาท/เดือน ไปดูกันค่ะว่าเงินเดือน 15,000 ออกรถรุ่นไหนได้บ้าง

เงินเดือนหมื่นห้าออกรถได้ไหม

1.Suzuki Swift ราคา 442,000 ? 599,000 เริ่มที่คันแรกขวัญใจวัยรุ่นตลอดกาล อย่าง Suzuki Swift ที่ครองใจไม่แม้แต่วัยรุ่น แต่สำหรับคนที่ชอบรถทรงสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ก็ยกทั้งใจให้ Swift คันนี้ เพราะรูปลักษณ์ที่ทันสมัย บวกกับขนาดกระทัดรัด อีกทั้งราคาก็ตามขนาดแบบนี้คงจะได้เป็นขวัญใจของใครหลายๆ คนไม่ยาก

เงินเดือนหมื่นห้าออกรถได้ไหม

2.Toyota Yaris 479,000 ? 609,000 พึ่งเปิดตัวไปหมาดๆ กับโฉมใหม่ของ Toyota Yaris คันนี้ก็ครองใจนักศึกษา และ วัยรุ่นไปไม่น้อย เขาว่าวัยรุ่นไม่ชอบอะไรที่จำเจ รถ 5 ประตู ทรงยาวเรียวที่เป็นเอกลักษณ์ของ ยาริส ก็ถือว่าตอบโจทย์ อีกทั้งทางโตโยต้าเองก็มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายหลักไปที่วัยทีน และตั้งราคามาสมเหตุสมผล ไม่แปลกใจที่ Toyota Yaris ยังคงครองใจวัยรุ่นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

เงินเดือนหมื่นห้าออกรถได้ไหม

3.Honda Jazz 555,000 ? 754,000 มาถึงรถตลาดอีกรุ่นที่ครองใจ ไม่ใช่แค่วัยรุ่นเด็กจบใหม่ แต่วัยทำงาน วัยกลางคน ก็ถูก Honda Jazz คันนี้กวาดคะแนนไปเรียบ เพราะค่ายนี้ไม่ค่อยห่วงเรื่องรูปลักษณ์ทั้งภายในภายนอกที่ออกแบบมาได้ทันสมัย จุดเด่นที่ทำให้ Honda Jazz ครองใจใครหลายๆ คน คือมีสีให้เลือกเยอะ นอกจากนั้นยังมีชุดแต่งทางการให้เลือกมากมาย แต่ต้องมาขัดใจกับราคาที่สูงโดดไปจากเพื่อนๆ ระดับเดียวกัน หากใครที่เป็นแฟน Honda Jazz จริงๆ ก็กัดฟันเอาหน่อยแล้วกัน

เงินเดือนหมื่นห้าออกรถได้ไหม

4.Nissan March ราคา 392,000 ? 562,000 แม้จะเล็กแต่ก็เล็กพริกขี้หนู สำหรับ Nissan March ที่ครองใจวัยรุ่น อีกทั้งยังได้ใจ บรรดาสาวๆ ตัวเล็กไปเต็มๆ ด้วยขนาดที่กะทัดรัด มองในแง่การขับขี่ก็สะดวกสบาย เหมาะสำหรับมือใหม่ และ สาวๆ ที่ขับรถไม่ค่อยคล่อง เมื่อมีรถเล็กๆ คู่กายเวลาจะขับไปไหนก็สะดวก จะถอยจอด เข้าซองก็ไม่ต้องถอยหน้าถอยหลังให้มากความ อีกทั้งราคายังเริ่มต้นยังถูกโดดเด่นกว่าใครเพื่อน เลยไม่พลาดที่จะอยู่ในโผ ที่คนเริ่มทำงานเงินเดือน 15,000 ก็เป็นเจ้าของได้



