โครงการส่งเสริมสุขภาพจิต ใน โรงเรียน

           -ร้อยละนักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนบ้านเขาตะเภาทองมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี                                                                                                                            

หน่วยงาน :งานส่งเสริมสุขภาพและพลานามัย โครงการ :605 งานส่งเสริมสุขภาพและพลานามัย
หลักการและเหตุผล :     การส่งเสริมสุขภาพและพลานามัยเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้เรียนให้มีความพร้อมในทุกด้าน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนด้านสุขภาพและพลานามัยให้สูงขึ้น ดูแลสุขภาพของผู้เรียนเป็นรายบุคคล ติดตามภาวการณ์เจริญเติบโต ทดสอบสมรรถภาพของผู้เรียน เพื่อเปรียบเทียบปรับปรุงพฤติกรรมให้ผู้เรียนมีสุขภาพและพลานามัยที่ดี ทางฝ่ายปฐมวัยจึงได้ร่วมกันกับหัวหน้าระดับชั้น เห็นสมควรที่จะจัดกิจกรรมกรีฑาสี เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในหน่วยงานต่างๆ จัดให้มีห้องพยาบาล ร่วมทั้งการติดตามภาวการณ์เจริญเติบโต และทดสอบสมรถภาพของผู้เรียนในระดับการศึกษาปฐมวัยขึ้น

วัตถุประสงค์ :     1. เพื่อส่งเสริมสุขนิสัย สุขภาพกาย - จิตดี
    2. เพื่อติดตามภาวการณ์เจริญเติบโต ทดสอบสมรรถภาพของเด็กปฐมวัย
    3. เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนสนใจการเล่น กีฬา เพื่อพัฒนาสุขภาพ ร่างกาย จิตใจ
    4. เพื่อส่งเสริมนักเรียนมีสุนทรียภาพลักษณะนิสัยด้านศิลปะ ดนตรี เคลื่อนไหว

เป้าหมาย : เชิงคุณภาพ   1. เพื่อส่งเสริมนักเรียนมีสุนทรียภาพลักษณะนิสัยด้านศิลปะ ดนตรี เคลื่อนไหว   2. เด็กเจริญเติบโตมีน้ำหนัก-ส่วนสูงและสมรรถภาพ ตามเกณฑ์   3. เด็กมีความสนใจการเล่นกีฬา และมีสุขภาพ ร่างกาย จิตใจดีเหมาะสมตามวัย   4. เด็กมีสุนทรียภาพลักษณะนิสัยด้านศิลปะ ดนตรี เคลื่อนไหวเชิงปริมาณ   1. เด็กปฐมวัย จำนวน 730 คนมีสุขภาพกาย สุขภาพจิตดี เคลื่อนไหวร่างกายได้คล่องแคล่ว
KPI :    1. เด็กร้อยละ 95 มีสุขนิสัย สุขภาพกาย - สุขภาพจิต ที่ดี    2. เด็กร้อยละ 95 เจริญเติบโตมีน้ำหนัก-ส่วนสูงและ สมรรถภาพตามเกณฑ์    3. เด็กร้อยละ 95 มีความสนใจการเล่นกีฬา และมี สุขภาพร่างกาย จิตใจ ที่ดี เหมาะสมตามวัย    4. เด็กร้อยละ 95 มีสุนทรียภาพลักษณะนิสัยด้าน ศิลปะ ดนตรี เคลื่อนไหว
ตอบสนองแผนพัฒนาโรงเรียน :
ตอบสนองแผนพัฒนาโรงเรียนระดับฝ่าย :
สนองนโยบายของโรงเรียนเรื่อง :           มาตรฐานการศึกษา FSG ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน : ประถมและมัธยมศึกษา
◈ หน่วยงาน ☎ ◈ หน่วยงาน ☎ ◈ หน่วยงาน  ☎ คณะครุศาสตร์ ต่อ 3257  สถาบันวิจัยและพัฒนา  ต่อ 1080  งานบริหารบุคคล  ต่อ 1013 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อ 3124 สำนักงานอธิการบดี  ต่อ 1007 งานวินัยและนิติการ ต่อ 1065-1067  คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ต่อ 3202  สำนักส่งเสริมวิชาการฯ ต่อ 1090-3  งานบริหารพัสดุและยานพาหนะ  ต่อ 1009-1011  คณะวิทยาการจัดการ ต่อ 1515 สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีฯ ต่อ 1600  งานสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร ต่อ 1111   คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ต่อ 3115  สำนักศิลปะและวัฒนธรรม  ต่อ 1303-1304  งานบริหารการคลังและทรัพย์สิน  ต่อ 1028-1031  วิทยาลัยมวยไทยศึกษาฯ 032-910223  หน่วยตรวจสอบภายใน   ต่อ 1059-1061  งานบริหารทั่วไป   ต่อ 1025-1027  บัณฑิตวิทยาลัย  ต่อ 3100-3109 หน่วยรับเรื่องร้องเรียนการทุจริต  ต่อ 1066  งานหอพักนักศึกษา ต่อ 2300 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยฯ 062-320-2600 กองนโยบายและแผน   ต่อ 1037-1040  ศูนย์ภาษาและความสัมพันธ์ฯ ต่อ 1214  กองพัฒนานักศึกษา ต่อ 1702 ศูนย์คอมพิวเตอร์  ต่อ 1200

