การเก็บรักษาอุปกรณ์ห้องครัว

ห้องครัวของแต่ละบ้านมักจะอัดแน่นไปด้วยอาหาร ของสด เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องครัวต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นกระทะ หม้อ เตาแก๊ส ไมโครเวฟ ดังนั้นการจัดห้องครัวให้สะอาดเรียบร้อยจึงมีความสำคัญมาก เพื่อทำให้ครัวเป็นระเบียบ หาของง่าย สะอาด เราได้รวบรวมวิธีจัด ห้องครัว แบบง่ายๆ โดยเฉพาะการจัดห้องครัวขนาดเล็กมาให้คุณทางด้านล่างนี้

เพิ่มความกว้างขวางให้กับการจัดห้องครัวขนาดเล็ก โดยการใช้สีขาว ไม่ว่าจะเป็นตู้ ลิ้นชัก เคาน์เตอร์ หรือเครื่องครัวต่างๆ จากนั้นค่อยแต่งแต้มสีสันเพิ่มเติม โดยเลือกเป็นสีสว่าง เช่น เหลือง แดง เพื่อเพิ่มความอยากอาหาร

วิธีการจัดห้องครัว

การจัดครัวไทยที่มีเครื่องครัวและวัตถุดิบค่อนข้างมาก เช่น ครก ซึ้งนึ่ง เครื่องแกงต่างๆ โดยเฉพาะหากเป็นการจัดครัวขนาดเล็ก อาจมีความยุ่งยากในการหาพื้นที่เก็บ ดังนั้นคุณจึงควรตั้งคำถามว่าสิ่งไหนที่คุณใช้และไม่ใช้บ้าง เพื่อให้ครัวดูสะอาด และให้คุณได้ใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่

  • ก่อนลงมือจัดห้องครัว คุณควรเริ่มเคลียร์ของออกจากห้องครัวก่อน อย่างเครื่องครัวอันไหนที่ไม่ได้ใช้แล้ว รวมไปถึงวัตถุดิบหรืออาหารสดอันไหนที่ใกล้หมดอายุ เพื่อเอาของไม่จำเป็นออกไปจากห้องครัวให้ได้มากที่สุด

  • ตรวจสอบเครื่องครัว และเครื่องใช้ไฟฟ้าว่ายังสามารถใช้การหรือทำงานได้ดีหรือไม่ ตรวจเช็คว่ามีของใช้ไม่จำเป็นหรือมากเกินจริงหรือไม่ เช่น หากคุณอาศัยอยู่ในหอพักคนเดียว แต่มีแก้วน้ำมากกว่า 10 ใบ คุณควรเก็บแก้วไว้เฉพาะที่จำเป็นและบริจาคของที่เหลือ

  • เลือกใช้เครื่องครัวที่ทำหน้าที่ได้หลายอย่างพร้อมกันและเหมาะสมกับสไตล์การทำอาหารของตัวเอง เช่น ถ้าคุณไม่ได้อบขนม อุปกรณ์ชั่งตวงวัด เครื่องร่อนแป้ง ถาดอบคุ้กกี้ ก็อาจจะไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่ต้องมีในครัว

  • หลีกเลี่ยงการวางของในจุดที่ตามองเห็นได้ง่าย เช่น เคาน์เตอร์ เพราะจะทำให้ห้องครัวดูรก คุณควรจัดของใส่ตู้เก็บของและลิ้นชักให้เรียบร้อย โดยแบ่งเป็นอุปกรณ์เครื่องครัว เช่น หม้อ กระทะ อุปกรณ์ในการรับประทานอาหาร เช่น ช้อนส้อม จาน ให้เป็นสัดส่วน

  • ใช้พื้นที่ส่วนที่ว่างอยู่ให้กลายเป็นที่เก็บของ เช่น ติดตู้ลอยบนผนังเหนือเคานเตอร์ ติดตั้งอุปกรณ์แขวนเครื่องครัวเหนือเตา วางกล่องใส่ของใต้อ่างล้างจาน เป็นต้น เพื่อที่คุณจะได้ใช้พื้นที่ที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่