เงินเดือนหมื่นห้าออกรถได้ไหม

5.Mazda2 Hatchback-Sedan ราคา 529,000 ? 779,000 ถือเป็นม้ามืดในวงการสำหรับ Mazda ที่ครองใจกลุ่มตลาดวัยรุ่นไปได้มาก และเป็นตัวจริงสำหรับรถวัยรุ่น ทั้งนี้ราคาก็แอบสูงอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยการออกแบบที่เน้นความทันสมัย ดูปราดเปรียว วัยโจ๋หลายคนเลยมองข้ามเรื่องราคาที่อาจมีส่วนต่างนิดหน่อย เพราะการซื้อรถแต่ละครั้งต้องเลือกในสิ่งที่เราชอบจริงๆ เพราะรถ จะอยู่กับเราไปอีกหลายปี ดังนั้นค่ายรถที่ออกแบบรูปลักษณ์ได้เตะตากรรมการที่สุด อย่าง Mazda ถือว่าชนะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นสำหรับคนที่ตัดสินใจจะซื้อรถใหม่ ไม่ว่าคุณจะมีเงินเดือนเท่าไหร่ก็ตามแต่ อย่าลืมคำนึงถึงค่าใช้จ่ายต่างๆในแต่ละเดือนด้วยนะคะ

อยากมีรถสักคัน แต่ติดอยู่ที่อายุน้อย เงินเก็บก็ยังไม่เยอะ แล้วความฝันจะเป็นจริงได้ไหม บอกเลยว่าถ้าวางแผนซื้อรถดี ๆ ก็มีสิทธิ์ทำได้เหมือนกัน


สินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงโดยทั่วไปแล้วก็ต้องมี "รถยนต์" กับ "บ้าน" แต่ถ้ามาพูดถึงเด็กจบใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานก็น่าจะมองเรื่องการวางแผนซื้อรถยนต์เป็นหลักก่อน อาจจะด้วยว่าตอนนี้ยังอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ แล้วด้วยระบบรถสาธารณะบ้านเรายังไม่ได้ดีมาก การมีรถยนต์ส่วนตัวก็เลยดูเหมือนจะเป็นเรื่องจำเป็นไปโดยปริยาย การเก็บเงินวางแผนซื้อรถยนต์ก็เลยดูเหมือนจะเป็นเป้าหมายหนึ่งที่หลาย ๆ คนตั้งเอาไว้

ถ้าถามว่าอายุน้อย ๆ ควรจะออกรถมั้ย ? หากว่ากันด้วยเหตุและผล การซื้อรถยนต์ถือว่าเป็นการซื้อสินทรัพย์เสื่อมมูลค่าที่จะปรับลดลงเรื่อย ๆ แล้วนอกเหนือจากค่าผ่อนงวดรถในแต่ละเดือนแล้ว ก็ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เราต้องนำมาคิดพิจารณาด้วย ทั้งค่าน้ำมัน ค่าประกัน ค่าบำรุงรักษาต่าง ๆ บอกได้เลยว่าถ้าต้องการมีรถ Eco Car สักคันก็ต้องเตรียมเงินไว้ประมาณเดือนละ 10,000 - 12,000 บาทสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของรถยนต์คันหนึ่ง ดังนั้นเราจึงควรเลือกซื้อรถให้เหมาะกับกำลังซื้อของเรา ซึ่งถ้าเราใช้รถยนต์เยอะก็อาจจะต้องเตรียมไว้มากกว่านั้น ส่วนตัวก็เลยมองว่าอายุน้อย ๆ การมีรถยนต์สักคันอาจจะไม่ควรสักเท่าไร เพราะรายจ่ายเรื่องรถยนต์จะเป็นรายจ่ายที่เยอะมากต่อเดือน ดังนั้นเจ้าของรถมือใหม่ทั้งหลายจึงควรจะคำนวณค่าใช้จ่ายสำหรับรถคันแรกให้ดีเสียก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

แต่ถ้าจำเป็นจริง ๆ คนอายุน้อย ๆ เพิ่งเริ่มทำงานอยากจะมีรถยนต์เป็นของตัวเองสักคันจะเตรียมตัวอย่างไร และวางแผนซื้อรถอย่างไร จึงจะเหมาะสม และไม่ทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน มาฟังคำแนะนำกัน