หนึ่งในภารกิจสำคัญของบริษัทชั้นนำด้านสุขภาพระดับโลกอย่าง 'ซาโนฟี่' (Sanofi) ที่ดำเนินธุรกิจในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก คือการขับเคลื่อนด้านการส่งเสริมพัฒนาสังคมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คนและชุมชนที่ด้อยโอกาส ซึ่งความมุ่งมั่นนี้เป็นปณิธานสำคัญของซาโนฟี่ทั่วโลกเพื่อความยั่งยืนของชุมชนและสังคมที่เราอยู่ โดยจะถูกขับเคลื่อนภายใต้งานหลัก 3 ด้าน ได้แก่ 1) การจัดตั้ง Global Health Unit ที่มุ่งขยายการเข้าถึงยารักษาโรคพื้นฐานที่สำคัญๆ ให้กับกลุ่มประเทศยากจน 40 ประเทศทั่วโลก 2) การก่อตั้งมูลนิธิซาโนฟี่ Foundation S - The Sanofi Collective เพื่อให้การช่วยเหลือสนับสนุนชุมชนในประเทศต่างๆ ที่เผชิญกับวิกฤตการณ์ ภัยพิบัติ หรือต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในด้านมนุษยชาติ และ 3) โครงการส่งเสริมสังคม CSR ซึ่งรวมถึงกิจกรรมจิตอาสาของพนักงานซาโนฟี่ที่จัดขึ้นทุกๆ ปี ในการตอบแทนสังคมและชุมชนที่ด้อยโอกาสต่างๆ

คุณปัณฑ์ชนิต สเนป ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ประจำประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และเอเชีย กลุ่มบริษัทซาโนฟี่ในประเทศไทย กล่าวว่า "เพื่อสนับสนุนให้เกิดความยั่งยืนของสังคม ซาโนฟี่มีความมุ่งมั่นในการสร้างการเปลี่ยนแปลงและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของสังคมและชุมชน ร่วมถึงการปลูกจิตสำนึกของพนักงานของเราในการเป็นจิตอาสาช่วยเหลือชุมชนที่ยากไร้ ด้วยเวลา แรงกาย แรงใจ ทักษะและความสามารถของพวกเรา ผ่านกิจกรรม CSR ต่างๆ ที่จัดขึ้นในแต่ละปี และที่สำคัญ ในปีนี้ซาโนฟี่ทั่วโลกได้ประกาศนโยบาย We Volunteer และ Volunteering Time-Off เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนสามารถใช้เวลาเพื่อไปร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมได้ปีละ 2 วัน โดยไม่นับเป็นวันลาพักร้อน ซึ่งเป็นนโยบายที่สะท้อนถึงความตั้งใจจริงของบริษัทในการส่งเสริมให้พนักงานร่วมส่งต่อสิ่งดีๆ คืนสู่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม"

กิจกรรมเพื่อสังคมที่ซาโนฟี่ทำอย่างต่อเนื่องทุกปี มีแนวทางปฏิบัติในแกนหลัก 4 ประการสำคัญ ได้แก่ Access to Healthcare เน้นการนำองค์ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพที่ดีไปมอบให้แก่ชุมชน Innovation for Vulnerable การนำนวัตกรรมทางการรักษาโรคไปมอบให้แก่ชุมชนที่ยากไร้ Planet Care การมีส่วนร่วมในการดูแลรักษ์โลก และ Beyond the Workplace การส่งเสริมพัฒนาและสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนที่ด้อยโอกาส

สำหรับปี 2565 นี้ ซาโนฟี่ ประเทศไทย ได้สานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านกิจกรรม We Volunteer ด้วยการสนับสนุนโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก (มูลนิธิเด็ก) ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี เนื่องจากเด็กๆ ที่นี่ยังขาดโอกาสในหลายๆ ด้าน เช่น ด้านกระบวนการทางความคิด ความรัก ความเข้าใจ ประสบการณ์การเรียนรู้ต่างๆ ซึ่งเด็กส่วนใหญ่มาจากครอบครัวยากจน กำพร้าพ่อแม่ บ้างก็พ่อแม่ติดยาเสพติด หรืออยู่ในเรือนจำ อีกทั้งพ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่มีความพร้อมในการเลี้ยงดูและบางครั้งก็อาจใช้ความรุนแรงกับเด็ก ทำให้เด็กไม่ได้รับโภชนาการที่ดีหรือการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง ส่งผลให้เด็กมีปัญหาด้านสุขภาพ มีสุขภาพจิตที่ไม่สมบูรณ์ หรือมีพัฒนาการช้ากว่าวัย และกว่าครึ่งที่เป็นเด็กพิเศษ เช่น ออทิสติก ดาวน์ซินโดรม สมาธิสั้น หรือมีระดับสติปัญญาต่ำกว่าวัย เป็นต้น

