Show
นอกเหนือจากคอมพิวเตอร์ที่มีสเปคแรง ๆ การ์ดจอดี ๆ และจอแสดงผลภาพที่มีความละเอียดสูง ๆ แล้ว อุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ต่าง ๆ เช่น เมาส์ไร้สาย, คีย์บอร์ด, หูฟัง, ไมโครโฟน, กล้องเว็บแคม หรือจอยเกม ถือเป็นอุปกรณ์พื้นฐานซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากของเหล่าเกมเมอร์ เนื่องจากอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์เปรียบเสมือนแขนและขาของผู้เล่น โดยมันถือเป็นตัวกลางที่คอยตอบสนองความต้องการของผู้เล่นไปสู่เกม แน่นอนครับว่า เกมจะตอบสนองผู้เล่นช้าหรือเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่เป็นตัวกลางดังนั้นไม่ว่าคุณจะมีฝีมือเก่งกาจมากขนาดไหน แต่ถ้าอุปกรณ์ของคุณไม่เอื้ออำนวย คุณก็อาจจะแพ้ฝ่ายตรงข้ามได้ง่าย ๆ ก่อนหน้านี้เราได้ทำการรีวิวอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ไปมากมายหลายอย่างแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็น เมาส์เกมมิ่ง, แผ่นรองเมาส์, โต๊ะเกมมิ่ง, เก้าอี้เกมมิ่งหรือแม้แต่แล็ปท็อปเกมเกมมิ่งของแบรนด์ต่างๆ อาทิเช่น Asus, Lenovo, Acer, HP หรือ Dell เป็นต้น ในวันนี้ก็มาถึงคิวของ คีย์บอร์ดเกมมิ่ง (Gaming Keyboard) กันบ้างครับ ซึ่งถึงแม้ว่าคีย์บอร์ดในปัจจุบันมีอยู่หลายแบบ และแต่ละแบบก็มีหน้าตาที่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น คีย์บอร์ดทั่วไปที่ใช้กับคอมพิวเตอร์, คีย์บอร์ดบลูทูธที่ใช้งานกับแท็บเล็ต หรือคีย์บอร์ดไร้สายที่ใช้งานกับมินิคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งถ้าเรามองแค่ภายนอก แน่นอนครับว่าหน้าตามันก็คล้ายคลึงกันหมด แต่ถ้าเรามองที่ประสิทธิภาพในการทำงาน คุณจะพบกับความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง แน่นอนว่า อุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ทุกอย่าง ได้รับการออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ซึ่ง คีย์บอร์ดเกมมิ่ง เองก็เช่นกันครับ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ใช้ กลไกของปุ่มหรือสวิตซ์ ความเร็วและความแม่นยำในการตอบสนอง รวมไปถึงความรู้สึกของผู้ใช้ เมื่อได้มีการสัมผัสกับการกด ด้วยปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ มันสามารถส่งผลให้คุณเป็นเกมเมอร์ที่เก่งกาจขึ้นได้ ฉะนั้นในวันนี้ เราก็ได้ทำการรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่คุณต้องรู้! รวมไปถึงเราได้คัดสรร คีย์บอร์ดเกมมิ่ง (Gaming Keyboard) รุ่นยอดนิยม มารีวิวด้วย คีย์บอร์ดเกมมิ่ง รุ่นไหนเหมาะกับคุณ ?