ก่อนอื่นเลยหากว่าเราจะวางแผนซื้อรถยนต์ เราต้องรู้ราคารถยนต์หรือรุ่นรถยนต์ที่เราอยากได้ เพราะจะเป็นตัวที่กำหนดว่าเราต้องเตรียมเงินไว้เดือนละเท่าไร เพราะถ้าเป็นเด็กจบใหม่ ๆ มา การที่จะมีเงินสดเพื่อไปซื้อรถยนต์หนึ่งคันเลยน่าจะเป็นเรื่องที่ยากอยู่เหมือนกันถ้าไม่มีทางบ้านให้การสนับสนุน ดังนั้นส่วนใหญ่จะใช้บริการสินเชื่อรถยนต์เป็นหลักกันอยู่แล้ว ก็จะมีการผ่อนตั้งแต่ 12 เดือนไปจนสูงสุดแถว ๆ 72 เดือน

สิ่งที่เราควรจะรู้เกี่ยวกับการวางแผนซื้อรถ คือการผ่อนชำระค่างวด เพราะยิ่งเราผ่อนนานเท่าไรเราก็จะยิ่งโดนคิดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น เพราะการคิดดอกเบี้ยของการซื้อรถยนต์จะเป็นการคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat rate) ตัวอย่างเช่น

ถ้าเราเอารถเข้าไฟแนนซ์หรือใช้บริการสินเชื่อรถยนต์ สมมติว่ารถยนต์ราคา 600,000 บาท แล้วเราดาวน์ประมาณ 25% ก็คือ 150,000 บาท แปลว่าเราต้องใช้บริการสินเชื่อรถ 450,000 บาท

สมมติว่าโดนคิดดอกเบี้ยที่ 3% ต่อปี แล้วเราผ่อน 60 เดือนหรือ 5 ปี เวลาที่เขาคำนวณดอกเบี้ย เขาจะคำนวณด้วยการที่เอา 450,000 บาท มาคูณ 3% จะเท่ากับ 13,500 บาท แล้วเราผ่อนรถเป็นเวลา 5 ปี ก็เอา 13,500 x 5 ปี จะเท่ากับ 67,500 บาท นั่นแปลว่าเราจะมีหนี้ทั้งหมด 450,000 + 67,500 บาท จะเท่ากับ 517,500 บาท แล้วเราจะผ่อนงวดละเท่าไร ก็จะเอา 517,500 บาท มาหาร 60 งวด เราจะต้องผ่อนงวดละ 8,625 บาท

พอเห็นการคำนวณแบบนี้เราก็จะเห็นว่า หากว่าเราวางแผนซื้อรถ โดยสามารถดาวน์ได้เยอะเท่าไร ก็จะยิ่งเป็นภาระต่องวดน้อยลง และถ้าผ่อนคำนวณงวดได้สั้น ก็จะเสียดอกเบี้ยน้อยเท่านั้น คำแนะนำก็คือ ควรจะเก็บเงินซื้อรถยนต์หรือควรนำเงินมาดาวน์ให้ได้ยิ่งเยอะยิ่งดี สัก 30 - 40% เป็นอย่างน้อย เพื่อลดภาระในแต่ละงวดลงไปอีก

นอกจากนี้ หลังจากที่เราคำนวณเสร็จแล้วว่าต้องผ่อนเดือนละเท่าไร ขั้นตอนต่อไปของการวางแผนซื้อรถคือ การดูค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าประกันรถยนต์ เป็นต้น เพราะเชื่อว่าเมื่อเราออกรถมาใหม่เราก็คงไม่อยากขับรถแบบไม่มีประกันแน่ ๆ เพราะถือว่าเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง ถ้าเกิดเราขับออกไปแล้วเกิดอุบัติเหตุมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ก็อาจจะทำให้เราประสบปัญหาการเงินในอนาคตได้ นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องค่าบำรุงรักษาต่าง ๆ ทั้งเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนยาง ก็เป็นรายจ่ายที่ไม่น้อยเหมือนกัน

ถ้าใครอยากคำนวณดูว่าเราต้องผ่อนเท่าไรยังไง ทางกรุงศรีฯ เราก็มีบริการ Plan Your Money ที่ไม่ได้ช่วยแค่การวางแผนซื้อรถ แต่เป็นการวางแผนการเงินของเราทั้งหมด เพียงแค่เรากรอกข้อมูล เราก็จะรู้ทันทีว่าเราต้องผ่อนงวดละเท่าไร และนอกจากเรื่องรถยนต์ Plan Your Money ก็ยังมีบริการคำนวณเรื่องการกู้ซื้อบ้าน รวมไปถึงการวางแผนภาษีที่จะช่วยทำให้เราเสียภาษีน้อยลง ทำให้เราเหลือเงินเก็บมากขึ้นด้วย

สุดท้ายก่อนที่เราจะวางแผนซื้อรถยนต์สักคันหนึ่ง อย่าลืมคิดคำนวณให้ดีก่อนว่าเราจำเป็นต้องใช้รถยนต์จริง ๆ เพราะอย่างที่เราเห็นว่าการมีรถยนต์ 1 คัน ก็มีรายจ่ายไม่ใช่น้อย ถ้าสำหรับคนที่ทำงานได้รับเงินเดือน 15,000 บาทแล้ว ต้องมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถยนต์สูงถึง 80% ก็ไม่น่าจะรับภาระค่าใช้จ่ายไหวแน่ ๆ

ดังนั้นการมีรถยนต์คันหนึ่งเราก็จะมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นมาไม่น้อยเหมือนกัน แนะนำว่าถ้าเรามีรถยนต์แล้วไม่ได้สร้างรายได้ให้กับเราเพิ่มเติมเลยมีแต่รายจ่าย ส่วนตัวก็แนะนำว่าอาจจะยังไม่ถึงเวลาที่ควรมี แต่ถ้าบางคนการเดินทางยากลำบากจริง ๆ อาจจะต้องหาวิธีการเดินทางรูปแบบอื่น ๆ ที่น่าจะช่วยประหยัดเวลาและรายจ่ายได้ การคำนวณต่าง ๆ จะช่วยทำให้เราเห็นภาพมากขึ้น ตัดสินใจได้ดีขึ้น และลดอารมณ์การใช้จ่ายลงแบบไม่คิดได้เป็นอย่างดี รถยนต์เป็นสินทรัพย์ที่ราคาค่อนข้างสูงก่อนซื้อควรวางแผนซื้อรถให้ดีก่อนทุกครั้ง

เงินเดือนเท่าไรถึงจะซื้อรถได้

ขั้นตอนที่ 1 จัดแจงรายละเอียดราคาผ่อนแบบรายเดือน ไม่ควรเกิน 40 % ของเงินเดือน ยกตัวอย่างตัวอย่าง เช่น เงินเดือน 20,000 บาท ควรผ่อนไม่เกิน 40% 20,000 x 40% = 6,000 บาทต่อเดือน

เงินเดือนหมื่นห้าซื้อคอนโดได้ไหม

โดยประมาณแล้ว ผู้ที่มีเงินเดือน 15,000 ซื้อคอนโดนั้นสามารถผ่อนต่องวดสูงสุด 6,000 บาท หรือ 40% ของเงินเดือน เพราะฉะนั้นแต่ละเดือนจึงควรมีเงินเก็บในบัญชีอย่างน้อย 6,000 บาท

มีเงิน20000ออกรถได้ไหม

สำหรับผู้ที่มีรายได้ประมาณ 20,000 บาท ควรซื้อรถยนต์ที่มียอดผ่อนชำระต่อเดือนประมาณ 1 ใน 3 ของรายได้ หรือเท่ากับประมาณ 7,000 บาท หรือเต็มที่สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท เพื่อให้ไฟแนนซ์อนุมัติสินเชื่อ ซึ่งวิธีลดค่างวดต่อเดือนที่ดีที่สุด คือ การเพิ่มก้อนดาวน์ให้มากขึ้น จะทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนลดลง ขณะที่การยืดอายุสัญญาก็จะช่วย ...

ออกรถ Honda ต้องใช้อะไรบ้าง

1. สำเนาทะเบียนบ้าน.
2. สำเนาบัตรประชาชน.
3. เอกสารแสดงรายได้ (สลิปเงินเดือน/หนังสือรับรองเงินเดือน).
4. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก/ใบแจ้งยอดบัญชีธนาคาร ย้อนหลัง 6 เดือน.
5. ทะเบียนพาณิชย์/หนังสือรับรองบริษัทฯ (กรณีเป็นเจ้าของกิจการ) อายุไม่เกิน 6 เดือน.
6. แผนที่บ้านและที่ทำงาน.