การจัดห้องครัว และทำความสะอาดห้องครัว

เมื่อเลือกเครื่องครัว อุปกรณ์ไฟฟ้า วัตถุดิบที่จะเก็บไว้แล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณจะลงมือทำความสะอาดห้องครัว ก่อนการจัดห้องครัวให้เรียบร้อย เตรียมอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการทำความสะอาดบริเวณต่างๆ แล้วลงมือทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. ทำความสะอาดเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า เตาอบ และไมโครเวฟ โดยเริ่มจากเช็ดทำความสะอาดเศษอาหารและคราบสกปรกต่างๆ ด้วยการใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำยาล้างจานซันไลต์ ผสมน้ำอุ่นหมาดๆ และเช็ดเตาให้ทั่ว จากนั้นใช้ฟองน้ำชุบน้ำสะอาดเช็ดน้ำยาล้างจานออกให้หมด

  2. เริ่มต้นทำความสะอาดตู้เย็นด้วยการถอดปลั๊กออก แล้วถอดชิ้นส่วนต่างๆ เช่น ช่องเก็บของสด ชั้นวางของ ถาดน้ำแข็งออกมาล้างด้วยน้ำยาล้างจาน ตากหรือเช็ดให้แห้ง ส่วนของตู้เย็นคุณสามารถทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานผสมน้ำอุ่นด้วยเช่นกัน เมื่อเสร็จแล้วก็ประกอบชิ้นส่วนต่างๆ กลับตามเดิม

  3. ตู้เก็บของและเคาน์เตอร์ควรทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับวัสดุ เช่น ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดไม้ หรือหินอ่อน คุณยังสามารถใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ แล้วเช็ดทำความสะอาด จากนั้นเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด เพื่อป้องกันอาการไม้บวม หรือการทิ้งคราบน้ำที่ทำให้พื้นผิวดูสกปรก

  4. ทำความสะอาดเครื่องครัว จานชาม ช้อนส้อมให้เรียบร้อย เมื่อเสร็จแล้วจึงลงมือทำความสะอาดอ่างล้างจาน ด้วยน้ำยาล้างจาน เช็ดคราบสกปรกให้เรียบร้อย จากนั้นเช็ดอ่างให้แห้ง เพื่อไม่ให้มีคราบน้ำเลอะเทอะ

  5. ทำความสะอาดพื้นห้องครัวเป็นลำดับสุดท้าย โดยดูสภาพพื้นว่าทำจากวัสดุอะไร หากเป็นกระเบื้องที่มีคราบสกปรกมาก คุณควรใช้น้ำยาทำความสะอาดกระเบื้องหรือน้ำยาล้างห้องน้ำ เช่น วิม หรือโปรแม็กซ์ ผสมน้ำและถูทำความสะอาดให้เรียบร้อย หากคราบฝังแน่นมาก คุณสามารถใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำป้ายไว้ที่คราบทิ้งไว้ 5-10 นาทีก่อนขัดออกด้วยแปรงสีฟันหรือแปรงทำความสะอาด

มากำจัดอาหาร เครื่องครัว และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น แล้วแปลงโฉมครัวของคุณเสียใหม่ให้ดูสวยงาม สะอาด ใช้งานได้ง่ายด้วยวิธีการจัดห้องครัวที่เรารวบรวมมาไว้ข้างต้น ไม่ว่าการจัดห้องครัวเล็กๆ หรือการจัดห้องครัวไทย เรารับรองว่าครัวของคุณจะสวยและน่าใช้อย่างแน่นอน

  • สำหรับคราบน้ำมันใหม่ๆ คุณสามารถราดน้ำร้อนลงไปบนคราบ แล้วเช็ดออกทันที

  • ใช้ผงซักฟอกผสมน้ำอุ่นขัดลงไปบนคราบมัน ก่อนเช็ดออกด้วยน้ำสะอาด

  • ใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำหรือน้ำมะนาว ราดให้ทั่วบริเวณแล้วขัดลงไปบนคราบ คุณยังสามารถใช้มะนาวถูบนคราบก็ได้เช่นกัน

