Show 2.จงอธิบายลำดับของการพัฒนาการทางการจัดการตั้งแต่สมัยปฏิวัติอุตสาหกรรมจนถึงปัจจุบัน ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการเริ่มต้นศึกษาอย่างจริงจังในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมโดยเริ่มต้นจาก
การศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ แนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์เน้นการทดลองเพื่อให้ได้กระบวน การ ขั้นตอนและวิธีที่ดีที่สุดในการทํางานเพื่อลดความสูญเสียให้มากที่สุดหรือได้รับผลลัพธ์ดีที่สุด ในการทํางาน นักคิดและนักวิชาการยังกําหนด “แนวคิดการจัดการเชิงบริหาร” ที่เสนอกฎเกณฑ์ และหลักการทางบริหารจัดการให้มีกระบวนวิธีที่ชัดเจนยิ่งขึ้นจากนั้นเริ่มมีการทดลองทางวิทยาศาสตร์ศึกษาปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อผลผลิตของ พนักงานจนพบว่าปัจจัยที่มีส่วนกระตุ้นผลผลิตของพนักงานขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่ใช่ปัจจัยทาง การผลิต
ได้แก่ ปัจจัยด้านพฤติกรรมมนุษย์ ซึ่งการค้นพบนี้ได้รับการพัฒนาเป็น “แนวคิดการจัดการ เชิงพฤติกรรมศาสตร์” ที่ให้ความสําคัญเกี่ยวกับคนและความรู้สึกนึกคิดของคนแนวคิดการจัดการมีพัฒนาการไปสู่การใช้เทคโนโลยีมากขึ้นด้วย “แนวคิดการจัดการเชิง ปริมาณ” ที่เชื่อมั่นในการนําทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ ข้อมูลทางสถิติและเทคโนโลยีสารสนเทศมา ช่วยในการบริหาร “แนวคิดการจัดการร่วมสมัย” เสนอวิธีการที่หลากหลายในการเพิ่มประสิทธิภาพในการ บริหารจัดการ ด้วยการพิจารณาระบบที่เกี่ยวข้องกับองค์กร ได้แก่ แนวคิดเรื่องระบบ ซึ่งเน้นให้
องค์กรให้ความสําคัญกับระบบต่างๆ ภายในองค์กร เพื่อให้องค์กรซึ่งเป็นระบบใหญ่สามารถ ทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพนอกจากนี้ แนวคิดการจัดการตามสถานการณ์เสนอว่าผู้บริหารควร ใช้วิธีการบริหารงานที่แตกต่างกันไปในแต่ละสถานการณ์ซึ่งจะเป็นผลให้การบริหารเป็นไปอย่าง มีประสิทธิภาพ (นางสาว สรัสนันท์ บุญมี 12590080) ตอบลบ การศึกษาค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับการจัดการในยุคปัจจุบันเพิ่งเริ่มขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ภายหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม
นักวิชาการและนักคิดจำนวนมากจากชาติตะวันตกได้ศึกษาค้นคว้าและวิจัยวิธีการจัดการในลักษณะต่างๆ จากแนวคิดการศึกษาในช่วงแรกซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพียงแค่ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อมาจึงกำหนดวิธีการบริหาร จัดการให้เป็นขั้นเป็นตอน และพัฒนามาเป็นยุคที่ให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของมนุษย์ จากนั้น การจัดการก็ให้ความสำคัญกับการจัดการเชิงปริมาณและมาถึงแนวคิดการจัดการร่วมสมัย
ซึ่งเสนอแนวคิดและวิธีการจัดการในหลากหลายรูปแบบที่สามารถนำมาใช้ในการบริหารจัดการได้อย่างน่าสนใจ ตอบลบ William G. Scott
ได้แบ่งวิวัฒนาการทางการจัดการ ตั้งแต่เริ่มแรกหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรมจนถึงปัจจุบันอาจจะแบ่งออกได้เป็น 3 ยุค คือ ยุคที่ 2 ยุคการจัดการสมัยใหม่ (Neo-classic) (ค.ศ. 1930-1950) ยุคที่ 3 ยุคการจัดการสมัยปัจจุบัน (Modern) (ค.ศ. 1950-ปัจจุบัน) ตอบลบ ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ ตอบลบ -แนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม(ช่วงประมาณ1890-1940) โดยการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของแรงงาน กล่าวคือ มีการตั้งสมมติฐาน กำหนดตัวแปร
ทดลอง แล้วจึงวัดผลการทดลองในกรณีต่างๆ ทำการทดลองตามกระบวนการซ้ำแล้วซ้ำอีกจนได้วิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ตอบลบ ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ ตอบลบ - แนวคิดทางการจัดการเริ่มในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมโดยเริ่มต้นจาก “การศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์” แนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์เน้นการทดลองเพื่อให้ได้กระบวนการ ขั้นตอน
และวิธีที่ดีที่สุดในการทำงานเพื่อลดความสูญเสียให้มากที่สุดในการทำงาน ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการ แบ่งเป็น 5 แนวทาง ตอบลบ แนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ เกิดขึ้นในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ต้องการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของแรงงาน
โดยอาศัยวิธีที่ได้จากการศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการสามารถแบ่งได้เป็น 5 แนวทาง ดังนี้ ตอบลบ โดยลำดับของการพัฒนาการทางการจัดการดังนี้ (สุรีรัตน์ สระเกตุ 12590098) ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการเริ่มต้นศึกษาอย่างจริงจังในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมโดยเริ่มจากการศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ มีการตั้งสมมติฐานกำหนดตัวแปร ทดลอง แล้วจึงวัดผลการทดลอง
ทดลองตามกระบวนการซ้ำ จนค้นพบวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น กระทั่งคืนพบวิธีที่ดีที่สุดในการทำงาน นักคิดและนักวิชาการยังกำหนดแนวคิดการจัดการเชิงบริหาร เกิดจากความพยายามของนักคิดและนักวิชาการที่คิดค้นกำหนดหลักการบริหารให้ชัดเจน คือ การริเริ่มกำหนดกิจกรรมหลักในองค์กรธุรกิจ หน้าที่ทางการจัดการคุณลักษณะของผู้จัดการ และหลักการจัดการจากนั้นเริ่มศึกษาปัจจัยต่างๆแนวคิดการจัดการเชิงพฤติกรรมศาสตร์ ศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมมนุษย์ ได้แก่ ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกขององค์กร
ความรู้สึกและความหวังของคนงานตลอดจนเป้าหมายและแรงจูงใจในการทำงานของคนงานแนวคิดการจัดการเชิงปริมาณ เป็นการนำหลักคณิตศาสตร์ สถิติ ตลอดจนคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประมวลผลเพื่อช่วยในการบริหารจัดการแนวคิดการจัดการร่วมสมัย มองว่าทุกองค์กรเป็นระบบใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยระบบย่อยต่างๆ ที่มีผลกระทบซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลา แนวคิดแต่ละแบบมีจุดเด่นของตนเอง ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการแบ่งเป็น 5 แนวคิดหลักได้แก่ ตอบลบ 1.แนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ เกิดขึ้นในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม จากความพยายามของนักวิทยาศาสตร์และนักคิดในยุคนั้น ที่ต้องการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของแรงงานโดยอาศัยวิธีการวิทยาศาสตร์ คือ มีการตั้งสมมติฐาน กำหนดตัวแปร ทดลอง วัดผล ทำซ้ำ จนค้นพบวิธีการที่มีประสิทธิภาพ ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการ แบ่งเป็น 5 แนวทาง ตอบลบ
ตอบลบ การจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ (Scientific Management) การจัดการตามหลักการบริหาร โดยในขณะที่การจัดการตามหลักวิทยาศาสตร์มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพที่งานของคนงานแต่ละคนนั้น การจัดการตามหลักการบริหาร มุ่งเน้นที่การจัดการองค์การในภาพรวมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ โดยการจัดการตามหลักการบริหาร มองว่าผู้จัดการและผู้บริหารมีความรับผิดชอบในการประสานกิจกรรมต่างๆ ของกลุ่ม และส่วนงานต่างๆ ในองค์การ นักคิดสำคัญของการจัดการตามหลักการบริหาร ได้แก่ อองรี ฟาโย (Henri Fayol ค.ศ.1841-1925) และเชสเตอร์ เบอร์นาร์ด (Chester Barnard ค.ศ.1886-1961) แนวคิดพฤติกรรมศาสตร์ เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นในการศึกษาค้นคว้าเชิงวิทยาศาสตร์ในการพัฒนาทฤษฏีความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์ในองค์การที่จะสามารถใช้เป็นแนวทางในการบริหารสำหรับผู้จัดการในการดูแลบริหารพนักงานต่อไป แนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่พยายามค้นคว้าศึกษาถึงหลักการธรรมชาติและพฤติกรรมของมนุษย์ พฤติกรรมมนุษย์เมื่อทำงานร่วมกันกับผู้อื่น รวมทั้งสิ่งที่จะสามารถใช้จูงใจมนุษย์ในการทำงาน และพัฒนาออกมาเป็นทฤษฏีต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้บริหารใช้เป็นแนวทางในการจัดการ แนวคิดเชิงปริมาณ คือมุมมองการจัดการโดยใช้ตัวเลข
เป็นความพยายามที่จะนำคณิตศาสตร์ และตัวเลขมาใช้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจทางการจัดการ โดยพื้นฐานของการตัดสินใจทางด้านการจัดการโดยใช้ตัวเลขนี้มาจากข้อสมมุติฐานที่ว่า เทคนิคทางด้านคณิตศาสตร์สามารถที่จะใช้แก้ปัญหาได้ดีกว่าการที่ไม่ได้ใช้ตัวแบบทางคณิตศาสตร์เข้ามาช่วย ซึ่งในมุมมองนี้สามารถที่จะแบ่งออกมาได้เป็น 2 แขนงด้วยกัน ได้แก่ หลักการจัดการร่วมสมัย ตอบลบ 1.แนวความคิดการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ (Scientific Management Approach) การจัดการแบบวิทยาศาสตร์นั้นหมายถึงการจัดการการทำงานแบบมีระบบ
โดยอาศัยเทคนิคหรือวิธีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ซึ่งก็คือ “กฎระเบียบ” นำมาใช้กับการปฎิบัติงาน มีการศึกษาเหตุและผล เก็บข้อมูล ตลอดจนวิเคราะห์เพื่อหาวิธีการที่ดีที่สุดในการทำงานั้นๆ เริ่มเกิดขึ้นในช่วงต้นของยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมที่เริ่มเปลี่ยนจากแรงงานคนมาเป็นแรงงานจากเครื่องจักร ทฤษฎีในยุคนี้จะมุ่งเน้นไปยังเป้าหมาย ผลสำเร็จ ที่มาจากการจัดการทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการ แบ่งออกเป็น 5 ยุค 2. แนวความคิดการจัดการแบบหลักการบริหาร (Administrative Management) แนวคิดนี้เกิดขึ้นในยุคคลาสสิกเช่นกัน แต่จะมีการจัดการที่เป็นระบบระเบียบขึ้น แนวความคิดนี้เกิดจากความเชื่อที่ว่าการบริหารแบบวิทยาศาสตร์นั้นเป็นลักษณะสากลที่มีอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว แต่นักทฤษฎีในกลุ่มการจัดการแบบการบริหารนี้จะมุ่งเน้นสนใจในการปรับปรุงการทำงานของฝ่ายบริหารหรือฝ่ายการจัดการโดยเฉพาะ ไม่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการทำงานของพนักงานระดับล่าง 3.ทฤษฎีการจัดการเชิงพฤติกรรม (Behavioral Management Approach) แนวคิดการจัดการเชิงพฤติกรรมเกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคนงานทฤษฎีนี้มุ่งเน้นไปที่การศึกษาเชิงพฤติกรรมและพฤติกรรมน ๆ ควรเป็นพฤติกรรมที่มองเห็นได้อย่างเป็นรูปธรรมหรือพิจารณาในรูปของการทดลองและการวัดได้ 4.ทฤษฎีการจัดการเชิงปริมาณ (Quantitative Management Approach) แนวคิดการจัดการเชิงปริมาณเกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นวิธีการพัฒนาประสิทธิภาพในการบริหารงานและการเพิ่มผลผลิตโดยใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์เชิงปริมาณสถิติตลอดจนคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประมวลผลเพื่อช่วยในการบริหารจัดการทฤษฎีการจัดการเชิงปริมาณเป็นวิธีการที่ปรากฏในปัจจุบันประกอบด้วยหลายสาขา ได้แก่ วิทยาศาสตร์การจัดการ (Management Scence) การจัดการเชิงปฏิบัติการ (Operation Management) และระบบสารสนเทศทางการจัดการ (Management Information System) 5.ทฤษฎีการจัดการร่วมสมัย (Contemporary Management Approach) แนวคิดการจัดการร่วมสมัยเป็นการพัฒนาหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการองค์การอย่างต่อเนื่องซึ่งปัจจุบันมีแนวคิดและวิธีการหลายประการที่นำมาศึกษาและประยุกต์ใช้ (ณัฐชัญญา ปรินจิตต์ 12590896) ตอบลบ William G. Scott ได้แบ่งวิวัฒนาการทางการจัดการ ตั้งแต่เริ่มแรกหลังการปฏิวัตอุตสาหกรรมจนถึงปัจจุบันอาจจะแบ่งออกได้เป็น 3 ยุค คือ ตอบลบ 1.แนวความคิดการจัดการแบบวิทยาศาสตร์
