รู้ และ เข้าใจ อารมณ์และ ความต้องการทางเพศ

เมื่อพูดถึงการใช้ชีวิต แน่นอนว่าย่อมมีมิติในด้านต่างๆ มากมายเข้ามาเกี่ยวพัน แต่กระนั้น ส่วนสำคัญเป็นลำดับต้นๆ

โดย...วิทยา ปะระมะ

เมื่อพูดถึงการใช้ชีวิต แน่นอนว่าย่อมมีมิติในด้านต่างๆ มากมายเข้ามาเกี่ยวพัน แต่กระนั้น ส่วนสำคัญเป็นลำดับต้นๆ ของชีวิตที่ยากจะปฏิเสธได้ นั่นก็คือเรื่องเซ็กซ์ เนื่องจากเป็นแรงขับตามธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนที่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์ เป็นสิ่งชูรสชีวิตคู่ให้มีความสุข หลายครอบครัวที่มีปัญหาระหองระแหง ปัจจัยลึกๆ ส่วนหนี่งก็มาจากความไม่สมดุลในเรื่องเซ็กซ์นั่นเอง การทำความเข้าใจกลไกของเซ็กซ์ในแต่ละช่วงวัย จึงเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้รู้ถึงสภาวการณ์ทางเพศ เพื่อปรับตัวใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้นั่นเอง

โสด “35 อัพ” ฮอร์โมนว้าวุ่น

ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ อธิบายกลไกที่ทำให้เกิดแรงขับดันทางเพศ ว่าเกิดจากฮอร์โมนเพศ โดยในเพศชายได้แก่ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone)ส่วนเพศหญิง ฮอร์โมนหลักๆ คือ เอสโตรเจน (Estrogen)

ทั้งนี้ หากพูดถึงระดับอารมณ์ทางเพศแล้ว เพศชายจะมีความต้องการทางเพศมากกว่าผู้หญิง ซึ่งก็เป็นผลจากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ที่เป็นแรงขับให้ผู้ชายต้องการเจริญพันธุ์เพื่อถ่ายทอดพันธุกรรม ผู้ชายจึงรู้สึกมีความสุขและถึงจุดสุดยอดทุกครั้งเมื่อได้มีเซ็กซ์

ในทางกลับกัน ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ นิยามฮอร์โมนเอสโตรเจน ว่าเป็นฮอร์โมนแห่งความรัก เพราะเป็นตัวขับดันให้ผู้หญิงแสวงหาความรัก การดูแล การเอาอกเอาใจ เป็นหลัก การตัดสินใจมีเซ็กซ์ของผู้หญิงจึงมีความซับซ้อนกว่าผู้ชาย คือ 1.ต้องคิดว่าผู้ชายรัก 2.มีความพร้อม และ 3.บรรยากาศเป็นใจ

“เปรียบเทียบให้เห็นภาพ ให้นึกถึงน้ำในแก้ว 1 ใบในแก้วของผู้ชายก็จะมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนอยู่เต็มแก้ว เมื่อมีกิจกรรมทางเพศ ผู้ชายต้องใช้ฮอร์โมน ปริมาณน้ำในแก้วก็จะลดลง ฮอร์โมนเอสโตรเจนก็จะมีมากขึ้น เราจะเห็นได้ว่าผู้ชายจะทำตัวน่ารักมากขึ้นหลังการมีเซ็กซ์” นายแพทย์ท่านนี้ กล่าว

ด้วยลักษณะที่แตกต่างกันของฮอร์โมนนี้เอง ทำให้ผู้หญิงเรียนรู้ว่าถ้ามีเซ็กซ์แล้วผู้ชายก็จะน่ารัก ส่วนผู้ชายก็เรียนรู้ว่าต้องทำตัวน่ารักแล้วจะได้มีเซ็กซ์

“ทีนี้ถ้าเราแบ่งตามช่วงอายุ ฮอร์โมนเพศจะอยู่ในระดับสูงสุดถึงช่วงอายุประมาณ 35 ปีหลังจากนั้นจะค่อยๆ ลดลง ผู้ชายที่อายุมากขึ้นฮอร์โมนเพศลดลง ส่งผลให้มีความต้องการและกิจกรรมทางเพศน้อยลงตามไปด้วย” ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ระบุ

ด้วยเหตุนี้ ผู้ชายบางคนที่ไม่เข้าใจกลไกของฮอร์โมนเพศ จึงรู้สึกวิตกหรือโทษว่าเป็นความผิดของภรรยาที่ไม่น่าสนใจ ทำให้มีกิจกรรมน้อยลง จึงแสวงหาบ้านเล็กบ้านน้อยหรือผู้หญิงที่มีอายุน้อยๆ เพื่อชดเชยปมที่รู้สึกว่าตนเองมีความต้องการทางเพศน้อยลงซึ่งสังคมในอดีตอาจเห็นการหาเมียเล็กเมียน้อยมาอยู่ในบ้าน แต่ในปัจจุบันยึดถือเรื่องผัวเดียวเมียเดียว ดังนั้นจึงพบปัญหาการนอกใจภรรยาเยอะมากในผู้ชายช่วงอายุระหว่าง 40-60 ปี

ในทางกลับกัน ผู้หญิงอายุระหว่าง 40-60 ปีบางคน ก็จะมีอารมณ์ความต้องการทางเพศมากขึ้น เพราะมีเซ็กซ์แล้วรู้สึกสบาย นอนหลับสบาย ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูเยาว์วัยดังนั้นหากเป็นคู่รักที่ผู้ชายยังแข็งแรง ฮอร์โมนเพศยังสูง ก็จะเข้ากันได้ดีก็จะไม่มีปัญหาชีวิตคู่แต่หากไม่ match กัน ฮอร์โมนที่เพศลดลงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ก็จะมีปัญหาระหองระแหงกัน ก็อาจจะเห็นภาพของผู้หญิงสูงวัยไปเที่ยวบาร์โฮสเด็กหนุ่มๆ ได้ เป็นต้น

เกษียณ เซ็กซ์คือการบอกรักด้วยภาษากาย

ขณะเดียวกัน ในกลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ซึ่งถือว่าเป็นผู้สูงอายุแล้ว ก็ใช่ว่าจะมีชีวิตโดยปราศจากเซ็กซ์เสียเลย เพราะฮอร์โมนเพศนั้นมีได้เรื่อยๆ จนกว่าจะเสียชีวิต เพียงแต่เมื่ออายุมากฮอร์โมนก็จะน้อยลง ดังนั้นผู้สูงอายุก็มีเซ็กซ์ได้ อยู่ที่ความสมบูรณ์ของร่างกายและระดับฮอร์โมน

ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ แนะวิธีการรักษาและสร้างฮอร์โมนที่ดีที่สุด คือ 1.การนอนหลับตามนาฬิกาชีวภาพ หรือก่อนเที่ยงคืน 2.เน้นรับประทานอาหารที่มีโปรตีนที่เกิดจากการทำให้สุกช้าๆ (slow cooking) เช่น การนึ่ง เป็นต้น ลดแป้งและน้ำตาล เสริมอาหารที่มีแร่ธาตุ สังกะสี และ 3.ทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง โล่ง สบาย ก็จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนเพศเพิ่มมากขึ้น

“อย่างไรก็ตาม เซ็กซ์ไม่ใช่การร่วมเพศ ผมใช้คำว่าร่วมรัก เพราะนี่เป็นการแสดงความรักผ่านภาษากาย ดังนั้นเวลาที่เราพูดถึงเซ็กซ์ในคนหนุ่ม ก็จะนึกถึงการร่วมรักที่มี action แต่ในผู้สูงอายุ การมีเซ็กซ์ไม่จำเป็นต้องมีการประสานสอดคล้องกันในบางส่วนของร่างกายก็ได้ การได้กอดกันจูบกัน ลูบไล้กันโดยไม่ต้องมี action ก็ทำให้เขามีความสุขได้เรื่อยๆ เพราะมีกายสัมผัสแห่งความรักเหมือนกัน” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ กล่าว

อย่างไรก็ดี ในกรณีที่เป็นคู่รักต่างวัย เช่น ชายสูงวัยกับหญิงอายุน้อยกว่าที่ยังมีความต้องการร่วมรักแบบมี action ก็อาจจำเป็นต้องเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อปรับร่างกาย ปรับฮอร์โมน ให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ รวมถึงในกรณีหญิงสูงอายุที่มีคู่เป็นชายอายุน้อยกว่า อาจมีปัญหาช่องคลอดแห้ง ไม่มีน้ำหล่อลื่น ก็สามารถมาพบแพทย์เพื่อช่วยปรับร่างกายได้เช่นกัน

“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่าอายและแพทย์ก็ยินดีให้คำปรึกษาอยู่แล้ว ขอเพียงมีคู่เป็นกิจจะลักษณะ ที่สำคัญไม่ควรไปซื้อฮอร์โมนรับประทานเองเพราะจะกลายเป็นอันตรายต่อร่างกาย และหลักจากพบแพทย์แล้วก็ไม่ควรร่วมรักแบบพิสดารเข้า เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุจนกระดูกหักได้” ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ แนะนำ

ทั้งนี้ สำหรับคนหนุ่มสาววัยทำงานที่ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีก็มีเซ็กซ์ได้เป็นปกติ ว่ากันไปตามธรรมชาติ ซึ่งความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์ที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 2-3 ครั้ง/สัปดาห์แต่สำหรับผู้สูงอายุ การจะมีเซ็กซ์บ่อยครั้งแค่ไหนถึงจะเหมาะสมนั้น ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ บอกว่าได้เท่าไหร่...ก็เท่านั้น

ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ทิ้งท้ายว่า ผู้สูงอายุอีกกลุ่มหนึ่งที่พบ คือฮอร์โมนเพศลดลงจนไม่มีความต้องการแล้ว ก็อาจจะคุยกับคู่ของตัวเองว่าหยุดมีเซ็กซ์ไปเข้าวัดปฏิบัติธรรมก็มีเช่นกัน ซึ่งผลสุดท้ายก็ไม่ต่างกัน เพราะการปฏิบัติธรรมช่วยทำให้จิตใจสบาย ร่างกายก็หลั่งสารเอนดอร์ฟินออกมาจนเกิดความรู้สึกเป็นสุขเช่นเดียวกับการมีเซ็กซ์นั่นเอง