ซูพรีมพลัส ดีเซล น้ำมันเกรดพรีเมียม Show คุณยังจำความรู้สึกของวันแรกที่ใช้รถคันนี้ได้อยู่ไหม วันที่เครื่องยนต์สามารถทำงานได้เต็มสมรรถนะ วันนี้เราจะทำให้คุณได้รู้สึกแบบนั้นอีกครั้ง ด้วยน้ำมันเกรดพรีเมียมสูตรใหม่ เอสโซ่ ซีเนอร์จี้ ซูพรีมพลัส ช่วยปกป้องเครื่องยนต์ถึง 2 เท่า และทำให้เครื่องยนต์สะอาดขึ้น 30%
ซูพรีมพลัส ดีเซล สูตรซีเนอร์จี้ น้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม ดีที่สุดของเอสโซ่พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ปกป้องเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ด้วยชีลด์เทคโนโลยี (Shield Technology) เพิ่มสารทำความสะอาด ปกป้องเครื่องยนต์ได้มากกว่า ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น แม้ขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง ทนทาน พร้อมเคียงข้างทุกการเดินทาง
ดีเซลธรรมดากับดีเซลพรีเมี่ยมต่างกันอย่างไรเวลาเข้าไปในปั้มน้ำมันคงเห็นว่าน้ำมันมีหลายเกรดต่างกันไป วันนี้ขอยกตัวอย่างที่น้ำมันดีเซลละกัน ที่พบเห็นกันบ่อยๆ ก็น้ำมันดีเซลเกรดธรรมดา กับน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมี่ยม ซึ่งดูคร่าวๆ สิ่งแรกที่สังเกตเห็นก็คือเรื่องของราคาน้ำมันซึ่งจะแตกต่างกันราวประมาณ 3 บาท/ลิตร น้ำมันดีเซลเกรดพรีเมี่ยม แต่ละแบรนด์ก็จะมีส่วนผสมพิเศษที่แตกต่างกันออกไป ตามสูตรเฉพาะของแต่ละค่าย แต่จุดมุ่งหมายวัตถุประสงค์ก็จะคล้ายๆกัน เช่น การช่วยลดควันดำช่วยทำให้ระบบเผาไหม้ดีขึ้นสะอาดขึ้น ความสะอาดและบริสุทธิ์ของตัวน้ำมันที่เหนือกว่าดีเซลทั่วๆ ไป ซึ่งในปัจจุบันจะมาในรูปแบบของไบโอดีเซลแทบจะทั้งสิ้น, สมรรถนะการขับเคลื่อนที่ดีกว่า จากการเผาไหม้อย่างหมดจด ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ให้อัตราเร่งที่ดี และประหยัด เนื่องจากมีค่าซีเทนสูงกว่า ฯลฯ บางคนอาจจะถามว่ามันคุ้มค่าคุ้มการลงทุนไหมที่จะเพิ่มตังค์อีกลิตรละ 3 บาทกับสิ่งที่จะได้มา การที่น้ำมันดีเซลเกรดพรีเมี่ยม เราต้องต้องมองกลับไปที่น้ำมันดีเซลเกรดธรรมดา ที่โดยส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของไบโอดีเซล B5 มีส่วนผสมของน้ำมันที่สกัดมาจากพืชผลการเกษตร 5% ซึ่งเรื่องของความบริสุทธิ์ ความสะอาด คงไม่จะสามารถเทียบเท่าน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมี่ยม ที่มาในรูปแบบของดีเซล + สารเพิ่มประสิทธิภาพ แต่มันก็เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ยาก และต้องใช้ความรู้สึก บางคนอาจจะว่าแรงขึ้น บางคนก็อาจจะบอกเท่าเดิม แต่ผลในระยะยาวเรื่องความสะอาดต่อเครื่องยนต์ น้ำมันเกรดพรีเมี่ยมดีกว่าอย่างแน่นอน ซึ่งแน่นอนของแบบนี้ในระยะสั้นอาจจะยังไม่เห็นผล จะช่วยลดโอกาสการอุดตัน ชำรุด สึกหรอของชุดหัวฉีดคอมมอนเรล ที่ค่าซ่อมก็แพง หลักหมื่นเกือบแสน ก็ลองคำนวนกำลังทรัพย์ตัวเองว่าแบบไหนมันคุ้มกว่ากัน เขาว่า... : น้ำมันเกรดพรีเมียม ทำให้รถแรงขึ้น...