(Scientific Management Approach) เกิดขึ้นในยุคปฎิวัติอุตสาหกรรม จากความพยายามของนักวิทยาศาสตร์และนักคิดในยุคนั้น ที่ต้องการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของแรงงานโดยอาศัยวิธีการที่ได้จากการศึกษาในเชิงวิทยาศาสตร์ กล่าวคือ มีการตั้งสมมติฐาน กำหนดตัวแปร ทดลอง แล้วจึงวัดผลการทดลองในกรณีต่างๆ ทำการทดลองตากระบวนการซ้ำแล้วซ้ำอีก จนค้นพบวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น กระทั่งสามารถค้นพบวิธีที่ดีที่สุด ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการเริ่มต้นศึกษาอย่างจริงจังในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมโดยเริ่มต้นจาก การศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ แนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์เน้นการทดลองเพื่อให้ได้กระบวน การ ขั้นตอนและวิธีที่ดีที่สุดในการทํางานเพื่อลดความสูญเสียให้มากที่สุดหรือได้รับผลลัพธ์ดีที่สุด ในการทํางาน นักคิดและนักวิชาการยังกําหนด “แนวคิดการจัดการเชิงบริหาร” ที่เสนอกฎเกณฑ์
และหลักการทางบริหารจัดการให้มีกระบวนวิธีที่ชัดเจนยิ่งขึ้นจากนั้นเริ่มมีการทดลองทางวิทยาศาสตร์ศึกษาปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อผลผลิตของ พนักงานจนพบว่าปัจจัยที่มีส่วนกระตุ้นผลผลิตของพนักงานขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่ใช่ปัจจัยทาง การผลิต ได้แก่ ปัจจัยด้านพฤติกรรมมนุษย์ ซึ่งการค้นพบนี้ได้รับการพัฒนาเป็น “แนวคิดการจัดการ เชิงพฤติกรรมศาสตร์” ที่ให้ความสําคัญเกี่ยวกับคนและความรู้สึกนึกคิดของคนแนวคิดการจัดการมีพัฒนาการไปสู่การใช้เทคโนโลยีมากขึ้นด้วย “แนวคิดการจัดการเชิง ปริมาณ”
ที่เชื่อมั่นในการนําทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ ข้อมูลทางสถิติและเทคโนโลยีสารสนเทศมา ช่วยในการบริหาร “แนวคิดการจัดการร่วมสมัย” เสนอวิธีการที่หลากหลายในการเพิ่มประสิทธิภาพในการ บริหารจัดการ ด้วยการพิจารณาระบบที่เกี่ยวข้องกับองค์กร ได้แก่ แนวคิดเรื่องระบบ ซึ่งเน้นให้ องค์กรให้ความสําคัญกับระบบต่างๆ ภายในองค์กร เพื่อให้องค์กรซึ่งเป็นระบบใหญ่สามารถ ทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพนอกจากนี้ แนวคิดการจัดการตามสถานการณ์เสนอว่าผู้บริหารควร
ใช้วิธีการบริหารงานที่แตกต่างกันไปในแต่ละสถานการณ์ซึ่งจะเป็นผลให้การบริหารเป็นไปอย่าง มีประสิทธิภาพ ตอบลบ วิวัฒนาการทางการจัดการ ตอบลบ 2.จงอธิบายลำดับการพัฒนาทางการจัดการตั้งแต่สมัยปฏิวัติอุตสาหกรรมจนถึงปัจจุบัน ตอบลบ ลำดับของการพัฒนาการทางการจัดการเริ่มต้นดังนี้ นางสาวกุลปริยา แย้มเกษร 12590005 ตอบลบ ลำดับของการพัฒนาการทางการจัดการตั้งแต่สมัยปฏิวัติอุตสาหกรรมจนถึงปัจจุบัน ตอบลบ ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ ตอบลบ วิวัฒนาการทางการจัดการ 1)การจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ (Scientific Management) 2)การจัดการเชิงบริหาร ( Administrative Management)
3)หลักการจัดการเชิงพฤติกรรมศาสตร์
(The behavior approach to management) ตามหลักของทฤษฎีเน้นหรือให้ความสนใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนรอบข้างกับสังคมที่เขาทำงานร่วมกันซึ่งแนวคิดนี้มุ่งเน้นที่คนเป็นหลัก 4)หลักการจัดการเชิงปริมาณ นางสาว ศิฌาวี เรือนปัญจะ (12590078) ตอบลบ William G. Scott ได้แบ่งวิวัฒนาการทางการจัดการ ตั้งแต่เริ่มแรกหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรมจนถึงปัจจุบันอาจจะแบ่งออกได้เป็น 3 ยุค คือ ตอบลบ การพัฒนาการทางแนวคิดในแต่ละยุค แนวคิดการจัดการเชิงบริหาร 1910 แนวคิดการจัดการเชิงพฤติกรรมศาสตร์ แนวคิดการจัดการเชิงปริมาณ แนวคิดการจัดการร่วมสมัย
(เริ่มให้ความสำคัญกับบุคคลมากขึ้น) ตอบลบ การปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์โลก ซึ่งส่งผลกระทบในเกือบทุกแง่มุมของชีวิตประจำวันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือการที่รายได้และจำนวนประชากรโดยเฉลี่ยเริ่มที่จะขยายตัวอย่างยั่งยืนในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้สองร้อยปีหลังจาก ค.ศ. 1800 ค่าเฉลี่ยรายได้ต่อหัวของโลกขยายตัวมากกว่าสิบเท่า ในขณะที่จำนวนประชากรขยายตัวมากกว่าหกเท่า กระบวนการเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายของคริสต์ศตวรรษที่ 18 ด้วยการเปลี่ยนผ่านซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนจากเศรษฐกิจแบบพึ่งพาแรงงานคนและสัตว์เป็นหลักไปเป็นเศรษฐกิจแบบพึ่งพาเครื่องจักรเป็นหลักของสหราชอาณาจักร โดยเริ่มในอุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นอุตสาหกรรมแรก
อันเป็นผลมาจากการพัฒนากรรมวิธีการหลอมเหล็กและความนิยมในการใช้ถ่านหินโค้กที่แพร่หลายขึ้น การขยายตัวของการค้าขายเป็นผลมาจากการพัฒนาคลอง ถนน และทางรถไฟ ด้วยการเปลี่ยนแปลงจากเศรษฐกิจแบบพึ่งพาเกษตรกรรมไปเป็นเศรษฐกิจแบบพึ่งพาอุตสาหกรรมการผลิต ทำให้เกิดการไหลบ่าของประชากรจากชนบทเข้าสู่เมืองขนานใหญ่ และก่อให้เกิดการขยายตัวของจำนวนประชากร ตอบลบ 1.ทฤษฎีและแนวความคิดแบบดั้งเดิม (Classical Theory) ตอบลบ
ตอบลบ แบ่งออกเป็น 5 แนวทาง ดังนี้ ตอบลบ 2. การพัฒนาการทางการจัดการเริ่มต้นศึกษาในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมโดยเริ่มจาก ตอบลบ 1. แนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ เกิดขึ้นในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม จะใช้วิธีการตั้งสมมติฐาน กำหนดตัวแปร ทดลอง แล้ววัดผลการทดลอง
ทำกระบวนการซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้ได้วิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง จนค้นพบวิธีที่ดีที่สุด One Best Way ตอบลบ