การเก็บรักษาอุปกรณ์ห้องครัว

การเก็บรักษาอุปกรณ์ห้องครัว
มีดทำครัว

เปลี่ยนสถานะจากนักเรียนสู่นักศึกษา บางคนได้ศึกษาต่อกับสถาบันที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศซึ่งห่างไกลจากบ้านอันอบอุ่น จำต้องหาที่พักใกล้ ๆ กับสถาบันการศึกษา จำต้องดูแลตัวเองให้ได้เพราะผู้ปกครองมาดูแลใกล้ ๆ ไม่ได้เหมือนเดิม ใครที่ไม่เคยเข้าครัวเลยจะได้เริ่มต้นเรียนรู้การดำรงชีพเพื่อปากท้อง แม้จะพูดว่าหาซื้อกับร้านอาหารตามสั่ง ไฉน… ใกล้สิ้นเดือนก็ต้องพึ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จอยู่ดี สู้ผจญภัยในครัวไปเลย ลองผิด ลองถูก เดี๋ยวก็อร่อยเอง หรืออย่างน้อย ๆ ควรพก มีดทำครัว ไว้สักเล่มเผื่อปลอกเปลือกผลไม้หรือตัดยางรัดถุงแกงก็ได้

สำหรับแม่บ้าน – พ่อบ้านที่ชอบการทำอาหารรับประทานเองพอจะทราบดีว่า มีดทำครัวสำคัญมากแค่ไหน ในครัวต้องมีมีดทำครัวอย่างน้อย 3 เล่ม คือ มีดขนาดเล็กสำหรับปลอกเปลือกหรือหั่นส่วนประกอบขนาดเล็ก ๆ, มีดขนาดกลางสำหรับหั่น – ซอยเนื้อสัตว์ และมีดขนาดใหญ่ (ประมาณอีโต้) ใช้สับเนื้อที่มีกระดูกให้ขาดจากกันได้ง่าย บุคคลที่ให้ความสำคัญกับมีดทำครัวมากที่สุดคือ เชฟ หรือ กุ๊ก หรือ พ่อครัว บนร้านอาหารหรือห้องอาหารต่าง ๆ ที่มีดทำครัวแต่ละเล่มมีเพื่อการทำงานเฉพาะด้าน อาทิ มีดสำหรับหั่นเนื้อวัว, มีดสำหรับแล่เนื้อปลา และห้ามใช้ปะปนกันเด็ดขาด เชฟจะมี วิธีเก็บรักษามีดทำครัว ให้คมเหมาะสำหรับทำอาหารอยู่เสมอ ซึ่งวิธีการต่อไปนี้พ่อบ้าน – แม่บ้าน สามารถเอามาใช้ได้นะ มีดทำครัวราคาแพงจะได้ใช้งานได้นาน ๆ

การเก็บรักษาอุปกรณ์ห้องครัว
การดูแลมีดทำครัว

ทำความสะอาดหลังจากใช้งานทุกครั้ง : หลังจากการประกอบอาหารเสร็จเป็นรูปร่างพร้อมรับประทานนั้น การทำความสะอาดมีดทำครัวเป็นสิ่งสำคัญ สามารถใช้แผ่นใยขัดได้แต่ต้องเลือกให้เหมาะสม ขัดล้างไปทิศเดียวกันเพื่อไม่ทำลายคมของมีดทำครัว หลังจากล้างจนสะอาดแล้วต้องเช็ดให้แห้งสนิทป้องกันสนิม

ลับคมมีดทุกครั้งก่อนเก็บ : ไม่ควรลับคมมีดในระหว่างประกอบอาหาร โดยใช้หินลับมีดโดยเฉพาะจะถนอมคมมีดให้คมมากกว่าการใช้ มีดทำครัว ขัดกันเอง เพราะคมมีดจะเสียได้ สำหรับคุณอาจไม่รู้สึกแต่เชฟตัวจริงได้ลองใช้งานจะทราบได้ทันทีว่า คุณลับมีดด้วยวิธีใด

ห้ามใช้ผิดวัตถุประสงค์ : มีดทำครัวเหมาะกับงานครัว อย่าใช้ปะปนกับสิ่งอื่นเพราะความมักง่าย บางคนเอามีดทำครัวไปตัดไม้หรือกระดาษ คมมีดที่ออกแบบมาเพื่อตัดเนื้อสัตว์จะเสียหายได้ เหมือนกับกรรไกรไง… ที่กรรไกรสำหรับตัดผ้าจะคมมาก ๆ ก็มีข้อห้ามว่า ไม่ควรใช้ตัดสิ่งอื่นเพราะความคมจะเสียไปทันที

เพียงให้ความสำคัญกับ การดูแลมีดทำครัว เป็นประจำ อีก 10 ปีข้างหน้าก็ไม่ต้องซื้อมีดทำครัวใหม่ เพราะอุปกรณ์ยังใช้งานได้ดีไม่ตกหล่น ยกเว้นเกิดการบิ่นที่คมมีดนะ