โรงงานช็อคโกแล็ตมหัศจรรย์ รีวิว

โรงงานช็อคโกแล็ตมหัศจรรย์ รีวิว

ปล. ในการอ่านเป็นความรู้สึกส่วนตัวล้วน ๆ เลยหลังจากที่อ่านเสร็จแล้วชอบ ดังนั้นการรีวิวอาจจะไม่ได้มืออาชีพเท่าไหร่นักตามสไตล์อ่านเองบ่นเอง

หนังสือนิยายเล่มนี้ได้ยินชื่อมานานแล้วและเคยได้รับมานานมากแล้วสำหรับตัวเอง พอเอามาอ่านไม่ว่าจะอ่านกี่รอบก็ยังรู้สึกได้ว่าสนุกเหมือนเดิม สนุกมากขึ้นไปอีก เมื่อก่อนตอนที่เด็กกว่านี้ก็อ่านเพียงแค่ว่ามันเป็นเรื่องที่สนุก เป็นนิยายสำหรับเด็ก ที่มีตัวเอกเป็นเด็กเหมือนกับตัวเองพออ่านแล้วก็รู้สึกอินเหมือนกับว่าได้เข้าไปอยู่ในหนังสือได้ไปเที่ยวโรงงานช็อคโกแลตด้วย แต่พอเราโตขึ้นได้ลองที่จะกลับมาอ่านใหม่ ก็รู้สึกว่ามันตลกและสนุกมากกว่าตอนเด็กอีก เพราะคิดว่าโตขึ้นมุมมองมันเลยเปลี่ยนไปด้วยเลยทำให้รู้สึกได้ว่าคนแต่งหนังสือเล่มนี้ โรอัลด์ ดาห์ล แต่งออกมาได้ประชดเสียดสีผู้ใหญ่ได้อย่างเจ็บแสบผ่านตัวละครเด็ก ๆ ในเรื่องเป็นอย่างมากทีเดียว

ทำไมถึงคิดอย่างนั้นนะหรอ?

ก็เพราะว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนเราก็จะคิดแค่ว่า

  • ออกั๊สตั๊ส กลู๊ป เด็กผู้ชายคนนี้โคตรเป็นเด็กอ้วนจอมตะกละสุด ๆ ไปเลยนะ
  • เวรูก้า ซ้อลท์ เด็กผู้หญิงบ้านรวยโคตรของโคตรนิสัยเอาแต่ใจอยากได้อะไรก็ต้องได้
  • ไม้ค ทีวี เด็กผู้ชายที่บ้าคลั่งติดการดูทีวีและเล่นเกม
  • ไวโอเล็ต โบรีการ์ด เด็กผู้หญิงที่ติดการเคี้ยวหมากฝรั่งมาก จะติดอะไรขนาดนั้นเคี้ยวอันเดิมได้เป็นเดือน
  • ชาร์ลี บั๊คเก็ต เด็กผู้ชายที่มาจากครอบครัวที่แสนจะยากจนแต่ในที่สุดเขาก็โชคดีบ้าง

แต่พอเมื่อเราได้อ่านเราจะรู้ได้ทันทีเลยว่าทำไมเด็ก ๆ แต่ละคนนั้นถึงได้มีนิสัยที่สุดโต่งขนาดนี้

ก็เพราะว่าพ่อแม่นะสิ!

ในหนังสือจะมีการพูดถึงพ่อกับแม่ที่ตามใจลูก ๆ ของตนจนทำให้มันหล่อหลอมให้เด็กแต่ละคนออกมาเป็นอย่างนี้ ทำให้แสดงถึงการเลี้ยงลูกที่ผิดวิธี ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือการตามใจจนมากเกินไป โดยบอกเหตุผลว่ารักลูก

ในหนังสือเรานี้ทั้งชื่นชมผู้แต่งเป็นอย่างมากเลยที่สามารถคิดเรื่องราวมหัศจรรย์ในโรงงานออกมาแก้เผ็ดเหล่าเด็กนิสัยไม่ดีที่พอเราได้อ่านแล้วแบบ เออ สมน้ำหน้านะทั้งพ่อ แม่ เด็กเลย55555 แต่ก็ขอชื่นชนทางผู้แปลด้วยนะว่าสามารถแปลออกมาได้อย่างสนุกสนานอ่านได้อย่างลื่นไหล ไหนจะเพลงของเหล่าอูมป้า-ลูมป้าอีกที่เขียนเป็นกลอนเสียดสีเด็ก ๆ แต่ละคนนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์เด็ดของเรื่องเลย ห้ามขาด คนที่แปลเก่งมาก ๆ