ตอบลบ 1. แนวคิดทางการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ (Scientific Management Approach) เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นในยุคดั้งเดิม ทำให้เกิดมีการปฏิวัติอุตสาหกรรมจากที่เกิดจากนักวิทยาศาสตร์และนักคิดในยุคนั้น ที่ต้องการพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน โดยมีการตั้งสมมุติฐาน กำหนดตัวแปร ทดลอง และวัดผลการทดลองในกรณีต่างๆ ซึ่งคล้ายกับหลักการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ 2. แนวความคิดการจัดการแบบหลักการบริหาร (Administrative Management) แนวคิดนี้เกิดขึ้นในยุคคลาสสิกเช่นกัน แต่จะมีการจัดการที่เป็นระบบระเบียบขึ้น แนวความคิดนี้เกิดจากความเชื่อที่ว่าการบริหารแบบวิทยาศาสตร์นั้นเป็นลักษณะสากลที่มีอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว แต่นักทฤษฎีในกลุ่มการจัดการแบบการบริหารนี้จะมุ่งเน้นสนใจในการปรับปรุงการทำงานของฝ่ายบริหารหรือฝ่ายการจัดการโดยเฉพาะ ไม่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการทำงานของพนักงานระดับล่าง 3.ทฤษฎีการจัดการเชิงพฤติกรรม (Behavioral Management Approach) แนวคิดการจัดการเชิงพฤติกรรมเกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคนงานทฤษฎีนี้มุ่งเน้นไปที่การศึกษาเชิงพฤติกรรมและพฤติกรรมน ๆ ควรเป็นพฤติกรรมที่มองเห็นได้อย่างเป็นรูปธรรมหรือพิจารณาในรูปของการทดลองและการวัดได้ 4.ทฤษฎีการจัดการเชิงปริมาณ (Quantitative Management Approach) แนวคิดการจัดการเชิงปริมาณเกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นวิธีการพัฒนาประสิทธิภาพในการบริหารงานและการเพิ่มผลผลิตโดยใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์เชิงปริมาณสถิติตลอดจนคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประมวลผลเพื่อช่วยในการบริหารจัดการทฤษฎีการจัดการเชิงปริมาณเป็นวิธีการที่ปรากฏในปัจจุบันประกอบด้วยหลายสาขา ได้แก่ วิทยาศาสตร์การจัดการ (Management Scence) การจัดการเชิงปฏิบัติการ (Operation Management) และระบบสารสนเทศทางการจัดการ (Management Information System) 5.ทฤษฎีการจัดการร่วมสมัย (Contemporary Management Approach) แนวคิดการจัดการร่วมสมัยเป็นการพัฒนาหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการองค์การอย่างต่อเนื่องซึ่งปัจจุบันมีแนวคิดและวิธีการหลายประการที่นำมาศึกษาและประยุกต์ใช้ ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการแต่ละแนวมีเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน คือ การทำงานให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ขององค์กร โดยแบ่งแนวคิดทางการจัดการได้ออกเป็น 5 ยุค
ดังนี้ ตอบลบ แนวคิดทางการบริหารการจัดการได้วิวัฒนาการเรื่อยมาเป็นลาดับ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ดังนี้ 1. แนวคิดก่อนยุคการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ ( Pre– Scientific Management ) ในยุคนี้เป็นยุคก่อนปี ค.ศ. 1880 ซึ่งการบริหารในยุคนี้อาศัยอำนาจหรือการบังคับให้คนงานทางานซึ่งวิธีการบังคับอาจใช้การลงโทษ การใช้แส้ การทางานในยุคนี้เปรียบเสมือนทาส คนในยุคนี้จึงต้องทางานเพราะกลัวการลงโทษ 2. แนวคิดการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ ( Scientific Management ) แนวคิดนี้เริ่มในช่วงของการปฏิวัติอุตสาหกรรมคือประมาณปี ค.ศ 188 เป็นต้นมาจนถึงปี 1930 ในยุคนี้ได้ใช้หลักวิธีการจัดการแบบวิทยาศาสตร์มาช่วยในการบริหารการจัดการ ทาให้ระบบบริหารการจัดการแบบโบราณได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ได้รับการยอกย่องว่าเป็นบิดาแห่งการจัดการแบบวิทยาศาสตร์หรือบิดาของวิธีการจัดการที่มีหลักเกณฑ์ โดยได้ศึกษาหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการทางานของคนงานในโรงงานอุตสาหกรรมโดย Taylor ได้เข้าทางานครั้งแรกในโรงงานที่เพนซิลวาเนีย เมื่อปี ค.ศ.1878 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำมากการบริหารงานขาดประสิทธิภาพ ไม่มีมาตรฐานในการประเมินผลงานของคนงาน การแบ่งงานไม่เหมาะสม การตัดสินใจขาดหลักการและเหตุผลสาหรับการศึกษาที่ใช้หลักวิทยาศาสตร์ ( The Scientific Approach ) มีส่วนประกอบสำคัญ 3ลักษณะคือ 1. มีแนวคิดที่ชัดเจน ( Clear Concept ) แนวความคิดต้องชัดเจนแน่นอนในสิ่งที่จะวิเคราะห์ 2. วิธีทางวิทยาศาสตร์ ( Scientific ) สาขาพิจารณาข้อเท็จจริงได้ทางวิทยาศาสตร์หรือสังเกตได้ แล้วนำข้อมูลดังกล่าวมาทาการทดสอบความถูกต้อง ถ้าเป็นจริงก็คือหลักเกณฑ์(Principles) 3.ทฤษฎี ( Theory ) หมายถึง การจัดระบบความคิดและหลักเกณฑ์มารวมกันเพื่อได้ความรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง 3. แนวคิดการจัดการยุคมนุษย์สัมพันธ์ ( Human Relation )แนวคิดมนุษย์สัมพันธ์เป็นแนวคิดที่ขัดแย้งกับแนวคิดการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ ที่เน้นประสิทธิภาพของการทางาน และมองข้ามความสำคัญของคน เห็นว่ามนุษย์ไม่มีชีวิตจิตใจ ไม่มีความต้องการมากนัก มีพฤติกรรมที่ง่ายต่อความเข้าใจ โดยอาศัยโครงสร้างขององค์การมาเป็นตัวกำหนด และควบคุม ให้มนุษย์ทางานให้บรรลุผลสำเร็จ ซึ่งยุคมนุษย์สัมพันธ์นั้นเป็นแนวคิดที่อยู่ในช่วงระหว่างปี ค.ศ 1930 – 1950 เนื่องจากเล็งเห็นว่า การจัดการใด ๆ จะบรรลุผลสำเร็จได้นั้นจะต้องอาศัยคนเป็นหลัก ดังนั้นแนวคิดมนุษย์สัมพันธ์ จึงได้ให้ความสำคัญในเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล จึงทาให้เรื่องราวของมนุษย์สัมพันธ์ ( Human Relation ) กลับมามีบทบาทสำคัญมากขึ้นนักวิชาการสำคัญที่ให้การสนับสนุนและศึกษาแนวคิดซึ่งจุดประสงค์ก็คือต้องการเข้าใจพฤติกรรมของคนในหน้าที่งานที่จัดไว้ให้ ปรากฏว่าคนทางานมิใช่ทางานเพื่อหวังผลตอบแทนด้วยตัวเงินเพียงอย่างเดียว แต่คนทางานต้องการด้านสังคมภายในกลุ่มที่เกิดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ ที่เป็นเรื่องของจิตใจ ตลอดจนความสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างคนงานด้วยกัน การศึกษาวิจัยดังกล่าวได้ศึกษาทดลองออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1. การศึกษาทดลองภายในห้อง (Room Studies) ได้ทาการทดลองเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของแสงสว่างภายในห้องทางาน เพื่อสังเกตประสิทธิของการทางานว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร 2. การศึกษาโดยการสัมภาษณ์ ( Interviewing Studies ) การทดลองนี้ก็เพื่อค้นหาความเปลี่ยนแปลงในการทางานเกี่ยวกับสภาวะแวดล้อมของการทางานและการบังคับบัญชา 3. การศึกษาโดยการสังเกต ( Observation Studies ) เป็นการสังเกตการทางานของคนและปัจจัย อื่นๆจากการทดลองนี้ได้ประโยชน์หลายประการ 4.