ประเภทของ คีย์บอร์ด แบ่งตามกลไกปุ่มกด มีอะไรบ้าง ?สำหรับ คีย์บอร์ด (Keyboard) ในปัจจุบันนั้นเราสามารถแบ่งประเภทโดยใช้เกณฑ์ต่าง ๆ ได้มากมาย ทั้ง แบ่งตามขนาด, แบ่งตามจำนวนปุ่มกด, แบ่งตามเลย์เอ้าท์การจัดวางปุ่ม หรือแบ่งตามกลไกของปุ่มกด ซึ่งเกณฑ์การแบ่งประเภทที่นิยม คือ แบ่งตามกลไกของปุ่มกดครับ เนื่องจากกลไกของปุ่มกดแต่ละประเภทมีประสิทธิภาพต่างกันมากพอสมควรเลย และให้สัมผัสการกดที่ไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนครับ ซึ่งถ้าหากเราแบ่ง คีย์บอร์ดตามกลไกของปุ่มกด เราสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกันครับ ได้แก่ 1. คีย์บอร์ดปุ่มยาง (Rubber Dome หรือ Membrane Keyboard)ประเภทแรกคือ คีย์บอร์ดปุ่มยาง (Rubber Dome หรือ Membrane Keyboard) ครับ ซึ่งคีย์บอร์ดในแบบนี้จะมีราคาถูกที่สุด โดยจะมีปุ่มกดลักษณะเป็นแบบ Rubber Dome หรือ ปุ่มยาง ส่วนใหญ่มักจะเจอในคีย์บอร์ดราคาประหยัด ซึ่งทุก ๆ คนน่าจะเคยได้ใช้ผ่านมือมาบ้างแล้ว ตามห้องคอมพิวเตอร์ในสถานศึกษา เพราะมันมีราคาถูก ทนทาน และใช้งานง่าย ไม่มีกลไกอะไรซับซ้อน 2. คีย์บอร์ดกลไก (Mechanical Keyboard)คีย์บอร์ด แมคคานิคอล (Mechanical Keyboard) หรือ คีย์บอร์ดแบบกลไก เป็นคีบอร์ดที่มีการพัฒนา โดยใช้กลไกในการทำงาน ทำให้มันสามารถกดได้ง่าย มีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ซึ่งให้ความรู้สึกในการพิมพ์แตกต่างจากแบบแรกอย่างสิ้นเชิง โดยในปัจจุบันมีแบบที่นิยมใช้กันอยู่ 4 แบบ หลัก ๆ ครับ ได้แก่ Blue Switch, Red Switch, Brown Switch และ Black Switch ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทุกกลุ่ม สำหรับปัจจุบัน Blue Switch จะเป็นแบบที่ได้รับความนิยมจากเหล่าเกมเมอร์มากที่สุด เนื่องจากเป็นกลไก 2 ชั้น ซึ่งช่วยลดการกดผิดได้ อีกทั้งยังให้เสียงการกดที่ดังกว่าแบบอื่น ๆ ทำให้ถูกใจเกมเมอร์เป็นอย่างมาก 3. คีย์บอร์ดกึ่งกลไก (Mecha-Membrane Keyboard)ตามชื่อเลยครับ คีย์บอร์ดกึ่งกลไก คือ การนำเอาคีย์บอร์ดทั้ง 2 แบบ ข้างต้น มารวมเข้าไว้ด้วยกัน เนื่องจากแบบแรก มีราคาประหยัดแต่ไม่เหมาะสำหรับเล่นเกม ส่วนแบบที่สองนั้นเหมาะสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ แต่ก็มีราคาที่สูงมากเช่นกัน ดังนั้น คีย์บอร์ดกึ่งกลไก จึงถูกนำมาอยู่ตรงกลางครับ ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีสัมผัสการกดที่คล้ายคลึงกับ คีย์บอร์ดกลไก มากที่สุด แต่ใช้วัสดุ และกลไกของ คีย์บอร์ดปุ่มยาง เพื่อช่วยให้มีราคาที่ย่อมเยาว์ลงมา ทำให้เหล่าเกมเมอร์ที่มีงบประมาณจำกัดสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เมื่อคุณสามารถแยกประเภทของคีย์บอร์ดได้แล้ว คุณก็จะสามารถจำกัดกรอบของคีย์บอร์ดที่คุณต้องการได้ง่ายขึ้นครับ สำหรับในบทความนี้ เราได้ทำการคัดสรร 10 อันดับ คีย์บอร์ดเกมมิ่ง (Gaming Keyboard) รุ่นยอดนิยม ในปี 2021 ในระดับราคาต่าง ๆ มารีวิวให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน ซึ่งแน่นอนครับ ทุก ๆ รุ่นในที่นี้ล้วนเหมาะกับการนำไปใช้เล่นเกมโดยเฉพาะ แต่จะมีรุ่นอะไร ? และราคาเท่าไหร่บ้างนั้น ? เราตามไปดูกันเลยครับ รีวิว FANTECH Gaming Keyboard เกมมิ่งคีย์บอร์ดรุ่นยอดนิยม รุ่น K613L (Fighter II)รูปภาพจาก Fantechราคา 590 บาท* FANTECH รุ่น K613L (Fighter II) เป็น Gaming Keyboard ที่มาพร้อมกับปุ่มกดแบบ Semi Mechanical ที่ให้ความรู้สึกในการใช้งานเหมือนกับคีย์บอร์ดที่ใช้สวิตซ์คุณภาพสูง กดง่ายและมีอัตราการส่งข้อมูลอย่างรวดเร็ว ตัวบอดี้คีย์บอร์ดส่วนใหญ่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียม ที่ให้ความแข็งแรง และทนทานสูง มีการออกแบบดีไซน์ที่สวยงาม โดยเด่น มาพร้อมโหมดไฟ RGB 3 โหมดมาคุณได้เลือกใช้งาน ในส่วนของการเชื่อมต่อ จะใช้สาย USB Magnet Booster ในการส่งข้อมูลการใช้งาน ซึ่งจะรวดเร็วและทันท่วงที เป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดที่เหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้สัมผัสที่คล้ายคลึงกับคีย์บอร์ดที่คุณภาพสูง ๆ
รีวิว SIGNO E-Sport คีย์บอร์ดสำหรับเกม รุ่น KB-730 CENTAURUSรูปภาพจาก Signoesportราคา 645 บาท* SIGNO E-Sport รุ่น KB-730 CENTAURUS เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่ง ที่มาในรูปแบบ Semi Mechanical ให้ความรู้สึก การสัมผัส และเสียงที่ได้ จะคลายคลึงกับคีย์บอร์ด Mechanical ที่มีราคาสูง ๆ CENTAURUS มาพร้อมไฟ RGB 7 สี แสดงผลสวยงาม มีฝดหมดการแสดงผลมาให้ 6 แบบ โดยคุณสามารถกดเปลี่ยนผ่านปุ่มบนคีย์บอร์ดได้ทันที แป้นพิมพ์มีการทำตัวอักษรอังกฤษให้เป็นแบบใส เพื่อให้แสงไฟสามารถลอดผ่านขึ้นมาได้ อีกทั้งยังมาพร้อมแผ่นรองข้อมือ ที่สามารถถอดออกหรือติดตั้งเข้าไปได้ง่าย ช่วยให้คุณไม่รู้สึกเมื่อยล้าหากใช้งานนาน ๆ ตัวคีย์บอร์ดสามารถรองรับการกดพร้อม ๆ กันได้ถึง 19 ปุ่ม พร้อมทั้งฟังก์ชั่นพื้นฐานต่าง ๆ ครบครัน และยังสามารถกันน้ำได้ในระดับนึง สายเชื่อมต่อผ่านสาย USB แบบสายถักทนทาน ขาดยาก ถือเป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งรุ่นยอดนิยมสำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่อยากจ่ายแพง ๆ แต่ได้ใช้คีย์บอร์ดเกมมิ่งคุณภาพสูง ๆ
รีวิว AULA แป้นพิมพ์ คีย์บอร์ดสำหรับเล่นเกมส์ รุ่น F2058/F2088รูปภาพจาก Lazadaราคา 802 บาท* AULA รุ่น F2058/F2088 แป้นพิมพ์คีย์บอร์ดสำหรับเล่นเกมส์ ราคาประหยัด เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่ง Mechanical มาพร้อมสวิตช์แบบ Blue Switch ให้ความรู้สึกการสัมผัสที่ต้องใช้แรงในการกด เพื่อลดการกดผิดพลาด และเป็นสวิตซ์ที่ให้เสียงดัง ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี เป็นสวิตซ์ที่สามารถรองรับการกดได้มากถึง 50 ล้านครั้ง เป็นคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาพร้อมไฟ RGB ที่สวยงาม สามารถจัดการรูปแบบการแสดงผลไฟได้ง่าย ๆ มีโหมดไฟ RGB มาให้มากถึง 22 แบบ ให้คุณได้เลือกใช้งาน ตัวบอดี้ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ทนทาน และช่วยให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น ถือเป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่ใช้งาน Blue Switch แต่มีราคาประหยัดที่สุดรุ่นนึง
รีวิว PHILIPS คีย์บอร์ดเกมมิ่ง รุ่น SPK 8614 ปุ่มแมคคานิคอลบลูสวิตช์รูปภาพจาก Philipsราคา 890 บาท* PHILIPS รุ่น SPK 8614 เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่ง Mechanical มาพร้อมสวิตช์แบบ Blue Switch ที่สามารถรองรับการกดได้มากถึง 50 ล้านครั้ง จากแบรนด์ Philips ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน ตัวคีย์บอร์ดผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรง และให้ความทนทานสูง ในส่วนของ Panel ใช้วัสดุโลหะเป็นหลัก ช่วยให้ตัวบอดี้ดูเรียบหรูมากยิ่งขึ้น สำหรับระบบไฟ RGB นั้นเป็นแบบ Rainbow Backlit ที่มีการออกแบบเฉดสีของไฟให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของทางแบรนด์ ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบของ Ambiglow อีกทั้ง PHILIPS รุ่น SPK 8614 ในส่วนของแป้นพิมพ์ในตัวหนังสือภาษาอังกฤษ แสงไฟสามารถลอดขึ้นมาได้ ช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น เห็นชัด และยังเป็นการเพิ่มความสวยงามให้มากขึ้นอีกด้วย อีกทั้งตัวคีย์บอร์ดยังมาพร้อมกับที่รองข้อมือ ที่สามารถถอดและติดตั้งได้ง่าย ๆ
รีวิว NUBWO คีย์บอร์ด เกมมิ่ง รุ่น Terminator X30รูปภาพจาก Nubwoราคา 1,490 บาท* NUBWO รุ่น Terminator X30 เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่ง จากแบรนด์ที่มีการผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ในราคาประหยัดมามากมายหลายรุ่น อย่าง NUBWO โดยในรุ่น TERMINATOR มาพร้อมสวิตซ์ให้เลือก 2 แบบ ทั้ง Blue Switch และ Red Switch เป็นปุ่มของ Outemu Mechanical RGB สามารถรองรับการกดได้มากถึง 50 ล้านครั้ง ช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และยังมาพร้อมที่รองข้อมือแบบพับได้ ช่วยลดความเมื่อยล้าขณะใช้งาน ตัวปุ่มมีการออกแบบมาเพื่อป้องกันผุ่นได้ เป็นคีย์บอร์ดที่คุณสามารถตั้งค่าผ่านซอฟแวร์ของ Nubwo X30 Terminator ได้ ทั้งตั้งค่ามาโคร และปรับเปลี่ยนไฟแบบ Full RGB ตัวคีย์บอร์ดยังสามารถรองรับการกดปุ่มพร้อม ๆ กันได้ทุกปุ่ม ถือเป็นคีย์บอร์ดที่มีประสิทธิภาพสูง และมีราคาที่เป็นมิตร
รีวิว Royal Kludge RK61 Wireless Gaming Keyboard คีย์บอร์ดเกมมิ่งไร้สาย ขนาดพกพารูปภาพจาก Shopee ราคา 1,590 บาท* Royal Kludge รุ่น RK61 เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่ง Mechanical แบบไร้สาย ขนาด Compact หรือประมาณ 60% ของขนาด Full Size มาพร้อมดีไซน์การออกแบบที่สวยงาม ขนาดเล็ก กะทัดรัด ทำให้มันสามารถพกพาได้ง่ายขึ้น มาพร้อมคีย์แคปแบบ ABS Double Shot ซึ่งสามารถถอดเปลี่ยนสวิตซ์และคีย์แคปได้ทันทีได้ ใต้ปุ่มมีเอฟเฟคไฟ RGB