สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ word 2010

ในการเขียนสูตรหรือสมการทางคณิตศาสตร์นั้น หากผู้ใช้ต้องการแทรกสมการลงในชุดโปรแกรม Microsoft Office ไม่ว่าจะเป็น Word, Excelหรือ PowerPoint สูตรและสมการเหล่านี้จะถือว่าเป็นตัวอักษรพิเศษที่เราสามารถแทรกลงไปในงานเอกสารได้ ในการแทรกอักษรพิเศษเหล่านี้มักพบเจอบ่อยๆ กับผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่ค่อยจะได้เรียกใช้งานเลย และในบทความนี้ผมจะมาสอนวิธีการแทรกสมการทางคณิตศาสตร์ โดยใช้โปรแกรม Microsoft Word 2013 ส่วนผู้ที่ใช้งานที่ต่ำกว่าเวอร์ชั่นที่นำเสนอนั้น ไม่ต้องตกใจเพราะว่าเครื่องมือการแทรกสัญลักษณ์พิเศษนั้น ไม่ว่าจะเวอร์ชั่นเก่าหรือใหม่ ตำแหน่งของเครื่องมือมักจะอยู่ในตำแหน่งที่เหมือนๆกัน

วิธีการแทรกแทรกสูตรหรือสมการทางคณิตศาสตร์

  • ขั้นตอนแรกให้เราคลิกที่ไปแท็บ “Insert“

  • เมื่ออยู่ในแท็บ “Insert” แล้ว ด้านขวามือหรือแถบเครื่องมือกลุ่มสุดท้ายที่มีชื่อว่า “Symbols“ ซึ่งจะเป็นกลุ่มเครื่องมือในการแทรกสัญลักษณ์พิเศษและรวมไปถึงการแทรกสมการทางคณิตศาสตร์ด้วย
  • ให้เราคลิกที่ “Equations” เพื่อเริ่มต้นการแทรกสูตรหรือสมการ

  • หลังจากที่เราคลิก “Equations” จะปรากฏกล่องสีเหลี่ยมบนหน้าเอกสาร(Equations) ซึ่งกล่องสี่เหลี่ยมที่ปรากฏบนเอกสารนี้ เราสามารถแทรกสมการทางคณิตศาสตร์ลงไปได้เลย  โดยสามารถเลือกแทรกสัญลักษณ์พิเศษทางคณิตศาสตร์ได้ที่กล่องเครื่องมือที่มีชื่อว่า “Symbols” หรือแทรกสมการทางคณิตศาสตร์ได้ที่กล่องเครื่องมือที่มีชื่อว่า “Structures” ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้จะถูกแสดงขี้นมาบนแท็บ “Design” และจะปรากฏขึ้นมาก็ต่อเมื่อเราแทรก Equations ลงในหน้าเอการ

  • ในส่วนของ “Structures” นั้นมีให้เลือกใช้งานได้ตามความต้องการไม่ว่าจะเป็น
    • Fraction = เศษส่วน
    • Script = เลขยกกำลัง
    • Radical = เครื่องหมายรูท
    • Integral =  อินทิกรัล
    • Large Operator = ผลคูณและผลคูณรวม ยูเนี่ยน อินเตอร์เซ็คชั่น
    • Bracket =  การแทรกวงเล็บต่างๆ ลงในสมการ
    • Function = ฟังก์ชันตรีโกณมิติ
    • Accent = แทรกเครื่องหมายบนอักขณะต่างๆ
    • Limit and log = ลิมิตของฟังก์ชัน
    • Operator =  เครื่องหมายตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์
    • Matrix = เมทริค
  • ลองมาดูตัวอย่างในการแทรกสมการเศษส่วนกันดีกว่าคับ ในตัวอย่างผมเลือก “Fraction” ในส่วนของกล่องสี่เหลี่ยมที่เป็นเส้นประหมายถึง เราสามารถแทรกตัวเลขลงไปได้