แนวคิดการจัดการยุคการบริหารสมัยใหม่ ( Modern Management )ซึ่งในขณะนี้เศรษฐกิจ และธุรกิจขยายตัวอย่างรวดเร็วความสลับซับซ้อนในการบริหารการจัดการก็มากขึ้น เพราะฉะนั้นการจัดการสมัยใหม่ จึงต้องใช้หลักทางคณิตศาสตร์มาช่วยในการตัดสินใจ ตลอดจนการจัดการเชิงระบบมาช่วย แต่อย่างไรก็ตาม ตัวอย่างเช่น คนเป็นระบบ เพราะในร่างกายของคนเรานั้นประกอบด้วย อวัยวะ ซึ่งมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างอัตโนมัติ ระบบจึงถือเป็น Grand Theory เป็นทฤษฎีขนาดใหญ่ เพราะมีระบบย่อยหรือสิ่งต่าง ๆ มากมาย เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ
ขององค์การไม่ว่าภายในหรือภายนอก ล้วนแต่มีความสัมพันธ์ เกี่ยวเนื่องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังนั้นการบริหารการจัดการจึงต้องปรับตัวให้มีความสมดุลอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์กับปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าว จึงจะทาให้องค์การเติบโต อยู่รอด และสัมฤทธิผลตามเป้าหมาย ตอบลบ ⭐️แนวคิดทางการจัดการ เริ่มต้นศึกษาอย่างจริงจังในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมโดยเริ่มต้นจากการศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ ตอบลบ โดยลำดับของการพัฒนาการทางการจัดการดังนี้ (นางสาวจุฬาลักษณ์ สกุลวงวาร 12590010) ตอบลบ William G. Scott ได้แบ่งวิวัฒนาการทางการจัดการ ตั้งแต่เริ่มแรกหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรมจนถึงปัจจุบันอาจจะแบ่งออกได้เป็น 3 ยุค คือ ตอบลบ ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ ตอบลบ ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ ตอบลบ 1.ทฤษฎีและแนวความคิดแบบดั้งเดิม (Classical Theory) ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการต่างๆ มีเป้าหมายในทิศทางเดียวกัน คือการทำงานให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ขององค์กร โดยแบ่งแนวคิดทางการจัดการออกเป็น 5
ยุค ตอบลบ โดยลำดับของการพัฒนาการทางการจัดการดังนี้ (นายวัชระ จริยสุขสกุล 12590071) ตอบลบ ทฤษฎีการบริหารจัดการนั้นเริ่มต้นขึ้นในช่วงที่เริ่มปฏิวัติอุตสาหกรรมตั้งแต่ปี ค.ศ.1760 เรื่อยมา ซึ่งยุคนี้เริ่มเปลี่ยนจากแรงงานคนมาเป็นแรงงานจากเครื่องจักร ทำให้มีการขยายอัตราการผลิตแบบก้าวกระโดด และเกิดระบบโรงงานอุตสาหกรรมขึ้นมากมาย จนเกิดการจัดการบริหารการทำงานให้เป็นระบบมากขึ้น เพื่อเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ดีทฤษฎีการบริหารจัดการนี้ก็ได้มีการพัฒนาเรื่อยมาตามยุคตามสมัย
แตกแขนงแนวทางการบริหารจัดการออกไปมากมาย ซึ่งแนวคิดและทฤษฎีต่างๆ นั้นแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะใหญ่ๆ ตามแต่ละยุคดังนี้ ตอบลบ วิวัฒนาการทางการบริหาร ตอบลบ การศึกษาค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับการจัดการในยุคปัจจุบันเพิ่งเริ่มขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ภายหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม
นักวิชาการและนักคิดจำนวนมากจากชาติตะวันตกได้ศึกษาค้นคว้าและวิจัยวิธีการจัดการในลักษณะต่างๆ จากแนวคิดการศึกษาในช่วงแรกซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพียงแค่ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อมาจึงกำหนดวิธีการบริหาร จัดการให้เป็นขั้นเป็นตอน และพัฒนามาเป็นยุคที่ให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของมนุษย์ จากนั้น การจัดการก็ให้ความสำคัญกับการจัดการเชิงปริมาณและมาถึงแนวคิดการจัดการร่วมสมัย
ซึ่งเสนอแนวคิดและวิธีการจัดการในหลากหลายรูปแบบที่สามารถนำมาใช้ในการบริหารจัดการได้อย่างน่าสนใจ ตอบลบ แนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ เกิดขึ้นในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม
ต้องการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของแรงงาน โดยอาศัยวิธีที่ได้จากการศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ ตอบลบ การศึกษาค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับการจัดการในยุคปัจจุบันเพิ่งเริ่มขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ภายหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม
นักวิชาการและนักคิดจำนวนมากจากชาติตะวันตกได้ศึกษาค้นคว้าและวิจัยวิธีการจัดการในลักษณะต่างๆ จากแนวคิดการศึกษาในช่วงแรกซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพียงแค่ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อมาจึงกำหนดวิธีการบริหาร จัดการให้เป็นขั้นเป็นตอน และพัฒนามาเป็นยุคที่ให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของมนุษย์ จากนั้น การจัดการก็ให้ความสำคัญกับการจัดการเชิงปริมาณและมาถึงแนวคิดการจัดการร่วมสมัย
ซึ่งเสนอแนวคิดและวิธีการจัดการในหลากหลายรูปแบบที่สามารถนำมาใช้ในการบริหารจัดการได้อย่างน่าสนใจ (นางสาวสิริกร ราชมณี 12590084) ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการต่างๆมีเป้าหมายในทิศทางเดียวกัน คือการทำงานให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ขององค์กร โดยแบ่งแนวคิดทางการจัดการออกเป็น5ยุค ตอบลบ 1.ทฤษฎีและแนวความคิดแบบดั้งเดิม (Classical Theory) ตอบลบ