เป็นเรื่องที่อยากให้ทุกคนได้ลองอ่านดู ทุกคนอาจจะคิดว่ามันก็เป็นแค่นิยายเด็กธรรมดาทั่ว ๆ ไป แต่ว่ามันมีอะไรที่มากกวานั้นอยู่ในหนังสือเยอะมาก เราว่าถ้าพวกพ่อแม่ได้มาอ่านหนังสือเล่มนี้ก็น่าจะดีนะ เพราะเขาจะได้รู้ว่าการที่เราบอกว่ารักลูกจนตามใจลูกมากเกินไปมันคือการที่พ่อแม่รังแกฉันอ่ะ ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคนจริง ๆ ถ้าอยากรักลูกอย่างถูกวิธีก็ไม่ควรจะตามใจลูกจนมากเกินไป ไม่งั้นลูกคุณอาจจะเป็นแบบเด็กในเรื่องนี้ ก็เป็นได้…

บ่นมาตั้งนานนี้เรายังไม่ได้พูดถึงชาร์ลี บั๊คเก็ตเลยนะเนี้ย555555 นี้ตัวเอกของเรื่องเลยนะ!

จากตัวเอกในเรื่องคือสิ่งนึงที่เราได้รู้คือ รู้สึกถึงความเหลือมล้ำของสังคมอ่ะ คนรวยนี้รวยโคตร ๆ คนจนนี้ก็จนโคตร ๆ แบบสุดๆไปเลย แบบถ้าหากว่าชาร์ลีไม่ได้เจอตั๋วทองแบบในเรื่องก็ไม่รู้ว่าทั้งครอบครัวบั๊คเก็ตจะอยู่ต่อไปได้ถึงเมื่อไหร่ ทั้งครอบครัวมีจำนวนสมาชิก 6 คนประกอบไปด้วย ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ และชาร์ลี ซึ่งทั้งครอบครัวอยู่ได้ด้วยการกินต้มกะหล่ำตลอดเพราะไม่มีเงินมากพอในการซื้อของกินทั้ง ๆ ที่ในเรื่องอยู่ในหน้าหนาว อ่านแล้วรู้สึกสงสารมากเลย และพอมีข่าวเรื่องตั๋วทองออกมา คือใคร ๆ ก็อยากจะเข้าไปอ่ะ ซึ่งมีเงื่อนไขได้ขนมกินฟรีจากโรงงานไปตลอดชีวิตอีก มันโคตรจะคุ้มเลย แต่ครอบครัวบั๊คเก็ตไม่ได้มีโอกาสเหมือนคนอื่นไงที่จะกว้านซื้อได้ทีละเยอะ ๆ แค่เงินจะซื้อข้าวกินยังไม่พอเลยแต่มันก็เหมือนเป็นความหวังให้กับครอบครัวอ่ะ อย่างพ่อกับแม่ที่พยายามสะสมเงินให้พอเพื่อที่จะเอาไปซื้อช็อคโกแลตวองก้าชนิดผสมเข้าเนื้อเนียนเหนียวนุ่มแสนอร่อยมาให้ชาร์ลีเป็นของขวัญวันเกิด กับปู่โจที่เอาเงินที่แอบสะสมเอาไว้มาซื้อช็อคโกแลตวองก้าชนิดผสมถั่วกรอบที่คาดไม่ถึงมาลองเสี่ยงโชคกันกับชาร์ลีสองคน ซึ่งคนแต่งแต่งได้ลุ้นระทึกกับเราดีนะว่าชาร์ลีเมื่อไหร่จะได้ตั๋วอ่ะ55555 เนื้อเรื่องแบบก็ไปเรื่อย ๆ สำหรับเราดีนะ แต่วางไม่ลง อ่านแล้วรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมาก ชอบชื่อของแต่ละอย่างในโรงงานอ่ะ อ่านแล้วมีความเผือกสูงมากต้องอ่านไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะจบให้ได้แต่พอเวลาจะจบก็เสียดายไม่อยากจะให้จบเลย อยากจะอ่านต่ออีก อยากรู้อีกอ่ะว่าหลังจากนี้ชาร์ลีจะเป็นยังไงบ้าง

