หูฟังครอบหู ราคาไม่เกิน 300

iPrice ประเทศไทย – หูฟังแบบครอบ คือคำตอบที่แท้จริงของผู้รักเสียงดนตรี

นานาประเภทหูฟังที่คุณควรทราบก่อนเลือกซื้อ

หากคุณกำลังมองหาหูฟังคุณภาพเสียงเยี่ยม ๆ สักชิ้นอยู่ละก็ อันดับแรกที่คุณต้องทราบคือ ประเภทและคุณสมบัติของหูฟังแต่ละชนิดเพื่อให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคุณให้มากที่สุด สำหรับหูฟังที่นิยมใช้อยู่ในขณะนี้จะมีอยู่ 4 ประเภทด้วยกัน คือ

• Fullsize Headphone คือหูฟังครอบหูขนาดใหญ่ ข้อดีคือจะมีลำโพงค่อนข้างใหญ่ เมื่อครอบไปแล้ว สามารถเต็มอิ่มกับคุณภาพเสียงแบบไร้การรบกวนได้อย่างสบาย แต่เพราะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และมีน้ำหนักมากจึงไม่เหมาะกับการพกพา
• Semi-Fullsize Headphone ยังคงเน้นการครอบหูแบบเต็มส่วนอยู่ เพียงแต่ปรับปรุงสายคาดและที่ครอบให้มีขนาดเล็กเพื่อความสะดวกในการพกพามากขึ้น ข้อเสียคือจะไม่สามารถป้องกันเสียงรบกวนได้เท่าแบบ Fullsize
• Street Style/ Earpad Headphone (On the Ear) เป็นหูฟังที่ออกแบบมาให้เหมาะกับการพกพา โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์แบบเอ้าท์ดอร์หรือการออกกำลังกาย เป็นต้น
• Clip-On/ Clip-Ear มีลักษณะเด่นตรงการล็อคที่แน่นหนา เพราะออกแบบมาให้คุณสามารถพกพาและทำกิจกรรมได้อย่างสบาย แต่ก็มีราคาสูงกว่าชนิดอื่น ๆ

ปัจจุบัน หูฟังคุณภาพดีไม่จำเป็นต้องมีสายยาว ๆ อีกต่อไป เพราะคุณสามารถเลือกซื้อหูฟังแบบบลูทูธที่ช่วยอำนวยความสะดวกของคุณได้ทุกโอกาส แถมยังไม่ต้องวุ่นวายกับการม้วนหรือพับสายอีกด้วย ยิ่งเทคโนโลยีของบลูทูธก้าวหน้าไปมาก จึงไม่ต้องกังวลกับสัญญาณการเชื่อมต่อที่ขาดหายอีกต่อไป หากคุณกำลังวางแผนจะซื้อหูฟังแบบบลูทูธอยู่ละก็ เรามีข้อดี 2 ข้อหลัก ๆ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ดังนี้ 1.ประหยัด เทคโนโลยีบลูทูธสามารถอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น การประหยัดเวลา เพราะสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ต และ 2.สะดวกสบาย เพราะสามารถใช้งานที่ใหนก็ได้เพียงแต่ต้องอยู่ในรัศมีที่อุปกรณ์กำหนด (โดยปกติจะไม่เกิน 10 เมตร)

7 เคล็ดลับถนอมหูฟังอย่างไรให้อยู่กับคุณไปนาน ๆ

ทุกวันนี้การที่เราเห็นคนใส่หูฟังขนาดต่าง ๆ สีสันสดใสเดินอยู่ในที่สาธารณะดูจะเป็นเรื่องคุ้นเคยไปเสียแล้ว หูฟังถือเป็นไอเท็มที่อยู่ในโหมดเครื่องเสียงและ Hi-Fi อย่างที่เราทราบกันว่า หูฟังสเปกดี ๆ เสียงโดน ๆ มักมีราคาแพง ดังนั้นการดูแลรักษาให้อายุการใช้งานนานยิ่งขึ้นจึงเป็นเรื่องที่สมควรทำอย่างยิ่ง แน่นอนว่าเรามีเทคนิคเด็ดมานำเสนอคุณ ดังนี้