ตอบลบ ยุคที่ 1 ยุคการจัดการสมัยเดิม (ค.ศ. 1880 – 1930) ตอบลบ 1.แนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ เกิดขึ้นในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม จากความพยายามของนักวิทยาศาสตร์และนักคิดในยุคนั้น ที่ต้องการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของแรงงานโดยอาศัยวิธีการวิทยาศาสตร์ คือ มีการตั้งสมมติฐาน กำหนดตัวแปร ทดลอง วัดผล ทำซ้ำ จนค้นพบวิธีการที่มีประสิทธิภาพ ตอบลบ ยุคแรก กลุ่มทฤษฏีลักษณะผู้นำ (ค.ศ. 1950-1960) ทฤษฎีลักษณะผู้นำ (Leadership Traits) เริ่มขึ้นระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1
เมื่อนักจิตวิทยาในกองทัพบกสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาหาวิธีคัดเลือกนายทหาร การศึกษาดังกล่าวได้จุดประกายให้เกิดความกระตือรือร้น สนใจในการทำวิจัยทางวิทยาศาสตร์อย่างจริงจัง ภายหลังสงคราม นักวิจัยจึงได้เริ่มศึกษาเพื่อระบุลักษณะที่สำคัญ ๆ ของบุคคลซึ่งใช้แยกระหว่างบุคคลที่มีความเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ (Effective Leaders) ออกจากบุคคลที่ไม่ใช่ผู้นำ นักวิชาการที่เห็นด้วยกับในแนวคิดนี้ มีความเชื่อว่า ความสำเร็จของผู้นำในการปฏิบัติงานมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับสิ่งที่เขาทำมากกว่า กล่าวคือ เชื่อว่า ความสำเร็จของผู้นำ มาจากสิ่งที่เขาทำมากกว่าลักษณะที่เขาเป็น และเชื่อว่า ลักษณะเด่นเป็นสิ่งที่ติดตัวมา เปลี่ยนแปลงได้ยากในทางตรงกันข้ามเป็นไปได้ง่ายกว่าที่เราจะเรียนรู้พฤติกรรมที่ทำให้ผู้นำเหล่านั้นประสบความสำเร็จ งานวิจัยในระยะที่ 2 จึงมุ่งเน้นการศึกษาพฤติกรรมผู้นำ คำถามสำคัญในกลุ่มนี้ คือ พฤติกรรมดี ๆ สำหรับผู้นำนั้นมีอะไรบ้าง นักวิจัยที่ทำการศึกษา พฤติกรรมความสำเร็จของผู้นำ
ปรากฏอย่างเด่นชัด 4 กลุ่ม คือ มหาวิทยาลัยไอโอวา (University of Iowa) มหาวิทยาลัยมิชิแกน (University of Michigan) มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไอโอ (Ohio State University) รวมทั้งกลุ่มนักวิจัยอิสระ อาทิ Robert Tannembaum กับ Waren H. Schmidt และRobert Blake กับ Srygley Mouton เป็นต้น ทฤษฎีผู้นำตามสถานการณ์มีแนวความคิดว่าผู้นำจะต้องสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างมีระบบจากสถานการณ์หนึ่งไปยังอีกสถานการณ์หนึ่งเพื่อความเหมาะสมทั้งสถานที่และเวลา ซึ่งแตกต่างจากทฤษฎีคุณลักษณะของผู้นำ และทฤษฎีพฤติกรรมผู้นำที่อธิบายว่าลักษณะของผู้นำมีรูปแบบที่คงที่ตายตัว ทฤษฎีภาวะผู้นำตามสถานการณ์ ทำให้เชื่อว่าการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพนั้น ผู้นำจำเป็นต้องปรับแบบภาวะผู้นำของตนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่าง ๆ เหล่านั้น ภาวะผู้นำในกลุ่มนี้ ได้แก่ 1) ทฤษฎีเชิงสถานการณ์ของภาวะผู้นำที่มีประสิทธิภาพของ Fiedler (Fiedler’ Contingency Theory of Leadership Effectiveness) 2) ทฤษฎีเชิงสถานการณ์ของ Hersey – Blanchard 3) ทฤษฎีเส้นทางสู่เป้าหมาย ( Path Goal Theory ) ของ Robert House 4) ทฤษฎีภาวะผู้นำเชิงสถานการณ์ ของ Vroom –Yetton – Jago 5) ทฤษฎีผู้นำ 3 มิติของ Reddin เป็นต้น ยุคที่ 4 กลุ่มทฤษฎีภาวะผู้นำบูรณาการ ในช่วงกลางปี ค.ศ. 1970-1979 ได้มีการเปลี่ยนกระบวนทัศน์การศึกษาทฤษฎีภาวะผู้นำ โดยได้มีการศึกษาทฤษฎีภาวะผู้นำแบบบูรณาการ โดยได้นำเอาทฤษฎีคุณลักษณะ ทฤษฎีพฤติกรรมผู้นำ และทฤษฎีภาวะผู้นำตามสถานการณ์เข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้รูปแบบภาวะผู้นำที่มีประสิทธิภาพสงสุด ทั้งนี้ ทฤษฎีภาวะผู้นำตามกระบวนทัศน์นี้ มีดังนี้ 1) ทฤษฎีภาวะผู้นำเชิงบารมี (Charismatic Leadership) 2) ทฤษฎีภาวะผู้นำแปลงสแปลงสภาพ (Transformational Leadership) 3) ทฤษฎีภาวะผู้นำแบบแลกเปลี่ยน (Transactional Leadership) 4) ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ (Strategic Leadership) เป็นต้น ตอบลบ
ตอบลบ 2.จงอธิบายลำดับของการพัฒนาการทางการจัดการตั้งแต่สมัยปฏิวัติอุตสาหกรรมจนถึงปัจจุบัน (ศศิมา ปานชงค์ 12590077 ) ตอบลบ
ตอบลบ 1.แนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ เกิดขึ้นในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม จะใช้วิธีการตั้งสมมติฐาน กำหนดตัวแปร ทดลอง แล้ววัดผลการทดลอง ทำกระบวนการซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้ได้วิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง จนค้นพบวิธีที่ดีที่สุด One Best Way ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการสามารถแบ่งได้เป็น 5 แนวทาง ดังนี้ ตอบลบ พัฒนาการทางแนวคิดการจัดการในแต่ละยุค ตอบลบ การปฏิวัติอุตสาหกรรม เกิดขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18-19 จากสาเหตุการเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตจากเดิมที่ใช้แรงงานมนุษย์มาเป็นเครื่องจักรกล
ซึ่งก่อให้เกิดผลดีต่อการผลิต ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ ตอบลบ นวคิดทางการจัดการสามารถแบ่งได้เป็น 5 แนวทาง ดังนี้ ตอบลบ
ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการเริ่มต้นศึกษาอย่างจริงจังในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมโดยเริ่มต้นจาก การศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์
แนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์เน้นการทดลองเพื่อให้ได้กระบวน การ ขั้นตอนและวิธีที่ดีที่สุดในการทํางานเพื่อลดความสูญเสียให้มากที่สุดหรือได้รับผลลัพธ์ดีที่สุด ในการทํางาน นักคิดและนักวิชาการยังกําหนด “แนวคิดการจัดการเชิงบริหาร” ที่เสนอกฎเกณฑ์ และหลักการทางบริหารจัดการให้มีกระบวนวิธีที่ชัดเจนยิ่งขึ้นจากนั้นเริ่มมีการทดลองทางวิทยาศาสตร์ศึกษาปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อผลผลิตของ พนักงานจนพบว่าปัจจัยที่มีส่วนกระตุ้นผลผลิตของพนักงานขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่ใช่ปัจจัยทาง การผลิต ได้แก่
ปัจจัยด้านพฤติกรรมมนุษย์ ซึ่งการค้นพบนี้ได้รับการพัฒนาเป็น “แนวคิดการจัดการ เชิงพฤติกรรมศาสตร์” ที่ให้ความสําคัญเกี่ยวกับคนและความรู้สึกนึกคิดของคนแนวคิดการจัดการมีพัฒนาการไปสู่การใช้เทคโนโลยีมากขึ้นด้วย “แนวคิดการจัดการเชิง ปริมาณ” ที่เชื่อมั่นในการนําทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ ข้อมูลทางสถิติและเทคโนโลยีสารสนเทศมา ช่วยในการบริหาร “แนวคิดการจัดการร่วมสมัย” เสนอวิธีการที่หลากหลายในการเพิ่มประสิทธิภาพในการ บริหารจัดการ ด้วยการพิจารณาระบบที่เกี่ยวข้องกับองค์กร ได้แก่ แนวคิดเรื่องระบบ ซึ่งเน้นให้
องค์กรให้ความสําคัญกับระบบต่างๆ ภายในองค์กร เพื่อให้องค์กรซึ่งเป็นระบบใหญ่สามารถ ทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพนอกจากนี้ แนวคิดการจัดการตามสถานการณ์เสนอว่าผู้บริหารควร ใช้วิธีการบริหารงานที่แตกต่างกันไปในแต่ละสถานการณ์ซึ่งจะเป็นผลให้การบริหารเป็นไปอย่าง มีประสิทธิภาพ ตอบลบ แนวความคิดการทางการจัดการที่เป็นหลักเกณฑ์และมนุษย์สัมพันธ์เปรียบเทียบ สำหรับแนวคิดทางการบริหารการจัดการได้วิวัฒนาการเรื่อยมาเป็นลาดับ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ดังนี้ 1.แนวคิดก่อนยุคการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ ( Pre– Scientific Management ) ในยุคนี้เป็นยุคก่อนปี ค.ศ. 1880 ซึ่งการบริหารในยุคนี้อาศัยอำนาจหรือการบังคับให้คนงานทางานซึ่งวิธีการบังคับอาจใช้การลงโทษ การใช้แส้ การทางานในยุคนี้เปรียบเสมือนทาส คนในยุคนี้จึงต้องทางานเพราะกลัวการลงโทษ 2.แนวคิดการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ ( Scientific Management ) แนวคิดนี้เริ่มในช่วงของการปฏิวัติอุตสาหกรรมคือประมาณปี ค.ศ 188 เป็นต้นมาจนถึงปี 1930 ในยุคนี้ได้ใช้หลักวิธีการจัดการแบบวิทยาศาสตร์มาช่วยในการบริหารการจัดการ ทาให้ระบบบริหารการจัดการแบบโบราณได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ได้รับการยอกย่องว่าเป็นบิดาแห่งการจัดการแบบวิทยาศาสตร์หรือบิดาของวิธีการจัดการที่มีหลักเกณฑ์ โดยได้ศึกษาหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการทางานของคนงานในโรงงานอุตสาหกรรมโดย Taylor ได้เข้าทางานครั้งแรกในโรงงานที่เพนซิลวาเนีย เมื่อปี ค.ศ.1878 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำมากการบริหารงานขาดประสิทธิภาพ ไม่มีมาตรฐานในการประเมินผลงานของคนงาน การแบ่งงานไม่เหมาะสม การตัดสินใจขาดหลักการและเหตุผลสาหรับการศึกษาที่ใช้หลักวิทยาศาสตร์ ( The Scientific Approach ) มีส่วนประกอบสำคัญ 3ลักษณะคือ 1.มีแนวคิดที่ชัดเจน ( Clear Concept ) แนวความคิดต้องชัดเจนแน่นอนในสิ่งที่จะวิเคราะห์ 2.วิธีทางวิทยาศาสตร์ ( Scientific ) สาขาพิจารณาข้อเท็จจริงได้ทางวิทยาศาสตร์หรือสังเกตได้ แล้วนำข้อมูลดังกล่าวมาทาการทดสอบความถูกต้อง ถ้าเป็นจริงก็คือหลักเกณฑ์(Principles) REPORT THIS AD ทฤษฎี ( Theory ) หมายถึง การจัดระบบความคิดและหลักเกณฑ์มารวมกันเพื่อได้ความรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง 3. แนวคิดการจัดการยุคมนุษย์สัมพันธ์ ( Human Relation ) แนวคิดมนุษย์สัมพันธ์เป็นแนวคิดที่ขัดแย้งกับแนวคิดการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ ที่เน้นประสิทธิภาพของการทางาน และมองข้ามความสำคัญของคน เห็นว่ามนุษย์ไม่มีชีวิตจิตใจ ไม่มีความต้องการมากนัก มีพฤติกรรมที่ง่ายต่อความเข้าใจ โดยอาศัยโครงสร้างขององค์การมาเป็นตัวกำหนด และควบคุม ให้มนุษย์ทางานให้บรรลุผลสำเร็จ ซึ่งยุคมนุษย์สัมพันธ์นั้นเป็นแนวคิดที่อยู่ในช่วงระหว่างปี ค.ศ 1930 – 1950
เนื่องจากเล็งเห็นว่า การจัดการใด ๆ จะบรรลุผลสำเร็จได้นั้นจะต้องอาศัยคนเป็นหลัก ดังนั้นแนวคิดมนุษย์สัมพันธ์ จึงได้ให้ความสำคัญในเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล จึงทาให้เรื่องราวของมนุษย์สัมพันธ์ ( Human Relation ) กลับมามีบทบาทสำคัญมากขึ้นนักวิชาการสำคัญที่ให้การสนับสนุนและศึกษาแนวคิดซึ่งจุดประสงค์ก็คือต้องการเข้าใจพฤติกรรมของคนในหน้าที่งานที่จัดไว้ให้ ปรากฏว่าคนทางานมิใช่ทางานเพื่อหวังผลตอบแทนด้วยตัวเงินเพียงอย่างเดียว แต่คนทางานต้องการด้านสังคมภายในกลุ่มที่เกิดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ
ที่เป็นเรื่องของจิตใจ ตลอดจนความสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างคนงานด้วยกัน ตอบลบ 1.
แนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ (Scientific Management Approach) เกิดขึ้นในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ของนักวิทยาศาสตร์ ที่ต้องการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของแรงงาน(เฟรดเดอริกิวินสโลว์ เทย์เลอร์) มีการตั้งสมมติฐาน กำหนดตัวแปร ทดลอง แล้วจึงวัดผลการทดลองในกรณีต่างๆ ทำการทดลองซ้ำแล้วซ้ำอีก จนค้นพบวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น กระทั่งค้นพบวิธีที่ดีที่สุดในการทำงาน ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการต่างๆ มีเป้าหมายในทิศทางเดียวกัน คือการทำงานให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ขององค์กร โดยแบ่งแนวคิดทางการจัดการออกเป็น 5
ยุค ตอบลบ การปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์โลก ซึ่งส่งผลกระทบในเกือบทุกแง่มุมของชีวิตประจำวันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือการที่รายได้และจำนวนประชากรโดยเฉลี่ยเริ่มที่จะขยายตัวอย่างยั่งยืนในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้สองร้อยปีหลังจาก ค.ศ. 1800 ค่าเฉลี่ยรายได้ต่อหัวของโลกขยายตัวมากกว่าสิบเท่า ในขณะที่จำนวนประชากรขยายตัวมากกว่าหกเท่า กระบวนการเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายของคริสต์ศตวรรษที่ 18 ด้วยการเปลี่ยนผ่านซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนจากเศรษฐกิจแบบพึ่งพาแรงงานคนและสัตว์เป็นหลักไปเป็นเศรษฐกิจแบบพึ่งพาเครื่องจักรเป็นหลักของสหราชอาณาจักร โดยเริ่มในอุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นอุตสาหกรรมแรก อันเป็นผลมาจากการพัฒนากรรมวิธีการหลอมเหล็กและความนิยมในการใช้ถ่านหินโค้กที่แพร่หลายขึ้น การขยายตัวของการค้าขายเป็นผลมาจากการพัฒนาคลอง ถนน และทางรถไฟ ด้วยการเปลี่ยนแปลงจากเศรษฐกิจแบบพึ่งพาเกษตรกรรมไปเป็นเศรษฐกิจแบบพึ่งพาอุตสาหกรรมการผลิต
ทำให้เกิดการไหลบ่าของประชากรจากชนบทเข้าสู่เมืองขนานใหญ่ และก่อให้เกิดการขยายตัวของจำนวนประชากร ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการ
แบ่งเป็น 5 แนวทาง ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการ แบ่งเป็น 5 ยุค ได้แก่ ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการต่างๆ มีเป้าหมายในทิศทางเดียวกัน คือการทำงานให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ขององค์กร โดยแบ่งแนวคิดทางการจัดการออกเป็น 5 ยุค (ธนกฤติ สาสนทาญาติ) ตอบลบ แนวคิดทางการจัดการสามารถแบ่งได้เป็น 5 แนวทาง ดังนี้ ตอบลบ วิทยาการจัดการสมัยใหม่มีการพัฒนาการมาจากแนวความคิดแบบใดสำหรับยุคของการจัดการสมัยใหม่ (Modern Management) ซึ่งเป็นยุคในปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาแนวคิดการจัดการต่าง ๆ ขึ้นมาอย่างมาก ได้แก่ ทฤษฎีการจัดการตามสถานการณ์ (Contingency Theory) แนวคิดการจัดการเชิงกลยุทธ์ (Strategic Management) ที่ให้ความสำคัญต่อการกำหนดวิสัยทัศน์ (vision) ภารกิจหรือพันธกิจ (mission) การประเมินสภาพ ...
แนวคิดทฤษฎีการจัดการสมัยใหม่เน้นในเรื่องใดทฤษฎีการจัดการสมัยใหม่ หมายถึง ทฤษฎีองค์การและการจัดการทุกองค์การไม่ว่าจะมี ขนาด ประเภท หรือสถานที่ตั้งอย่างไร จ าเป็นต้องมีการจัดการที่ดี ซึ่งการจัดการที่ดีเป็นจุดเริ่มต้น ของการด าเนินงานขององค์การ การเติบโตและการด ารงอยู่ต่อไปขององค์การ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์การในยุคศตวรรษที่ 21 ซึ่งต้องเผชิญกับ ปัจจัยแวดล้อมที่มี ...
การจัดการองค์การสมัยใหม่ คืออะไรองค์การสมัยใหม่ (Modern organization)
การจัดการเกิดขึ้นในองค์การ และในมุมมองด้านการจัดการ องค์การหมายถึง การที่มีคนมาทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบเพื่อให้ได้บรรลุเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งองค์การมีลักษณะร่วมกันอยู่ 3 ประการ ได้แก่ ทุกองค์การต้องมีวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของตนเอง ทุกองค์การต้องมีคนร่วมกันทำงาน
ทฤษฎีองค์การยุคใหม่เกิดขึ้น จากเหตุใดทฤษฎีองค์การสมัยใหม่ (Neo-Classical Organization Theory) เป็นทฤษฎีที่พัฒนามาจากทฤษฎี องค์การสมัยดั้งเดิม พัฒนามาพร้อมวิชาการสังคมวิทยา จิตวิทยา ทฤษฎีนี้สนใจโครงสร้างตามแบบแผนและการ คิดตามหลักเหตุผล และยังศึกษาเพิ่มเติมว่าทำาอย่างไร จึงจะบรรลุวัตถุประสงค์ได้เร็วขึ้น จึงหันมาสนใจคนมาก ขึ้น ทฤษฎีองค์การสมัยใหม่คำานึงผลที่ ...
|