สีสันสวยงาม สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ ตัวสวิตช์ใช้ RK Switch มี 3 สี คือ น้ำเงิน, แดง และ น้ำตาล ซึ่งให้ความรู้สึกการกดที่แตกต่างกัน ตอบโจทย์ผู้ใช้ทุกคนได้เป็นอย่างดี ในด้านการเชื่อมต่อรุ่นนี้สามารถใช้งานได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย โดยแบบไร้สาย จะใช้สัญญาณบลูทูธ ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แล็ปท็อป และคอมพิวเตอร์ โดยจะรองรับการจับคู่ได้ถึง 3 อุปกรณ์ เพิ่มความอเนกประสงค์ได้เป็นอย่างดี ส่วนแบตเตอรี่รุ่นนี้ให้ความจุมาที่ 1,450 mAh ซึ่งสามารถใช้งานนานพอสมควร แต่ถ้าแบตฯ หมดคุณสามารถนำสาย USB มาใช้แทนได้ครับ สำหรับใครที่กำลังมองหาคีย์บอร์ดเกมมิ่งแบบพกพา รุ่นนี้ตอบโจทย์มาก ๆ ครับ
รีวิว Logitech Mechanical Backlit Gaming Keyboard คีย์บอร์ดเกมมิ่ง รุ่น G413รูปภาพจาก Logitechราคา 1,990 บาท* Logitech G413 คีย์บอร์ดเกมมิ่งประสิทธิภาพสูง ดีไซน์เรียบหรู บนโครงสร้างที่บางเบา เคสด้านบนทำจากวัสดุอลูมิเนียม-แมกนีเซียมอัลลอย 5052 แบบปัดเงาทำหน้าที่เป็นโครงหลักของคีย์บอร์ด ช่วยให้มีน้ำหนักเบาและแข็งแรง พร้อมฟังก์ชันที่จะช่วยให้การเล่นเกมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สวิตช์ใช้กลไก Romer-G ช่วยให้การกดง่าย และรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยระยะห่างของปุ่มเพียง 1.5 มิลลิเมตร มีเสียงการกดที่เงียบ และในส่วนของกลไกที่สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำ นอกจากนั้นปุ่มกดยังมีความทนทานสามารถรองรับการกดได้ถึง 70 ล้านครั้ง ปุ่มกดได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ ด้วยแสงไฟที่สวยงามรอบ ๆ ปุ่ม ผู้ใช้จึงมองเห็นปุ่มได้ในทุกสถานการณ์ โดยใช้ไฟแบ็คไลท์สีแดง ช่วยให้ผู้ใช้ไม่เสียสมาธิกับแสงไฟที่มันมากจนเกินไป มีพอร์ตเชื่อมต่อ USB passthrough มาให้ด้วย สำหรับการส่งพลังงาน และความเร็วข้อมูลแบบ 100% อีกทั้งคุณยังสามารถตั้งค่าปุ่มมาโครได้ โดยผ่านซอฟแวร์ Logitech Gaming Software (LGS) และรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับคีย์แคปแบบเหลี่ยม 12 ปุ่ม ช่วยให้คุณสามารถอัปเกรดปุ่มสำคัญ ๆ ที่ใช้ในการเล่นเกมให้ได้ เพื่อให้กดได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น
รีวิว Razer Hybrid Mecha-Membrane Switch Chroma RGB คีย์บอร์ดเกมมิ่ง รุ่น Ornata V2รูปภาพจาก Razerราคา 2,490 บาท* Razer รุ่น Ornata V2 เป็น Gaming Keyboard ประสิทธิภาพสูง จากแบรนด์ชั้นนำอย่าง Razer สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมกับสวิทช์ที่มีเสียงและน้ำหนักการกดเท่ากับรุ่นก่อนหน้า อย่าง Hybrid Mecha-Membrane Switch ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยการนำเอาเทคโนโลยี Membrane Switch ผสมเข้ากับ Mechanical Switch เพื่อเพิ่มสัมผัสและความรู้สึกในการกดให้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และยังทำให้ราคาค่าตัว