  • เมื่อกล่อง Equations ที่เป็นเศษส่วนปรากฏอยู่บนหน้าเอกสารแล้ว เราสามารถเติมตัวเลขที่ต้องการลงในกล่องสี่เหลี่ยมได้เลย

หากใครยัง งงๆ กับวิธีการแทรกสมการสามาดูวิธีการแทรกสมการทาวคณิตศาสตร์ได้ที่วีดีโอด้านล่าง

 


ที่มา :: //officemanner.com

Microsoft Office

  • สุนิสา จุลนวล's blog

เมื่อคุณต้องการหรือมีความจำเป็นต้องใช้สัญลักษณืทางคณิตศาสตร์ในโปรแกรมMS Word นั้นต้องทำอย่างไร อันนี้พี่ถามมาผมเลยตอบครับ

สำหรับผู้ที่ทำการติดตั้ง Microsoft Office เอาไว้ การสร้างสูตรนั้น คุณสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยโปรแกรม Microsoft Equation Editor นะครับ วิธีการใช้งานอย่างคร่าวๆ ดังตัวอย่างข้างล่างนี้ครับ

1. วิธีการเปิดใช้โปรแกรม นี้ก็ให้คุณไปที่เมนู Start -> Run แล้วจากนั้นพิมพ์ว่า eqnedt32 และกด OK ดังรูปข้างล่างนี้นะครับ