• หลีกเลี่ยงการเบิร์นแรง ๆ เพราะหูฟังที่ประกอบมาใหม่ ๆ ดอกหรือไดร์ฟเวอร์ของลำโพงจะถูกขึงมาจนตึง หากคุณเปิดเสียงแรงไประหว่างการเบิร์น อาจทำให้ดอกหรือไดร์ฟเวอร์ฉีกขาดได้ ดังนั้นแรกเริ่มคุณควรเปิดระดับปกติไว้สักระยะก่อนเพื่อให้ไดร์ฟเวอร์หย่อนลง
• จับที่ขั้วขณะถอด ทุกครั้งที่คุณต้องการถอดการเชื่อมต่อของหูฟังต้องจับที่ขั้วต่อทุกครั้ง ห้ามดึงสายเพื่อแล้วถอดเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลให้สายขาดหรือขั้วต่อหลวมได้
• ควรใส่หูฟังก่อนเปิดเพลง เพราะระหว่างการเปิดเพลงไดร์ฟเวอร์ภายในหูฟังจะมีการขยับหรือทำงานอยู่ตลอด ถ้าคุณเปิดเพลงก่อนใส่จะทำให้เกิดแรงดันมากมายกระแทกเข้าหูของผู้ฟังได้ ถือเป็นผลเสียทั้งจากไดร์ฟเวอร์และเยื่อแก้วหูเลยทีเดียว
• ระวังเรื่องแรงขับ โดยเฉพาะหูฟังแบบ In-Ear หรือ Earbud เพราะมีแอมป์บางชนิดที่มีแรงขับมากเกินกว่าหูของเราจะรับได้ ทำให้หูฟังเสื่อมสภาพไวยิ่งขึ้น
• ระมัดระวังในการเก็บ แนะนำให้หากล่องหรือกระเป๋าใส่เป็นกิจจะลักษณะทุกครั้งหลังใช้งาน เพราะแรงกดทับจากรอบข้างอาจทำให้หูฟังเสียหายหรือเสียรูปร่างได้ ควรม้วนเก็บให้สายเรียงกันไม่บิดเบี้ยว โดยม้วนรอบนิ้วของเราทั้ง 3 นิ้ว (นิ้วชี้, นิ้วกลาง และนิ้วนาง)
• ลดเบสให้ต่ำลง เนื่องจากเสียงเบสสามารถทำร้ายทั้งหูฟังและเยื่อหูเราได้ หากชื่นชอบการฟังเสียงเบสหนัก ๆ แนะนำให้ซื้อหูฟังที่เน้นเสียงเบสโดยเฉพาะ แต่ก็ไม่ควรเปิดจนสุดเช่นกัน อย่างน้อยผ่อนไว้สักขีดก็ยังดี
• หมั่นทำความสะอาด สำหรับอุปกรณ์ที่สามารถใช้ทำความสะอาดได้คือ น้ำสบู่อ่อน ๆ และแอลกอฮอล์ โดยเริ่มจากการนำก้านสำลีชุบน้ำยาทำความสะอาดที่เตรียมไว้เช็ดตามจุกยางหรือที่ครอบหู ควรเช็ดหลาย ๆ ครั้งและเปลี่ยนก้านสำลีบ่อย ๆ จนมั่นใจว่าไม่มีคราบสกปรกติดอยู่แล้ว จากนั้นให้ใช้กระดาษทิชชู่ชุบน้ำยาทำความสะอาดเพื่อเช็ดสาย เมื่อสะอาดแล้วให้เช็ดตามด้วยทิชชู่แห้ง เท่านี้ก็สามารถขจัดคราบและเชื้อโรคที่สะสมอยู่ได้แล้ว