Ornata Chroma จับต้องได้ง่ายมากยิ่งขึ้น สำหรับในเรื่องของแสงไฟนั้นมาพร้อมกับ Razer Chroma Backlighting ที่สามารถแสดงผลแสงไฟได้ถึง 6 โหมด อีกทั้งยังสามารถปรับตั้งค่าสีสันต่าง ๆ ได้ตามต้องการ ซึ่งสามารถตั้งค่าที่ตัวคีย์บอร์ดได้โดยตรง หรือจะตั้งค่าผ่านทางซออฟแวร์ Razer Synapse ก็ได้ ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรู สวยงาม และการออกแบบที่ลงตัว นอกจากนี้ยังมีที่รองข้อมือมาให้ด้วย ซึ่งที่ผิวหน้ามีการบุนุ่มและหุ้มด้วยหนังอย่างดี ทำให้มีความนุ่มมนวล ช่วยให้คุณรู้สึกสบายมากขึ้นขณะใช้งาน ถือเป็นของดีคุณภาพสูง ที่มีราคาเป็นมิตรมากขึ้นครับ
รีวิว SteelSeries คีบอร์ดเกมมิ่ง RGB รุ่น Apex 3รูปภาพจาก SteelSeriesราคา 2,590 บาท* SteelSeries รุ่น Apex 3 คีบอร์ดเกมมิ่งแมคคานิคอล ขนาด Full Size มาในขนาดที่บางและเบา มีดีไซน์ที่โดดเด่น ดูสวยงาม ผลิตด้วยวัสดุที่มีคุณภาพ มาพร้อมที่พักข้อมือแบบแม่เหล็ก เพื่อเพิ่มความรู้สึกในการใช้งานที่สะดวกสบายมากขึ้น ได้ใต้แป้นพิมพ์มีการทำช่องสำหรับการเดินสายเคเบิล 3 ทาง ช่วยให้คุณจัดระเบียบโต็ะคอมพิวเตอร์ของคุณได้ง่ายขึ้น และความพิเศษอีกอย่างก็คือ รุ่นนี้มาพร้อมการป้องกันน้ำระดับ IP 32 ช่วยป้องกันเวลานำอาหารหรือน้ำมาทานบนโต๊ะ และมีปุ่มสำหรับใช้ควบคุมมัลติมีเดียโดยเฉพาะ ช่วยให้การปรับระดับเสียงและการควบคุมมัลติมีเดียต่าง ๆ ทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ตัวปุ่มใช้สวิตซ์ Whisper quiet switch ให้คุณสนุกกับการเล่นเกมแบบไม่มีเสียงที่ดังกวนใจ กดได้อย่างสนุกมือ แถมยังรองรับกำรกดได้กว่า 20 ล้านครั้ง อีกด้วย ใต้ปุ่มมาพร้อมแสงไฟ RGB ที่คณสามารถปรับแต่งได้มากถึง 10 โซน โดยมันสามารถตอบสนองตามเกมและ Discord ได้
รีวิว HyperX Mechanical Gaming Keyboard รุ่น Alloy FPS PROรูปภาพจาก hyperxgamingราคา 2,596 บาท* HyperX รุ่น Alloy FPS PRO เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งแบบ Mechanical ที่ออกแบบมาในดีไซน์ Ultra-minimalistic Tenkeyless (TKL) ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่มีการตัดในส่วนของ Numpad ออกไป ใช้สวิตช์ของ Cherry MX Blue ซึ่งมีจุดเด่นคือเสียงดัง และการกด 2 จังหวะ โดยใช้แรงกดพอประมาณเพื่อลดการกดผิดพลาด ช่วยให้คุณสามารถรับรู้การตอบสนองต่อการกดได้ทันที โครงสร้างภายในใช้วัสดุเหล็กเนื้อตัน ช่วยให้มีความทนทานมากเป็นพิเศษ ด้วยขนาดที่กระทัดรัด และตัวสายที่สามารถถอดได้ ทำให้มันสามารถทนต่อแรงกดได้เป็นอย่างดี และสามารถพกพาได้ง่ายขึ้น ตัวคีย์บอร์ดมาพร้อมกับไฟ RBG ที่คุณสามารถปรับการตั้งค่าต่าง ๆ ได้มากถึง 6 โหมด ตามต้องการของคุณ มีระบบ Anti-Ghosting และ N-key rollover ที่ช่วยให้ HyperX รุ่น Alloy FPS PRO ตัวนี้ สามารถกดพร้อม ๆ กันได้ เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่มือหนัก อยากได้ยินเสียงการกดที่ชัดเจน เพื่อเพิ่มอรรถรสในการกด มีความแข็งแรง และทนทานสูง ด้วยกรอบโลหะ ถือเป็นรุ่นที่คุ้มค่าคุ้มราคามาก ๆ ครับ
