ข้อ จำกัด และ เงื่อนไข ในการใช้ ภาษา ไพ ทอน

ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้และทำความรู้จักเจ้าตัว List ของ Python กัน และเราจะมาดูความสามารถของเจ้า List ว่าสามารถทำอะไรได้บ้างนะ เพื่อไม่เป็นการรอช้า เราไปเริ่มเรียนรู้กัน !!

เขียนโดย Natakorn Hongharn -BorntoDev Co., Ltd.

Love2 Share Tweet

List คืออิหยัง ?

List คือ โครงสร้างของข้อมูลชนิดหนึ่งของภาษา Python ที่เก็บข้อมูลในรูปแบบแบบลำดับ (Sequence) ซึ่งจะมีตัว Index ที่ทำหน้าที่ระบุตำแหน่งของข้อมูลแต่ละตัวที่อยู่ใน List

List นั้นสามารถเก็บข้อมูลได้หลายประเภทในเวลาเดียวกัน แถมอีกอย่าง Python มี Built-in function ที่สามารถใช้กับ List ได้ และใน List ก็ยังมี Method ต่าง ๆ ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานด้วย ถือว่าของเขาดีจริง ๆ

 

 

การประกาศการใช้งาน List

List นั้นมีรูปแบบการประกาศใช้งานดังนี้

people = ["Alice", "Bob", "Carl"] money = [200, 20.75, 350.00] id = ["AC4X", 2911, "X703"]

ซึ่งจากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า List นั้นสามารถเก็บค่าได้หลายประเภท และยังสามารถเก็บค่าแบบผสมประเภทกันได้ด้วย (เช่น id เก็บค่าที่เป็น String และ Int ใน List เดียวกัน)

และเราสามารถสร้าง List เปล่า ๆ ก่อนที่จะเติมค่าลงไปใน List ได้เหมือนกัน ด้วยการใช้ .append()

data = [] data.append("Mr.Tuu") data.append(112) data.append(True) #show result print(data)

ผลลัพธ์ที่ได้:

['Mr.Tuu', 112, True]

 

 

การเข้าถึงข้อมูลใน List

การเข้าถึงข้อมูลใน List นั้นจะมีรูปแบบที่คล้ายกับ Array เลยนั่นก็คือ ข้อมูลตัวแรกสุดจะมี Index เป็น 0 และตัวถัด ๆ ไปก็ค่อย ๆ +1 เพิ่มไป ตัวอย่างการเข้าถึงข้อมูลที่เราสร้างกันไว้

people = ["Alice", "Bob", "Carl"] #show result print(people[0]) print(people[1]) print(people[2]) print(people[-1]) print(people[-2])

ผลลัพธ์ที่ได้:

Alice Bob Carl Carl Bob

จะสังเกตุได้ว่า เราสามารถระบุ Index ที่ติดลบได้ด้วย ซึ่ง ที่ตำแหน่ง -1 นั้นคือสมาชิกตัวสุดท้าย และ -2 จะค่อย ๆ ลดตำแหน่งจากตัวสุดท้ายลงมาเรื่อย ๆ

 

 

การประยุกต์ใช้ List ด้วย Loop

List นั้นมีรูปแบบการระบุตำแหน่งแบบ Index ซึ่งเป็นตัวเลข เราสามารถใช้ Loop เพื่อช่วยในการเข้าถึงหรือปรับเปลี่ยนข้อมูลได้ ตัวอย่างเช่น

money = [10, 20, 30, 40] total = 0 for i in range(len(money)): total = total + money[i] #show result print(total)

ผลลัพธ์ที่ได้:

100

และเราสามารถใช้วิธีนี้ได้ด้วย โดยการใช้ Loop รันตามตัวข้อมูลใน List ได้เลยดังรูป

money = [10, 20, 30, 40] total = 0 for i in money: total = total + i
#show result print(total)

ซึ่งจะได้ผลลัพธ์เท่ากับวิธีข้างบนก่อนหน้านี้เลย:

100

 

 

การลบข้อมูลออกจาก List

ในเมื่อเรามีการเพิ่มข้อมูลแล้ว ก็ต้องมีการลบข้อมูลออกจาก List ด้วย ซึ่งวิธีการลบนั้นเราจะใช้คำสั่ง del ในการลบออก ตัวอย่างเช่น

people = ["Alice", "Bob", "Carl", "Paarena", "Takkie"] print(people) del people[0] print(people) del people[0] print(people) del people[:] print(people)

ซึ่ง del people[:] คือการลบข้อมูลออกจาก people ทั้งหมดแต่ยังคงเหลือตัว List ว่างเปล่าอยู่ (ซึ่งต่างจากการ del people คือการลบตัว people List ออกเลย)

ผลลัพธ์ที่ได้:

data = [] data.append("Mr.Tuu") data.append(112) data.append(True) #show result print(data)0

 

 

สรุปท้ายบทความ

ท้ายที่สุดนี้ ทางผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้ที่อ่าน ได้ความความรู้และความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ List ของ Python และได้เห็นประโยชน์จากการใช้งานของ List หากมีเนื้อหาใดที่ทางผู้เขียนนั้นเขียนผิดพลาด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ สามารถ Comment พูดคุยบอกกันได้น้า ในบทความนี้ผมต้องขอจบเพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณที่มาอ่านกันนะครับ 😁

Python ได้จำกัดสัญลักษณ์ที่ใช้ในการแบ่งบล็อกของโปรแกรมเป็นการย่อหน้าแทน ทำให้สามารถอ่านโปรแกรมที่เขียนได้ง่ายนอกจากนั้นยังมีการสนับสนุนการเขียน docstring ซึ่งเป็นข้อความสั้นๆ ที่ใช้อธิบายการทำงานของฟังก์ชั่น, คลาส, และโมดูล

  • เป็นภาษากาว (Glue Language)

python เป็นภาษากาว (Glue Language) เนื่องจากสามารถเรียกใช้ภาษาโปรแกรมอื่นๆได้หลายภาษาทำให้เหมาะสำหรับการเขียนโปรแกรมเพื่อประสานงานกับภาษาอื่นๆ

python ใช้ไลบรารีในการลดภาระให้กับผู้พัฒนาโปรแกรมได้อย่างดีทำให้ผู้พัฒนาโปรแกรมไม่ต้องเสียเวลากับการเขียนคำสั่งที่ซ้ำๆยกตัวอย่างเช่นการแสดงผลข้อมูลออกสู่หน้าจอ หรือ การรับค่าต่างๆ Python มีชุดไลบรารีที่เป็นมาตรฐานมาให้ตั้งแต่ตอนติดตั้งอินเตอร์พรีเตอร์

Python ทำงานได้รวดเร็วเมื่อเทียบกับภาษา Script ด้วยกัน เช่น PHP, JSP, ASP หรือจะบอกว่า Python เขียนน้อยแต่ได้งานมาก ทำงานเร็วก็ไม่ผิด

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก