บริษัท jmt สำนักงาน ใหญ่ เบอร์โทร

12 มี.ค. 2021

รู้จัก JMT บริษัทบริหารหนี้ ที่กำลังโตแรง /โดย ลงทุนแมน
ช่วงเศรษฐกิจไม่ดี เราก็มักเห็นลูกหนี้
ไม่สามารถชำระหนี้คืนแก่เจ้าหนี้ได้ตามกำหนด
ส่วนหนี้ที่เกินเวลาชำระตามกำหนดนั้น
ก็จะกลายเป็นหนี้เสียหรือหนี้ด้อยคุณภาพ
หรือที่เรียกกันว่า Non-Performing Loans (NPLs)

เมื่อ NPLs ในระบบเพิ่มขึ้น
มันก็จะมีธุรกิจหนึ่งที่มีโอกาสเติบโตจากเรื่องนี้
นั่นก็คือ ธุรกิจรับซื้อหนี้เสียและติดตามทวงหนี้

ซึ่งหนึ่งในบริษัทที่ทำธุรกิจนี้ และจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทย
ก็คือ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT
ซึ่งเป็นบริษัททวงหนี้ ที่เกิดมาจาก กลุ่ม เจ มาร์ท (JMART)
เจ้าของร้านขายมือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เรารู้จักกัน

แล้วธุรกิจรับซื้อหนี้เสียและติดตามทวงหนี้
ของ JMT เติบโตดีแค่ไหน ในช่วงที่ผ่านมา ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
อย่างที่บอกไปแล้วว่า JMT เกิดขึ้นโดยกลุ่ม JMART
ที่แต่เดิมนั้นเริ่มต้นทำธุรกิจจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ต่าง ๆ
ก่อนจะเข้าสู่ธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ

ต่อมาทางกลุ่ม JMART ก็เริ่มขยายธุรกิจเข้าสู่
การให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ ฟ้องสืบทรัพย์ และบังคับคดี

จนในปี 2549 ทางกลุ่มจึงได้ก่อตั้ง บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ขึ้นมาเพื่อดูแลธุรกิจในด้านนี้โดยเฉพาะ และได้จดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นไทย ในปี 2555

โดยธุรกิจของ JMT แบ่งออกเป็น 4 ประเภท

1. ธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ ในส่วนที่เป็นหนี้ด้อยคุณภาพ โดย JMT จะได้รับค่าบริการติดตามหนี้เป็นร้อยละของมูลค่าหนี้ ที่บริษัทสามารถติดตามให้ลูกหนี้มาชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ได้

2. ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ เป็นการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพในราคาลด แล้วมาบริหาร และติดตามเรียกเก็บหนี้

3. ธุรกิจนายหน้าประกันภัย เป็นนายหน้าประกันวินาศภัยประเภทต่าง ๆ โดยรับค่าตอบแทนในรูปของคอมมิชชันจากค่าเบี้ยประกันภัย

4. ธุรกิจประกันภัย ทั้งประกันรถยนต์และประกันอื่น ๆ

โดยจากรายงานประจำปี 2562 ของบริษัท
กลุ่มธุรกิจที่มีสัดส่วนรายได้มากที่สุด 2 อันดับแรกก็คือ

- ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ สัดส่วนรายได้ 76.5%
- ธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ สัดส่วนรายได้ 14.3%

จะเห็นว่าธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ
และธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้
มีรายได้รวมกัน เป็นสัดส่วนที่มากกว่า 90% ของรายได้ทั้งหมดของ JMT

หมายความว่า หากปริมาณหนี้ด้อยคุณภาพเพิ่มสูงขึ้น
ก็จะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ JMT
มีโอกาสเข้าไปรับซื้อหนี้ แล้วมาบริหารเพื่อสร้างผลตอบแทนได้มากขึ้น

ซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2563 ที่ผ่านมานั้น
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า

ปริมาณสินเชื่อ ที่กลายเป็นหนี้ด้อยคุณภาพ (NPLs) อยู่ที่ประมาณ 513,865 ล้านบาท
โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากประมาณ 469,526 ล้านบาท ในช่วงสิ้นไตรมาส 4 ของปี 2562

ซึ่งปริมาณนี้ ทำให้ NPLs ต่อ สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบนั้นอยู่ที่ประมาณ 3%
โดยสาเหตุสำคัญมาจาก การแพร่ระบาดของโควิด 19
และการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจของไทยในช่วงที่ผ่านมา

แม้การเพิ่มขึ้นของหนี้ด้อยคุณภาพ จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจในภาพรวม
แต่นี่กลับเป็นโอกาสให้บริษัททวงถามและบริหารหนี้อย่าง JMT สามารถทำรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น

โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา JMT ก็ได้เข้าไปซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเป็นมูลค่ารวม 32,561 ล้านบาท มาบริหาร

ทีนี้ลองมาดู ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา
ของ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT

ปี 2561 รายได้ 1,886 ล้านบาท กำไร 506 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 2,551 ล้านบาท กำไร 681 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 3,207 ล้านบาท กำไร 1,047 ล้านบาท

ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รายได้เติบโต 70% ขณะที่กำไรเติบโต 107% โดยกำไรปีล่าสุดเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา

และปัจจุบัน JMT มีมูลค่าบริษัทประมาณ 45,300 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องติดตามต่อไปสำหรับธุรกิจนี้คือ
บริษัทจะสามารถบริหารหนี้ด้อยคุณภาพที่ไปซื้อมา ได้ดีแค่ไหน

เพราะจริงอยู่ที่ว่า การตกต่ำทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้หนี้เสียเพิ่มมากขึ้น และถูกมองว่าเป็นโอกาสให้แก่บริษัทที่รับซื้อหนี้มาบริหารต่อ

แต่เศรษฐกิจที่ตกต่ำ ก็จะตามมาด้วย ความเสี่ยงที่ลูกหนี้บางรายอาจไม่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้เหมือนเดิม และนำไปสู่การที่บริษัทต้องตั้งสำรองหนี้สูญสูงขึ้น ซึ่งจะกดดันกำไรของบริษัทให้ต่ำลงได้

ซึ่งเรื่องนี้ ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า JMT จะทำได้ดีแค่ไหน ในอนาคต..

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ JMT คือ JMART ซึ่งก็จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้น
และมีมูลค่าบริษัทประมาณ 31,400 ล้านบาท

โดย JMART ถือหุ้น JMT อยู่ 512.6 ล้านหุ้น
หรือ 52.5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ JMT ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 23,800 ล้านบาท

หมายความว่ามูลค่าหุ้น JMT ที่ JMART ถืออยู่ในตอนนี้
คิดเป็น 76% ของมูลค่าบริษัทตัวเอง เลยทีเดียว..

พอดีอยากจะทราบว่าเป็นบริษัทที่เชื่อถือได้ไหม พอดีว่า แม่ผมชำระเงินตามที่บอกทั้งหมดครบแล้ว แต่ยังไม่ได้หนังสือปิดบัญชีจากบริษัทนี้ แถมเขายังอ้างว่าต้องรอ 45 วัน เพราะระบบยังไม่ตัดยอด ทั้งๆที่จ่ายไปครบ ผ่านมา 20 วันได้แล้ว และตอนแรกไม่มีการแจ้งว่าต้องรอ อ้างนั้นอ้างนี้ บอกให้โทรหาคนนู้นคนนี้ โทรแล้วไม่มีคนรับ แล้วก็เบอร์ที่เคยโทรมาทวง พอจ่ายครบ โทรหากลับเป็นเบอร์ที่ไม่สามารถติดต่อได้ โทรแล้วเงียบ ดังตุดเดียวแล้วตัด ไลน์ที่เคยติดต่อคุยเรื่องหนี้กัน พอจ่ายครบ เหมือนโดนบล๊อคไลน์

อ้างอิงจากโพสต์เก่าที่เคยถาม ที่เขาเคยแอบอ้างมาทวงหนี้ http://pantip.com/topic/33851218 เอาจริงๆผมไม่ทราบได้อย่าง 100% ได้เลยด้วยว่าหนี้ตัวหนี้มีจริงๆ เพราะแม่ผมก็แทบจำไม่ได้ แต่แม่ก็บอกว่า เหมือนจะเคยออกให้ แทบไม่รู้เลยว่าเป็นหนี้ตัวนี้อยู่ ซึ่งหลังจากมีการทวงมาผมก็พยายามสืบหาข้อมูลตามในกระทู้เดิมที่อ้างถึง รวมทั้งโทรไปสอบถามบริษัทที่เขาอ้างว่ามีการขายหนี้จริงไหม ผมติอต่อทางบริษัทต้นหนี้แล้วติดต่อไม่ได้ แต่ผมถามทางเขาว่ามีเอกสารมอบอำนาจไหม เขาอ้างว่ามี แต่หากต้องการต้องทำเรื่องนาน มันจะเกินว่าช่วงเวลาที่เขาสามารถลดให้ได้ ทำให้ผมยกเลิกที่จะขอดูหนังสือมอบอำนาจไป แต่ผมก็ยังลังเลใจว่าพวกนี้มันโกงหรือเปล่า แบบนี้ก็สามารถแอบอ้างชื่อได้ไหม เพราะเราก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเราเป็นหนี้จริงรึเปล่า แล้วยอดเท่าไหร่ พอถามเขาก็บอกว่า ที่แจ้งมานั้นละ เป็นยอดรวมที่เราต้องจ่ายเลยนั้นคือตัวหนี้ที่เราติด แล้วเขาก็จะลดให้ถ้าจ่ายเลย แต่ที่ผมต้องการรู้คืออยากรู้ว่าเอกสารเรื่องรถตัวเนี้ย ผ่อนกันเท่าไหร่ นานแค่ไหน ยึดเมื่อไหร่ แล้วส่วนต่างที่ขายได้มันเท่าไหร่ แต่เขาไม่มีในตัวนี้เลย อย่างนี้ก็สามารถอ้างไปเรื่อยได้สิครับว่าเป็นหนี้อยู่ 7-8 หมื่นก็ได้ ผมเคยอ่านโพสต์เก่าๆจากบริษัทนี้ ในกระทู้ รวมทั้งเฟซ บางคนรอเกิน 45 วันก็ยังไม่ได้ใบปิดบัญชี บางคนออกรถ จ่ายครบ ผ่านมา 3-4 เดือนก็ยังไม่ได้เล่มทะเบียนรถ ผัดไปผ่อนมา อ้างไปเรื่อย ลองเข้าไปดูได้ที่ https://www.facebook.com/pages/JMT-Network-Services-CoLtd/480661881957712?fref=ts

ผมเลยอยากจะถามว่า มีใครที่เคยทำธุรกรรมจากบริษัทนี้ แล้วได้หนังสือปิดบัญชีมาบ้างครับ แล้วถ้าผมรอถึง 45 วันแล้วยังไม่ได้ ผมสามารถแจ้ง สคบ.ให้ตรวจสอบได้ไหม ตอนนี้หนังสือทวงหนี้อันแรก ที่เขาอ้างชื่อบริษัทในการมาทวงแม่ผมเผลอเอาทิ้งไปแล้ว ด้วยความที่เป็นคนแก่ แล้วคิดว่าจ่ายหมดแล้วคือจบ เลยไม่มีหลักฐานชิ้นนั้นว่าเขาอ้างจากใคร แต่ผมจำได้ว่าจากกรุงศรีออโต้ แต่ผมไม่จบ ผมยังสงสัย เพราะมันไม่มีใบเสร็จจากเขา ไม่มีใบปิดบัญชี แต่ผมมีใบเสร็จในการชำระเงินครบทุกเดือนอยู่ และแชทไลน์การโอน ที่ส่งรูปให้เขา เพราะหากเป็นการฉ้อโกง ถึงมันจะเป็นเงินแค่ 9000 ผมก็ไม่ยอมแน่นอน ไม่ได้เพราะเสียดายเงิน แต่ไม่อยากเสียรู้ให้มิชชาชีพที่อ้างตัว และมีตัวตนบริษัทอย่างถูกกฏหมาย