น้ำมันดีเซลจะช่วยให้มีแรงบิดรอบสูง กำลังดีกว่า มักใช้ในรถบรรทุก รถกระบะ รถบัส และรถใหม่ๆก็หันมาใช้เทคโนโลยีดีเซลกันบ้างแล้ว Show ดีเซล B7 ชื่อ B7 มาจากสัดส่วนของไบโอดีเซลที่อยู่ในน้ำมันดีเซล ซึ่งน้ำมันดีเซล B7 จะมีไบโอดีเซลอยู่ 6.6 – 7.0% ซึ่งจะเหมาะกับรถเก่า รถยุโรป ใครที่ต้องการรักษาเครื่องยนต์ก็แนะนำให้ใช้ B7 เช่น Benz, Hyundai, Tata, Bmw, Honda, Mazda, Audi เป็นต้น ดีเซล B10 B10 ก็ตามหลักการเดียวกับ B7 สัดส่วนไบโอดีเซลผสมอยู่ในน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 9 – 10% ซึ่งจะเหมาะกับรถรุ่นใหม่ๆ เช่น Toyota, Izusu, Nissan, Ford, Chevrolet, Mitsubishi เป็นต้น ปัจจุบัน น้ำมันเชื้อเพลิงในไทยมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานรถยนต์และความต้องการของผู้ใช้ รวมถึงลักษณะของเครื่องยนต์และระบบเชื้อเพลิง ลองมาทำความรู้จักกับน้ำมันเชื้อเพลิงที่กำลังมีราคาพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติของโลก น้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้เติมเพื่อทำให้รถยนต์สามารถขับเคลื่อนไปได้ หมายถึง ของเหลวที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ หลังจากนั้น มีการนำมาปรับปรุงคุณภาพ เติมสารปรุงแต่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เหมาะสมต่อลักษณะของการใช้งาน น้ำมันที่ถูกฉีดจ่ายในห้องเผาไหม้ ถูกเผาให้เป็นพลังงานในการขับเคลื่อนกระบอกสูบ ถ่ายลงไปยังเพลาข้อเหวี่ยงของเครื่องยนต์ ก่อนที่จะส่งกำลังไปยังระบบเกียร์ น้ำมันเชื้อเพลิง นอกจากจะใช้กับเครื่องยนต์เทอร์ไบน์ หรือใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม เช่น ต้มน้ำในหม้อไอน้ำ (Boiler) ใช้ในเตาอบเครื่องปั้นดินเผา หรือในโรงงานเซรามิก และใช้ในการปั่นกระแสไฟฟ้า ในประเทศไทย น้ำมันเชื้อเพลิงที่จำหน่ายในสถานีบริการ จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ น้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กับเครื่องยนต์เบนซิน น้ำมันเบนซิน (GASOLINE) เบนซิน ออกเทน 95 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 คือ น้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากการนำน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วผสมกับเอทานอล หรือเอทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5% ในอัตราส่วน 10% เพื่อทดแทนสาร MTBE (Methyl Tertiary Butyl Ether) ได้ออกมาเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ออกเทน 95 โดยยังคงคุณสมบัติในการใช้งานกับเครื่องยนต์ เช่นเดียวกับน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เบนซิน ออกเทน 91 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 คือ น้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากการนำน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วผสมกับ เอทานอล หรือเอทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5% ในอัตราส่วน 10% จึงได้ออกมาเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ออกเทน 91 โดยยังคงคุณสมบัติในการใช้งานกับเครื่องยนต์ เช่นเดียวกับน้ำมันเบนซินออกเทน 91 ปัจจุบัน ทั้งเบนซิน ออกเทน 95 และ 91 แทบจะไม่มีอยู่ในสถานีบริการแล้ว เนื่องจากมีการผสมกับเอทิลแอลกอฮอล์จนกลายเป็นแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 หรือ E20 ส่วน E85 เริ่มหาเติมได้ยากเนื่องจากขาดการสนับสนุนอย่างจริงจัง และไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร น้ำมันแก๊สโซฮอล์ Gasohol (E20) น้ำมันเบนซิน ที่มีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์หรือเอทานอล ชนิดความบริสุทธิ์ 99.5% ในอัตราส่วน 20% กับน้ำมันเบนซินชนิดพิเศษ (Base Gasohol) 80% ออกเทน 95 แก๊สโซฮอล์ หรือ GASOHOL คือน้ำมันเบนซิน (GASOLINE) พื้นฐาน ที่ถูกนำไปผสมกับสารเอทานอล (ETHANOL) หรือ เอทิลแอลกอฮอล์ (ETHYL ALCOHOL) ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5% ในสัดส่วนที่แตกต่างกันไป แก๊สโซฮอล์เป็นพลังงานสะอาด ช่วยลดมลพิษ เช่น ควันดำ รวมทั้งช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองจากท่อไอเสีย เอทานอลที่นำไปผสม ยังเป็นพลังงานทดแทนที่มาจากผลผลิตพืชเกษตรในประเทศ ทำให้ช่วยลดการนำเข้าสารเพิ่มออกเทน (MTBE) จากต่างประเทศ สำหรับประเทศไทย มีการใช้แก๊สโซฮอล์ในสัดส่วนของแต่ละประเภทน้ำมัน ดังนี้ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 คือ น้ำมันเบนซินออกเทน 91 ที่ผสมกับ เอทานอล ในอัตราส่วน 10% และสีของน้ำมันชนิดนี้จะมีสีเขียว น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 คือ น้ำมันเบนซินออกเทน 95 ที่ผสมกับเอทานอล ในอัตราส่วน 10% และสีของน้ำมันชนิดนี้จะมีสีส้ม น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 คือ น้ำมันเบนซินออกเทน 95 ที่ผสมกับเอทานอล ในอัตราส่วน 20% และสีของน้ำมันชนิดนี้จะมีสีน้ำตาล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 คือ น้ำมันเบนซินออกเทน 95 ที่ผสมกับเอทานอล ในอัตราส่วน 85% และสีของน้ำมันชนิดนี้จะมีสีม่วง ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้ตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนพลังงานในอนาคต โดยได้วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่เป็นพลังงานทดแทนเชื้อเพลิงจากปิโตรเลียม โดยนำเอาวัตถุดิบจากผลิตผลทางการเกษตรต่างๆ ที่มีเหลือเกินความต้องการ ใช้บริโภคมาผลิตเป็นเอทานอล อาทิ อ้อย (กากน้ำตาล) ข้าวโพด และมันสำปะหลัง สำหรับประเทศไทยรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการใช้เอทานอลเป็นเชื้อเพลิงเช่นเดียวกัน โดยการนำเอทานอลมาผสมกับน้ำมันเบนซิน เรียกว่า “น้ำมันแก๊สโซฮอล์” ในต่างประเทศที่มีการนำน้ำมันแก๊สโซฮอล์มาใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และบราซิล มีการใช้เอทานอลผสมกับน้ำมันเบนซินในสัดส่วนที่แตกต่างกันไป เช่น อเมริกา ใช้เอทานอลในปริมาณ 10% บราซิล ใช้ในปริมาณสูงสุดถึง 24% ส่วนการผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ในประเทศไทย มีการกำหนดมาตรฐานคุณภาพของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่จำหน่ายในประเทศ ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2545 โดยใช้เอทานอลที่มีความบริสุทธิ์ 99.5% นำมาผสมกับ น้ำมันเบนซิน ในอัตราส่วนเอทานอล : น้ำมันเบนซิน 10 : 90 น้ำมันแก๊สโซฮอล์มีข้อกำหนดคุณภาพที่คล้ายกับน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ยกเว้นในเรื่อง สี เป็นสีส้ม ความดันไอไม่สูงกว่า 65 กิโลปาสคาล การระเหยในอัตราร้อยละ 50 โดยปริมาตร มีค่าอยู่ระหว่าง 65-110 องศาเซลเซียส แก๊สโซฮอล์ที่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ใช้งานได้ดีไม่แตกต่างไปจากเชื้อเพลิง 91 และ 95 รวมถึงยังช่วยลดมลพิษ และสนับสนุนเกษตรกรของเราอีกด้วย. เบนซิน กับ แก๊ส โซ ฮ อ ล์ ต่างกันยังไงน้ำมันเบนซินนั้นไม่มีส่วนผสมของเอทานอล ในขณะที่แก๊สโซฮอล์คือส่วนผสมของน้ำมันเบนซิน และเอทานอล โดยในประเทศไทย แก๊สโซฮอล์ไม่เพียงหมายถึงการผสมเอทานอลในระดับต่ำ (E 10, E 20) แต่ยังรวมถึงเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้นด้วย (เช่น E 85 ซึ่งเป็นส่วนผสมของเอทานอล 85% และน้ำมันเบนซิน 15% ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า เบนซินให้ ...
เบนซิน 95 กับ แก๊สโซฮอล์ 95 ต่างกันอย่างไรแก๊สโซฮอล์ 95 มีราคาถูกกว่าน้ํา มัน เบนซิน 95 ใช้แทนกันได้ น้ำมัน e20 แก๊สโซฮอล์ น้ํามัน 95 (Gasohol 95 : E20) น้ำมันเบนซิน 95 ผสมกับเอทิลแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5% (อัตราส่วน เบนซิน 80% : เอทานอล 20%)
แก๊สโซลีนกับแก๊สโซฮอล์ต่างกันอย่างไรน้ำมันเติมรถยนต์ชนิดที่บ้านเราเรียกว่าเบนซินนั้น ในอเมริกาและอีกหลายประเทศเขา เรียกว่า แก๊สโซลีน (gasoline) ดังนั้นเมื่อเอาแก๊สโซลีน (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน) มา ผสมกับแอลกอฮอล จึงกลายเป็นน้ำมันสูตรใหม่ที่เรียกว่า น้ำมันแก๊สโซฮอล (gasohol) แต่ถ้าเอาน้ำมันดีเซลมาผสมกับแอลกอฮอล จะได้เป็นน้ำมันดีโซฮอล (diesohol)
แก๊สโซฮอล์ 91 กับเบนซิน 91 ต่างกันยังไงมารู้จักน้ำมันกันก่อนนะครับ 1. น้ำมัน เบนซิน 91 = น้ำมันที่เกิดจากบวนการกลั่นน้ำมัน นำมาผสมสารเพิ่มคุณภาพ และสารเติมแต่ง ให้ได้ค่าออกเทนตามที่ต้องการ 2. แก๊สโซฮอล์ 95 (E10) = น้ำมันเบนซิน 91 (ข้อ 1) 90% นำมาผสมกับ เอทานอล 10% 3. แก๊สโซฮอล์ 91 (E10) = น้ำมันเบนซินออกมาจากโรงกลั่นมีค่า ออกเทน อยู่ที่ 87 90% มาผสมกับ เอ ...
|