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า คำแนะนำในการเลือกซื้อ คีย์บอร์ดเกมมิ่ง !1. ประเภทของคีย์บอร์ดเกมมิ่งถ้าคุณกำลังมองหาคีย์บอร์ดเกมมิ่งดี ๆ สักรุ่นนึงไปใช้เล่นเกมโดยเฉพาะ อันดับแรกเลยให้คุณทำการตัด คีย์บอร์ดปุ่มยาง (Rubber Dome หรือ Membrane Keyboard) ออกไปก่อนได้เลย เนื่องจากคีย์บอร์ดแบบนี้จะเหมาะสำหรับพิมพ์เอกสาร ท่องเว็ป หรือใช้งานทั่ว ๆ ไปมากกว่า ดังนั้นคุณสามารถเลือก คีย์บอร์ด อีก 2 ประเภทที่เหลือได้ ตามงบประมาณของคุณ ซึ่งถ้าคุณมีงบประมาณไม่จำกัด เราขอแนะนำให้เลือก คีย์บอร์ดกลไก (Mechanical Keyboard) ไปเลยจะคุ้มค่าที่สุดครับ เพราะราคาก็ไม่ได้แตกต่างกันมากจนเกินไป 2. การเชื่อมต่อในส่วนของการเชื่อมต่อของคีย์บอร์ดเกมมิ่งนั้น ในปัจจุบันมีทั้ง แบบใช้สาย USB และแบบ Wireless ซึ่งถ้าหากคุณจะนำไปเล่นเกมโดยเฉพาะ วางอยู่บนโต๊ะคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียวไม่ได้เคลื่อนย้ายไปใช้กับอุปกรณ์อื่น ๆ เลย แนะนำให้เลือก การเชื่อมต่อแบบ USB จะดีกว่าครับ เพราะคุณจะได้ไม่ต้องกังวลในเรื่องของแบตเตอรี่ แถมมีความเสถียรกว่า และไม่มีปัญหาจุกจิกมากวนใจคุณอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากคุณต้องการใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ด้วย เช่น สมาร์ททีวี, ทีวี 4K, ทีวี 8K, กล่องแอนดรอยด์ หรือเครื่องเล่นเกมคอนโซล การเลือกการเชื่อมต่อแบบไร้สายดูจะเหมาะสมกว่าครับ 3. ฟังก์ชันต่าง ๆพื้นฐานของคีย์บอร์ดเกมมิ่งมักจะมาพร้อมกับแสงไฟ RGB ที่สวยงาม สามารถปรับเปลี่ยนสีให้เป็นสไตล์ของคุณได้ง่าย ๆ บางรุ่นสามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ หรือบางรุ่นสามารถปรับเปลี่ยนตามแบบที่กำหนดมาเท่านั้น นอกจากนี้ก็ยังมีการตั้งค่ามาโครมาด้วย ซึ่งคีย์บอร์ดเกมมิ่งส่วนใหญ่สามารถทำได้ แต่จะมีบางรุ่นเท่านั้นที่มาพร้อมกับปุ่มมาโครเฉพาะ ดังนั้นในส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณครับว่า ต้องการใช้งานปุ่มมาโครเพิ่มเติมหรือไม่ บทส่งท้ายเป็นอย่างไรกับบ้างสำหรับ คีย์บอร์ดเกมมิ่ง (Gaming Keyboard) ที่เรานำมารีวิวในวันนี้มีรุ่นไหนที่คุณถูกใจแล้วบ้างครับ ซึ่งคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่เราเลือกมาทุกๆ รุ่นล้วนแล้วแต่เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยม ซึ่งสามารถช่วยให้คุณเล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่มีงบประมาณมากพอแต่กำลังลังเลใจอยู่ เราขอแนะนำให้เลือก คีย์บอร์ด Mechanical ไปเลยจะดีกว่าครับ เพราะนอกจากจะใช้เล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้วมันก็ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการพิมพ์ของคุณ ด้วยกลไกของปุ่มที่กดง่าย และตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว คีย์บอร์ด Mechanical จึงมีความคุ้มค่ามากที่สุด |