คุณเพ็ญศรี ดาวเรือง ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก เล่าให้ฟังว่า "ปัจจุบัน โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก มีเด็กทั้งชายและหญิงที่ต้องดูแล ประมาณ 125 คน โดยมีทั้งเด็กที่อยู่ประจำ และเดินทางไปกลับ ในโรงเรียนจะมีบ้าน 12 หลัง โดยแต่ละหลังจะมีคุณครูหรือคุณแม่อาสาที่คอยดูแลอบรมสั่งสอนเด็กๆ ที่อยู่ร่วมกันในบ้านแต่ละหลัง สำหรับการเรียนการสอนที่โรงเรียนจะมีเด็กตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถม และมัธยม มีการส่งเสริมด้านวิชาชีพ เช่น สอนการเกษตร ปลูกผักสวนครัว ปลูกเห็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา การฝีมือ เป็นต้น เพื่อให้เด็กได้รับทั้งการศึกษาควบคู่ไปกับด้านวิชาชีพ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับเส้นทางในอนาคตที่เด็กๆ มีความถนัดหรือมีความสนใจเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันระดับอาชีวศึกษาหรือระดับปริญญาตรี มีรายได้สามารถเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้ โดยคุณครูและคุณแม่อาสาต่างก็มุ่งหวังให้เด็กๆ มีต้นทุนชีวิตที่ดีในอนาคต"

คุณศันสนีย์ วนเมธิน หนึ่งในจิตอาสาซาโนฟี่ เล่าให้ฟังพร้อมกับรอยยิ้มว่า วันนี้เป็นอีกวันที่รู้สึกเต็มอิ่มและสุขใจมาก เพราะพวกเราจิตอาสาซาโนฟี่กว่า 50 คน ตั้งใจและตื่นเต้นที่จะได้มาเจอน้องๆ ในวันนี้ มีการจัดเตรียมอุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอนด้านโภชนาการและสุขอนามัย เช่น การล้างมือที่ถูกต้อง การแปรงฟันที่ถูกวิธี ประโยชน์ของอาหารทั้ง 5 หมู่ การป้องกันไข้หวัด รวมถึงหลักปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยวันนี้เราได้แบ่งกลุ่มจิตอาสาให้ความรู้น้องๆ โดยแบ่งตามฐานความยากง่ายในแต่ละระดับชั้น มีเล่นเกม สันทนาการต่างๆ เพื่อมอบความสุขให้กับน้องๆ โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก

นอกจากนี้ ซาโนฟี่ ประเทศไทย ยังมอบอุปกรณ์การศึกษา เมล็ดพันธุ์ผัก และอาหารกลางวันให้กับเด็กๆ รวมถึงได้ปรับแต่งภูมิทัศน์ใหม่ให้กับโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก จังหวัดกาญจนบุรี อาทิ ทำศาลาใหม่ ทำรั้วใหม่ล้อมรอบสวนหย่อม ทาสีรั้วใหม่ ปลูกพืชผักสวนครัว เก็บเห็ด ซึ่งวันนี้สัมผัสได้ว่าเด็กๆ สนุกมาก เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะ หลายคนวิ่งมาช่วยทาสีรั้วใหม่ หรือมาช่วยพี่ๆ จิตอาสาขุดดินปลูกผัก สร้างความประทับใจและเป็นความทรงจำที่ดีกับบรรดาพี่ๆ จิตอาสาซาโนฟี่เป็นอย่างมาก

คุณปัณฑ์ชนิต สเนป กล่าวปิดท้ายว่า "ซาโนฟี่ขอขอบคุณทางมูลนิธิเด็กที่ให้โอกาสพวกเราได้มาร่วมกิจกรรม CSR ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัท และความร่วมแรงร่วมใจของพนักงานจิตอาสาของเราในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กๆ ในโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก ภายใต้หลักการดูแลของมูลนิธิเด็กที่เป็นทั้งบ้าน เป็นทั้งครอบครัวที่มอบความรักและความอบอุ่น เป็นทั้งโรงเรียนและเป็นที่พักพิงให้พวกเขารู้สึกมั่นคงและปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นแหล่งบ่มเพาะให้กับพวกเขาได้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีคุณภาพ เป็นอนาคตของสังคมไทยต่อไป"