2. หากมีปัญหาเปิดไม่ได้ คุณสามารถที่จะเข้าไปเปิดไฟล์นี้ได้โดยตรง โดยใช้โปรแกรม Window Explorer เข้าไปที่ C:\Program Files\Common Files\Equation และดับเบิลคลิกไฟล์ Eqnedt32.exe ขึ้นมาใช้งานก็ได้นะครับ โปรแกรม ก็จะถูกเปิดขึ้นมาซึ่งมีหน้าตาดังรูปข้างล่างนี้ คุณจะเห็นว่ามีเครื่องมือ และสัญลักษณ์ ต่างๆ ที่มีใช้ไว้สำหรับสร้างสูตรมากมากเลยนะครับ3. วิธีการใช้งานเบื้องต้น สมมติ ผมต้องการสร้างสูตรว่า เพื่อนำไปใช้ใน Microsoft Word เรามาดูวิธีการทำเลยครับ
4. หลักในการสร้างสูตร ก็มีอยู่ว่า เมื่อคุณเห็นสูตร ให้คุณทำการพิจารณาก่อนว่า อะไรมาก่อนอะไร แล้วก็สร้าง ไปตามลำดับนะครับ... อย่างในตัวอย่างนี้ คุณก็ต้องทำการสร้าง สิ่งที่อยู่ฝั่งซ้ายของเครื่องหมาย = ก่อนนะครับ ก็คือสัญลักษณ์นั่นเอง วิธีการก็คือว่า ให้คุณเข้าไปที่ Toolbar ของสัญลักษณ์ต่างๆ ดังรูปข้างล่างนี้ เพื่อหาสัญลักษณ์ตามที่คุณต้องการนะคับ หลังจากเจอแล้วให้คุณคลิกเลยนะครับ และสัญลักษณ์ก็จะปรากฏขึ้นมา ดังรูปข้างล่างนี้ครับ5. ตัวต่อไปที่คุณต้องสร้าง ก็คือตัว p ห้อย นั่นเองครับ ซึ่งการทำตัวห้อยนั้น คุณก็ต้องอยู่ในสถานะตัวห้อยเสียก่อนครับ โดยการเลือกที่ Toolbar ของสัญลักษณ์ต่างๆ และหาสถานะตัวห้อย ดังรูปข้างล่างนี้ครับ จากนั้นเมื่อยู่ในสถานะตัวห้อยแล้ว ให้คุณพิมพ์ p ลงไปก็เรียบร้อยครับ และก็กด Tab 1 ครั้ง เพื่อนออกจากสถานะตัวห้อยนะครับ5. พอคุณออกจากสถานะตัวห้อยแล้ว คุณก็พิมพ์เครื่องหมาย = นะครับ จากนั้นในขั้นต่อไป คุณยังเหลือ ที่ยังไม่ได้สร้างนะครับ ซึ่งหน้าที่ของคุณก็คือว่า คุณต้องพิจารณาว่า จะต้องสร้างอะไรก่อน อะไรหลัง และก็ต้องทำไปตามลำดับ ซึ่งจากตัวอย่างนี้ผมก็ต้องสร้างเครื่องหมายเสียก่อน ซึ่งผมก็ต้องเข้าไปที่เมนูดังรูปข้างล่างนี้นะครับ คุณก็จะได้เครื่องหมายดังกล่าวครับ ก็คลิกเลยครับ6. และหลังจากที่ได้เครื่องหมายเรียบร้อยแล้ว คุณก็พอจะเริ่มเดาออกแล้วนะครับ ต่อไปก็ต้องทำ การหาร หรือ เส้นเศษส่วน นั่นเอง ก็คือให้คุณเข้าไปที่เมนูดังรูปข้างล่างนี้นะครับ และกดที่เครื่องหมาย การหาร หรือ เส้นเศษส่วน ดังรูปนะครับ คุณก็จะได้เส้นเศษส่วนครับ แต่ว่าที่สำคัญ คุณต้องเอาเคอร์เซอร์ ของคุณไว้ในเส้นปะ ของเครื่องหมายก่อนนะครับ มิเช่นนั้นจะผิดจุดประสงค์ไปครับ7. จากนั้นในส่วนบนคุณก็พิมพ์ว่า p(1-p) และส่วนล่างก็ให้พิมพ์ n ลงไป ดังรูปข้างล่างนี้นะครับ8. คุณจะเห็นว่าสูตรนั้นยังไม่สมบูรณ์ ยังขาด บาร์ ที่ตัวแปร p นะครับ วิธีการเติม บาร์ ให้กับตัวแปรในสูตรก็คือว่า ก็คือว่าให้คุณใช้เม้าท์ Select (หรือทำพิสัย) ที่ตัวแปรที่คุณต้องการ และเลือกที่เมนูดังรูปข้างล่างนี้ คุณก็จะได้ บาร์ ตามที่ต้องการแล้วครับ9. วิธีการนำสูตรที่สร้างขึ้นมาไปใช้ เมื่อคุณสร้างสูตรสำเร็จเรียบร้อยแล้ว วิธีการนำไปใช้ก็คือว่าให้คุณใช้เม้าท์ Select (หรือทำพิสัย) สูตรที่คุณได้สร้างนี้ ทั้งหมดและให้คุณทำการ Copy โดยเข้าไปที่เมนู แก้ไข -> คัดลอก ดังรูปข้างล่างนี้นะครับ10. สมมติ ในที่นี้ผมต้องการนำสูตรนี้ไปใช้ใน Microsoft Word นะครับ... ผมก็เพียงแต่เข้าไปใน Microsoft Word และก็ทำการ Paste ก็เป็นอันเรียบร้อยครับ

11. และทั้งหมดนี้ ก็เป็นวิธีการใช้งานโปรแกรม Microsoft Equation Editor อย่างคร่าวๆ นะครับ โดยที่ผมคิดว่าไม่น่าจะเกินความสามารถ นะครับ ผมก็ขอแนะนำว่า สิ่งที่คุณควรจะพิจารณาเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะลงมือสร้างสูตรก็คือ ลำดับก่อนหลังในการสร้างสูตร คือคุณต้องวางแผนไว้เสียก่อนว่า คุณจะสร้างอะไรก่อน อะไรหลัง และอีกอย่างที่สำคัญก็คือว่า คุณต้องใช้งานบ่อยๆ เนื่องจากว่า สัญลักษณ์บางตัวนั้น คุณอาจจะยังไม่รู้ว่ามันซ่อนอยู่ตรงไหน หากคุณมีการใช้งานบ่อยๆ ก็จะช่วยให้การสร้างสูตรของคุณนั้นง่ายขึ้น... ก็มีเพียงเท่านี้ครับ

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก