หากพูดถึงไวยากรณ์ในภาษาอังกฤษที่สำคัญๆ ก็คงต้องพูดถึงเรื่อง Tense หรือการผันกริยาในรูปแบบต่างๆเพื่อบ่งบอกว่าประโยคนั้นกำลังพูดถึงเรื่องในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ซึ่ง Tense ในภาษาอังกฤษก็มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 12 Tense และในวันนี้เราจะมา อธิบายเกี่ยวกับ Present perfect tense ให้เพื่อนๆได้เข้าใจกันอย่างละเอียดพร้อมกับตัวอย่างประโยคที่จะช่วยเสริมความเข้าใจให้มากขึ้น โดยเราจะเริ่มจาก Present perfect tense คืออะไร Present perfect tense มีโครงสร้างคืออะไร และ Present perfect tense มีหลักการใช้อย่างไร Show
Present perfect tense คือPresent perfect tense คือ tense ที่เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งในชีวิต โครงสร้างประโยคของ Present perfect tense คือ S + have/has + V.3
1. ใช้เล่าประสบการณ์ที่เคยผ่านมา เป็นการเล่าถึงประสบการณ์ช่วงหนึ่งในชีวิต เช่น เคยทำมา เคยไปมา เป็นต้น
2. ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ที่ดำเนินมาช่วงเวลาหนึ่งจนถึงปัจจุบัน และเหตุการณ์นั้นยังไม่จบ
3. ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ที่ดำเนินมาช่วงเวลาหนึ่ง และเพิ่งจบลง
4. ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ที่ดำเนินมาช่วงเวลาหนึ่ง และเพิ่งจบลง แต่ผลของเหตุการณ์นั้น ยังส่งผลต่อปัจจุบัน
5. ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ระบุเวลาที่เกิดขึ้นแน่นอนไม่ได้
เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อนๆ พอจะเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างและหลักการใช้ของ Present perfect tense กันแล้วใช่ไหมคะ สวัสดีน้องๆ ม. 4 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง Present Perfect ในภาษาอังกฤษ จะเป็นอย่างไรลองไปดูกันเลยดีกว่าครับ Patra Jumsai Na Ayudhya
สารบัญPresent Perfect Tense คืออะไร?สำหรับ Present Perfect นั้นเป็นอีกหนึ่ง Tense ที่น้องๆ จะได้เจอและใช้บ่อยมากๆ ในภาษาอังกฤษ โดยจะใช้กับเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ 1) เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน 2) เหตุการณ์ที่ทำเสร็จไปเมื่อสักครู่ (มักมีคำว่า ‘just’) 3) ใช้พูดถึงประสบการณ์ (มักแปลว่า “เคย”)
โครงสร้างประโยคบอกเล่ากริยาใน Present Perfect จะเป็นรูปของ have/has ตามด้วย past participle หรือกริยาช่องที่ 3 ซึ่งส่วนใหญ่จะเติม -ed ถ้าเป็น Verb to be ก็จะใช้ been ตัวอย่าง I have studied English for 2 years. John has played football since the afternoon. He has just arrived at the airport.
โครงสร้างประโยคปฏิเสธเราสามารถเติม not ตามหลัง have/has ได้เลย โดยกริยาที่ตามมายังอยู่ในรูป Past Participle เช่นเดิม ตัวอย่าง Susan hasn’t contacted me since last year. They haven’t eaten anything for 6 hours. I haven’t done exercise for half a year.
โครงสร้างประโยคคำถามเราจะนำ Have/Has มาขึ้นต้นประโยค จากนั้นก็ตามด้วยส่วนประธานและกริยาส่วนที่เหลือ ตัวอย่าง Have you got your exam result? Have you ever been to Italy? Has he talked to you yet? ข้อควรจำ
นี่ก็เป็นความรู้เรื่อง Present Perfect แบบง่ายๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆ นะครับ ถ้าน้องๆ สนใจเนื้อหาเพิ่มเติมสามารถดูวิดีโอจากช่องของ NockAcademy ได้ด้านล่างเลยครับ ทบทวน Present Simple ได้ที่นี่ NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้ สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ ดูคลิป แนะนำ แชร์ การใช้ Quantity words Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.1 ทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนรู้ “การใช้ Quantity words ” ในภาษาอังกฤษกันค่ะ Let’s go! ไปลุยกันโลด Quantity words คืออะไร “Quantity words” คือคำบอกปริมาณนั่นเอง เช่น much, many, few, a few, lots เรียนรู้เกี่ยวกับคำคุณศัพท์และการเรียงคำคุณศัพท์ Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.6 ที่น่ารักทุกคนวันนี้ครูจะพาไปเรียนรู้เรื่อง คำคุณศัพท์ หรือ Adjective ในภาษาอังกฤษกันค่ะ พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย ความหมาย คำคุณศัพท์หรือ Adjective มีตัวย่อคือ Adj. ทำหน้าที่ขยายคำนามหรือสรรพนามที่อยู่ในประโยค คำนามหรือสรรพนาม ณ ที่นี้ ก็คือ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ การใช้ประโยคคำสั่งในชีวิตประจำวัน สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.6 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาเรียนรู้เกี่ยวกับ “การใช้ประโยคคำสั่งในชีวิตประจำวัน (Imperative sentence in daily life)” กันนะคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลด ประเภทของประโยค ” Imperative sentence “ Imperative sentence ในรูปแบบประโยคบอกเล่าจะ ใช้ Verb base ทบทวนเรื่อง Relative clause + เทคนิค Error Identification สวัสดีค่ะนักเรียนม. 6 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปดู Relative clause หรือ อนุประโยคในภาษาอังกฤษ ที่ทำหน้าที่เหมือนกันกับคำคุณศัพท์ (Adjective) ซึ่งมีหน้าที่ขยายคำนามที่อยู่ข้างหน้า และจะใช้ตามหลัง Relative Pronoun เช่น who, whom, which, that, และ whose แต่สงสัยมั้ยคะว่าทำไมต้องเรียนเรื่องนี้ ลองดูตัวอย่างประโยคด้านล่างแล้วจะร้องอ๋อมากขึ้น พร้อมข้อสอบ Error อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง เรียนรู้ตัวบทและคุณค่าในเรื่อง จากที่ได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาและเรื่องย่อของอิเหนากันไปแล้ว บทเรียนภาษาไทยในวันนี้เราจะยังอยู่กับอิเหนากันนะคะ เพราะนอกจากที่มาและเรื่องย่อแล้ว วรรณคดีเรื่องนี้ก็ยังมีเรื่องอื่นให้น่าสนใจและน่าศึกษาเช่นกัน ถ้าพร้อมแล้วเราไปศึกษาตัวบทและคุณค่าที่แฝงอยู่ในเรื่อง อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง กันเลยค่ะ ตัวบทเด่น ๆ ในอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง บทที่ 1 ถอดความ เป็นตอนที่ท้าวกะหมังกุหนิงให้ราชทูตนำสาส์นไปมอบให้ท้าวดาหาเพื่อสู่ขอบุษบาให้วิหยาสะกำ โดยบทนี้เป็นเนื้อหาส่วนหนึ่งที่ท้าวกะหมังกุหนิงเขียนถึงท้าวดาหา โดยเปรียบว่าตนเป็นเหมือนรองเท้าที่จะอยู่เคียงกับท้าวดาหา ดังนั้นจึงจะขอสู่ขอพระธิดาให้กับวิหยาสะกำ Modal Auxiliaries ที่สำคัญ สวัสดีค่านักเรียนชั้นม.4 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดู ” Modal Auxiliaries หรือ Modal verbs “ ที่ใช้บ่อยพร้อมเทคนิคการใช้งานง่ายๆกันค่า Let’s go! ไปลุยกันเลยจร้า รู้จักกับ Modal Auxiliaries Modal Auxiliaries คือ กริยาช่วยกลุ่ม Modal verbs หรือ บางครั้งเรียกว่า |