จริงไหม ? ไม่จริง : เพราะจุดประสงค์ของน้ำมันเกรดพรีเมียม เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่ความแรงของเครื่องยนต์ น้ำมันเกรดพรีเมียมไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อ “ความแรง” ของเครื่อง ยนต์ แต่มีเหตุผลมาจากเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ส่วนผลพลอยได้ คือ ประสิทธิภาพการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมัน ปัจจุบันบริษัทน้ำมันชั้นนำของไทย ได้เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค ด้วยการจำหน่ายน้ำมันเกรดพรีเมียม ทั้งน้ำมันดีเซล และเบนซิน ในราคาที่แพงกว่าน้ำมันเกรดทั่วไปมาก โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม ที่แพงกว่าถึง 10 บาท/ลิตร แล้วมันดีกว่าอย่างไร ? เติมแล้วรถแรงขึ้นจริงหรือไม่ ไปทำความเข้าใจกันครับ น้ำมันทุกชนิดที่จำหน่ายในประเทศไทย ล้วนต้องผ่านมาตรฐานคุณภาพ และการควบคุมจากกรมธุรกิจพลังงาน ในน้ำมันกลุ่มเบนซิน-แกสโซฮอล นอกจากมีการกำหนดคุณภาพต่างๆ ทั่วไปแล้ว ยังกําหนดให้ต้องเติมสารเติมแต่งประเภทชะล้างทําความสะอาดเครื่องยนต์ หรือ ADDITIVE ตามสูตรของแต่ละบริษัท โดยมีเหตุผลเพื่อต้องการรักษาความสะอาดภายในเครื่องยนต์ ซึ่งส่งผลให้น้ำมันเผาไหม้ได้สมบูรณ์ขึ้น ช่วยลดมลพิษที่ปล่อยจากไอเสียสู่สิ่งแวดล้อม สําหรับน้ำมันดีเซล ทางกรมธุรกิจพลังงานไม่ได้กําหนดให้ต้องเติมสาร เติมแต่งประเภทชะล้างทําความสะอาดเครื่องยนต์ หรือ ADDITIVE แต่ ผู้ค้าน้ำมันบางรายได้เติมลงไปเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทาง การตลาด จึงเกิดเป็นน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม ส่งผลทำให้มีกำมะถันที่ต่ำกว่า ค่าซีเทนสูง ปล่อยมลพิษน้อยลง ช่วยยืดอายุตัวกรองไอเสีย CATALYTIC CONVERTOR (แคทาไลทิค คอนเวอร์เตอร์) ส่งผลให้ได้มาตรฐานไอเสีย ยูโร 5 (น้ำมันดีเซลทั่วไป มาตรฐานไอเสีย ยูโร 4) ดังนั้นจะเห็นว่า จุดประสงค์ของการใส่สารเติมแต่ง หรือ ADDITIVE เข้า ไปในน้ำมันเกรดฟรีเมียมต่างๆ ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อ “ความแรง” ของเครื่องยนต์ แต่มีเหตุผลมาจากเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ส่วนผลพลอยได้คือ ประสิทธิภาพการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมัน เรื่องโดย : วิธวินท์ ไตรพิศ นิตยสาร Formula ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2565 คอลัมน์ Online : เขาว่าอย่างนั้นจริงไหม ? Follow autoinfo.co.th |