สรุปนะ เป็นหนังสือที่เด็กอ่านได้ ผู้ใหญ่อ่านดี ได้ข้อคิดหลายๆอย่างจากเรื่องนี้เยอะ โรอัลด์ ดาห์ลแต่งเก่งมากขอชื่นชม อยากอ่านหนังสือเล่มอื่นของโรอัลด์ ดาห์ลเลยเพราะคิดว่าต้องน่าสนุกอีกเหมือนกัน

จบ

คะแนนที่ให้ 10/10 ลำเอียงส่วนตัวล้วน ๆ เรื่องนี้ดีงาม จริงจัง รักมาก แต่ก็มีเรื่องอื่นที่รักเหมือนกันนะ55555

1.ออกัสตัส,ไวโอเล็ต,เวลูก้า,ไมค์ เป็นตัวอย่างที่ดีที่สอนถึงจุดจบที่ไม่สวยงาม ออกัสตัสนั้นตะกละมากจนตัวเองตกรอบคนแรก ไวโอเล็ตอยากรู้อยากลองมากเกินไปจนตกรอบ เวลูก้าเอาแต่ใจมากไปจนตกรอบ และไมค์ก็อวดดีเกินไปจึงตกรอบ 4 คนนี้เป็นตัวอย่างที่สอนเด็กได้ดีว่าไม่ควรทำ

โรงงานช็อคโกแล็ตมหัศจรรย์ รีวิว

2.ไม่มีความสุขที่ไหนดีไปกว่าที่บ้าน แม้บ้านของชาร์ลีจะพังและยับเยิน แต่บ้านที่อบอุ่นก็ทำให้เขาพอใจที่จะอยู่ เป็นบ้านหลังเล็กๆจนๆพังๆ ที่มีความอบอุ่นและความรักมากกว่าโรงงานใหญ่โตและสุขสบาย

โรงงานช็อคโกแล็ตมหัศจรรย์ รีวิว

3.คำพูดของปู่จอร์จสอนชาร์ลีว่า "ตั๋วมีแค่ 5 ใบ แต่เงินมีมากมาย เราจะเป็นคนโง่ที่เลือกเงินหรือคนฉลาดที่เลือกตั๋ว" สอนให้เห็นถึงโอกาสและคุณค่าของสิ่งของหรือแม้แต่ "จิตใจ" ที่มีค่ายิ่งกว่าเงิน เพราะมีโอกาสหลายโอกาสที่สอนเราให้รีบคว้า เพราะโอกาสบางที เงินก็ซื้อไม่ได้ นอกจากนั้นยังสอนเห็นถึงคุณค่าที่แท้จริงที่เงินซื้อไม่ได้ด้วย

โรงงานช็อคโกแล็ตมหัศจรรย์ รีวิว

4.ความรักของพ่อแม่มีสูงดั่งเช่นความรักที่พ่อแม่ชาร์ลีได้ให้ แต่วิลลี่วองก้าไม่ได้รับความรู้สึกนี้มานานแล้ว เมื่อเขาได้รับคำร้องขอจากชาร์ลี เขาจึงไปที่คลีนิคหมอฟันของผู้เป็นพ่อ พ่อของเขาเคยพูดในวันที่เขาหนีออกจากบ้านไปว่า เมื่อเขากลับมา เขาจะไม่เห็นพอ แต่เวลาผ่านไป เมื่อเขากลับมา เขากลับเห็นคลีนิคหมอฟันของพ่อเป็นร้านเดียวที่เหลืออยู่ ในขณะที่บ้านใกล้หรือบ้านอื่นๆได้หนีไปหมดแล้ว

โรงงานช็อคโกแล็ตมหัศจรรย์ รีวิว

5.วิลลี่ วองก้า ได้ค้นพบว่า ครอบครัวเป็นความอบอุ่นที่มีค่าที่สุด มีค่ายิ่งกว่าเงินที่ทำกำไร ความรักความอบอุ่นที่เขาเห็นจากครอบครัวชาร์ลี ทำให้เขานึกถึงตัวเขาเองอย่างอดไม่ได้ สุดท้ายเขาจึงยอมให้ครอบครัวบัคเก็ตเขามาอยู่ในโรงงานอย่างอบอุ่นตลอดกาล

โรงงานช็อคโกแล็ตมหัศจรรย์ รีวิว